Lumia 820 ตัวน้องรองจาก Nokia อาจจะโดนบดบังรัศมีจากรุ่นพี่ของมันอยู่พอสมควรครับ จากจุดเด่นจุดขายหลักๆ ก็จะหนักไปอยู่กับรุ่นใหญ่อย่าง Lumia 920 ซะหมด กับราคาที่แตกต่างกันประมาณ ห้าพันบาท กับความสามารถที่ลดน้อยลงบางคนก็มองว่าไม่คุ้ม แต่บางคนก็มองว่า “คุ้ม” นะ ^^
จุดที่แตกต่างหลักๆ ของ Lumia 820 คือเรื่องขนาดหน้าจอและความละเอียดของภาพ ครับสำหรับ Lumia 820 นั้นจะมีหน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว 800×480 พิกเซล และก็ตัวกล้องที่ไม่ได้มาพร้อมกับระบบ Pure view เหมือนของ 920 ที่เหลือก็จะใกล้เคียงกัน ความจำภายในเครื่อง 8 GB แต่ก็เพิ่มเมมโมรี่การ์ดภายนอกได้ ฝาหลังเปลี่ยนสีได้ หลากหลายสีสัน แต่ละอันก็มีประโยชน์ใช้สอยที่ต่างกันด้วย
(ดูรายละเอียดเรื่อง Shell ฝาหลังได้ที่นี่ครับ http://www.appdisqus.com/2012/12/02/lumia-820-shell/ )
ขอขอบคุณ windowsphonethailand และ Nokia ประเทศไทยสำหรับเครื่องทดสอบครับ
Specification
– หน้าจอแสดงผล AMOLED CLEAR BLACK ขนาด 4.3 นิ้ว ( 800×480 พิกเซล)
– High Sensitive Touch จับสัมผัสไว ใช้ได้แม้ใส่ถึงมือใช้งาน
– CPU Snapdragon S4 MSM8960 Dual Core 1.5GHz
– Ram 1GB
– หน่วยความจำภายใน 8GB รองรับ Micro SD Card สูงสุด 32GB (รองรับ Format ExFat)
– กล้องหลังตัวหลัก 8 ล้านพิกเซล กล้องหน้า VGA 640×480
– บันทึกวิดิโอความละเอียด HD1080p (30 fps)
– Battery Li-ion 1,650 mAh
– Bluetooth 3.0 / NFC / GPS / GLONASS / WiFi (802.11 b/g/n)
– 3G 850/900/1900/2100 MHz ทุกเครือข่ายในไทย HSPA+ 42 Mbps
– ขนาดเครื่อง 23.8×68.5×9.9 mm หนัก 160 กรัม
ตัวเครื่องคล้ายเป็น Unibody แต่ถอดฝาหลังเปลี่ยนได้ ดูมั่นคงแข็งแรงด้วยวัสดุ Polycarbonate เรียบๆ ง่ายๆ เข้ากับทุกสีที่เราจะเลือกใช้ อยากสดใสจัดสีเจ็บๆ อยากเรียบง่ายจัดสีเบสิค ^^
ด้านล่างตัวเครื่องเป็นสามปุ่มมาตรฐานของเครื่องระบบ WP8 มีพอร์ต Micro USB สำหรับชาร์จไฟ และช่องลำโพงด้านขวาเสียงที่ได้ก็ดังดีครับ ออกแบบการวางลำโพงไว้ตรงนี้ทำให้ไม่ว่าจะวางคว่ำหรือหงายเสียงก็ดังได้ชัดเจน แต่เร่งเสียงดังมากลำโพงจะฟังแตกๆ หรี่ลงเล็กน้อยให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่า
ด้านขวาของเครื่องเป็นที่รวมปุ่มใช้งานของตัวเครื่อง ด้านบนสุดคือปุ่มลดเสียงและเพิ่มเสียง ตรงกลางเป็นปุ่ม Power และเปิดปิดหน้าจอ
ด้านล่างสุดเป็นปุ่มถ่ายภาพแบบสองจังหวะ แตะเพิ่มโฟกัส และกดย้ำเพื่อบันทึก สามารถใช้เป็นปุ่มเข้าสู่โหมดถ่ายภาพแบบด่วนได้ด้วยโดยการกดค้างในหน้าจอล็อก และการกดหนึ่งครั้งในหน้าแสตนด์บาย
(กดปุ่ม Power + ปุ่ม Start (โฮม) เพื่อเซฟภาพหน้าจอ)
เหนือหน้าจอเป็นกล้องหน้าความละเอียดระดับ VGA ติดกันเป็นเซ็นเซอร์รับแสงและลำโพงสนทนา ดูเล็กๆ แต่ดังชัดเจนดีครับ คุยโทรศัพท์ไม่มีปัญหา ขอบเครื่องโค้งมนทำให้สนทนานานๆ กดทับไม่เจ็บใบหู
ตรา Nokia ตัวเล็กๆ ไม่ทำให้ด้านหน้าดูโล่งเกินไป เหนือขึ้นไปเป็นรู Jack 3.5 mm Audio out ไว้ต่อหูฟังหรือชุดเครื่องเสียง
ด้านหลังเป็นที่อยู่ของกล้องหลักขนาด 8 ล้าน เลนซ์ Carl Zeiss พร้อม LED แฟลช ที่เหลือเรียบๆ มีแค่ตราโลโก้ Nokia ด้านล่าง ส่วนนี้คือ Shell ฝาหลังทั้งชิ้นที่เราสามารถซื้อมาสลับสับเปลี่ยนได้ครับ
แกะออกดูภายในทำให้รู้ว่าแกะฝาหลังไม่ยากอย่างที่คิดครับ ทำตามคู่มือบอก เริ่มจากมุมเครื่องด้านบนข้างใดข้างนึงก่อน แป๊บเดียวก็ถอดออกได้ครับ
ภายในเป็นแบตเตอรี่ขนาด 1650 mAh
มีช่องใส่ซิมการ์ด (Micro Sim) และช่อง Micro Sd card รองรับสูงสุด 32 GB (สื่อนอกบางเว็บแจ้งไว้ สูงสุด 64 GB )
เปรียบเทียบด้านหลังกับเครื่องแบรนด์อื่นๆ ดูโล่งๆกว่าเพื่อนครับ
เปรียบเทียบความหนา จะเห็นว่า Lumia 820 จะมีความหนา ( และหนัก ) กว่าเครื่องอื่นอยู่นิดหน่อยครับ
เทียบหน้าจอกับ HTC 8X ที่ขนาดหน้าจอ 4.3 เท่ากัน แต่คนละสัดส่วน (8x เป็น 16:9 / Lumia 820 เป็น 15:9 ) ความยาวความกว้างจะดูต่างกันชัดเจน
ส่วนความละเอียดหน้าจอของ Lumia 820 ถือว่าเพียงพออยู่ครับ ไม่ได้คมกริบ แต่ก็ไม่ได้เห็นความหยาบมากมายจนรำคาญตา 221ppi พอได้อยู่ครับ สบายๆ
การใช้งานภายใน
ตัวระบบ Windows phone8 ทำหน้าที่ในเรื่องของความลื่นไหลและประสบการณ์ในการใช้งานได้ดีอยู่แล้วครับ แต่ก็ติดตรงระบบ Windows phone8 ยังมีแอพพลิเคชั่นให้ใช้งานอยู่น้อยมากเช่นกัน แอพบางตัวก็ยังดูไม่ค่อยพร้อม ความสามารถขาดๆหายๆ แนะนำจะมาเล่น Windows phone8 ให้ศึกษาให้ดีก่อนใช้ครับ ว่าการใช้งานที่ต้องการมีแอพพลิเคชั่นรองรับแล้วหรือยัง
Lumia 820 ก็เช่นกันครับ มีความลื่นไหลหน้าโฮมสูง แต่ลื่นไหลไปก็เหมือนจะยังไม่มีประโยชน์เพราะการใช้งานต่างๆมันอยู่ที่แอพพลิเคชั่น ความขาดๆเกินๆ ยังไงก็ยังติดตัวมาพร้อมกับระบบ ตัวเครื่องออกแบบมานุ่มมือไร้เหลี่ยมมุม แต่เครื่องออกจะหนาหนักและทรงกว้าง ผมชอบที่สุดคือการวางตำแหน่งปุ่มปลดล็อกเครื่อง แม้เครื่องจะกว้างแต่นิ้วเอื้อมถึงพอดีเพราะอยู่กลางเครื่อง
ด้วยความเป็น Windows phone8 อุปกรณ์แต่ละรุ่นแต่ละเครื่อง หาจุดแตกต่างในเรื่องประสิทธิภาพภายในได้ยากมากครับ จากที่ผมเคยทดลองใช้ WP8 มาสี่รุ่น แทบไม่ต่าง รวมถึงรุ่นน้องจิ๋วๆ HTC 8S ที่เคยๆสัมผัสมา มันยังลื่นไหลใช้งานได้ไวปรู๊ดปร๊าดเลย จะต่างไปก็ตรงความสามารถของตัวอุปกรณ์เอง เช่นของ Lumia 820 ก็เป็นในส่วนของหน้าจอแบบ High Sensitive Touch ที่สามารถสวมถุงมือแต่ทัชใช้งานหน้าจอได้
และสำหรับ Nokia Lumia จะสามารถตั้งอีควอไลเซอร์รูปแบบเสียงได้เมื่อเสียบหูฟัง เพราะตามปกติแอพพลิเคชั่นเล่นเพลงที่ติดเครื่องมาของ Windows phone8 ไม่สามารถปรับแต่งเสียงได้ครับ
และสิ่งที่ต่างกันแบบชัดเจนอีกส่วนหนึ่ง ก็จะเป็นในเรื่องของแอพพลิเคชั่นและฟังชั่นการใช้งานที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะเครื่องเฉพาะยี่ห้อครับ แอพพลิเคชั่นหลายๆตัวจะมีให้ใช้ได้บนเครื่องรุ่นที่กำหนดเท่านั้น หาไม่ได้จากเครื่องยี่ห้ออื่นๆ และสำหรับ Nokia Lumia 820 ก็เป็นอีกเครื่องหนึ่งที่ทาง Nokia จัดแอพพลิเคชั่นเตรียมไว้ให้แก่ผู้ใช้มากมายครับ บางแอพติดตั้งมาให้แล้ว แต่บางแอพต้องติดตั้งเพิ่มเติม
แต่ทั้งหมดรวมไว้แล้วใน Nokia Collection ภายในคลัง Marketplace ครับ
ที่คนสนใจเป็นตัวหลักเลยคือแอพพลิเคชั่นนำทางออฟไลน์ Nokia Drive แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้มันยังคงเป็นตัว Beta อยู่เท่านั้น ความสามารถจำกัด ค้นหาสถานที่ไม่ค่อยจะเจอ – – แต่ก็พอถูไถเพราะแอพอื่นๆใน Market ยังไม่เจอตัวที่ดีกว่า ^^
Nokia City Lens ก็เป็นอีกแอพที่คนพูดถึงกันบ่อยครับ หน้าที่หลักก็เป็นแอพพลิเคชั่นนำทางนั้นแหละครับ แต่การใช้งานจะแตกต่าง ระบุตำแหน่งสถานที่รอบตัวผ่านเลนซ์กล้อง ร้านไหนอยู่ทิศไหน มุมไหน ระยะทางเท่าไหร่ เราสามารถดูได้อย่างง่ายๆ ด้วยมุมมองโลกจริง น่าใช้ครับ ยิ่งคนชอบกินชอบเที่ยวน่าจะมีประโยชน์มากๆ
App Highlight เป็นแอพคัดกรองแอพอีกทีหนึ่งนั้นเองครับ แอพไหนเด็ด แอพไหนมาแรง แอพไหนลดราคา Nokia จับมาแยกประเภทให้เห็นกันง่ายๆด้วยแอพพลิเคชั่นตัวนี้
CREATIVE STUDIO
แอพพลิเคขั่นแต่งภาพแบบใช้งานง่ายๆ กดไม่กี่ทีก็แต่งได้มากมายหลายแบบครับ มีติดเครื่องมาให้ตั้งแต่แรกเริ่มเช่นกัน
Transfer my data ไว้สำหรับผู้ที่ย้ายมาใช้เครื่องใหม่ แล้วต้องการย้ายหมายเลขติดต่อในเครื่องเก่ามายังเครื่องใหม่ด้วย Transfer my data ใช้สำหรับการย้ายรายชื่อเหล่านั้นผ่านทางสัญญาณบลูทูธ ย้ายง่าย สะดวก และรองรับการใช้งานกับเครื่องในระบบอื่นๆด้วย
การใช้งานด้านการแสดงผล
สำหรับ Lumia 820 ความละเอียดหน้าจออาจจะดูต่ำกว่าเครื่องอื่นๆตามสมัยนิยม แต่ถ้ามองด้วยอารมณ์การใช้งานปกติ ไม่เห็นผลต่างมากมายครับ ยกเว้นการดูคลิปหรือหนังที่มีความละเอียดสูง เพราะเจตนาในการใช้เราต้องการความชัดของภาพเป็นข้อสำคัญขึ้นมา
และด้วยความที่ Lumia 820 รองรับในส่วนของการเพิ่มความจำภายนอกด้วย Micro Sd card ได้ จริงๆแล้วผมมองว่า มันเป็นเครื่องที่เหมาะสมจะเอาไว้เก็บไฟล์หนังไว้ดูยามว่างมากๆครับ ประสิทธิภาพตัวเครื่องสามารถดูหนังระดับ 1080p จาก Youtube แบบสบายๆ แต่มาติดตรงความละเอียดหน้าจอ
และที่สำคัญ เจ้า Lumia 820 สามารถอ่านหน่วยความจำที่ Format มาเป็น Exfat ได้ ฉะนั้นขนาดของไฟล์หนังไฟล์วีดีโอจะใหญ่สักแค่ไหนก็คัดลอกลงเมมได้ ไม่มีปัญหา แต่คงไม่มีประโยชน์ เพราะด้วยความละเอียดหน้าจอที่ไม่จำเป็นต้องใช้ไฟล์ใหญ่โต และ ยังไม่มีแอพพลิเคชั่นที่ใช้สำหรับเล่นหนังขนาดใหญ่ๆแบบไฟล์ MKV ให้ใช้งานด้วย
การใช้งานด้านเสียง
ลำโพงของตัวเครื่อง Lumia 820 ถือว่าพอใช้ ดังดีครับ ออกแหลมๆก้องๆ
ชุดหูฟังที่ให้มาได้เสียงระดับปกติ ข้อดีของ Lumia 820 คือการปรับอีควอไลเซอร์รูปแบบเสียงได้เมื่อใช้คู่กับชุดหูฟัง ทำให้สามารถเข้ากันกับหูฟังในแบบต่างๆได้มากกว่า และเข้ากันกับรสนิยมการฟังเพลงของผู้ใช้ได้มากกว่าครับ
โดยเฉพาะ Nokia Lumia ที่จะมีแอพพลิเคชั่นสำหรับไว้ฟังเพลงฟรีๆแบบ Nokia Music ให้ใช้งานกันได้ด้วย โหลดเพลงแนวที่ชื่นชอบเอามาฟังแบบออฟไลน์กันได้ตลอดเวลาเลยครับ ^^
การใช้งานด้านการเล่นเกม
จริงๆสำหรับรีวิวเครื่อง Windows phone8 ผมอยากจะข้ามข้อนี้ไปจริงๆ มันเล่นได้หมดแหละครับ เครื่องระดับเดียวกัน ใกล้ๆกัน ระบบพิมพ์เดียวกัน ตัวเกมก็ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับแบบนี้โดยตรง เล่นกันสบายใจละครับ
ปัญญหาเดียวก็คือระบบ WP8 มันยังไม่ค่อยมีเกมมาให้เล่นนี้สิ ^^
การใช้งานด้านการถ่ายภาพ
เรื่องการถ่ายภาพเป็นจุดเน้นหนักของทาง Nokia เลยครับแม้เจ้า 820 จะเป็นรองในเรื่องของคุณภาพตัวกล้อง 920 แต่ฟังชั่นใช้งานก็มีมาให้แบบครบเครื่องเหมือนๆกัน ^^
Smart Shoot การถ่ายภาพหมู่เป็นชุด ที่สามารถเลือกใบหน้าที่ดีที่สุดของแต่ละคนมารวมกันไว้ในภาพเดียวได้ หลายๆคนที่เคยใช้ Android คงจะคุ้นกับแอพใช้งานลักษณะนี้มาแล้ว แต่ Nokia คือเจ้าแรกที่ใส่ฟังชั่นนี้มาให้ในเครื่อง Windows phone8 ครับ ^^
Cinemagraph คือแอพสร้างภาพอนิเมชั่นแบบเคลื่อนไหวเฉพาะจุด ภาพทั้งภาพจะเหมือนกับภาพถ่ายแต่จะมีแค่เฉพาะจุดที่เรากำหนดเท่านั้นที่จะเคลื่อนไหว ได้ภาพออกมาเป็นล์ Gif ครับ น่ารักมากๆ น่าจะสนุกครับ ^^
ถ่ายภาพเสร็จแล้วก็กำหนดจุดที่ต้องการ ตัวเครื่องก็จะทำการสร้างไฟล์ภาพเคลื่อนไหวขึ้นมาให้เองครับ
Panorama การถ่ายภาพตามกระแสฮิต เมื่อชีวิตเราต้องออกไปสู่โลกกว้าง ^^ ระบบการถ่ายทำมาถ่ายง่ายดีครับ เมื่อเริ่มแพนกล้องเพื่อถ่ายภาพมุมกว้าง ตัวระบบจะมีการระบุจุดโฟกัสต่อไปให้เราเคลื่อนกล้องเข้าสู่วงกลมที่ระบุ ทำไปเรื่อยๆ จนสุดความกว้างที่ต้องการ ก็กดจัดเก็บได้เลยครับ ใช้งานง่ายดี
ตัวอย่างภาพ Panorama
สำหรับ Nokia Lumia 820 ขัดใจในเรื่องแอพถ่ายภาพอยู่อย่างนึง คือไม่สามารถจะตั้งค่าความละเอียดของภาพได้ครับ มีให้เลือกแต่เพียงแค่สัดส่วนภาพ 16:9 หรือจะเอา 4:3
ส่วนการจับภาพทำได้ไวครับ โฟกัสแม่น แต่บางครั้งภาพชอบออกโทนฟ้าๆ ยิ่งภาพถ่ายระยะใกล้ตัวเครื่องจะยิง LED เพื่อวัดแสง ต้องใจเย็นอย่ารีบกดชัตเตอร์ เพราะบางครั้งเครื่องจะปรับ WB ไม่ทันเมื่อแสง LED ดับในระยะสุดท้าย ทำให้ภาพตอนกดกับภาพที่ได้แสงจะไม่เหมือนกัน
ตัวอย่างภาพถ่ายของ Lumia 820
สรุปท้ายรีวิว
Lumia 820 เป็นเครื่องที่มีความสมดุล ใช้งานได้ทุกๆด้านไม่ได้ด้อยไปทางใดชัดเจน แต่ก็ไม่ได้เด่นไปในทางด้านใดเช่นกัน เมื่อดูตัวเลือกในแบรนด์เดียวกันอย่าง Lumia 920 ก็แบ่งแยกอย่างชัดเจนด้วยช่องว่างราคา 5000 บาท สำหรับคนที่ต้องการจะลองใช้ลองสัมผัสสมาร์ทโฟนระบบ Windows phone8
Lumia820 ก็เพียงพอที่จะให้คุณรับรู้ประสบการณ์ใหม่ของระบบใหม่แบบครบทุกด้านแล้วครับ
ข้อมูลในส่วนของตัวระบบ Windows Phone8 เป็นอย่างไร อ่านเพิ่มเติมที่นี่ครับ
http://www.appdisqus.com/2012/11/26/tips-windows-phone8-basic/
สำหรับรีวิวการใช้งานของเครื่องระบบ Windows phone8 อีกสองตัวที่เหลือ จะตามมาแน่นอนครับ หวังว่าจะพอเป็นข้อมูลให้เพื่อนๆที่กำลังสนใจได้อะไรเพิ่มเติมไปบ้างไม่มากก็น้อย ^^
สำหรับรีวิวนี้ สวัสดีครับ
[gradeB]