รีวิว ทดสอบการใช้งาน หลอดไฟอัจฉริยะ Mipow Playbulb หลอดไฟควบคุมด้วยสมาร์ทโฟนพร้อมลำโพงในตัว
ของเล่นใหม่ยุคไอที ที่มีประโยชน์ในการใช้งานได้จริงๆ จัง1 อย่างเจ้าหลอดไฟอัจฉริยะ Mipow Playbulb เป็นผลิคภัณฑ์ที่กวาดรางวัลมาแล้วหลายสถาบันทั่วโลกครับ ทั้งในเรื่องแนวคิด การใช้งาน และการออกแบบตัวหลอดไฟ ที่วันนี้ทาง Mipow เขาได้ประยุกต์ใหม่ นำหลอดไฟมาผสมรวมตัวกันกับลำโพงไร้สาย แบบบลูทูธ เพื่อการฟังเพลงและการควบคุมแสงไฟได้ในระยะไกลผ่านอุปกรณ์ำพกพาอย่างสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ทั้งในระบบ Android และ iOS
ตัว Mipow Playbulb จะมีลักษณะภายนอกเหมือนหลอดไฟแบบขั้วเกลียวมาตรฐานทั่วๆ ไปเลยครับ ยกเว่นตรงส่วนท้ายด้านล่างของตัวหลอดไฟเราจะสังเตเห็นลำโพงสีเงินที่ติดตั้งอยู่ภายใน เราสามารถนำเจ้า Playbulb ไปใช้งานได้กับโคมไฟหรือขั้วหลอดไฟมาตรฐานที่เราใช้ๆ กันอยู่ได้ทันทีโดยไม่ต้องมีการติดตั้งอะไรเพิ่มเติมให้ยุ่งยาก ถอดหลอดไฟธรรมดาที่บ้านหลอดเก่าออก แล้วหมุนเจ้า Playbulb ตัวใหม่นี่ใส่เข้าไปได้ทันที ก็พร้อมจะใช้งานได้แล้วครับ
การทำงานและการใช้งานของ Playbulb ในเรื่องของการควบคุมแสง ก็จะสามารถสั่งงานได้ทั้งในรูปแบบไร้สายผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต หรือจะเปิดปิดด้วยสวิทช์ไฟเดิมๆ ที่่บ้านเราก็ได้ทั้งคู่ แต่ถ้าเราสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตด้วยแอพพลิเคชั่นที่ทาง Mipow ทำไว้ให้ ก็จะมีความสามารถเพิ่มเติมเข้ามา เช่นการเลือกระดับหรี่แสงไฟ (Dimmer) หรือการเปิดปิดได้โดยตรงจากบนแอพพลิเคชั่นครับ
สำหรับการควบคุมด้านเสียง หรือการใช้งานลำโพงไร้สายของ Playbulb ก็สามารถเชื่อมต่อกันกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของเราได้ผ่านสัญญาณบลูทูธครับ เล่นเพลงจากไฟล์เพลงในเครื่องเราผ่านแอพพลิเคชั่นตัวเล่นเพลง (หรือหนัง) ตัวใดๆ ก็ได้ ก็สามารถใช้หลอดไฟในการเป็นลำโพงไร้สายให้เราได้ตลอดเวลา รวมถึงในแอพพลิเคชั่นของ Playbulb เอง ก็จะมีความสามารถในการเล่นเพลงภายในเครื่องของเราได้เช่นกันครับ ^^
ในตัวแอพพลิเคชั่นของทาง Playbulb ยังมีฟังชั่นการใช้งานมาให้อีกสี่หมวดสำคัญที่นำมาใช้ให้เหมาะกับชีวิตประจำวันของเราได้ครับ
- โหมด “ตื่นนอน” สำหรับการใช้ Playbulb ให้เป็นนาฬิกาปลุกด้วยเสียงเพลงจากไฟล์เพลงโดยตรงในอุปกรณ์ของเราครับ
- โหมด “ประหยัดพลังงาน” ด้วยแอพพลิเคชั่นของ Playbulb ในโหมดนี้ จะทำให้เราสามารถตั้งค่าเวลาปิดไฟไว้ล่วงหน้าได้ เผื่อว่าเรากลัวจะเผลอหลับไปโดยที่ยังไม่ได้ปิดไฟนั้นเองครับ
- โหมด “กลางคืน” เป็นโหมดที่ใช้ตั้งเวลาที่ต้องการให้ Playbulb เปิดไฟโดยอัตโนมัตินั้นเองครับ แต่เราสามารถตั้งได้ทั้งเวลา รวมถึงความสว่างของแสงไฟที่ต้องการจะเปิดไว้ได้พร้อมๆ กัน
- โหมด “นอนหลับ” ออกแบบมาเพื่อคนขี้เหงา ^^เป็นโหมดที่ให้เราตั้งค่าเวลาล่วงหน้า เพื่อปิดการเล่นเพลงผ่าน Playbulb รวมถึงตั้งค่าเวลาในการปิดแสงไฟได้พร้อมๆ กันครับ และสำหรับบางคนที่ไม่ชอบการปิดไฟนอน ในโหมดนี้เราจะสามารถเลือกให้ Playbulb ปิดไฟไปเลยหรือจะแค่หรีแสงไฟลงก็ได้เช่นกันครับ
เรายังสามารถใช้การเขย่าอุปรณ์ของเราแทนการหรี่แสงไฟได้ด้วย (แม้จะดูลำบากกว่าการเลื่อนสวิทช์บนหน้าจอ) ^^ แต่ลองนึกถึงหลอดไฟที่หัวนอน ในห้องนอนห้องน้ำ หรือพื้นที่บ้านในขนาดประมาณ 30 ตารางเมตรที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเราดูครับ หลอดไฟที่ควบคุมด้วยสมาร์ทโฟนในมือเราได้ และแถมยังเป็นลำโพงให้กับเราภายในห้องได้ไปในตัว มันจึงเป็นอุปกรณชนิดใหม่ที่ดูน่าสนใจสำหรับคนใช้สมาร์ทดีไวซ์อย่างพวกเรามากๆ ครับ
คลิปทดสอบ และวิธีการใช้งาน
หลังจากที่ลองทดสอบการใช้งานของเจ้า Mipow playbulb ดูแล้ว ในบางครั้งตอนการเชื่อมต่อครั้งแรก จำเป็นต้องเข้าไปเชื่อมต่อหลอดไฟกับอุปกรณ์ของเราผ่านทางหน้าการตั้งต่า “บลูทูธ” ซะก่อนครับเพื่อการทำงานได้อย่างสมบูรณ์ แม้ในหน้าแอพพลิเคชั่นของ Playbulb จะมีเมนูในการเชื่อมต่อมาให้ก็ตาม แต่จะเป็นการเชื่อมต่อเพื่อการควบคุมหลอดไฟ ในการใช้งานลำโพงแนะนำให้ไปเชื่อมต่อผ่านทางหน้าการตั้งค่าบลูทูธจะง่ายกว่าครับ
แต่หลังจากเชื่อมต่อกันแล้ว การสั่งงานต่างๆ แม่นยำดีครับ เราสามารถสั่งงานได้ผ่านทุกๆ อุปกรณ์ที่เราเคยทำการจับคู่เชื่อมต่อกันไว้ เปิดแอพ Playbulb จากเครื่องไหน ตัวแอพก็จะทำการจับคู่เพื่อเข้าควบคุมการทำงานของ Playbulb ได้ทันทีครับ
หลอดไฟให้แสงสว่างแบบ Warm Light LED 3W และลำโพง 3W RMS มีการปรับอีควอไลเซอร์ในตัวแอพพลิเคชั่น เสียงดังแต่คุณภาพเสียงอยู่ในระดับกลางๆ ธรรมดาทั่วไป
ทาง Mipow เปิดราคามาที่ 1,990 บาทครับ ราคาไม่หนีไปจากลำโพงไร้สายที่ขายในตลาดสักเท่าไหร่ แต่ได้ในเรื่องความแปลกใหม่และประโยชน์การใช้งานในฟังชั่นต่างๆ ที่ให้มาได้มากขึ้นครับ มีประโยชน์กว่าลำโพงทั่วๆ ไปอย่างแน่นอน ที่สำคัญ ดูล้ำมากเลยสำหรับคนมองหาเรื่องราวไอทีไปประดับราศีภายในบ้านหรือห้องคอนโดครับ ^^