หลังจากที่เราได้นำเสนอบทความก่อนหน้านี้ไปเกี่ยวกับ 6 ฟีเจอร์ใหม่ๆใน Android M ที่มีใน iOS มาก่อนแล้ว ครั้งนี้เพื่อให้เกิดความยุติธรรมครับ เรามาดูฟีเจอร์ต่างๆทั้งหมด 10 ฟีเจอร์ของ iOS ที่เคยมีมาก่อนแล้วใน Android หรือที่ไหนสักที่กันบ้างดีกว่าครับ
เมื่อไม่นานนี้เองกับงาน WWDC ที่ทาง Apple จัดขึ้นนั้นทาง Apple ได้ออกมาให้รายละเอียดต่างๆในเรื่องของอนาคตของบริษัทมากมาย ซึ่งนั่นก็รวมทั้งรายละเอียดฟีเจอร์ใหม่ๆของ iOS 9 ด้วยที่ได้ถูกเปิดเผยออกมาในงานนี้ แต่ก็ต้องบอกว่าถึงแม้ว่าฟีเจอร์ที่กำลังจะมาใน iOS 9 นั้นจะเป็นสิ่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นใน iOS แต่ทว่าฟีเจอร์ต่างๆทั้งหมด 10 ฟีเจอร์ที่เรานำมาเสนอนี้เคยมีคนทำมาก่อนแล้วครับ ส่วนใหญ่ก็ Android คู่แข่งคนสำคัญของ Apple นั่นแหละครับที่ปล่อยฟีเจอร์ดังกล่าวออกมาก่อน นอกจากนี้ใน Windows และ Blacberry เองก็เช่นกันที่มีฟีเจอร์ดังกล่าวออกมาก่อนที่จะมาใน iOS 9 แต่อย่างไรก็ตามการนำฟีเจอร์เหล่านี้มาก็เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ใหม่ๆนั่นแหละครับ ซึ่งก็เป็นเรื่องดีของผู้ใช้อย่างเราๆจะได้รับกันนั่นเอง หากพร้อมกันแล้วลองไปดูกันว่า 10 ฟีเจอร์ที่ว่านี้มีอะไรกันบ้าง
10 ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 9 ที่เคยมีมาก่อนแล้วใน Android และ OS อื่นๆ
1. Maps
เรามาเริ่มกันที่ Apple Maps กันก่อนเลยดีกว่า สำหรับการมาของ iOS 9 นั้น Apple Maps จะถูกพัฒนาประสิทธิภาพให้ดีขึ้น ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งแรกเลยที่เห็นได้ชัดว่าฟีเจอร์นี้เคยมีอยู่แล้วใน Android ครับ
2. Maps: Strike #2
สำหรับฟีเจอร์ใหม่หลักๆของ Apple Maps นั้นไม่ได้มีเพียงการอัพเดทสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์เท่านั้นนะครับ เพราะจะมีฟีเจอร์ใหม่ๆอย่างการแสดงข้อมูลของบริการขนส่งมวลชนต่างๆ ไม่ว่าจะรถประจำทาง รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดินเพิ่มเข้ามาใน iOS 9 นี้ด้วยครับ ต้องบอกว่าเป็นฟีเจอร์ที่ดีมากๆแต่ทว่าฟีเจอร์นี้มีอยู่ใน HERE Maps (ของโนเกีย) อยู่แล้วครับ นอกจากนี้ใน Google Maps เองก็มีฟีเจอร์นี้มาหลายปีแล้วเช่นกัน
3. Maps: Third strike
4. Siri
เราไปพูดถึงสาวสวยจาก iOS กันบ้างดีกว่า ในส่วนของ Siri นั้นจะมีการอัพเกรดความสามารถให้ดียิ่งขึ้นไปอีกครับทั้งใน iPhone และ iPad ซึ่งก็คล้ายๆกับใน Google Now โดย Siri จะสามารถตอบคำถามเราได้ดีขึ้น ผ่านหน้า Search Interface ใน Siri นั่นแหละครับ จากที่ก่อนหน้านี้หาก Siri ไม่สามารถให้คำตอบได้ Siri จะทำการส่งเราไปที่หน้าเว็บเบราเซอร์ให้เราไปทำการค้นหาเอง
5. Siri กับการทำงานร่วมกับแอพ
นอกจากนี้ยังมีอีกสิ่งหนึ่งครับ ที่เหมือนคุ้นๆว่าจะเคยได้ยินใครออกมาประกาศไปก่อนหน้านี้แล้ว สำหรับ Siri ใน iOS 9 นั้นยังมีการอัพเกรดฟีเจอร์ใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเติมอีกครับ ตัวอย่างเช่น สมมุติถ้าราเข้าไปอ่านเนื้อหาในเว็บไซต์ต่างๆหรือกำลังตรวจเช็คอีเมล์ แต่ต้องพาน้องหมาออกไปเดินเล่น เราจะสามารถบอกกับ Siri ได้ว่าให้เตือนเราอีกครั้งกับสิ่งที่เราทำค้างไว้อยู่ได้ครับ ซึ่งเธอก็จะเข้าใจได้ว่าเราหมายถึงอะไรก็ตามที่เรากำลังเปิดไว้อยู่ในหน้าจอของเราตอนนั้นนั่นเองครับ แล้วก็จะทำการแจ้งเตือนเราอีกครั้งเพื่อไม่ให้เราลืมนั่นเอง
ซึ่ง Google Now ใน Android M นั้นก็จะมีฟีเจอร์แบบเดียวกันนี้เช่นกันครับ
6. Voice search
สำหรับฟีเจอร์อีกฟีเจอร์หนึ่งที่มีอยู่ใน Android มานานแล้ว แต่เพิ่งจะเข้ามาใน iOS 9 นั่นก็คือ Voice Search ครับ ซึ่งก่อนหน้านี้การจะใช้เสียงสั่งการค้นหาใน iOS นั้นจำเป็นต้องเปิดสาวสวยคนเดิมอย่าง Siri ขึ้นมาครับ ไม่สามารถสั่งการในแอพปกติได้ แต่ในส่วนของ Android นั้นทั้งใน Google Search Bar รวมทั้ง Chrome และ Youtube สามารถสั่งการค้นหาด้วยเสียงได้มาสักพักแล้วครับ
7. Apple Music
สำหรับ Apple Music นั้นจะเป็นบริการใหม่ของ Apple ที่จะเปิดบริการในช่วงสิ้นเดือนนี้ครับ โดยบริการนี้จะช่วยให้เราสามารถเข้าถึงเพลงมากมายหลายสิบล้านเพลงเลยครับ ซึ่งสำหรับการสมัครเป็นสมาชิกบริการ Apple Music นั้นก็คงต้องบอกว่าดูคล้ายบริการอย่าง Play Music ใน Android เลยทีเดียว นอกจากนั้นมันยังดูคล้ายกับแอพแบบ Third-party อื่นๆอย่าง Spotify และ Deezer ด้วยนั่นเองครับ
8. คีย์บอร์ด iOS รูปแบบใหม่และ Touchpad
ในส่วนของคีย์บอร์ดหรือแป้นพิมพ์ใน iOS 9 นั้นเราจะเห็นว่ามีการปรับปรุงเกิดขึ้นครับ ซึ่งสิ่งที่เราเห็นได้ชัดเลยคือ ความสามารถใหม่ๆอย่างการใช้เจ้าคีย์บอร์ดเป็นเหมือน Trackpad ได้ด้วย ซึ่งต้องบอกเลยว่าเราชื่นชอบฟีเจอร์นี้มาก เพียงแต่ว่ามันช่วยให้เรานึกถึง BlackBerry Passport ขึ้นมาได้ไม่น้อยเลย ที่เจ้าคีย์บอร์ดแบบ QWERTY ของ BlackBerry นั้นสามารถรับรู้ถึงการสัมผัสได้ ทำให้เราสามารถใช้มันเหมือนกับ Touchpad ได้นั่นเองครับ
9. Multitasking
สำหรับ Mutitasking ที่จะมาใน iOS 9 รวมทั้งฟีเจอร์อย่าง Split View และ Picture in Picture นั้น ต้องบอกเลยว่ามันมีอยู่ใน Samsung มานานโขแล้วครับ (ใน LG ด้วย) ซึ่งฟีเจอร์นี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ดี แต่ก็ไม่มีอะไรให้พูดถึงมากนัก เว้นซะแต่การมาของฟีเจอร์นี้ใน iPad ครับที่ดูจะเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากๆสำหรับผู้ใช้ iPad ครับ
10. Low Power mode
สำหรับฟีเจอร์อย่าง Low Power Mode ที่จะมาใน iOS 9 ที่จะช่วยประหยัดการใช้พลังงานของแบตเตอรี่ ด้วยการปรับค่าความสว่างของหน้าจอให้ต่ำลง รวมทั้งปรับการแสดงผลต่างๆให้ต่ำลงด้วย นอกจากนี้ยังจำกัดการเชื่อมต่อกับเครือข่าย และหยุดการทำงานของแอพเบื้องหลังในขณะที่เครื่องนั้นอยู่ในโหมด Sleep ก็ถือเป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งครับที่เราได้เคยเห็นกันมาใน Android มาก่อนแล้ว
ที่มา : Phonearena