นี่คือสมาร์ทโฟนตัวแรกของวงการแอนดรอยด์ที่คนพากันพูดถึงฟีเจอร์การใช้งานภายในมากกว่าเรื่องตัวเลขของสเปคเครื่อง ด้วยความตั้งใจแต่แรกเริ่มของทางซัมซุงที่กำหนดการออกแบบคุณลักษณะของสมาร์ทโฟนเรือธงของเขาในปีนี้ “ต้องไม่ได้มีดีแต่สเปค” เริ่มตั้งแต่การออกแบบตัวเครื่องภายนอก จากหน้าตาที่โดนครหาว่าไม่งามสมดังที่หวัง แต่นั้นเป็นสิ่งแรกที่โดนกำหนดขึ้นในขั้นตอนการผลิต ซัมซุงเลือกที่จะดีไซด์ตัวเครื่องภายนอกก่อนแล้วค่อยออกแบบอุปกรณ์ภายในที่จะใส่เข้าไปในตัวเครื่องขึ้นมาทีหลัง เพื่อให้สามารถกำหนดการออกแบบรูปทรงที่คิดว่าจะเหมาะสมกับการใช้งานให้เป็นไปได้มากที่สุด จนมาถึงเรื่องฟีเจอร์การใช้งานภายในที่หากเราได้ลองมองหาที่มา ก็จะเห็นเจตนาของผู้ออกแบบว่าสิ่งที่เขาใส่เข้ามานั้นเป็นการใช้งานที่เข้ากันกับสถานการณ์ในชีวิตประจำวันจริงๆ
จากแนวคิดในขั้นตอนการออกแบบที่ผมอยากจะให้คำว่า “ยอดเยี่ยม” มีหลักการ มีที่มาและดูจะเข้าท่า แต่! การใช้งานจริงอาจจะไม่ยอดตามหลักการคิดเสมอไป บางอย่างอาจจะมีประโยชน์สูง บางอย่างน่าใช้และบางอย่างอาจจะมีไว้ได้แค่โชว์ แต่อย่างนึงที่รู้แน่ๆ คือความมากกว่าของ Galaxy S3 ที่วันนี้ “ไม่ได้มีดีแต่สเปค” อีกต่อไป
– จอ Super-HD AMOLED 4.8 นิ้ว 1280×720 p Gorilla Glass 2
– Cpu Exynos 4212 Quad-Core 1.4GHz
– แรม 1 GB
– หน่วยความจำ 16 GB รองรับ MicroSD 64GB
– OS Android 4.0.4 TouchWiz UX
– WiFi 802.11 b/g/n, WiFi Direct, Bluetooth 4.0, MicroUSB 2.0
– กล้องหลัก 8 ล้านพิกเซล, BSI Sensor AF, แฟลช LED
-กล้องหน้า 1.9 ล้านพิกเซล
– บันทึกวิดิโอ 1920×1080 พิกเซล พร้อมถ่ายภาพได้ขณะบันทึกวิดิโอ
– แบตเตอรี่ Li-ion 2,100 mAh
ฟีเจอร์จากผู้ผลิตที่คิดในแง่ผู้ใช้งาน
สิ่งที่ยืนยันว่าซัมซุงไม่ได้คิดแค่เพียงผ่านๆ ในการกำหนดภาพลักษณ์ของ Galaxy S3 ให้เป็นโทรศัพท์ที่เข้าใจมนุษย์ ก็คือเรื่องของฟีเจอร์การใช้งานที่ใส่เข้าไปภายใน มันไม่ใช้ฟีเจอร์รูปแบบเดิมๆ เหมือนในอดีต ไม่ใช่เทคโนโลยีที่มาตักตวงให้เราต้องจ่ายอะไรเพิ่ม ไม่ใช่เทคโนโลยีที่ไกลตัวออกไปจนไม่รู้จะได้ใช้งานมันได้ในโอกาสไหน แต่เป็นฟีเจอร์พื้นๆ ที่จะมาทำให้กิจกรรมการใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ของคุณในแต่ละวัน ง่ายขึ้น
Smart Stay คุณมองจอ จอมองคุณ ตราบใดตายังจ้องจอ มันจะไม่มีวันดับไฟใส่หน้าคุณอย่างเด็ดขาด Smart Stay จะใช้เซ็นเซอร์จับลูกตาคุณอยู่ตลอดเวลา อ่านข้อความ ดูเว็บไซด์ ไม่ต้องคอยเอานิ้วสะกิดจอให้ไฟเปิดอีกต่อไปครับ
Smart Alert ทุกการติดต่อจากภายนอกในขณะที่คุณไม่อยู่ใกล้เครื่อง นอกจากไฟ LED กระพริบแจ้งเตือนสายไม่ได้รับ ยังมี Smart Alert ที่จะทำงานเตือนเราอีกครั้งทันทีเมื่อเราหยิบตัวเครื่องโทรศัพท์
Direct Call เปิดเครื่องเห็นข้อความแจ้งสายไม่ได้รับ หรือข้อความติดต่อจากผู้ร่วมงาน หากเราต้องการโทรกลับ แค่ยกเครื่องโทรศัพท์ขึ้นแนบหู ตัวโทรศัพท์จะทำการโทรออกไปยังหมายเลขเจ้าของข้อความนั้นทันที
Pop-up Play หมดสมัยกับการทำอะไรได้เพียงทีละอย่าง เมื่อการเล่นคลิปวีดีโอบน Galaxy S3 ไม่จำเป็นต้องอยู่ในหน้าจอแอพฯเล่นวีดีโออีกต่อไป Pop-up Play คือความสามารถเล่นคลิปวีดีโอในรูปแบบหน้าต่างเล็กๆ เพื่อให้เหลือพื้นที่บนหน้าจอไว้ทำงานในด้านอื่นๆ ไปพร้อมกัน
S Beam การส่งไฟล์ความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยี Wi-Fi Direct โดนนำมาประยุกต์ใหม่ ใช้ข้อดีของการเชื่อมต่อระหว่างสองอุปกรณ์ด้วย NFC ที่มีความสะดวกรวดเร็วและง่ายแสนง่าย แล้วใช้ข้อดีในการส่งไฟล์แบบความเร็วสูงของ Wi-fi Direct มาใช้ในการโอนถ่ายข้อมูลไปมาระหว่างสองอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกัน วีดีโอระดับ HD ขนาดกว่า 1GB จะโดนส่งผ่านหากันได้ภายในไม่กี่นาที (ปัจจุปันมีเพียง Galaxy SIII เท่านั้นที่มี S beam)
Best Shot กล้องถ่ายภาพชัตเตอร์ความไวสูง Zero Shutter lag มาตรฐานความไวใหม่ของกล้องโทรศัพท์มือถือ ซัดพรวดเดียว 3 ภาพต่อวินาที กดชัตเตอร์ครั้งเดียวยิงไป 8 Shot แต่ข้อดีของ Best Shot คือหลังจากการถ่ายภาพตัวเครื่อง Galaxy S3 จะทำการคำนวณหาภาพที่ดี่ที่สุดในจำนวน 8 แปดภาพนั้นขึ้นมาเพียงหนึ่งเดียว เป็นภาพที่เครื่องคิดว่าดีที่สุดจากการวิเคราะห์ตำแหน่งโฟกัส แสงเงา ลูกตา และรอยยิ้ม ไม่ต้องมานั้งเลือกเองเหมือนเครื่องอื่นๆ
S Voice การสั่งงานด้วยเสียง เลขาส่วนตัว เหมือน SIRI ที่อยู่ใน iPhone และแน่นอนยังไม่รองรับภาษาไทย เป็นฟีเจอร์ที่อยากจะพูดถึง และคิดว่าในอนาคต การใช้เสียงในการสั่งงานโทรศัพท์น่าจะเป็นมาตรฐานที่ต้องอยู่ในทุกๆ เครื่อง แต่วันนี้คิดว่ายังไม่พร้อมที่จะเอามาใช้จริงจังครับ
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของฟีเจอร์นับสิบที่โดนใส่เข้ามาใหม่ใน Galaxy S3 จะเห็นได้ว่าเขาคิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาในมุมของการใช้งานจริง เพิ่มเติมความสะดวกให้แก่สิ่งที่ต้องใช้ในแต่ละวันกันอยู่แล้ว คำว่า “มือถือที่เข้าใจมนุษย์” ที่ซัมซุงพยายามสื่อให้เห็นถึงความเป็น Galaxy S3 อาจจะฟังดูพร่ำเพ้อในตอนแรกที่ได้ยิน แต่หลังจากได้เห็นได้ใช้งาน ได้สัมพัสเนื้อในใจความของสิ่งที่เขาต้องการถ่ายทอดออกมา ผมเชื่อว่าอย่างน้อยก็เป็นสิ่งที่เขาตั้งเป้าไว้เช่นนั้นจริงๆ
ความแรงไม่ทิ้งลาย เชื้อสาย Galaxy
แม้ว่าทางซัมซุงจะไม่เน้นในการโปรโมตถึงสเปคเครื่องภายใน แต่ใช่ว่า Galaxy S3 จะน้อยหน้าใครที่ไหน CPU สี่แกนสมองตัวล่าสุด Exynos 4212 1.4 GHz พร้อมกับแรมขนาด 1 GB ถือเป็นตัวประมวลผลที่ทำคะแนนทดสอบได้สูงที่สุดของสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ หน้าจอ 4.8 กับการสดใสของการให้สีจากจอ Super-HD AMOLED 720P คมชัดมากครับ หน่วยความจำในตัวเครื่อง (ที่จำหน่ายในไทย) 16 GB พร้อมช่องใส่ Micro SD Card รองรับสูงสุด 64 GB ซัมซุงใจดีแจกพื้นที่จัดเก็บออนไลน์ของ Dropbox ให้อีก 50 GB รวมๆ แล้วปาเข้าไปร้อยกว่า GB – –
กล้องหลักความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเท่าตัว S2 แต่อัพเกรดในเรื่องของความไวในการบันทึกและคุณภาพของภาพที่ถ่ายมากขึ้นไปอีกขั้น พร้อมบันทึกวีดีโอความละเอียดสูง 1080P ปรับปรุงการส่งภาพผ่านพอร์ต MHL ใต้เครื่องขึ้นสู่จอ HDTV จากเดิม 720P อัพเป็น 1080P FULL HD (ไม่สามารถใช้ตัว MHL Adapter ตัวเดิมร่วมกับ S2 และ Galaxy Note ได้) แบตเตอรี่ใส่ให้มาเป็น 2100 mAh เพื่อรองรับการใช้งาน CPU ตัวแรงได้มากขึ้น
[gradeB]