รีวิว Samsung Galaxy S6 Edge ความแรงบนความงามที่มาอย่างคาดไม่ถึง
เปิดตัวมาได้อย่างกระแสดีมากครับ Samsung Galaxy S6 และ S6 Edge ซึ่งจริงๆ แล้วไฮไลค์ทั้งหมดของการเปิดตัวมันพุ่งเป้าไปที่เจ้า Galaxy S6 Edge มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดครับ ทั้งในเรื่องของการออกแบบดีไซด์ที่ใหม่หมดจด ความ “งาม” ที่งามมากจริงๆ เหมือนโทรศัพท์ที่ออกแบบมาเพื่อกลบจุดอ่อนที่แล้วมาของคำครหาว่าสินค้าสมาร์ทโฟนแบรนด์ Samsung “ไม่สวย”
เพราะต้องยอมรับว่า Galaxy S6 Edge “สวยเกินกว่าที่หวังไว้ไปไกล”
กระจกหน้าจอโค้งทั้งสองข้าง แรกพบปะเจอหน้า ความรู้สึกเหมือน “ผ้า” ที่ปิดปกคลุมลงไปยังตัวเครื่อง จากขอบจรดขอบ พลิกมาด้านหลังยังพบกระจกที่มีเหลือบเงาสะท้อนแสงเป็นสีสัน ขอบโลหะที่เข้ากัน โค้งมนทั้งด้านบนและล่าง รวมทั้งขอบข้างที่บางเฉียบ
เรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกเราเชื่อว่าทุกคนสามารถตัดสินใจได้เองว่า สวยไม่สวย ชอบไม่ชอบ แต่สิ่งที่เราได้ทำการทดสอบการใช้งานน่าจะสำคัญกว่า
จากการทดสอบการใช้งานเครื่อง Galaxy S6 Edge หน้าโฮมตัวใหม่ (ที่อาจจะรู้สึกว่าไม่แตกต่างมากนัก) เรียบง่ายมากขึ้น ดูเข้ากันกับระบบ Android 5 Lollipop มากขึ้น
ปุ่มโฮมด้านล่างเครื่องใช้งานเป็นปุ่มลัดในการเรียกใช้งานกล้องได้โดยการกดสองครั้ง และกดค้างเพื่อใช้เป็นปุ่มค้นหา รวมทั้งกดพร้อมกันกับปุ่ม Power เพื่อเซฟภาพหน้าจอได้ครับ
ปุ่มซ้ายขวาด้านล่างหน้าจอ ซ้ายคือปุ่ม Recent App สำหรับการเรียกใช้งานแอพย้อนหลังและเรียกใช้แอพให้สามารถทำงานได้แบบครึ่งหน้าจอเพื่อเปิดสองแอพขึ้นมาทำงานพร้อมๆ กัน แต่เป็นปุ่มที่ผมค่อนข้างรำคาญเช่นกัน ด้วยเพราะมือใหญ่ เวลาเล่นเกมหรือกดถ่ายภาพ มือจะไปโดนเจ้าปุ่มนี้แบบไม่ตั้งใจครับ ส่วนปุ่มเด้านขวาคือปุ่ม Back หรือปุ่มย้อนกลับ
ความลื่นไหลในการทำงานอยู่ในขั้นสูง โดยเฉพาะถ้าเราปิดหน้า Flipboard (หน้าแรก) เพราะในหน้าแรกจะเป็นการทำงานของหน้าฟีดข่าว BRIEFING น่าจะเป็นที่ถูกใจสำหรับคนชอบติดตามข่าวสารจากเว็บไซด์ต่างประเทศ แต่ก็ทำให้การทำงานของหน้าโฮมช้าตามไปด้วย ไม่ใช่เพราะสเปคเครื่องแต่ช้าเพราะในหน้าฟีดข่าวจำเป็นต้องดาวน์โหลดข้อมูลข่าวจากต่างประเทศก่อนถึงจะแสดงผลได้ จากการทดลองใช้งาน ถ้าเราไม่ได้ใช้ก็ปิดไปซะดีกว่าครับ เครื่องไวขึ้นมาก (วิธีการปิด ใช้สองนิ้วจีบหน้าจอเข้าด้วยกันเพื่อเลื่อนไปที่หน้าแรก แล้วทำการกดปิดได้เลยครับ)
ตัวหน้าโฮมของ Touchwiz ตัวใหม่ ทาง Samsung ได้มีการทำธีมแจกมาให้ เราสามารถเปลี่ยนใช้งานได้ซึ่งตอนนี้มีแจกฟรีหลากหลายตัวเลยครับ ในอนาคตน่าจะมีตามมาอีกแน่นอน เพราะว่ามีการแยกธีมออกไปยังสโตร์ต่างหากโดยเฉพาะเลยครับ (และอาจจะมีธีมสำหรับขายอีกด้วย) ซึ่งการเปลี่ยนธีม ตัวเครื่องจะเปลี่ยนหมด ทั้งภาพหน้าจอ ไอคอนแอพ เมนูการตั้งค่า และปุ่มคำสั่งต่างๆ ครับ
Galaxy S6 Edge สามารถกำหนดขนาดตารางหน้าโฮมได้ ว่าต้องการพื้นที่จัดวางไอคอนหรือ Widget เท่าใด 4X4, 4X5 และ 5X5 และ มีโหมดการใช้งานแบบง่ายสำหรับผู้ที่ไม่สันทัดการทำงานแบบเต็มของระบบแอนดรอยด์ ซึ่งจะเหลือแค่ไอคอนแอพและรายชื่อติดต่อบนหน้าจอเท่านั้นครับ
หน้าการแจ้งเตือนของ UI Samsung ยังคงเป็นสิ่งที่ผมชอบที่สุดเหมือนเคยครับ เพราะว่ามันสามารถเข้าถึงการเปิดปิดฟังชั่นหลักๆ ของตัวเครื่องได้เกือบทั้งหมด รวมทั้งมีปุ่ม S-Finder ที่ใช้เป็นตัวค้นหาสิ่งต่างๆ ในตัวเครื่องและออนไลน์ กับปุ่มเชื่อมต่อด่วนสำหรับผู้ที่ใช้งานร่วมกันกับอุปกรณ์อื่นภายในบ้านหรือที่ทำงานบ่อยๆ ครับ
หน้าการแจ้งเตือนออกแบบให้โปร่งใสและย่อส่วนลงเพื่อให้สบายตา เมื่อต้องการจะดูการแจ้งเตือนให้มากขึ้นก็สามารถกดแถบด้านล่างเพื่อขยายออกมาดูได้ครับ
การตั้งค่าตัวเครื่องออกแบบใหม่ ให้หมวดหมู่และไอคอนดูง่ายขึ้นครับ ในหน้าเมนูย่อยจะดูเข้าใจง่ายกว่าเดิมเยอะเลย มีรูปประกอบการทำงานให้เห็นอยู่ด้านบน
การตั้งค่าการเชื่อมต่อรวมหมวดหมู่มาให้ในหน้าเดียว ฟังชั่นการดาวน์โหลดบูสเตอร์ที่สามารถนำความเร็วของ Wi-Fi และ 4G มาใช้ร่วมกันได้เพื่อเพิ่มความเร็วเน็ต การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ MirrorLink เช่นรถยนต์เป็นต้นครับ
ฟังชั่นการทำงานผ่านการเคลื่อนไหวและเซ็นเซอร์ยังคงมีมาให้อยู่ครับ เช่นการโทรโดยตรงไม่ต้องกดแค่เพียงยกเครื่องมาแนบหู การเตือนอัจฉริยะเมื่อเราสัมผัสเครื่องหลังมีการติดต่อเข้ามาโดยอัติโนมัติ หรือการปิดเสียงเครื่องโดยการคว่ำหน้า และการใช้ฝ่ามือปัดผ่านหน้าจอเพื่อจับภาพหน้าจอครับ
ระบบการป้องกันดีขึ้นมากครับ เพราะ Galaxy S6 Edge รองรับการแสกนลายนิ้วมือในรูปแบบใหม่ ไม่ใช่การรูดผ่านปุ่มโฮมอีกแล้วครับ แต่ใช้การ “แตะ” และความแม่นยำก็สูงขึ้นมากกว่า Galaxy S5 ประมาณฟ้ากับเหว ^^ แตกต่างกันตั้งแต่ขั้นตอนการแสกนนิ้วที่ละเอียดขึ้นมากครับ
ในหน้าการตั้งค่าระบบป้องกันยังสามารถปรับแต่งและมีบริการช่วยเหลืออีกมากมาย เช่นการติดตามเครื่องหาย และการเปิดระบบการป้องกันการถูกแฮ๊คหรือการเข้าถึงข้อมูลของเราภายในเครื่อง ผ่านฟังชั่น “KNOX”
ระบบการล็อกเครื่องของ Samsung มีความพิเศษอยู่ครับ เพราะระบบใหมที่เรียกว่า “Smart Lock” เราสามารถเว้นวรรคการล็อกหน้าจอเพื่อความปลอดภัยจากในกรณีดังต่อไปนี้ได้
- เมื่ออยู่ใกล้อุปกรณ์ที่น่าเชื่อถือ เช่นสมาร์ทวอทช์ (นาฬิกาอัจฉริยะ) หรือค้นพบระบบบลูทูธในรถยนต์ของเรา ระยะประมาณ 100 เมตร
- เมื่ออยู่ใกล้สติ๊กเกอร์ NFC ที่เราตั้งค่าไว้
- เมื่ออยู่ในสถานที่ ที่เราเคยลงทะเบียนไว้ (ตัวเครื่องตรวจสอบผ่านระบบ GPS)
เรายังสามารถระบุเวลาในการล็อกเครื่องแบบปกติและแบบล็อคเครื่องขั้นสูง(เช่นการแสกนนิ้ว) ได้ตามเวลาที่ต้องการ ไม่จำเป็นที่ต้องปลดล็อกแบบขั้นสูงเสมอไปเมื่อเวลายังผ่านไปไม่ถึงตามที่เราตั้งค่าไว้ครับ
สามารถระบุการตั้งค่าสำคัญที่เราใช้งานบ่อยๆ มาไว้ด้านบนได้นะครับ
มาถึงการตั้งค่าสำคัญที่เป็นจุดไฮไลค์ของรุ่น Galaxy S6 Edge นั้นคือการตั้งค่าหน้าจอขอบข้างของเครื่องที่โค้งลงไป ว่ามันสามารถทำอะไรได้บ้าง หลักๆ ก็จะเป็นการ “แจ้งเตือนเพื่ออ่าน” แสดงฟีดข่าวจากแอพพลิเคชั่นที่รองรับเช่น Twitter การรายงานข่าว และการแสดงวันเวลา แต่การจะแสดงข้อมูลเหล่านี้ได้นั้น ต้องเป็นตอนที่หน้าจอปิดล็อกแล้วเท่านั้นนะครับ ในขณะเครื่องเปิดหน้าจอทำงานตามปกติจะไม่สามารถแสดงอะไรได้นอกจากการทำงานตามปกติของหน้าจอทั่วไป จากซ้ายมาจรดขอบขวา
สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งฟีดขอบจอมาเพิ่มเติมได้จากใน Galaxy App ของทาง Samsung ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีอะไรมากครับ เป็นการแจ้งเตือนสายเข้า ฟีดข่าวทวีตเตอร์ตามปกติ ซึ่งเราต้องเข้าไปกำหนดค่าว่าจะให้แสดงอะไรบ้างขณะหน้าจอล้อก และต้องเลือกขอบข้างเครื่องด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น ว่าจะให้แสดงที่ขอบด้านซ้ายหรือขวา
มีโหมดที่เรียกว่า นาฬิกากลางคืน ซึ่งเราสามารถตั้งค่าให้ขอบจอโค้งข้างเครื่องแสดงนาฬิกาตลอดเวลาได้ยามหน้าจอปิดครับ โดยสามารถกำหนดเวลาเริ่มทำงานและจบการทำงานของการแสดงนาฬิกาดังกล่าวได้
การเรียกใช้ฟีดด้านขอบเครื่อง ทำได้โดยการรูดนิ้วไปตามขอบขึ้นและลงหนึ่งครั้ง ฟีดข้างจอก็จะแสดงขึ้นมา เราสามารถสลับไปยังฟีดอื่นๆ ได้โดยการเลื่อนซ้ายขวาไปเรื่อยๆ ได้ครับ
ขอบข้างเครื่องยังคงมีความสามารถในการเรียกใช้รายชื่อติดต่อด่วนได้ห้ารายชื่อ โดยจะระบุสี 5 สี สำหรับบุคคล 5 คน ความเท่อยู่ที่ตรงนี้ ^^ เมื่อมีการโทรเข้ามาจากบุคคลใดบุคคลหนึ่งจากในห้ารายชื่อดังกล่าว ขอบจอข้างเครื่องจะเปลี่ยนไปเป็นไฟแจ้งเตือนที่สวยงามตามสีของบุคคลคนนั้นตามที่เราตั้งไว้เมื่อเราคว่ำหน้าจอโทรศัพท์ลง มันสวยงามมากทีเดียวครับ
และการแจ้งเตือนสายไม่ได้รับก็จะแสดงอยู่ด้านข้างเครื่องให้เราสามารถลากมันออกมาดูและกดติดต่อกลับได้ทันทีแถมออกแบบมาได้สวยดีทีเดียว
[divider]
การแสดงผล
หน้าจอ QuadHD ความละเอียดสูงลิบ บนจอโค้งที่แปลกตา ผมบอกได้เลยว่าเปลี่ยนมุมมองจากที่เคยๆ เมื่อได้ใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม หรือดูคลิปวีดีโอ สิ่งแรกที่ผมรู้สึกได้คือความงาม และใหญ่กว่า เต็มตากว่า ด้วยการที่ขอบจอมันโค้งจนชนขอบซ้ายขวา หรือบนล่างถ้าคุณใช้งานในแนวนอน มุมมองขณะใช้งานจากด้านหน้ากว้างกว่าปกติที่เราเคยชินครับ เหมือนขอบจอมันจะหายไป ถ้าใครคนใดมีตัวเครื่องจริงในมือ ลองหาดูคลิปที่แสดงผลเต็มจอมาดู จะให้อารมณ์ที่คุณไม่เคยเจอมาก่อนเลยละครับ
[divider]
ระบบเสียง
เสียงดัง แหลม และคม แต่เสียงออกจะแบนนะครับไม่ค่อยทุ้มเมื่อเจอเพลงหรือเสียงที่ต้องการความแน่นจากลำโพงตัวเครื่อง แต่นับว่าเป็นลำโพงที่ดีแล้วครับ
ภายในตัวเครื่องจะมีระบบการปรับแต่งเสียงที่ทำงานร่วมกับหูฟังได้ดีมากๆ อยู่สามฟังชั่นครับ หนึ่งในนั้นคือการปรับแต่งเสียงของหูฟังให้เข้ากันกับลักษณะทางกายภาพของตัวคุณเอง ด้วยการออกแบบระบบให้ทดสอบประสิทธิภาพในการได้ยินคลื่นเสียงในย่านต่างๆ เพื่อปรับแต่งระบบเสียงให้เข้ากันกับหูของคุณอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ผ่านชุดทดสอบ และการปรับแต่งดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ทั้งในการฟังเพลง การสนทนาสาย
ยังมีอีกสองฟังชั่นนั้นคือ SoundAlive+ และแอมป์หลอดจำลอง เป็นสองฟังชั่นที่จะปรับแต่งเสียงด้วยซอฟแวร์เพื่อเพิ่มมิติเสียงในขณะใช้งานหูฟังครับ ลองทดสอบเทียบก่อนเปิดและหลังปิด ให้ผลลัพท์ของเสียงแตกต่างกันมาก แต่ตรงนี้แล้วแต่ชอบมากกว่าครับ ไม่ได้ดีกว่าแค่มันต่างกัน
[divider]
ประสิทธิภาพ
การเล่นเกม เข้าเว็บไซด์ ไหลลื่นแบบสุดๆ อันนี้ไม่แปลกใจครับ ชุดหน่วยประมวลผลของ Galaxy S6 Edge ชุดนี้ น่าจะเป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลกขณะนี้ครับ ผลทดสอบด้านต่างๆ ก็ทำออกมาได้คะแนนมหาโหด
การจับสัญญาณ GPS ไวและแม่นยำ
การใช้งานพลังงานของแบตเตอรี่นี่ถือว่าเป็นจุดอ่อนของเครื่องครับ เพราะจากที่ผมทดสอบใช้งานมา เปิดแสงหน้าจอประมาณ 40% ใช้งานเช้ากลับมาบ้านหมดก่อนค่ำ ทำงานได้ต่อเนื่องประมาณ 8 ชั่วโมงครับ
แต่การชาร์จพลังงานของ Galaxy S6 Edge ก็เป็นจุดเด่นเช่นกัน เพราะชาร์จเข้าไปได้ไวมาก แค่เพียงประมาณ 10 นาที ผ่านการชาร์จด้วยอุปกรณ์ Adaptor ของตัวมันเอง ได้แบตเตอรี่กลับมาเกือบยี่สิบเปอร์เซ็น แถมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จไร้สายอีกด้วยครับ
ตัวเครื่องไม่รองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายovd ฉะนั้นเลือกให้ดีว่าจะเลือกซื้อเครื่องหน่วยความจำขนาดเท่าไหร่ให้พอใช้งาน ตามข่าวจะมีนำเข้าไทยมาสองขนาดความจุ นั้นคือเครื่องที่มีหน่วยจำ 32GB ราคาประมาณ 27,900 บาท และ 64GB ราคาประมาณ 30,900 บาท
[divider]
ฟังชั่นการทำงาน
ในเครื่อง Galaxy S6 Edge ทาง Samsung มีการทบทวนใหม่ในเรื่องของการใส่แอพพลิเคชั่นและความสามารถในเครื่อง โดยมีการนำการทำงานบางตัวออกไปจากเครื่องและนำไปไว้ใน Store เพื่อให้ผู้ใช้เป็นผู้เลือกเองว่าต้องการจะใช้งานฟังชั่นอะไรบ้าง เป็นการประหยัดพื้นที่ภายในเครื่อง รวมทั้งเป็นรูปแบบที่ทางผู้พัฒนาแอพอย่าง Samsung เอง จะสามารถอัพเดทความสามารถใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้ได้รวดเร็วขึ้นผ่านการอัพเดทแอพพลิเคชั่นที่จะสะดวกกว่าการปล่อยตัวอัพเดทซอฟแวร์ของเครื่องแบบเดิมๆ ครับ
จะมีแอพพลิเคชั่นและบริการพิเศษที่ต้องยอมรับว่า Samsung มีมาให้กว่าใคร โดยเฉพาะประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นสิทธิพิเศษจากแอพพลิเคชั่นที่แจกให้ใช้กันใน Galaxy App หรือสิทธิพิเศษส่วนลดและของแจกฟรีจาก Galaxy Gift
ฟังชั่นบางตัวสามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้เช่น ความสามารถด้านการถ่ายภาพ หรือความสามารถในการตัดวีดีโอ แปลงภาพ เป็นต้น
ความสามารถในการเป็นรีโมทเพราะตรงส่วนบนของเครื่อง Galaxy S6 Edge มี IR Infared ที่สามารถส่งสัญญาณทำหน้าที่เป็นรีโมทเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้แทบจะทุกๆ อย่างที่รีโมทสั่งงานได้ รวมถึงมีรายการทีวีของทาง Truevision ที่ฉายในเมืองไทยด้วยครับ
มีแอพพลิเคชั่นที่คอยช่วยเหลือจัดการตัวเครื่องอย่าง Smart Manager ที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานอันตราย การจัดการไฟล์ขยะเพิ่มพื้นที่จัดเก็บในเครื่อง และการเคลียร์แรม เป็นแอพพลิเคชั่นที่ทาง Samsung ออกแบบมาให้เองเลยครับ
การแสกนอัตตราการเต้นหัวใจยังมีอยู่ครับ และมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่น S-Helth ตัวใหม่ที่พร้อมมากขึ้น ในการตรวจจับกิจกรรมการเคลื่อนไหวและบันทึกโปรไฟล์สุขภาพ พร้อมทำงานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่เป็น Wearable สำหรับคนรักสุขภาพครับ
[divider]
กล้องถ่ายภาพ
นี่คือเรื่องที่โดดเด่นที่สุดสำหรับผม ในการรีวิวเครื่อง Galaxy S6 Edge เพราะค่อนข้างประทับใจในความฉลาดของซอฟท์แวร์ตัวกล้องมันอย่างมาก มีโหมดการถ่ายภาพมากมาย มีการปรับแต่งให้เล่นสนุกๆ
โดยเฉพาะการถ่ายภาพในที่แสงน้อย มันสามารถปรับแต่งภาพให้สวยแบบน่าประทับใจกันเลยละครับ แต่… ผมไม่ได้พูดถึงด้านคุณภาพนะครับ
นั้นเพราะตัว Galaxy S6 Edge จะปรับภาพ (JPG) ที่เราถ่ายได้มาให้สวยงาม (มากๆ) ในระดับภาพที่แสดงบนหน้าจอสมาร์ทโฟน และเป็นขนาดภาพที่พร้อมจะนำไปแชร์ยัง Social ต่างๆ
แต่เมื่อเราลองขยายภาพดูจะพบว่าคุณภาพของภาพที่เราได้ ก็ยังคงเป็นภาพระดับมือถือที่จะมีจุดรบกวนบนภาพมากมายในที่แสงน้อย แถมยังอาจจะเจอความเละเป็นวุ้นเมื่อเราขยายภาพเต็มร้อยเปอร์เซ็น มันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงเพราะนี่ก็ถือว่าเป็นระดับเทพของกล้องมือถือในปัจจุปันมากๆ แล้วครับ แต่ปัญหาที่ต้องระวังเป็นเรื่องของเลนส์กว้าง ที่กว้างจนขอบข้างบางครั้งผิดส่วนเลยละ ปรับองศาภาพให้ดีก่อนแชะนะครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายของ Samsung Galaxy S6 Edge
***ถ้าเพื่อนๆ ลองซูมขยายภาพเข้าไปจะเข้าใจว่าภาพสวยจากการแต่งของซอฟแวร์มันเป็นอย่างไร เพราะคุณภาพภาพที่ได้จริงๆ แล้วยังคงเป็นระดับมือถือนั้นเองครับ (แต่ก็สุดยอดมากนะ แต่งภาพออกมาได้ขนาดนี้)
ฟังชั่นการถ่ายภาพที่เราสามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้ เพิ่มความสนุกและเพิ่มโอกาสได้ภาพสวยๆ แบบง่ายๆ เช่นการถ่ายภาพอาหารผ่านโหมด “Food”
กล้องหน้ามหาเทพฟรุ้งฟริ้ง หน้าใครไม่ใสไม่เด้งไปเคลมศูนย์ได้เลยครับ หน้าแบบผมยังเนียนเป็นก้นเด็กได้เลยครับ
[divider]
สรุปท้ายรีวิว
การออกแบบสวยจริง ดูดี หรูและมีราคา ผมหมายถึงมีราคาจริงๆ เพราะ Samsung ได้ก้าวเข้าสู่เพดานราคาใหม่ที่ถือว่าเป็นการวัดใจตลาดบน แตะๆ สามหมื่น ตัวเครื่องครบครันความสามารถแบบจัดเต็มแต่ใส่ฟังชั่นมาแบบพอดี คิดใหม่ทำใหม่จนผมเองก็คิดว่ามันน่าลอง จุดเด่นมากมายรวมทั้งกล้องถ่ายภาพที่หวังพึ่งได้ทุกสถานะการณ์ถ้าคุณไม่หวังผลสูงมากนักในระดับกล้องโปร แต่จุดอ่อนเดียวที่ต้องพิจารณาคือแบตเตอรี่ที่อาจจะต้องพกพาที่ชาร์จเพิ่มเติมระหว่างวัน เพื่อการใช้งานได้ต่อเนื่องและสนุกมากขึ้นครับ
[gradeA]
สเปคของ Samsung Galaxy S6 Edge
- 3G HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100MHz
- 4G LTE
- HSPA 42.2/5.76 Mbps, LTE Cat6 300/50 Mbps
- ขนาดตัวเครื่อง 142.1 x 70.1 x 7 มม. น้ำหนัก 132 กรัม
- หน้าจอ Super AMOLED capacitive touchscreen, 16M colors ขนาด 5.1 นิ้วความละเอียด 1440 x 2560 pixels (577 ppi)
- กระจกป้องกันรอยขีดข่วน Gorilla Glass 4 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
- Fingerprint sensor (PayPal certified)
- Samsung Pay (Visa, MasterCard certified)
- Wireless charging (Qi/PMA)
- Android 5.0.2 Lollipop ครอบทับด้วย TouchWiz UI รูปแบบใหม่
- CPU Exynos 7420 Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53 & Quad-core 2.1 GHz Cortex-A57
- GPU Mali-T760
- RAM 3GB
- หน่วยความจำภายในจะมีให้เลือกสามความจุ 32/64/128GB
- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot
- Bluetooth 4.0, A2DP, LE, apt-X
- NFC
- Infrared Port
- Micro USB 2.0, MHL 3 TV-out, USB Host
- GPS, GLONASS, Beidou
- เซนเซอร์ Accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer, heart rate, SpO2
- กล้องความละเอียด 16 MP, F 1.9, 2988 x 5312 pixels, optical image stabilization, autofocus, LED flash, Geo-tagging, touch focus, face detection, Auto HDR, panorama
- บันทึกวีดีโอความละเอียด 2160p@30fps, 1080p@60fps, 720p@120fps, HDR, dual-video rec.
- กล้องหน้าความละเอียด 5 MP, 1080p@30fps, dual video call, Auto HDR
- แบตเตอรี่ความจุ 2600 mAh
- มีให้เลือกสี่สีได้แก่ White Pearl, Black Sapphire, Gold Platinum, Green Emerald