NOP – พินิจ Samsung Galaxy S5 : ไม่สะใจแต่จับต้องได้จริง
ก็ไปนั่งติดตามการเปิดตัว Samsung Galaxy S5 กันในงานที่ทาง Samsung จัดขึ้นครับ แต่ก็เป็นที่ไทยเราเองนี่แหละครับ ไม่ได้ไปไกลถึงสเปนกับเขา นั่งชมกับเพื่อนๆ ชาว Blogger และเว็บรีวิวทั้งหลาย ก็หลายคนเลยทีเดียว จริงๆ แล้วเรื่อง Galaxy S5 พวกเราก็ตามข่าวกันมาตลอดครับ ทั้งก่อนหน้านั้นและภายในวันงาน
ก่อนงานจะเริ่มเปิดม่าน ในสื่ออินเตอร์เน็ตมีข้อมูล Samsung Galaxy S5 หลุดออกมาก่อนงานหลายอย่างที่ดูน่าสนใจ เรื่องรูปทรงเป็นข้อมูลที่หลุดมาแบบชัดเจนเป็นข้อมูลแรกก่อนงานเปิดตัวจะเริ่มไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งในภาพข่าวนั้น ตัวเครื่องที่ผมเห็นแล้วพูดได้เลยว่าดูไม่สวยเอาซะเลยครับ หม่นๆ ไร้ราศี อาจเพราะส่วนหนึ่งเป็นเครื่องที่ได้มีการใช้ทดสอบกันไปแล้ว ความโทรมที่เห็นก็ไม่ต่างจากเครื่องทดสอบที่โดนล่ามโซ่ไว้หน้าช็อปขาย
แต่เมื่อได้มาเห็นเป็นภาพ Press Shot บนเวทีอันนั้นก็งามเกินไป ทำภาพออกมาแวววาวสีสันถูกใจ สรุปสุดท้ายเรื่องรูปทรงขอติดไว้ก่อน เจอหน้ากันจริงๆ เมื่อไหร่ ค่อยฟันธงตามรสนิยมส่วนตัวครับ อ้วนต่ำดำขาว สเปคใครสเปคมัน
มาพิจารณาในส่วนสำคัญอื่นๆ ของ Galaxy S5 กันดีกว่า
หลังการพรีเซนต์แบบรวมรัดบนเวทีจบลงไป หลายๆ อย่างยังคาใจครับ บางอย่างได้แค่ฟังแต่ยังไม่เห็นภาพ เพราะการพรีเซนต์ในค่ำคืนนั้นเหมือนแค่การออกมาบอกแบบผ่านๆ ส่วนการใช้งานเป็นอย่างไรให้ไปลองเอากับเครื่องเดโมที่เขาเตรียมเอาไว้อยู่ให้ด้านข้างเวที แต่ที่งานเมื่องไทยมันดันไม่มีเครื่องอะไรให้ลองนอกจากภายในจิตนาการ
ฉะนั้นก็ต้องใช้ “มโน หรือ จินตนาการเข้าช่วย” เครื่อง Galaxy S5 ในจินตนาการของผมก็คือ “ความเป็น Galaxy ที่รวบรัด กระชับ และเข้าเป้าหมาย” อันนี้คือการมโนไปเองครับ แต่ก็มาจากการคิดผ่านประสบการณ์และข้อมูลที่มีอยู่ของตัวผมจนมาถึงในปัจจุปัน
ความกระชับที่ซัมซุงเน้นพูดถึงการทำงานที่ไม่ใช่ฟังชั่นของเล่น, ไม่ใช่ฟังชั่นเน้นโชว์อีกต่อไป สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือสิ่งที่ผมเห็นประโยชน์ชัดเจน เช่น โหมดความเป็นส่วนตัวใหม่ที่ผมจะสามารถเข้าถึงได้ด้วยการแสกนลายนิ้วมือ, แอพพลิเคชั่นในการใช้งานด้านสุขภาพและเครื่องมือที่สามารถตรวจวัดชีพจรการเต้นของหัวใจที่พกติดตัวผมไว้ได้เสมอ, การป้องกันฝุ่นละอองและน้ำที่ทำให้ผมสามารถใช้งานในบางสถานการณ์ได้มั่นใจยิ่งขึ้น จับต้องได้จริง มีประโยชน์ในโลกจริง และเห็นภาพได้ง่ายเมื่อยามผมกลับมาที่กรุงเทพ และเพื่อนๆ เอ่ยปากถามถึง “Samsung Galaxy S5 ทำอะไรได้บ้างนพ” เพราะผมก็เบื่อที่หลังงานเปิดตัวเครื่องแอนดรอยด์ส่วนใหญ่ ผมมักจะต้องตอบเพื่อนไปแบบกว้างๆ ว่า “แรงขึ้นครับ”
กระแสวิจารณ์ Galaxy S5 หลังงานเปิดตัวก็ไม่ได้สร้างความแปลกใจ เพราะภายในห้องที่เต็มไปด้วยเหล่านักรีวิวก็พูดกันไปในทิศทางเดียวกัน นั้นคือ “ขาดความสะใจ” เหมือนเป็นปาบที่ติดตัวของ Samsung Galaxy จากที่ผ่านๆ มา Samsung ทำให้ผู้เสพเคยตัว รุ่นเรือธงของพวกเขา ต้องเยอะ ต้องฟุ้ง ต้องโอเวอร์ ต้องมากมายสารพัด แบบที่หลังจบงานต้องมาร่ายยาว 50 ฟังชั่นแบบทบทวนให้ผู้เสพได้เข้าใจใหม่หมด กันเกิดความสับสนและงุนงงกับสิ่งที่ล้น จนที่ไม่รู้ว่าผลลัพท์สุดท้าย เราจะได้ใช้สิ่งเหล่านั้นกันในตอนไหน คติเยอะเอาไว้ก่อนได้ยิ่งดี เป็นปาบที่ซัมซุงก่อขึ้นไว้เองตั้งแต่ Samsung Galaxy S กำเนิดขึ้นมา
การพรีเซนต์ Galaxy S5 ในคืนวันที่ 24 เหมือนการหักหลังผู้เสพสื่อที่เคยชินกับอารมณ์เดิมๆ เป็นการเลือกพรีเซนต์แบบ รวบ ย่อ คัดทิ้ง เข้าใจง่ายแต่ไม่ได้อารมณ์เดิม แม้แต่ความคาดหวังของผมเองยังสูงกว่านั้น ในขณะที่ก่อนนี้เองผมก็รู้สึกได้ว่า Samsung น่าจะมาแนวนี้ตั้งแต่ผมเห็นบัตรภาพโปรโมทภาพแรกถูกปล่อยออกมา เป็นภาพเกลี้ยงๆ ที่มีไอคอนแอพบอกเราถึงการทำงาน 9 ลักษณะพื้นฐาน มันเป็นการบอกใบ้ได้ว่า เขาต้องการกระชับการนำเสนอให้เข้าใจง่ายที่สุดสำหรับ Galaxy ตัวใหม่ของเขาครับ
แต่อย่าคิดไปว่าจริงๆ แล้ว Galaxy S5 จะมีแค่นั้นอยู่ภายในนะครับ ซอฟแวร์ข้อมูลภายในรอมของตัว Galaxy S5 มีขนาดใหญ่ถึง 5.2 GB มันอัดไว้ด้วยอะไรต่อมิอะไรมากมายเต็มไปหมด แต่พวกเขาเลือกที่จะพูดแค่นั้นบนเวที และด้วยข้อมูลที่ผมได้มาจากภายในวันงาน ทางซัมซุงไทยได้นำเครื่อง Galaxy Note Pro 12.2 ตัวใหม่ ให้เราได้ลองทดสอบใช้กันในวันนั้น เป็นเครื่อง High-End Tablet ตัวล่าสุดของพวกเขา ที่มาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ การทำงานใหม่ๆ ในหน้าโฮม UI ใหม่ ซึ่งจะเป็นมาตรฐานที่จะนำมาใช้กับเครื่อง Galaxy รุ่นต่อๆ ไป และมันเป็นหน้าตา UI คล้ายแบบเดียวกันกับที่เราเห็นบนเวทีเมื่อคืนวาน จากเครื่อง Galaxy S5 ครับ ฉะนั้นการทำงานต่างๆ ที่ไม่ได้มีการพูดถึงในคืนนั้น มีอีกเพียบแน่นอน
สเปคตัวเลขที่ “ไม่สะใจ”
ผมก็มีเรื่องคาใจในตัวเลขบางตัว ที่แอบหวังว่าจะได้เห็นอะไรที่ดูสูงกว่านั้น ไล่กันทีละส่วน ระดับความละเอียดหน้าจอ Full HD Super Amoled ตัวนี้ไม่มีปัญหา คมชัดในระดับเรือธงไปได้อีกหนึ่งปี เพราะดูแล้วคู่แข่งในตอนนี้ก็ไม่หนีไปจากระดับความละเอียด FULL HD (ในตอนนี้) สเปค CPU เป็น Snapdragon LTE ที่ความเร็ว 2.5 GHz อันนีั้ก็เหลือๆ แรมขนาด 2GB อันนี้อาจจะมีการพูดถึงกันเยอะ หลายๆ คนคาดหวังจะได้เห็น 3GB ใน Galaxy S5 จากการที่ผมใช้เครื่องที่มีแรมขนาด 3GBมา ยังไม่ได้สร้างความแตกต่างชัดเจน เป็นความรู้สึกที่อุ่นใจมากกว่า ผมให้น้ำหนักเรื่องแรม 3GB ถ้าได้มาก็ดีแต่ถ้ามี 2GB ก็ยังรับได้
กล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซลพร้อมฟังชั่นใหม่ๆ Virtual Tour Shot, Select Focus Mode, HDR (Rich Tone) ถือว่าพัฒนา จริงๆแล้วก็เหมือนจะพัฒนาในด้านตัวเลขสเปคในทุกๆ ด้านครับ
แต่สิ่งที่ขัดตาผมคือ ขนาดแบตเตอรี่ อันนี้สิที่ตัวเลขมีผลจับต้องได้จริง แม้มันจะมีขนาดความจุที่มากขึ้นกว่ารุ่น Galaxy S รุ่นก่อน แม้ทาง Samsung จะบอกว่ามีการจัดการพลังงานที่ดีมากขึ้น และโหมดการประหยัดพลังงานขั้นสุดยอด (Ultra Power Saving Mode) โหมดการทำงานที่จะปิดฟังชั่นหลายๆ อย่างและเปลี่ยนจอแสดงผลให้เป็นแบบขาวดำเพื่อยืดอายุแบตได้นานได้อีกเกือบหนึ่งวันเต็มๆ มันเจ๋ง แต่ผมไม่ต้องการจะใช้ เพราะผมต้องการใช้งานเครื่อง Galaxy S5 ที่เต็มประสิทธิภาพ บนระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนานมากที่สุด ตัวเลขขนาดแบตเตอรี่ 2,800 mAh เลขสองนำหน้าที่แยงตาผมทุกครั้งที่มองดู เขยิบสักนิดให้เป็น 3,xxx ขึ้นไปตามยุคสมัย จะสร้างความอุ่นใจและไม่เกิดเป็นประเด็นเลยสักนิดเดียว
ยังไงก็แล้วแต่ สุดท้าย เมื่อวันวางจำหน่าย ผมก็ยังจะเปิดหน้าตักรับแทงว่า Samsung Galaxy S5 จะเป็นเครื่องที่ขายดีที่สุดของบรรดาเครื่องเรือธงระบบแอนดรอยด์ ด้วยชื่อชั้นที่คุ้นหู แบรนด์ที่คุ้นตา และคำถามที่ถามกันได้แบบชัดๆ ว่า “เครื่อง Galaxy S5 ทำอะไรได้บ้าง” เซลล์ขายยิ้มกริ่มพร้อมกับตอบไปได้ง่ายๆ กับสิ่งแปลกใหม่ที่ผู้ซื้อจะเข้าใจได้ง่าย มันจับต้องได้ ทดลองใช้งานกันตรงนั้นได้ เกิดการเห็นภาพ ไม่ใช่มีแต่ตัวเลขสเปคบนหน้ากระดาษมาขาย
ระบบแสกนชีพจร ระบบสแกนนิ้ว ความพร้อมของ Accessory การใช้งานคู่กันกับอุปกรณ์เสริมที่เปิดตัวออกมาพร้อมกันอย่าง Gear2 และ Gear Fit เหล่านี้คือสิ่งที่แบรนด์อื่นไม่มีหรือมีไม่เท่า เป็นสิ่งที่จะเป็นตัวตัดสินกันในวันที่จำหน่ายครับ
สำหรับผม เมื่อพินิจพิจารณา Samsung Galaxy S5 แล้ว ถึงแม้ไม่สะใจ แต่ Galaxy s5 ก็มีไพ่ตายที่เหนือกว่าคู่แข่งอยู่มากพอประมาณในหลายด้าน การที่เขายิ่งชูจุดเด่นน้อย จุดเด่นนั้นมันก็ยิ่งชัดเจน และดันเป็นจุดเด่นที่ดูถูกว่าเป็นเรื่องเล่นๆ หรือไร้สาระไม่ได้เพราะนั้นคือเรื่องของสุขภาพ
บางที Samsung อาจจะวางตำแหน่ง Series Galaxy S เอาไว้แล้วในใจ เมื่อ Galaxy Note คือซีรีย์ที่มีภาพลักษณ์ของนักคิดและการทำงาน ตอนนี้ Galaxy S5 ก็อาจจะมาพร้อมบทบาทในภาพลักษณ์สมาร์ทโฟน ของ “ชีวิต”