ผ่านพ้นไปแล้วครับสำหรับงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการของมือถือเรือธงตัวใหม่ของ Nokia อย่างเจ้า Nokia Lumia 1020
งานนี้ไม่มีอะไรพลิกโผทั้งตัวเครื่อง อุปกรณ์เสริม และความสามารถต่างๆตรงกับข้อมูลที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ทั้งหมดครับ
เราจะมาสรุปข้อมูลต่างๆกันอีกครั้งสำหรับเจ้ามือถือกล้องเทพตัวนี้ครับ
[divider]
[box_info]สเปคของ Nokia Lumia 1020 มีดังนี้ครับ[/box_info]
คุณสมบัติเด่น:
– กล้อง 41 Megapixel sensor บันทึกภาพโดยให้ความคมชัดที่สูงแบบที่สมาร์ทโฟนรุ่นอื่่นๆยังไม่เคยทำได้มาก่อน
– ชิ้นเลนส์ 6 ชิ้นแบบที่มีใน Lumia 925 ทำให้ได้ภาพที่คมชัดขึ้นแม้จะถ่ายด้วยการซูม
– ระบบ Oversampling สำหรับช่วยในการซูมภาพได้แบบ และสามารถถ่ายภาพก่อนและซูมทีหลังได้
– Nokia Pro Camera ซอฟท์แวร์สำหรับการถ่ายภาพที่ใช้งานได้ง่ายแต่ให้คุณภาพระดับมือโปร
– Nokia Rich Recording ระบบบันทึกเสียงคุณภาพสูงที่ปลอดเสียงรบกวนแม้ในสภาวะเสียงรบกวนเยอะ
– มาพร้อมระบบนำทางแบบออฟไลน์ตระกูล Here location ทั้งหมดและใช้งานได้ฟรี
ภาพตัวเครื่องในมุมต่างๆแบบความละเอียดสูง
สเปคแบบละเอียดผมเคยเขียนถึงไปแล้ว แต่จะยกมาไว้ที่นี่อีกครั้งนึงเผื่อบางท่านที่พลาดไปครับ
CPU:
- 1.5 GHz dual-core Snapdragon S4 (ตัวเดียวกับ Nokia Lumia 920 และ 925)
RAM
- 2 GB
ความจำภายในเครื่อง
- 32 GB (ไม่สามารถขยายเพิ่มได้) และมีรุ่นพิเศษสำหรับบางประเทศในยุโรปและลาตินอเมริกาที่จะมีรุ่นความจุ 64 GB จำหน่าย
หน้าจอ:
- 4.5 inch AMOLED ความละเอียด WXGA (1280 x 768) ความหนาแน่นของเม็ดสี 334 PPI (สเปคหน้าจอเหมือนกับ Lumia 925)
- จอโค้งแบบ 2.5D sculpted glass และใช้กระจก Gorilla Glass 3
- เทคโนโลยีภายในหน้าจอ PureMotion HD+ ClearBlack, High Brightness Mode, Sunlight readability, Super sensitive touch
กล้องหลัก:
- PureView เซ็นเซอร์ขนาด 41 ล้านพิกเซล
- ความละเอียด 7712 x 5360 พิกเซล
- เลนส์ Carl Zeiss
- Optical Image Stabilization (OIS), Backside-illuminated image sensor,
- มีเลนส์ 6 ชิ้นแบบเดียวกับ Lumia 925
- รูรับแสงขนาด f/2.2
- รองรับการซูม 3 เท่าแบบ Digital zoom แบบ High resolution พร้อมระบบ Auto focus,
- เทคโนโลยี Oversampling สามารถถ่ายภาพได้คมชัด
- แฟลช Xenon สำหรับการถ่ายภาพและแบบ LED สำหรับการถ่ายวิดีโอ
- ถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียด 1080p video at 30 fps
- มาพร้อม Software Nokia Pro Camera และ Nokia Smart Camera
กล้องหน้า:
- ความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล HD Megapixel wide angle
ขนาด:
- 130.4 x 71.4 x 10.4 mm (ตรงนี้ใกล้เคียงกับ Lumia 920 มาก โดย Lumia 920 มีขนาดอยู่ที่ 130.3 x 70.8 x 10.7 mm)
น้ำหนัก:
- 158 กรัม (เบากว่า Lumia 920 โดย Lumia 920 หนัก 185 กรัมและ Lumia 925 หนัก 135 กรัม)
เครือข่าย รองรับการเชื่อมต่อแบบ 4G LTE เครือข่ายที่รองรับมีดังนี้
- GSM: 850 MHz, 900 MHz, 1800 MHz, 1900 MHz
- WCDMA: 2100 MHz, 1900 MHz, 850 MHz, 900 MHz
- LTE network bands 1, 3, 7, 20, 8
- HSPA+ DL Cat 24, Dual Carrier 42.1 Mbps/UL Cat5.76 Mbps
ระบบแผนที่นำทางทั้งหมดอยู่ครบ ทั้ง HERE Maps and HERE Drive+, HERE transit ใช้งานได้ฟรี
การเชื่อมต่อ:
- USB 2.0
- BT 3.0
- NFC with SIM based security
- WLAN a/b/g/n
- A-GPS and Glonass
- 3.5 mm audio connector
แบตเตอร์รี่:
- 2000 mAh
ระบบเสียง:
- IHF speakers
- 2 microphones
- HD voice compliant
- 3.5mm AV connector
อุปกรณ์เสริม
- Nokia Camera Grip PD-95G เพิ่มความถนัดในการถ่ายภาพมากขึ้น
- มีแบตเตอร์รี่เสริมในตัว
- มีที่จับและชัตเตอร์แบบ 2 จังหวะ
- รองรับการเชื่อมต่อกับขาตั้งกล้องแบบ tripod
- Nokia Wireless Charging Cover CC-3066:
- ฝาหลังสำหรับการชาร์ตแบบไร้สาย
สีที่มีจำหน่าย: เหลือง ดำ และขาว
ระยะเวลาการใช้งาน:
- ระยะเวลาการสนทนาต่อเนื่อง (3G): 13.3 ชั่วโมง
- ระยะเวลา Standby : 16 วัน
- เล่นไฟล์วิดีโอต่อเนื่อง: 6.8 ชั่วโมง
- เล่นไฟล์เพลงต่อเนื่อง: 63 ชั่วโมง
[divider]
[box_info]จุดเด่น Zoom Zoom และ Oversampling[/box_info]
Nokia Lumia 1020 มาพร้อมกับจุดเด่นเลยคือเรื่องกล้องครับ (ทั้งงานพูดเรื่องกล้องอย่างเดียวเลย)
ด้วยเลนส์กล้องที่มีเซ็นเซอร์ขนาด 41 ล้านพิกเซล ที่เป็นเซ็นเซอร์แบบ Backside-illuminated image sensor มาพร้อมระบบกันภาพสั่นไหว OIS รุ่นที่ 2 (2nd generation) ที่พัฒนาไปจากระบบกันสั่นหรือ OIS แบบที่ใช้ในมือถือ Nokia Lumia ตระกูล 9xx ทั้งหลายไปอีกขั้น ทำให้ตอนนี้เจ้า Lumia 1020 เป็นมือถือที่มีกล้องยอดเยี่ยมที่สุดในปัจจุบัน
นอกจากส่วนของฮาร์ดแวร์แล้ว จุดเด่นอีกอย่างของ Lumia 1020 คือเรื่องของระบบที่เรียกว่า Oversampling ครับ เจ้าระบบนี้เป็นห้วใจสำคัญของเจ้า Lumia 1020 นี้เลยทีเดียว หลักการทำงานของระบบ Oversampling คือ
- ในการถ่ายรูป 1 ครั้งระบบจะถ่ายรูปพร้อมกัน 2 รูป โดยมีความละเอียดที่ 35 ล้านพิกเซลและ 5 ล้านพิกเซล ในอัตราส่วนภาพ 16:9
- รูปที่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซลคือการนำภาพแบบความละเอียด 35 ล้านพิกเซลมาทำ Oversampling โดยบีบพิกเซลจากภาพหลัก 7 พิกเซลมารวมเป็น 1 พิกเซลที่ภาพเล็ก Nokia เรียกเทคโนโลยีนี้ว่า Ultra…เอ้ย Super Pixel
- ส่วนภาพที่อัตราส่วน 4:3 นั้นจะถูกบันทึกที่ความละเอียด 38 ล้านพิกเซล
- สามารถถ่ายภาพก่อน และมาซูมเข้าหรือซูมออกทีหลังได้ นอกจากนั้นยังสามารถเลือกบันทึกภาพจากมุมมองที่ปรับซูมใหม่เป็นภาพอีกภาพหนึ่งได้โดยที่ไม่สูญเสียความละเอียด
จากวิดีโอด้านท้ายนี้จะแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการ ถ่ายก่อน ซูมทีหลังได้เป็นอย่างดีครับ
นอกจากนี้ยังมีรูปภาพที่เป็นตัวอย่างของการซูมภาพแบบความลุะเอียดสูง ซึ่งเราจะเห็นว่ารายละเอียดของภาพที่ซูมได้นั้น ยอดเยี่ยมมากเลยทีเดียวครับ
นอกจากนี้ ในเว็บไซต์ของ Nokia เองก็ได้เอาตัวอย่างรูปที่ถ่ายด้วยกล้องของ Nokia Lumia 1020 มาให้ชมกันด้วย จะเห็นได้ว่ารายละเอียดต่างๆของรูปแต่ละรูปนั้น สุดยอดจริงๆครับ
[divider]
[box_info]แอพสำหรับถ่ายรูปตัวใหม่ Nokia Pro Camera พระเอกอีกตัวนึงของงาน[/box_info]
นอกจากฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์สำหรับการประมวลผลของตัวกล้องแล้ว อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของงานนี้คือเจ้าแอพถ่ายภาพที่มีชื่อว่า Nokia Pro Camera ครับ
Nokia Pro Camera เป็นแอพถ่ายรูปตัวใหม่ของ Nokia ที่จะมาพร้อมกับ Nokia Lumia 1020 คุณสมบัติตามขื่อเลยครับคือการปรับแต่งกล้องแบบมือโปร
โดยจากข้อมูลที่เราเคยได้มานั้นเจ้า Nokia Pro Camera จะสามารถทำให้เราปรับค่าต่างๆของตัวกล้องได้ดังนี้:
- ISO
- White balance
- Focuus
- Shutter speed
- Flash
- Exposure level
โดยหน้าจอการใช้งานของ Nokia Pro Camera ก็เปลี่ยนไปเป็นแบบ Ring หรือการหมุนปรับตั้งค่าต่างๆในหน้าจอเลย ซึ่งน่าจะใช้งานได้ง่ายขึ้นพอสมควร และที่สำคัญคือการปรับค่าต่างๆใน ring นั้นจะแสดงผลทันทีที่หน้าจอของเราด้วย ทางโนเกียได้ทำวิดีโอตัวอย่างการใช้งานเจ้า Nokia Pro Camera มาให้ดูกันด้วยซึ่ง น่าจะทำให้เราเห็นภาพได้ง่ายกว่า ลองไปชมกันครับ
[divider]
[box_info]ระบบการถ่ายวิดีโอที่ซูมได้ 6 เท่า และการบันทึกเสียงแบบ Nokia Rich Recording[/box_info]
นอกจากระบบการถ่ายภาพนิ่งจะได้รับประโยชน์จากเลนส์ที่มีเซ็นเซอร์ขนาด 41 ล้านพิกเซลและระบบ Oversampling แล้ว ในส่วนของการถ่ายวิดีโอเองก็ได้รับประโยชน์จากคุณสมบัตนี้ด้วยเช่นกันครับ โดยเราสามารถซูมตอนถ่ายวิดีโอได้ถึง 6 เท่าและยังให้คุณภาพของวิดีโอที่เป็นแบบ HD อยู่ (ในงานเค้าบอกว่าเป็น Full HD ถึงแม้จะซูม แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอการพิสูจน์กันอีกที)
นอกจากการถ่ายวิดีโอแล้ว ระบบการบันทึกเสียงของวิดีโอก็เป็นอีกจุดเด่นหนึ่งที่โชว์ในงานนี้ครับ โดน Nokia ใช้คำว่า Rich Recording ซึ่งน่าจะเป็นคุณสมบัติที่่ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมจากใน Lumia 920 (ที่เยี่ยมยอดอยู่แล้วถึงคุณภาพเสียงที่บันทึกได้จากวิดีโอ) ทั้งนี้ในงานไม่ได้บอกถึงรายละเอียดของตัวไมโครโฟนที่ใช้ (แต่ก็น่าจะเป็นไมโครโฟนแบบ HAAC ของโนเกียเช่นเดิม)
ในงานคุณ Stephen Elops ได้เปิดตัวอย่างของเสียงที่บันทึกจากเจ้า Lumia 1020 ให้ฟังกัน เสียดายที่เป็นคลิปสั้นๆ แต่เสียงที่ได้ก็น่าประทับใจครับ
เช่นเคย Nokia มีการทำวิดีโอแสดงถึงคุณสมบัตินี้ออกมาด้วยเช่นกัน ตามนี้ครับ
[divider]
[box_info]พระเอกคนสุดท้ายของงานนี้ Camera Grip อุปกรณ์เสริมสำหรับการถ่ายรูปแบบมือโปร[/box_info]
เจ้า Camera Grip นี้เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์เสริมที่เด่นมาตั้งแต่ยังไม่เปิดตัวในงาน เพราะมีภาพหลุดต่างๆออกมาค่อนข้างเยอะพอๆกับตัวเครื่องเลยครับ
ภายในงานมีการใช้เจ้า Camera grip นี้เชื่อมต่อกับขาตั้งกล้องเพื่อถ่ายภาพที่ต้องการการเปิดหน้ากล้องนานๆ (Long Exposure) ซึ่งถึงแม้ Nokia Lumia 1020 มีระบบ OIS เพื่อป้องกันการสั่นไหวอยู่แล้ว แต่การต้องเปิดหน้ากล้องนานๆระดับ 4 วินาทีนั้น หากไม่มีขาตั้งกล้องซักอันคงไม่สามารถบันทึกภาพได้แน่นอน
นอกจากที่เจ้า Camera Grip จะเป็นตัวเชื่อมต่อกับขาตั้งกล้องแล้ว ยังเป็นแบตเตอร์รี่สำรองขนาด 1020 mAh ที่จะช่วยให้เราสารถถ่ายรูปได้นานขึ้นอีก นอกจากนั้นยังมีปุ่มชัตเตอร์ในตัว เพื่อให้เราสามารถถ่ายภาพได้สะดวกขึัน
ราคาขายของเจ้า Camera grip นี้มีการประกาศในงานด้วย โดยราคาขายอยู่ที่ $79 หรือประมาณ 2,370 บาทครับ
เจ้า Camera Grip นี้เด่นแค่ไหน..ดูจากการที่มันมีวิดีโอแนะนำเป็นของตัวเองก็พอจะบอกได้ครับ :) (แต่น่าเสียดาย ผมหาวิดีโอนั้นไม่เจอแล้ว – -‘)
[divider]
[box_info] วันวางจำหน่ายและราคา[/box_info]
ในงานนี้ไม่มีการพูดถึงราคาอย่างเป็นทางการสำหรับเครื่องแบบไม่ติดสัญญาหรือเครื่องที่จะวางขายทั่วโลกครับ
แต่ในงานมีการประกาศถึงราคาขายในอเมริกา ซึ่ง Nokia Lumia 1020 จะวางขายในอเมริกาผ่านเครือข่าย AT&T เท่านั้น โดยมีราคาขายเท่ากับข้อมูลที่หลุดมาก่อนหน้านี้คือ $299 แบบติดสัญญา 2 ปี (หรือประมาณ 6,000 บาท) และจะเริ่มวางขายวันที่ 26 กรกฏาคมนี้
ส่วนประเทศอื่นๆ ทางคุณ Stephen Elops ประกาศว่ากลุ่มประเทศที่ 2 ที่จะ Lumia 1020 จะวางจำหน่ายคือ จีน บางประเทศในแถบยุโรปและลาตินอเมริกา โดยจะวางจำหน่ายภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ (คือช่วง กรกฏาคม – กันยายน)
ส่วนประเทศอื่นๆรวมทั้งไทย กำหนดการจะอยู่ช่วงไตรมาสที่ 4 หรือปลายปีนี้เลยครับ และยังไม่มีการยืนยันราคาอย่างเป็นทางการ
[box_alert]แต่ถ้าข้อมูลที่หลุดมาก่อนหน้านี้ถูกต้อง ราคาก็น่าจะอยู่ที่ $699 หรือประมาณ 21,000-22,000 บาทครับ ทั้งนี้ข้อมูลนี้ยังไม่ยืนยันนะครับ[/box_alert]
[divider]
[box_info]เก็บตกอื่นๆ[/box_info]
ในงานนี้ หลักๆเน้นไปที่ตัวเครื่อง Lumia 1020 เท่านั้น แต่ก็มีการพูดถึงความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์อื่นๆบ้าง ตามรูปครับ เป็นลักษณะของการกล่าวถึงเท่านั้นเอง จะมีเพียงแอพอย่าง Oggl ของ Hipstamatic เท่านั้น (รายละเอียดเพิ่มเติมของแอพนี้ ที่นี่ ครับ) ที่มีการโชว์การใช้งานในงานนี้ (แต่ก็แค่ผิวเผินเท่านั้นเอง)
เพียงแต่จุดเด่นของแอพทั้งหมดที่มีการกล่าวถึงนี้ จะเป็นแอพที่ทำขึ้นมาเพื่อรองรับการแชร์ภาพแบบ High definition จากเจ้า Lumia 1020 โดยตรงซึ่งยังไม่มีการพูดถึงรายละเอียดการทำงานของแต่ละแอพมากไปกว่านี้ครับ
[divider]
[box_info]สรุปงาน[/box_info]
ส่วนตัวผม งาน Zoom Reinvented 41 Million Reasons Event นี้ ก็เป็นงานเปิดตัวที่เรียบง่ายตามสไตล์งานเปิดตัวสินค้าของ Nokia ครับ ตัว Nokia Lumia 1020 เองก็ทำได้ตามคำร่ำลือในแง่ของการถ่ายภาพระดับเทพ และความสามารถที่พัฒนาไปอีกขั้นของ Nokia Lumia Series เพียงแต่ความที่ข้อมูลทั้งหมดมันหลุดออกมาตั้งแต่ก่อนงานเริ่ม (และความที่ผมนั่งเขียนข่าวของเจ้าเครื่องรุ่นนี้แทบทุกวัน) เลยทำให้รู้สึกว่า งานนี้มันไม่ค่อยมีอะไรมากมายนัก
โดยเฉพาะถ้าคนที่ไม่สนใจเรื่องกล้องเลย จะเห็นได้ว่า เจ้า Nokia Lumia 1020 นั้น แทบจะไม่มีอะไรต่างไปจาก Nokia Lumia 920 หรือ 925 เท่าไหร่ (เน้นว่าถ้าไม่พูดเรื่องกล้องนะครับ) โดยสิ่งที่ต่างไปคือ Ram เครื่องที่มากขึ้น 1 เท่า ซึ่งก็น่าจะเพื่อการประมวลผลภาพถ่ายแบบ Oversampling และการซูมภาพเข้า-ออกได้แบบไม่มีสะดุด เลยต้องใช้แรมค่อนข้างเยอะ ซึ่งน่าเป็นห่วงว่า Nokia Lumia รุ่นอื่นๆจะได้มีโอกาสใช้งานเจ้าแอพ Nokia Pro Camera กันหรือไม่
ซึ่งก็เป็นปกติของ Nokia เลยเช่นกัน ถ้าจะว่ากันตรงๆ ที่งานเปิดตัวมือถือใหม่ๆนั้นจะเน้นให้ความสำคัญของผลิตภัณฑ์นั้นอย่างเดียว จนทำให้ไม่มีส่วนประกอบอื่นๆเช่นแอพพลิเคชั่นต่างๆจากผู้พัฒนาอื่นๆ ที่น่าจะเป็นส่วนเสริมให้งานมีสีสันมากขึ้นกว่านี้ครับ
แต่อย่างไรก็ตาม งานเปิดตัวของ Nokia ครั้งนี้ยังไม่จบ ซึ่งยังจะมีงาน After party อีกครั้งตอน 1 ทุ่มครึ่ง ตามเวลาที่นิวยอร์กอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก็ยังไม่มีข้อมูลว่าในงานนั้นจะมีการเปิดตัวอะไรหรือไม่? หรือเป็นแค่การแสดงคุณสมบัติในส่วนของการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย (Low light) เท่านั้น
งานยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหารครับ :)