หลังจากที่ผมหายไปจากหน้าเว็บไซต์ AppdisQus.com เนื่องจากติดภารกิจ 1 เดือนเต็มๆ ตอนนี้ก็กลับมาพร้อมบทความเปรียบเทียบแบบชัดๆ ระหว่าง Nokia Lumia 1520 และ Nokia Lumia 930 นะครับ
สำหรับ Nokia Lumia 930 ในนามของเรือธงตัวใหม่จาก Nokia นั้น หลังจากที่เปิดตัวให้เราได้ยลโฉมกันไปแล้วก็เงียบหายไปเลย ไม่รู้จะเข้าวางขายเมื่อไหร่กันแน่ สาเหตุอาจเป็นเพราะอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายการดำเนินงานระหว่าง บริษัทโนเกีย ประเทศฟินแลนด์ และบริษัทไมโครซอฟท์ที่เพิ่งทำข้อตกลงการซื้อขายเสร็จสิ้นสมบูรณ์ไปไม่นานมานี้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหลายคนก็คงเก็บเงินรอกันอยู่ แต่หลายคนก็สอบถามและมีข้อสงสัยมาถามผมเสมอว่า ระหว่าง Nokia Lumia 930 และ Nokia ?Lumia 1520 ควรเลือกอะไรดี? โดยเฉพาะคนที่ถือเครื่อง Nokia Lumia 1520 ไว้อยู่แล้ว ควรที่จะเปลี่ยนเครื่องเป็น Nokia Lumia 930 หรือไม่? วันนี้ขอให้คำตอบลงไปชัดๆ เลยครับว่า “Nokia Lumia 1520 ดีกว่า Nokia 930 ในทุกๆ ด้าน” แน่นอนครับ …. ทำไม???
ความแตกต่าง ? ขนาดตัวเครื่อง น้ำหนัก หน้าจอ และหน่วยความจำเครื่อง
สำหรับหน้าจอขนาด 6 นิ้ว ของ Nokia Lumia 1520 ความคิดแรกของหลายๆ คนอาจคิดว่า “มันใหญ่เกินไป” ส่วน Nokia Lumia 930 ที่มีขนาดหน้าจอ 5 นิ้ว อาจมองว่ากำลังพอดี เพราะคุ้นชินกับการใช้งานจากแบรนด์อื่นๆ มาแล้ว จึงตัดสินใจเลือกที่จะซื้อ Nokia Lumia 930 … แต่ความแตกต่างของ 2 รุ่นนี้ มันมีมากกว่านั้นเยอะครับ จะตัดสินใจง่ายๆ จากความคุ้นชินแบบนี้ไม่ได้ เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่แตกต่างกัน?
น้ำหนัก: Nokia Lumia 1520 มีน้ำหนัก 209 กรัม ถือว่าเบาสำหรับสมาร์ทโฟนหน้าจอ 6 นิ้ว ส่วน Nokia Lumia 930 มีน้ำหนัก 167 กรัม ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ที่มีขนาดหน้าจอเท่ากันจะเห็นว่ามันหนักเกินไปจริงๆ (Samsung Galaxy S4 หนัก 130 กรัม) แต่อย่างไรก็ตามมันคือตัวเลขในกระดาษ เราอาจยังมองไม่เห็นภาพ ดังนั้นผมแนะนำว่าตอนไปเลือกชมหรือตัดสินใจซื้อ Nokia Lumia 930 ให้เราพิจารณาที่น้ำหนักเป็นสำคัญด้วยนะครับ เพราะจากประสบการณ์ที่ผมเองใช้ Nokia Lumia icon(สเปคเหมือน Nokia Lumia 930 ทุกอย่าง) จะพบว่ามันหนักเกินไปจริงๆ ครับ
หน้าจอ: Nokia Lumia 1520 มาพร้อมหน้าจอขนาด 6 นิ้ว IPS LCD ส่วน Nokia Lumia 930 หน้าจอ 5 นิ้วเป็น AMOLED ซึ่งทั้งคู่มีความละเอียดหน้าจอเท่ากัน full HD (1920 x 1080 พิกเซล) ส่งผลทำให้ความหนาแน่นพิกเซลของ Nokia Lumia 930 มีมากกว่า นั่นคือ 441 ppi เท่ากับความหนาแน่นหน้าจอของ Samsung Galaxy S4 แบบเป๊ะๆ
Nokia Lumia 1520 มีความหนาแน่นหน้าจอ 367 ppi ซึ่งถือว่ามีความคมชัดสูงไม่แพ้ใคร สูงกว่า iPhone 5s ที่มีความหนาแน่นหน้าจอ 326 ppi ด้วยซ้ำ สรุปว่าความหนาแน่นหน้าจอระดับนี้การแสดงผลมองไม่เห็นเม็ดพิกเซลแน่นอนครับ
ข้อแตกต่างเกี่ยวกับหน้าจออย่างอื่น ก็คือ Nokia Lumia 930 ไม่รองรับเทคโนโลยี Glance Screen นั่นเป็นเพราะว่าหน้าจอ AMOLED ที่โนเกียเลือกใช้ในรุ่นนี้ ไม่มี “display memory” สำหรับเก็บข้อมูลต่างๆ ไว้แสดงผลตอนปิดหน้าจอนั่นเอง อันเป็นเหตุผลที่ทำให้ไม่น่าซื้อสำหรับหลายๆ คน
ข้อแตกต่างสำคัญอีกอย่างที่ผมกล่าวถึงไปแล้ว แต่ยังไม่ลงรายละเอียด ก็คือ Nokia Lumia 1520 มาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ส่วน Nokia Lumia 930 หน้าจอเป็น AMOLED ซึ่งเทคโนโลยีหน้าตาทั้ง 2 แบบแตกต่างกันดังนี้
- AMOLED Clear Black จะมีข้อดีที่ สีสันและความคมชัด จะอยู่ในระดับดีมาก สีสด มีความสว่างด้วยตัวเอง ไม่ต้องใช้ Backlight ทำให้ได้หน้าจอที่บางลง และ Clear Black จะทำให้พื้นสีดำ ดำสนิทมากขึ้นไม่ออกเทาเหมือนหน้าจอบางรุ่น ส่วนข้อเสียคือ ใช้งานกลางแจ้งยังไม่ชัดเจนเท่าไร
- IPS-LCD ( In-Plane Switching Liquid Crystal Display) เป็นหน้าจอที่พัฒนาขึ้นมาโดยแก้ไขปัญหาเรื่องมุมมองหน้าจอ และปรับปรุงรายละเอียดสีสันความคมชัด ข้อดีสีสันและความคมชัดแม่นยำ ใช้งานกลางแจ้งได้ดี มีความสว่างมากที่สุดกว่าแบบอื่น มองสบายตา มีมุมมองการใช้งานดีสุด ข้อเสียคือมีราคาแพงมากหน่อย การใช้งานนั้น ด้วยข้อดีที่สีสันและความคมชัดสูง ใช้งานได้ทุกมุมมอง มองกลางแจ้งเห็นชัดกว่าแบบอื่นๆ จึงเหมาะกับคนที่ใช้สายตากับมือถือนานๆ หรือคนที่ทำงานกลางแจ้งบ่อย รวมทั้งมือถือที่เน้นความบันเทิง เล่นเกม ดูหนังฟังเพลง
สุดท้ายสำหรับเรื่องหน้าจอ ด้วย Corning Gorilla Glass รุ่นที่ 3 ทำให้หน้าจอของ Nokia Lumia 930 มีความแข็งแรงมากกว่า หน้าจอ ด้วย Corning Gorilla Glass รุ่นที่ 2 ของ Nokia Lumia 1520 แต่ผมไม่ได้ทดสอบนะครับ บอกเลยเพราะไม่กล้าจริงๆ 555+ ซึ่งวิธีการทดสอบให้เห็นจริงก็คือ เอาทรายมาโรยและถูไปมา แล้วดูว่ารุ่นไหนมีรอยขีดข่วนมากกว่า อันนี้ดูแค่สเปคแล้วกันนะว่า Nokia Lumia 930 ดีกว่า :D
แบตเตอรี่: ข้อแตกต่างที่สำคัญอีกอย่างของสองรุ่นนี้ ก็คือ ความจุของแบตเตอรี่ ที่ Nokia Lumia 1520 มีความจุ 3400 mAh ส่วน Nokia Lumia 930 มีความจุ 2420 mAh แต่ด้วย Nokia Lumia 1520 มีขนาดหน้าจอใหญ่กว่าทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมากกว่า ส่งผลทำให้ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ของทั้งคู่ไม่แตกต่างกันมากนัก
หน่วยความจำ: หน่วยความจำภายในของทั้งสองรุ่นเท่ากันครับ นั่นคือ 32GB แต่ Nokia Lumia 1520 สามารถเพิ่มความจำภายนอกด้วย SD Card ได้สูงถึง 64GB แต่ Nokia Lumia 930 เพิ่มไม่ได้ ซึ่งถือว่าน่าเสียดาย เพราะมันจำเป็นมากสำหรับหลายๆ คน
สีตัวเครื่อง: Nokia Lumia 1520 จะมีสี แดง(ผิวมัน), ขาว, ดำ และเหลือง(ผิวด้านทั้ง 3 สี) ซึ่งถือว่าธรรมดาไปทันทีเมื่อมาเจอกับ สีเขียนสะท้อนแสง และสีแดงนีออนของ Nokia Lumia 930 เข้าไป(นอกจากนี้ยังมีสี ดำ และขาว ด้วยครับ) อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบส่วนตัวแล้วหละ
ความเหมือน: ระบบประมวลผล และกล้องความละเอียด 20 ล้านพิกเซล
ตอนนี้ที่ถือว่าทั้งคู่เป็นเรือธงของ Windows Phone จึงมาพร้อมหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 800 Quad-Core 2.2 GHz เหมือนกัน ซึ่งถือว่าเหมาะสมที่สุดสำหรับ Windows Phone ที่ให้ทั้งความเร็วและลื่นไหลได้เป็นอย่างดี
สเปคของกล้องหลักทั้งคู่เหมือนกัน นั่นคือ ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.5 นิ้ว ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ขนาดของแต่ละพิกเซลเท่ากัน (1.12 µm) มีระบบ OIS (optical image stabilization) และมาพร้อม Dual-LED flash ทั้งคู่ (ไม่มี Xenon flash อย่างใน Nokia Lumia 1020) จะเห็นว่าเหมือนกันหมดทุกอย่างเลยครับ แต่เนื่องด้วย Nokia Lumia 1520 มีขนาดตัวเครื่องบางกว่า Nokia Lumia 930 (ขนาด 8.7 และ 9.8 มิลลิเมตร ตามลำดับ) จึงทำให้เซ็นเซอร์กล้องของ Nokia Lumia 1520 โผล่ขึ้นมาจากตัวเครื่องดูไม่สวยสำหรับบางคน
ถามว่าสเปคทั้งคู่มันเหมือนกัน แล้วการใช้งานจริงหละ เป็นอย่างไรบ้าง ? อยากบอกว่า แม้ผมจะไม่ได้ใช้งาน Nokia Lumia 1520 นานนัก เพราะต้องส่งต่อให้คุณ Ton Panasit รีวิวการใช้งาน แต่ก็พอจะบอกได้ว่าประสิทธิภาพหรือคุณภาพของกล้องแทบไม่แตกต่างกันเลยครับ
ถ้าจะต่างก็ตรงความสะดวกในการใช้งานเท่านั้น นั่นคือ Nokia Lumia 1520 มีตัวเครื่องขนาดใหญ่แต่บางกว่า Nokia Lumia 930 มันส่งผลทำให้การถ่ายภาพไม่ค่อยสะดวกนัก ลื่นหลุดมือได้ง่ายๆ และปุ่มชัตเตอร์ก็กดยากกว่า Nokia Lumia 930 พอสมควร
ฟีเจอร์ชาร์จไร้สาย และ Nano Sim:
การชาร์จไร้สาย ถือว่าเป็นสิ่งที่เหมือนกันอีกอย่างสำหรับทั้งคู่ ซึ่งทำให้ทั้งคู่สามารถประยุกต์การใช้งานและมีการชาร์จได้อีกหลากหลายรูปแบบกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่ทางโนเกียผลิตออกมาทั้งในปัจจุบันและอนาคต และอีกอย่างหนึ่งก็คือ Nokia Lumia 1520 และ Nokia Lumia 930 ใช้นาโนซิมครับ ซึ่งมันอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ ของเรือธงจากค่ายโนเกีย(และไมโครซอฟท์) เลยก็ว่าได้ ซึ่งเหตุผลที่ใช้งานส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าเพื่อให้ง่ายสำหรับผู้ใช้ที่จะเปลี่ยนจาก iPhone มาใช้ Nokia ก็เป็นได้
การออกแบบ:
สำหรับ Nokia Lumia 1520 ตัวเครื่องจะเป็นโพลีคาร์บอเนต แบบยูนิบอดี้ ส่วน Nokia Lumia 930 ถือว่าเหมือนกับ Nokia Lumia 925 เป็นอย่างมาก นั่นคือฝาหลังเป็นพลาสติก แต่ขอบเป็นอะลูมิเนียม จะต่างกับ Nokia Lumia 925 ก็ตรงที่ตัวเครื่องของ Nokia Lumia 930 จะหนากว่าเยอะเลยครับ และนอกจากขอบจะเป็นอะลูมิเนียมแล้ว บริเวณมุมของ Nokia Lumia 930 ยังเป็นเหลี่ยมไม่โค้งมนเหมือนรุ่นอื่นๆ ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นการออกแบบที่แตกต่างพอสมควร ส่วนขอบจอด้านหน้าก็บางมากจนเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่สามารถบอกได้หรอกว่าการออกแบบอันไหนสวยกว่า บางคนอาจชอบ Nokia Lumia 1520 เพราะมันบางและหน้าจอใหญ่กว่า ส่วนบางคนก็อาจชอบขอบอะลูมิเนียมและการออกแบบที่นำสมัยกว่าของ Nokia Lumia 930 ก็เป็นได้ แต่โดยส่วนตัวเห็นว่า ขอบอะลูมิเนียมของ Nokia Lumia 930 เป็นปัญหาอยู่ครับ ในเวลาปกติเมื่อเราสัมผัสจะรู้สึกเย็นๆ แต่หากใช้งานหนักๆ ความร้อนจากภายในมันจะแสดงออกมาตามขอบเครื่องอย่างชัดเจนเลยครับ
สรุปการเปรียบเทียบ Nokia Lumia 1520 และ Nokia Lumia 930
Nokia Lumia 1520 ถือว่าเป็นเรือธง Windows Phone ที่สมบูรณ์แบบ สเปคสูง หน้าจอใหญ่ถึง 6 นิ้ว หน่วยความจำภายใน 32GB รองรับ SD Card ได้สูงสุด 64GB ตัวเครื่องที่ใหญ่จนยัดใส่กระเป๋ากางเกงลำบาก แต่เราก็ได้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ใช้งานได้นานๆ มาทดแทน
Nokia Lumia 930 ขนาดหน้าจอ 5 นิ้ว กำลังดี พกพาสะดวก คุณภาพการแสดงผลขอหน้าจอดีกว่า(AMOLED) แต่ต้องแลกกับการไม่มีฟังก์ชัน Glance Screen หน่วยความจำภายใน 32GB ไม่รองรับ SD Card
นอกจากความแตกต่างข้างต้นแล้ว สรุปว่า Nokia Lumia 1520 และ Nokia Lumia 930 เหมือนกันแทบทุกอย่าง ทั้งหน่วยประมวลผล สเปคกล้อง การสนับสนุนของไมโครซอฟท์ในอนาคต ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8.1 ซึ่งกว่าที่ Nokia Lumia 930(มาพร้อม Windows Phone 8.1) จะวางจำหน่าย Nokia Lumia 1520 ก็คงได้รับการอัพเดตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถือว่าเป็นเรือธงที่น่าใช้ทั้งคู่ครับ
แต่ยังมีข้อแตกต่างอีกอย่างที่ทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นมาก ก็คือ “ราคา” นั่นเองครับ สำหรับ Nokia Lumia 1520 ปัจจุบันราคาไม่ถึงสองหมื่น และเมื่อ Nokia Lumia 930 วางจำหน่ายจริงในประเทศไทย ราคาก็คงลดลงไปอีกเยอะพอสมควร เมื่อเทียบกับราคาของ Nokia Lumia 930 ที่ตอนนี้ยังไม่ทราบ แต่ผมเดาว่าคงอยู่ที่ 23,900 บาท ดังนั้นผมขอจึงสรุปเลยว่า Nokia Lumia 1520 ดีและคุ้มค่ากว่า Nokia Lumia 930 แน่นอนครับ ยกเว้นคนที่มีงบประมาณสูง ชอบ Nokia Lumia 930 มากกว่าแบบหาสาเหตุไม่ได้ ก็จัดตามใจชอบได้เลยครับ :D
รีวิว Nokia Lumia iCon โดยทีมงาน AppdisQus.com
รีวิว Nokia Lumia 1520 โดยทีมงาน AppdisQus.com
สรุปสเปคและคุณสมบัติของ Nokia Lumia 930
ที่มา Pureviewclub