สำหรับ Samsung Galaxy S4 มาคราวนี้ก็เป็นการพัฒนาขึ้นอีกขั้นทั้งในเรื่องสเปคและฟังก์ชั่นครับ จากเมื่อครั้งเปิดตัว Samsung Galaxy S3 ตอนนั้นมีแต่คนตื่นเต้นในฟังก์ชั่นใหม่ๆที่ Samsung ใส่เข้ามาเยอะมากๆ ในตอนนั้นถึงขนาดที่เรียกว่า Samsung เน้นขายประสบการณ์การใช้งานมากกว่าขายเรื่องสเปคเลยละครับ มาในวันนี้ Samsung Galaxy S4 ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเรื่องฟังก์ชั่นใหม่ๆครับ เพราะขนใส่เข้ามาเต็มที่กว่าเดิมซึ่งส่วนตัวเท่าที่ลองทดสอบดูก็มีทั้งที่รู้สึกประทับใจและรู้สึกว่ายังควรต้องปรับปรุงนะครับ แต่ผมว่าทุกๆฟังก์ชั่นที่ใส่มาคราวนี้มันดูน่าตื่นเต้นดีครับส่วนจะเอาไปใช้จริงในชีวิตประจำวันได้แค่ไหน ผมว่ามันออกแนวเน้นโชว์ซะส่วนใหญ่นะครับ5555 แต่ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะผมว่ามาถูกทางแล้วละ ความน่าตื่นเต้นและน่าทึ่งมันคือสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้งานประทับใจและอยากได้เป็นเจ้าของครับ
สามารถไปอ่าน รีวิว Samsung Galaxy S4 ตอนแรกได้ที่นี่ครับ
Samsung Galaxy S4 มาพร้อมกับ Android 4.2.2 Jelly Bean ครอบทับด้วย TouchWiz UX โดยลูกเล่นต่างๆในเครื่องมามาแนว LG Nexus 4 ต้นแบบของมือถือ Android ทุกตัวรุ่นล่าสุดครับ การใช้งานของ Samsung Galaxy S4 นั้นไหลลื่นดีมาก สัมผัสดูเป็นธรรมชาติรวมทั้ง Widget ต่างๆล้วนดูสวยงาม และเอฟเฟคในการปลดล็อคหน้าจอแบบใหม่ดูสวยและเข้ากับ Wallpaper ที่ให้มามากครับโดย Samsung Galaxy S4 จะมีสโลแกนในไทยเพราะๆว่า “ให้มือถือเป็นทุกอย่างสำหรับคุณ” และสโลแกนสากลคือ Life Companion หวานแหววมาเชียว อิอิ
หน้า Lock Screen จะมีเอฟเฟคในการปลดล็อคหน้าจอแบบใหม่ โดยจะเป็นลำแสงเหมือนแสงแดดยามเช้ากระทบกับกระจกสวยงามมากๆ หรือใครที่ชอบแบบคลื่นผิวน้ำก็ยังมีมาให้เช่นเคยครับ นอกจากนี้ยังเปลี่ยนข้อความต้อนรับได้ตามใจชอบอีกด้วย
และเพราะมาพร้อม Android 4.2.2 Jelly Bean ทำให้หน้า Lock screen สามารถตั้ง Widget ได้แต่จะต้องเป็นโปรแกรมที่รองรับเท่านั้นโดยใช้นิ้วปัดไปทางซ้ายจะเป็นการเพิ่ม Widget ส่วนปัดไปทางขวาจะเข้าโหมดกล้องหรือหน้ารวม Application ซึ่งสามารถตั้งลัดใว้ในส่วนนี้ได้ครับ
Home Screen สูงสุดมีให้ 7 หน้าการใช้งานก็ไม่ต่างจากรุ่นก่อนๆครับ แต่มีปรับปรุงในรายละเอียดเล็กๆน้อยดูสวยทีเดียว แถมพวก Widget ก็ออกแบบมาใหม่ดูสวยดีครับเน้นเป็นภาพสวยๆมากกว่าจะออกแบบให้ดูเป็น Application
นอกจากนี้ยังพัฒนาเรื่องหน้าจอด้วยครับ Glove Friendly โดยสามารถใส่ถุงมือหรือใช้ของแข็งที่นำไฟฟ้าอย่างเล็บมือ, มีด, ช้อนมาเคลื่อนไหวหน้าจอแทนนิ้วมือได้อีกด้วย (เหมือน Nokia Lumia เลยนะครับแจ๋วๆ)
และสำหรับคนที่คิดว่าหน้าจอสีสดๆ Super AMOLED ไม่ถูกใจก็สามารถปรับโหมดหน้าจอได้ 4 แบบและมีโหมด Adapt Display คือการปรับความสว่างและสีสันของการแสดงผลหน้าจอให้สวยงามเพิ่มขึ้นมาจากเดิมอีกด้วย
แถบ Notification ดูใช้ง่ายกว่าเดิม และมีให้เลือกใช้เยอะมากๆและสามารถย้ายตำแหน่งตามใจชอบได้ด้วยครับ แต่ยุ่งยากนิดหน่อยเพราะต้องเข้าไปปรับในเมนูตั้งค่า (จริงๆน่าจะให้แตะค้างย้ายได้เลยนะเนี่ย) ถัดลงมาจะเป็นปรับแสงหน้าจอ และการแจ้งเตือนต่างๆ
หน้า App Drawer จะแบ่งเป็นในส่วนของ Application และ Widget การปรับแต่งต่างๆจะเหมือนกับใน S3 ครับ
Multi Screen การใช้งาน 2 หน้าจอพร้อมกันฟังก์ชั่นที่สนชอบกันเยอะ ระดับเรือธงอย่าง Galaxy S4 ย่อมต้องมีมาให้ครับ การใช้งานลื่นไหลและสลับหน้าจอใช้งานได้ไม่สะดุดเลยครับ สามารถเลื่อนปรับการแบ่งจอได้รวมทั้งเปิดเป็นจอเดี่ยวๆหรือสลับตำแหน่งก็ได้สเปคระดับนี้แถม RAM 2GB ผมว่าเหลือเฟือที่จะใช้ 2 หน้าจอได้ลื่นๆ (แต่ขนาด Note 8.0 สเปคไม่สูงขนาด S4 ก็ยังเล่น Multi Screen ได้ลื่นๆเหมือนกันครับ^^)
Samsung Galaxy S4 มีโหมดเมนูช่วยเหลือหรือ Assistant Menu เหมือนใน iOS ด้วยนะครับคนที่อยากจะถนอมปุ่ม Home ก็ลองใช้ได้เลยครับ ย้ายตำแหน่งไปมาได้แบบเดียวกันเลย
ฟังก์ชั่นที่น่าสนใจใน Samsung Galaxy S4 ที่พัฒนาเพิ่มขึ้นมาจากเดิมก็อย่าง Air Gesture นั่นก็คือควบคุมการทำงานต่างๆ โดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ เช่นการปัดมือขึ้นลงเหนือตัวเครื่องเพื่อเลื่อนหน้าจอ (ใช้ในตอนเราดูหน้าเวบหรือเช็ค Mail) และ Air Browser สามารถปัดมือไปซ้ายและขวาเพื่อเลื่อนหน้าเวลาชมรูปภาพ, ใช้งาน Internet, เครื่องเล่นเพลง และใน S Memo
ซึ่งทั้ง Air Gesture และ Air Browser ที่เพิ่มขึ้นมาผมขอชมนะว่าทำได้ดีมากและแม่นยำครับ (คนที่พลาดมักจะเอามือปัดกลับผ่านเซนเซอร์เองแล้วโทษฟังก์ชั่นซะงั้น5555) ผมลองแล้วแม้แต่ตอนกลางคืนปิดไฟนอนมันก็สามารถใช้งานได้นะครับ ถึงอาจจะหาโอกาศใช้ไม่ได้บ่อยๆแต่ผมว่าแจ๋วครับ ผมชอบมากเลย
Smart Screen สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาก็เจ้า Smart Scroll โดยสามารถเลือกได้ว่าจะเลื่อนหน้าจอโดยการเอียงหัวหรือจะเลื่อนโดยการเอียงตัวเครื่อง และสามารถปรับความเร็วในการเลือนหน้าจอได้ด้วย
และฟังก์ชั่น Smart Pause จะหยุดเล่นวีดีโอเมื่อละสายตาจากเครื่อง และจะกลับมาเล่นโดยอัตโนมัติ เมื่อหันกลับมามองหน้าจอ
อืม……ผมว่า 2 ฟังก์ชั่นนี้มันไม่ค่อยจะฉลาดนักครับ Smart Scroll ใช้ยากต้องให้เวลามันจับที่ตาเรา (แต่ผมว่ามันจับที่หัวผมนี่ละ) และไม่ค่อยได้ดังใจครับส่วน Smart Pause จริงๆผมชอบนะแต่แค่เหลือบตาไปมองที่อื่นนิดเดียวมันก็หยุดแล้วครับ ผมว่ามันชวนรำคาญมากกว่ามีประโยชน์ในการใช้จริงแหะ
และลูกเล่นการสั่งงานด้วยเสียงก็มีมาให้ครบเหมือนเดิมครับ เท่าที่ทดสอบดูในโหมดกล้องใช้งานง่าย ส่วนโหมดอื่นๆออกจะยากๆหน่อย แต่ก็เป็นเพราะผมไม่เก่งภาษาด้วยละครับ ถ้าคนที่สำเนียงดีๆน่าจะใช้ได้สนุกเลย
Airview สิ่งที่ทำให้ผู้ใช้รุ่นอื่นๆอิจฉาเจ้าตระกูล Note มานานตอนนี้ในตระกูล S ก็ได้ใช้แล้วนะครับ แถมล้ำกว่าไม่ต้องพึ่ง S Pen สามารถใช้นิ้วมือจ่อที่หน้าจอแทน S Pen ได้เลยอันนี้ผมว่าสุดยอดมากครับ
สำหรับ Airview ก็คือเมื่อเราจ่อนิ้วมือไปใกล้ๆหน้าจอ ก็จะพรีวิวรูปภาพหรือข้อมูลให้เราได้เห็น นอกจากนี้เวลาเราเล่นวีดีโอ ถ้าเอาไปจ่อตรงแถบช่วงเวลา มันจะจะพรีวิววีดีโอช่วงนั้นๆให้เราได้เห็นเป็นภาพเคลื่อนไหวด้วยครับ
เราสามารถสร้าง Folder เพิ่มขึ้นมาในหน้า Gallery และมีพรีวิวแบบก้นหอยเท่ๆเพิ่มขึ้นมาด้วยเหมือนกับตระกูล Note
S Memo อาจจะไม่สุดยอดเท่า S Note แต่ก็ใช้ได้ดีครับ เหมาะสำหรับจดบันทึกต่างๆ ลูกเล่นต่างๆถือว่าเหนือกว่า App ติดเครื่องแนวนี้ของแบรนด์อื่นๆชัดเจน
S Translator สามารถแปลภาษาผ่านเสียงได้ครับ สะดวกสำหรับคนอ่อนเรื่องภาษาแบบผมมากเลย แต่น่าเสียดายมันไม่รองรับภาษาไทยนี่สิครับ=__= โดยในตอนนี้จะรองรับภาษาบลาซิล, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี่, ญี่ปุ่น, เกาหลี, จีน, สเปน ต้องรอลุ้นครับจะมีภาษาไทยเมื่อไหร่ แต่น่าจะยากครับภาษาบ้านเรามันไม่สากล
ตัวเครื่องของ Samsung Galaxy S4 จะมีตัวส่งสัญญาณอินฟราเรดเพื่อใช้งานเป็นรีโมทผ่าน WatchON โดยจะสามารถทำให้ Samsung Galaxy S4 ทำงานเป็นรีโมทให้กับอุปกรณ์ต่างๆได้ทั้งทีวี, กล่องรับสัญญาณ, DVD, Blu-Ray, AV Receiver, เครื่องเล่น Media Player, Projector
Samsung Galaxy S4 มาพร้อมกับ Application ที่ทาง Samsung ใส่มาอย่างมากมายเช่น S Health ที่ทำหน้าที่เป็นบันทึกรายการอาหารและการออกกำลังกาย เพื่อวางแผนสำหรับการรักษาสุขภาพ ดดยสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมที่ทาง Samsung ตั้งใจนำเข้ามาจำหน่ายพร้อมกับ Samsung Galaxy S4 ด้วยครับ
Story Album คือการนำภาพถ่ายบนมือถือมาจัดวางเป็นอัลบั้มภาพ ดดยมีรูปแบบให้เลือกหลากหลายแบบและสามารถสั่งจัดพิมพ์เป็นรูปเล่ม โดยจะมีบริการส่งถึงบ้านด้วย แต่มีแค่ในบางประเทศนะครับบ้านเรา Samsung ไม่น่าจะมีบริการนี้ครับ แต่เราก็สามารถจัดเล่นเอง หรือจะสั่งพิมพ์กันเองก็ได้นะครับ ตามห้างผมก็เคยเห็นมีบริการแบบนี้เหมือนกัน (จริงๆบริการแบบนี้ Apple ก็มีนะครับเนี่ย)
TripAdvisor จะเป็นบริการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร โรงแรม หรือแม้แต่ดูเที่ยวบิน โดยเราระบุได้ทั่วโลกครับ รวมทั้งจะเขียนรีวิวสถานที่นั้นๆสั้นๆและให้คะแนนก็ได้อีกด้วย ผมลองแล้วแจ๋วดีครับเวลาจะไปเที่ยวดูสะดวกมากๆเลย
Samsung Hub แหล่งรวมซื้อหนัง, หนังสือ, เกมส์ เท่าที่ดูผมว่าทำมาค่อนข้างดีครับตัว Application สวยน่าใช้ดีมากครับในเรื่องหนังนี่ผมว่าแจ่มนะ หนังดูใหม่ดีราคาก็มีทั้งแพงและถูก
Galaxy Kids อันนี้ทำมาหน้าตาน่ารักมากครับ แนะนำ Application สำหรับเด็กๆแถมมีรูปแบบการเรียนรู้และอายุให้คุณพ่อคุณแม่เลือกกันง่ายๆด้วย
Galaxy BookStore เป็น Application เลือกซื้อหนังสือและนิตยสารของ AIS Bookstore นี่ละครับ
Galaxy Eat Out แนะนำร้านอาหารและมีส่วนลดครับ ก็ได้ขาใหญ่ Wongnai มาทำให้
Samsung Galaxy Showtime เป็น Application เลือกซื้อหนังครับโดยจะเป็นหนังของสหมงคลและ GTH
Galaxy Gift จะรวมส่วนลดต่างๆทั้งอาหาร, ความงาม, ความบันเทิงสำหรับผู้ใช้มือถือ Samsung Galaxy เท่านั้น
GPS จับสัญญาณได้เร็วมากครับ ระบุตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วโดยในเครื่องก็จะใช้งานร่วมกับ Google Maps ครับ
Browser เป็นแบบมาตราฐานครับการใช้งานลื่นไหลดีมาก จะมีก็แต่กระทู้ยาวๆใน Pantip ที่อาจจะต้องรอโหลดซักหน่อยครับ และถ้าต้องการให้แสดงผล Flash สมบูรณ์ต้องไปโหลด Flash Player มาติดตั้งเอง
รองรับการใช้งานควบคู่กับ Airview โดยเมื่อจ่อนิ้วที่ตัวอักษรจะสามารถใช้งานเหมือนแว่นขยายได้ เหมาะกับผู้มีปัญหาเรื่องสายตาและคนชรานะครับ
รองรับการชมวีดีโอ Full HD 1080P ได้อย่างลื่นไหลรวมทั้งมีใช้งานร่วมกับ Airview และมีฟังก์ชั่น Popup Play ซึ่งจะย่อจอให้เล็กลงและใช้งานอื่นๆไปด้วยพร้อมกันได้ นอกจากนี้ตัว Popup Play ยังย่อและขยายขนาดได้อีกด้วย
เครื่องเล่นเพลงสามารถปรับ EQ แบบสำเร็จรูปและปรับแต่งด้วยตัวเองได้มีระบบจำลองเสียง 7.1 ch และ Externalisation และสามารถเล่น FLAC ได้ด้วย และยังคงเหมือนใน Galaxy S3 มาคราวนี้ก็ยังคงใช้ชิบเสียงของ Wolfson ซึ่งข่าวล่าสุดทาง Samsung ได้จับมือกับ Wolfson ในระยะยาวเลยครับ ซึ่งผมว่าเป็นเรื่องดีนะเพราะคุณภาพเสียงน่าประทับใจมากครับ
Adapt Sound เป็นการปรับแต่งเสียงให้เข้ากับหูเราที่สุด ซึ่งมันเห็นผลจริงๆนะครับ เพราะพอผมทดลองแล้วเห็นความต่างชัดเจนเลย ซึ่งมันก็เหมือนการปรับแต่ง EQ แต่อันนี้มันคือการปรับแต่งด้วยหูเราเองเลย
เรื่องการเล่นเกมลื่นไหลดีมากครับ จริงๆด้วยสเปคระดับนี้ไม่จำเป้นต้องห่วงเลยครับ เกมจะแจ๋วแค่ไหนมันก็เล่นได้แน่นอน
กล้องของ Samsung Galaxy S4 มีความละเอียด 13MP บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P กล้องหน้า 2MP บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P และพัฒนาเมนูกล้องมาสวยมากครับ ดูแล้วคล้ายๆกับใน Galaxy Camera เลยลูกเล่นจัดเต็มมากครับ ใส่จุดเด่นของกล้องที่มีในแบรนด์อื่นๆมารวมใว้เข้าด้วยกันทั้ง Auto Night Detection การถ่ายภาพในที่มืดโดยไม่ต้องใช้แฟลช (แต่ต้องมือนิ่งๆหน่อยนะครับ) ซึ่งผลที่ออกมาก็ต่างกันเลย แต่ผมว่าโหมดนี้มันลบ Noise มากไปหน่อยจนภาพดูเยิ้มๆครับ ผมชอบถ่ายแบบปกติมากกว่าแหะ นอกจากนี้ยังมี Effect สีให้เลือกใช้มากมาย รวมทั้งที่โดดเด่นมากก็คือโหมดถ่ายรูปพิเศษที่จัดเต็มมาให้ถึง 12 อย่างด้วยกันครับ อย่ามาม่านะครับถึงหลายๆโหมดจะไปเหมือน Nokia Lumia และมีใน HTC One แต่ผมว่ามันก็เป็นเรื่องดีนะที่ Samsung Galaxy S4 จัดเต็มมาให้ลูกค้าขนาดนี้ โหมดถ่ายภาพพวกนี้ต่อไปผมว่าจะต้องกลายเป้นมาตราฐานแน่ๆเลยครับ แถมยังพัฒนาโหมดที่เป็นจุดเด่นของตัวเองให้ได้เล่นกันด้วย
ที่เด่นมากๆเลยก็เจ้า Dual Camera ซึ่งก็คือการใช้งานกล้องหน้าและหลังพร้อมกันในการถ่ายภาพ โดยจะแรกภาพของผู้ถ่ายผ่านกล้องหน้าลงไปในรูปด้วย แถมสามารถปรับขนาดและเลือกกรอบได้หลากหลายรูปแบบ ดูเท่ดีครับ (เดี๋ยวจะมีตัวอย่างภาพถ่ายให้ชมนะฮะ)
สำหรับ 12 โหมดถ่ายภาพแบบพิเศษจะมีดังนี้
Auto : ก็โหมด Auto ปกติครับรองรับ Touch Focus
Beauty Face : ถ่ายให้หน้าเนียน ผลที่ออกมาผมว่าฉลาดไม่เบาครับ
Night : ถ่ายภาพกลางคืน
Sport : ถ่ายภาพในสภาวะเคลื่อนไหวรวดเร็ว
Panorama : ตามชื่อครับคือการถ่ายภาพแบบกว้างพิเศษ
Eraser : คือการลบสิ่งที่เราไม่ต้องการออกจากภาพโดยการถ่ายภาพ 5 รูป
Animated Photo : สร้างภาพ .gif แบบง่ายและเลือกลบภาพเพื่อให้วัตถุหยุดนิ่งได้
Best Face : คือการถ่ายภาพ 5 รูปแล้วสามารถเลือกใบหน้ามาตัดต่อกับลำตัวที่เราชอบได้
Best Photo : ถ่ายภาพหลายๆรูปแล้วมือถือจะเลือกที่ดีที่สุดให้เรา
HDR : ตามชื่อครับ^__^
Drama Shot : ถ่ายภาพหลายๆภาพในช่วงเวลาสั้นๆ แล้วเอามารวมกันจนเกิดภาพที่เหมือนกับนินจาแยกร่าง อิอิ (อันนี้ผมชอบมากเลย)
Sound & Shot : ถ่ายภาพนิ่งพร้อมบันทึกเสียง (ฟังได้บนมือถือครับ ลงคอมก็จะเป็น .jpeg ธรรมดาแต่มีจะหนักเป็นพิเศษเพราะมี File เสียงอยู่ด้วย) โหมดนี้ผมว่าแจ๋วนะถ้าถ่ายภาพคนที่เราห่วงใยแล้วมีเสียงประกอบด้วย ผมว่าจะเป็นภาพถ่ายที่มีความหมายมากครับ ไม่ว่าจะพ่อแม่ คนรัก ลูกหรือเพื่อนฝูง^__^
ซึ่งโหมดเหล่านี้เท่าที่ลองทดสอบดูผมว่าทำได้ดี และเพิ่มความสนุกให้ได้เยอะเลยครับ Drama Shot ผมว่าคนถ่ายเล่นกันเพียบแน่ๆ เพราะใช้ง่ายไม่จุกจิกผลที่ออกมาก็เท่มากเลย^^
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Samsung Galaxy S4
ผลออกมาน่าพอใจครับ อิอิ ผมว่ากล้องของ Samsung Galaxy S4 ทำได้ดีนะครับกลางแจ้งสีสันสวยมาก รายละเอียดคมดีและจับ Focus รวดเร็วและแม่นยำครับ สภาพในที่ร่มผมว่าปานกลางนะไม่ถึงกับโดดเด่นแต่ก็ไม่แย่ แต่ภาพกลางคืนผมว่าแจ่มครับออกมาสวยและถ่ายง่ายไม่ค่อยพลาด แต่เรื่องกล้องนี่ผมว่าที่สุดแล้วคืออยู่ที่คนถ่ายครับ แนะนำๆมือนิ่งๆใว้ผลลัพธ์มักจะออกมาน่าพอใจ^__^
ตัวอย่างภาพถ่ายโดยโหมด Dual Camera (จวนตัวมากครับ Samsung จะมาเอาเครื่องคืนเลยถ่ายในห้องนอน แหะ แหะ)
Drama Shot นางแบบรับเชิญคือคุณแม่ผมเองครับ ขอตั้งนานนะเนี่ยเพราะไม่มีใครแล้วอ่ะ แม่ผมชอบมากเลยครับ^^
ภาพจากกล้องหน้าของ Samsung Galaxy S4 พร้อมเปรียบเทียบเมื่อใช้โหมด Beauty Face หน้าเนียนเลย หึ หึ ผู้ชายใช้อาจจะดูแปลกๆแต่สาวๆชอบแหงมๆครับ^^
ตัวอย่างวีดีโอจากกล้อง Samsung Galaxy S4
ข้อดีของ Samsung Galaxy S4
1. ตัวเครื่องที่บางลงและมีขนาดแทบจะไม่ต่างจาก Samsung Galaxy S3 แต่สามารถขยายหน้าจอได้ใหญ่กว่าเดิม ตัวเครื่องมีขนาดที่น่าใช้และบางเบามาก
2. หน้าจอ Super AMOLED ความละเอียด Full HD 1080 x 1920 pixels (441 ppi) ขนาด 5 นิ้วสวยสุดๆ
3. สเปคสูงมากระดับแถวหน้าของตอนนี้ การใช้งานลื่นไหลและรวดเร็วมาพร้อม Android 4.2.2 Jelly Bean ครอบทับด้วย TouchWiz UX ที่สวยงามและแพรวพราว
4. ฟังก์ชั่นจัดเต็มเยอะมากจริงๆ และมีหลายๆฟังก์ชั่นที่น่าประทับใจ
5. กล้องความละเอียด 13MP บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P กล้องหน้า 2MP บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P คุณภาพดีมากทั้งกล้องหน้าและหลัง มาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพที่คุณภาพดีมากถึง 12 โหมดและมีลูกเล่นที่สร้างสรรค์มากๆอย่าง Dual Camera
6. คุณภาพเสียงดีมากใช้ชิบเสียงของ Wolfson และมีโหมดปรับแต่งเสียงที่สร้างสรรค์อย่าง Adapt Sound
7. Application มีมาให้เยอะมากที่ดูน่าใช้เป็นพิเศษก็ S Health (ยั่วใจให้ซื้ออุปกรณ์เสริมมาออกกำลังกายมากๆ) และ WatchON ตัวเครื่องมีตัวส่งสัญญาณอินฟราเรดเพื่อใช้งานเป็นรีโมทได้
8. แบตเตอรี่ความจุ 2600 mAh อึดใช้ได้
ข้อด้อยของ Samsung Galaxy S4
1. วัสดุก็ยังคงเป็นโพลีคาร์บอเนตซึ่งข้อดีก็คือมันมีน้ำหนักเบาและยืดหยุ่นสูง แต่ข้อเสียก็คือมันไม่ค่อยหรูเท่าวัสดุอลูมิเนียมหรือกระจกแบบคู่แข่ง
2. Design ยังคล้ายเดิมมากทำให้ไม่ค่อยรู้สึกตื่นเต้น
3. ไม่มีวิทยุในตัว
4. ฟังก์ชั่นโดยรวมเน้นใว้โชว์มากกว่า ไม่ค่อยจะได้ใช้ในชีวิตประจำวันและบางอย่างเช่น Smart Scroll และ Smart Pause ผมว่ายังต้องปรับปรุงอีกมากกว่าจะใช้ได้จริงครับ (แต่ผมชอบ Air Gesture และ Air Browser นะเจ๋งดีฮะ^^)
การกลับมาครั้งนี้ของ Samsung Galaxy S4 ก็ยังคงจุดเด่นที่ทำให้ให้มือถือตระกูลนี้ประสบความสำเร็จตลอดมา ต้องบอกว่าจุดเด่นมันโดนใจผู้ใช้ทั่วไปมากครับทั้งเรื่องหน้าจอที่สดสวย ตัวเครื่องบางเบา การใช้งานที่ปรับปรุงขึ้นตลอดเวลา ผมว่าเรื่อง UI และการใช้งานภายใน Samsung เป็นแบรนด์ที่ใส่ใจรายละเอียดครับ และมาคราวนี้มันก็ดูน่าใช้มากจริงๆ ฟังก์ชั่นใหม่ๆใส่มาเพียบโดยเฉพาะเรื่อง Airview ที่เราสามารถใช้นิ้วได้นี่มันแจ๋วครับ ผมชอบมากรวมถึงกล้องที่คุณภาพดี แถมใส่โหมดถ่ายรูปสนุกๆที่ถึงแม้จะไม่แปลกใหม่แต่มันคือการรวมมาใว้ในรุ่นนี้แบบจัดเต็ม (เรื่องใส่จนล้นนี่ก็ทางถนัด Samsung เลยครับไม่กั๊กดี)
แต่จุดที่ผมอยากให้ตระกูล S ปรับปรุงเลยก็เรื่องงานออกแบบครับ ผมชอบงานออกแบบของ S3 มากครับและถึง S4 จะสวยแต่ผมก็เริ่มเบื่อแล้วอ่ะและอยากจะให้ Samsung เปลี่ยนวัสดุมากครับเพราะจริงๆผมชอบมือถือที่ดูโลหะๆมากเลย เอาละสรุปเลยแล้วกันผมว่า Samsung Galaxy S4 ยังเป็นเรือธงที่น่าประทับใจ และเป็นทางเลือกที่ดีอันดับต้นๆในช่วงนี้ครับ^__^
[gradeA]