สวัสดีเพื่อนๆ ชาว AppdisQus.com ทุกคนนะครับ ในที่สุดผมก็ได้ลองเล่นและใช้งานเจ้า Nokia Asha 503 อย่างจริงๆ จังๆ กับเขาสักที โดยส่วนตัวรู้สึกว่ามันคุ้มค้ากับราคาที่เปิดตัวมาเท่ากับ Nokia Asha 501 นั่นคือ 2,990 บาท ทั้งที่มันดีกว่ารุ่นเดิมเยอะเลยครับ ถือว่าราคาน่าดึงดูดใจมาก และเมื่อได้ลองใช้ก็อยากอวดเร็วๆ จึงได้แบ่งการรีวิว Nokia Asha 503 ออกเป็นส่วนๆ นะครับ สำหรับส่วนแรกที่ผมอยากพูดถึงก็คือ ตัวเครื่องและการออกแบบ
สำหรับวัสดุในการผลิตนั้น Nokia Asha 503 ยังใช้พลาสติกเหมือนเดิม แต่คราวนี้จะมีพลาสติกใสหุ้มไว้ภายนอก คล้ายเคสที่ติดมากับเครื่องเลย ทำให้มันแข็งแรงและทนทานมากยิ่งขึ้น
และแน่นอนความโดดเด่นด้านสีสันโนเกียไม่เคยทิ้งไป สำหรับ Nokia Asha 503 มาพร้อมสีตัวเครื่องทั้งหมด 6 สีสวยงามและแจ่มเจ็บทรวงจริงๆ ^ ^
.
.
Nokia Asha 503 มีความยาว 102.6 มิลลิเมตร ความกว้าง 60.6 มิลลิเมตร และหนา 12.7 มิลลิเมตร ส่วนน้ำหนักกำลังพอดี นั่นคือ 111.4 กรัม ส่วนตัวถือว่าตัวเครื่องเล็กกำลังดี เหมาะในการพกพาและถือด้วยมือเดียว
สำหรับ Nokia Asha 503 กระจกหน้าจอเป็น Gorilla Glass ป้องกันรอยขีดข่วน, พร้อมจอ LCD ขนาด 3 นิ้ว สัดส่วนหน้าจอ 4:3 ความละเอียดหน้าจอ QVGA 320×240 พิกเซล, 134ppi จากการใช้งานจริงถือว่าความละเอียดหน้าจอค่อนข้างน้อย ทำให้ดูรูปภาพหรือวีดีโอต่างๆ ไม่ค่อยสวย แต่โดยรวมไม่ส่งผลต่อการใช้งานมากนัก
แต่สิ่งที่ทำให้หน้าจอของ Nokia Asha 503 มันดูเจ๋งมากก็คือ มันรองรับ Nokia Glance และการเคาะบนหน้าจอสองครั้งเพื่อเรียกหน้าล็อคสกรีนขึ้นมา ซึ่งคุณสมบัตินี้มีเฉพาะ Nokia Lumia รุ่นท็อปเท่านั้น
ปุ่มคำสั่งหลักด้านข้างตัวเครื่องจะเป็น ปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่มเปิดปิด/ล็อค ส่วนด้านล่างของหน้าจอจะเป็น ปุ่มย้อนกลับ
ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีไมค์สำหรับสนทนา
ส่วนด้านบนจะเป็น microUSB สำหรับเชื่อมต่อข้อมูลและชาร์จแบตเตอรี่ และช่องหูฟัง 3.5 มม.ขนาดมาตรฐาน
ด้านหลังของตัวเครื่องด้านบนจะเป็นกล้อง 5 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลซ LED สำหรับคุณภาพการของรูปเอาไว้กล่าวถึงอีกครั้งในส่วนของกล้องและการถ่ายภาพนะครับ
ด้านล่างของด้านหลังนั้นจะมีปุ่มสำหรับแกะฝาหลังครับ ซึ่งแกะง่ายๆ โดยกดที่ปุ่มนี้พร้อมกับแงะฝาหลังออกจากจากตัวเครื่อง เท่านี้เราก็จะเห็นไส้ในของ Nokia Asha 503 ดังรูป
แล้วทำการถอดแบตเตอรี่ออกมา
เราก็จะพบกับก้อนแบตเตอรี่มาตรฐาน BL-4U ความจุ 1200 mAh ที่เมื่อใช้งานจริงอยู่ได้หลายวันเลยครับ นี่หละคือสิ่งที่ Nokia Asha 503 ทำได้ดีกว่าสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไป
เมื่อดูด้านในก็จะพบที่ใส่ซิมการ์ด ซึ่งเป็น ไมโครซิม ส่วนด้านข้างก็เป็นช่องสำหรับใส่ microSD card ที่ทางโนเกียแถมมาด้วย 4 GB หากเราไม่พอใจก็ใส่เพิ่มได้ รองรับความจุสูงสุด 32 GB เลยครับ
สรุปว่าด้านตัวเครื่องและการออกแบบ ถือว่า Nokia Asha 503 ได้วัสดุและความคงทนที่เกินราคามาก การออกแบบที่สวยงามเหมาะมือ อาจหน้าจอเล็กไปหน่อยสำหรับหลายๆ คน แต่ต้องได้ทดลองใช้เองดูครับว่าเหมาะกับเราหรือไม่ สำหรับเครื่องตัวเครื่องและการออกแบบนี้ ไม่มีที่ติเลยครับ ส่วนด้านอื่นๆ จะเป็นอย่างไรนั้น รอติดตามกันในภาคต่อๆ ไปครับ
คลิปวีดีโอรีวิว Nokia Asha 503: ตอนที่ #1 การออกแบบ และการถ่ายภาพ
.
ข้อมูลเพิ่มเติม: NOKIA ASHA 503 DUAL SIM