หลังจากที่ Nokia ได้เปิดตัว Nokia Lumia 1520 ไปที่งาน Nokia World 2013 ก็ทำให้เจ้ามือถือว่าที่เรือธงตัวใหม่นี้เป็นที่จับตามองทันที เนื่องจากสเปคที่จัดเต็มมากๆเป็นครั้งแรกของมือถือ Windows phone, หน้าจอขนาดใหญ่เต็มตา และที่สำคัญคือกล้องเทคโนโลยี PureView ความละเอียดระดับ 20 ล้านพิกเซลที่มาพร้อมเทคโนโลยี Oversampling แบบเดียวกับที่ใช้ใน Nokia Lumia 1020 ครับ ซึ่งถ้าจะบอกว่า Nokia Lumia 1520 นั้นเป็นมือถือที่มีฟังค์ชั่นกล้องน้องๆพี่ใหญ่อย่าง Nokia Lumia 1020 ก็น่าจะไม่ผิดนัก
องค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้เจ้า Nokia Lumia 1520 มีความโดดเด่นในเรื่องของกล้องได้แก่เทคโนโลยี PureView นั่นเอง ซึ่งใน Nokia Lumia 1520 นั้น Nokia ได้จับเอาเทคโนโลยีต่างๆมากมาย รวมเข้าไปในมือถือตัวนี้ครับ เริ่มตั้งแต่
[box_info]โมดูลกล้องที่มีเซ็นเซอร์ความละเอียดระดับ 20 ล้านพิกเซล[/box_info]
ซึ่งถือว่าใหญ่กว่าเซ็นเซอร์กล้องในโทรศัพท์มือถือทั่วๆไปเกือบๆ 2 เท่า ซึ่งนั่นทำให้ Lumia 1520 สามารถรับแสงภายนอกได้ดีกว่า และเซ็นเซอร์ความละเอียดสูงนี้ยังประกอบขึ้นมาจากชิ้นเลนส์จาก Zeiss จำนวน 6 ชิ้นเลนส์ (แบบเดียวกับที่ Nokia ทำบน Nokia Lumia 925 และ 1020) ซึ่งประโยชน์ของมันก็คือ ทำให้ภาพที่ได้คมชัดยิ่งขึ้น
[box_info]แฟลช LED คู่รุ่นใหม่ที่สว่างและให้แสงเป็นธรรมชาติขึ้น[/box_info]
ในส่วนของแฟลชที่ Nokia ใส่เข้ามาให้นั้น Nokia อ้างว่าเป็นแฟลชแบบ LED คู่ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในแฟลชที่ให้ความสว่างที่สุดตัวหนึ่งในตลาด โดย Nokia ยังได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ในการทำให้แสงแฟลชบนภาพดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
[box_info]เทคโนโลยีกันสั่น ของคู่บุญ Nokia PureView[/box_info]
นอกจากนี้ Nokia Lumia 1520 ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี OIS (Optical Image Stabilization) หรือเทคโนโลยีกันสั่นที่ Nokia บรรจุมาในมือถือเรือธงรุ่นหลังๆอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าเจ้า Lumia 1520 เองก็ไม่พลาดที่จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีนี้ครับ ซึ่งประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้ จะช่วยให้เราสามารถถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้น, ลดอาการภาพเบลอเพราะมือสั่นได้ รวมถึงยังช่วยให้เราสามารถถ่ายวิดีโอได้ลื่นไหล และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น
[box_info]Lose-less zoom ที่ใช้ได้ทั้งวิดีโอ และภาพนิ่ง [/box_info]
ในแง่ของการบันทึกวิดีโอ Nokia Lumia 1520 สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียดระดับ Full-HD 1080p ได้ที่อัตราเฟรมเรต 30 fps โดยในการถ่ายวิดีโอความละเอียด 1080p นั้นเราสามารถซูมได้ 3 เท่าโดยที่ไม่สูญเสียความละเอียด แต่ถ้าเป็นวิดีโอความละเอียด 720p เราจะสามารถซูมได้ถึง 4 เท่า และถ้าเป็นภาพนิ่งนั้นจะสามารถซูมได้ 2 เท่าโดยภาพที่ได้จะไม่สูญเสียความละเอียด
[box_info]Oversampling เทคโนโลยีที่ต่อยอดจาก Nokia Lumia 1020[/box_info]
อีกเทคโนโลยีหนึ่งที่ Nokia บรรจุลงมาในเจ้า Lumia 1520 ก็คือ เทคโนโลยี Oversampling ที่เป็นการรวมพิกเซลจากเซ็นเซอร์ที่มีความละเอียดสูงมากๆ มาสร้างเป็นภาพที่มีความละเอียดที่ต่ำกว่า ซึ่งนั่นทำให้ภาพที่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซลของ Nokia Lumia 1520 จะมีความคมชัดกว่าภาพระดับ 5 ล้านพิกเซลจากกล้องอื่นๆ เพราะเทคโนโลยีการบีบอัดพิกเซลนี้นั่นเอง ดูหลักการทำงานของเทคโนโลยี Oversampling ของ Nokia ได้จากภาพด้านล่างครับ
อย่างไรก็ดีอัตราส่วนพิกเซลที่บีบอัดเข้ามาสร้างภาพที่ความละเอียดต่ำกว่าของ Lumia 1520 นั้น จะไม่มากเท่ากับบน Lumia 1020 (เพราะ Nokia Lumia 1020 มีเซ็นเซอร์ที่มีความละเอียดมากกว่า)
แต่ด้วยอัลกอริทึ่มการประมวลผลแบบใหม่ที่ Nokia ได้พัฒนาต่อยอดจาก Nokia Lumia 1020 นั้น ทำให้ภาพที่ได้ใน Nokia Lumia 1520 นั้นมีนอยซ์ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ภาพที่ได้ยังมีความคมชัด และเป็นธรรมชาติมากขึ้น
** ชาว Nokia Lumia 1020 ไม่ต้องน้อยใจไปครับ มือถือของท่านก็น่าจะได้รับการอัพเดทอัลกอริทึ่มนี้ผ่านอัพเดทระบบ Lumia Black ที่จะปล่อยให้อัพเดทกันช่วงต้นปีหน้าครับ
[box_info]แอพพลิเคชั่นและนวัตกรรมใหม่ๆ[/box_info]
อีก 1 นวัตกรรมที่ Nokia นำเสนอและส่วนตัวผมก็รอดูอยู่นั่นก็คือเทคโนโลยี Rich Recording ของ Nokia ครับ ซึ่งเทคโนโลยีนี้เป็นการใช้ประโยชน์จากไมโครโฟนประสิทธิภาพสูงของ Nokia อย่างไมโครโฟนระบบ HAAC (High Amplitude Audio Capture) ที่ช่วยให้เราบันทึกเสียงที่มีความดังระดับ 140 เดซิเบลได้โดยเสียงไม่แตกและไม่มีเสียงแทรกซ้อน
ซึ่ง Nokia ได้บรรจุเจ้าไมโครโฟน HAAC นี้ลงใน Lumia 1520 ถึง 4 ตัว (จากรุ่นก่อนหน้าที่มีอยู่แค่รุ่นละ 2-3 ตัว) และเมื่อรวมกับเทคโนโลยี Rich Recording รุ่นที่ 2 ที่ Nokia ปรับปรุงมาขึ้นพร้อมกับการวางจำหน่าย Nokia Lumia 1020 แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้จากการบันทึกเสียงของวิดีโอนั้น จะออกมาใสและลดเสียงแทรกและเสียงเอคโค่ต่างๆได้เป็นอย่างดี
[box_info]Nokia Camera สร้างมาเพื่อ Lumia 1520[/box_info]
นอกจากในด้านของฮาร์ดแวร์แล้ว Nokia ยังได้ปล่อยแอพพลิเคชั่นใหม่อย่าง Nokia Camera ที่เป็นแอพพลิเคชั่นรุ่นปรับปรุงโดยรวมแอพด้านการถ่ายรูปอย่าง Nokia Pro Camera และ Nokia Smart Camera เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งนั่นจะทำให้การถ่ายภาพด้วย Nokia Lumia 1520 ทำได้ดีขึ้น
[box_info]ครั้งแรกกับมือถือที่สามารถจัดการไฟล์ RAW ได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งแอพ[/box_info]
สุดท้าย Nokia เพิ่งประกาศถึงคุณสมบัติการถ่ายภาพแบบไฟล์ RAW (ตามข่าวนี้ครับ) ซึ่ง Nokia Lumia 1520 และ 1020 จะรองรับคุณสมบัตินี้หลังการอัพเดทระบบที่ชื่อว่า Lumia Black โดยไฟล์ RAW (หรือไฟล์นามสกุล .DNG) เป็นไฟล์รูปที่ไม่ผ่านการตกแต่ง ซึ่งเหมาะสำหรับช่างภาพหรือคนที่ชอบการนำไฟล์ภาพแบบดิบๆไปปรับแต่งเองในโปรแกรมแต่งภาพที่ถนัด เช่น Adobe Lightroom ได้ตามต้องการ
[box_alert]แล้วสำหรับคนที่ไม่มี Nokia Lumia 1520 ล่ะ?[/box_alert]
ถ้าท่านใช้งาน Nokia Lumia รุ่นก่อนหน้านี้อยู่ ไม่ต้องกังวลไปครับ Nokia จะปล่อยอัพเดทระบบที่มาพร้อมอัลกอริทึ่มในการประมวลผลการถ่ายรูปแบบใหม่นี้ให้ผู้ใช้งานมือถือ Nokia รุ่นก่อนหน้าได้ใช้งานกัน ผ่านตัวอัพเดทระบบที่ชื่อว่า Lumia Black ที่มีกำหนดการปล่อยเบื้องต้นอยู่ช่วงต้นปีหน้า (ปี 2014)
แต่แน่นอนว่าการปรับปรุงคุณสมบัติต่างๆ จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับฮาร์ดแวร์หรือตัวเครื่องของเราด้วยครับ (เช่นคุณสมบัติการถ่ายภาพแบบ RAW ฟอร์แมต จะสามารถใช้งานได้กับ Lumia 1020 และ 1520 เท่านั้น เป็นต้น)
[box_info]ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Nokia Lumia 1520 ครับ[/box_info]
จากภาพชุดนี้ เราคงพอจะเห็นได้ว่า ภาพที่ได้จาก Nokia Lumia 1520 นั้น น่าประทับใจทีเดียวครับ สำหรับท่านที่อยากดูภาพแบบเต็มความละเอียด ตามไปชมได้ที่นี่ครับ: Click
อ้างอิงจาก: NokiaConversation