Sneakpeek รีวิว: Asus Zenfone 2
จบไปแล้วครับกับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศอินโดนีเซีย การเปิดตัวทำได้ยิ่งใหญ่และมีสื่อต่างชาติมากมายในแทบภูมิภาคอาเซี่ยน ไทยเราเองก็เป็นหนึ่งในสื่อสำคัญครั้งนี้ แน่นอนว่าเป้าหมายของ Asus คงมีมากกว่าเมื่อหนึ่งปีก่อนแน่ๆ สำหรับการตลาดในบ้านเราครับ
Asus Zenfone 2 เป็นสมาร์ทโฟนที่หลายๆ คนกำลังสนใจ หนึ่งในนั้นคือความเป็นแอนดรอยด์ราคาถูก เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้
มีการประกาศราคาออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เริ่มต้นกันที่ประมาณหกพันกว่าบาทสำหรับเครื่องที่มีสเปคระดับประมาณเรือธงแอนดรอยด์เมื่อหนึ่งปีก่อน และตัวพรีเมี่ยมสเปคสูงสุดที่แรงไม่เป็นรองใครในปัจจุปัน แต่หามาครองครองได้ในราคาหมื่นต้นๆ เท่านั้นครับ
หลังจากได้ลองทดสอบการทำงานและทดลองใช้ฟังชั่นหลายๆ อย่างในเครื่อง Zenfone 2 ก็ได้รู้ว่า ทาง Asus ได้ใส่ลูกเล่นเข้ามาในเครื่องกันแบบจัดเต็มมากๆ ครับ มีหลากหลายฟังชั่นที่น่าสนใจ ผมเอาข้อมูลจากการที่ได้ทดลองใช้มาฝากกันมากมายด้านล่าง ติดตามกันต่อได้เลยครับ
เริ่มจากตัวเครื่อง
การออกแบบยังคงคล้ายๆ เดิมแต่เพิ่มมิติของการออกแบบ ฝาหลังเป็นเทกเจอร์ลายขวางที่มือเราสัมผัสได้ถึง ฝาหลังโค้งมนเข้ารูปมือ และมีปุ่มควบคุมด้านหลังตัวเครื่องเป็นปุ่มปรับระดับเสียงขึ้นลงและใช้ในอีกหลายๆ ฟังชั่นได้เช่นการถ่ายภาพ มีการกลึงลายสไตล์ Zen เอาไว้ให้เป็นจุดเด่นอีกด้วยครับ
ปุ่มพาวเวอร์ย้ายไป อยู่ด้านบนตัวเครื่อง ผมว่ากดลำบากไปหน่อยเพราะเครื่องเป็นสมาร์ทโฟนที่มีขนาดใหญ่พอสมควรจากหน้าจอ 5.5 นิ้ว กดทีต้องเอื้อม แต่จากมิติเครื่องโดยรวมทั้งหมดต้องบอกว่าเล็กแล้วในระดับหน้าจอขนาดนี้ เพราะขอบข้างจอบาง สันเครื่องบาง และเครื่องมีน้ำหนักเบาอีกด้วยครับ
หน้าจอเป็นมาตรฐานความละเอียด FHD 1080p ตามสไตล์จอของ Asus สีไม่จัดมาก มุมมองใช้ได้ครับเป็นจอคุณภาพพอประมาณ กระจกจอแข็ง ทดสอบกดลงแรงสักหน่อย หน้าจอไม่บุบไม่ยุบถึงแผงแสดงผล
โดยรวมการออกแบบไม่แปลกตาในด้านหน้า แต่ด้านหลังแม้ดูคุ้นตาแต่มีความเป็นตัวเองอยู่ในเห็นจากลายฝาหลังและปุ่มคอนโทรลครับ ทีมออกแบบทำมาได้ดี
มีฝาหลังสีผสม และเทกเจอร์แปลกๆ วางจำหน่ายเป็นอุปกรณ์เสริม ทุกตัวเป็นงานจากทางทีมออกแบบของ Asus เองครับ
มีเคสฝาปิดขายที่สามารถแสดงผลเป็น Smart flip cover จอกลม แจ้งเตือน แจ้งสายเรียกเข้า เวลา และสั่งงานอื่นๆ ได้อีกเล็กน้อยโดยไม่ต้องเปิดฝา อันนี้ไม่แปลกใหม่ ทำออกมาสนองคนต้องการการใช้งานที่คุ้นเคย
ตัวเครื่องมีออกมาห้าสีครับ แดง ขาว เงิน ดำ และทอง แถมแยกหน่วยประมวลผลเป็นสองระดับ 1.8GHz และ 2.3GHz ทั้งคู่เป็น CPU Intel Atom สี่หัว 64bit และยังแยกเครื่องตามขนาดแรม 2GB และ 4GB มีหน่วยความจำให้เลือก 16GB 32GB และ 64GB เยอะแยะแบบนี้ไปเลือกกันเอาเองครับ แต่จะเข้าไทยครบมั้ยลุ้นกันอีกที
- Zenfone 2 โมเดล ZE550ML หน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD 720 p CPU ความเร็ว 1.8 GHz Intel Atom Z3560 แรม 2 GB หน่วยความจำภายใน 16 GB เปิดราคาที่ 2,699,000 รูเปีย หรือราว 6,750 บาท)
- Zenfone 2 โมเดล ZE551ML หน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD CPU ความเร็ว 1.8 GHz Intel Atom Z3560 แรม 2 GB หน่วยความจำภายใน 16 GB เปิดราคาที่ 2,999,000 รูเปีย หรือราว 7,500 บาท)
- Zenfone 2 โมเดล ZE551ML หน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD CPU ความเร็ว 2.3 GHz Intel Atom Z3580 แรม 4 GB หน่วยความจำภายใน 32 GB เปิดราคาที่ 3,999,000 รูเปีย หรือราว 9,990 บาท)
- Zenfone 2 โมเดล ZE551ML หน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD CPU ความเร็ว 2.3 GHz Intel Atom Z3580 แรม 4 GB หน่วยความจำภายใน 64 GB เปิดราคาที่ 4,999,000 รูเปีย หรือราว 11,250 บาท)
การทำงานภายใน
ZEN UI คือจุดเริ่มต้นทั้งหมดของการใช้งาน Zenfone2 มีการปรับปรุงใหม่ตั้งแต่หน้าตาการใช้งานไปจนถึงฟังชั่น โดยหลักๆ ยังคงกลิ่นอายเดิม เน้นราบ เรียบ แบบอารมณ์ Android 5.0 ที่เป็นระบบหลักในเครื่องตั้งแต่แกะกล่อง ทาง Asus ได้มีการแยกแอพพลิเคชั่นและการทำงานของ Zen UI ออกไปไว้เป็นแอพพลิเคชั่นใน PlayStore หมดแล้ว ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ที่หลายๆ แบรนด์เริ่มใช้กัน เพราะสะดวกกว่าในการอัพเดทและแก้ไขข้อผิดพลาดในอนาคต อัพเดทผ่านแอพ ง่ายและสะดวกกว่าอัพเดทไฟล์ระบบทั้งยวงนั้นเอง
Zen UI มีเซ็ตไอคอนหรือธีมให้ดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้ (ใน PlayStore) และมีการปรับแต่งทั่วไปเช่น แต่งลายพื้นหลังทั้งในหน้าหลักและหน้ารวมแอพ (Appdrawer) กำหนดให้ภาพพื้นหลังซีดจางลงหรือหายไปเลยได้
เลือกใช้อนิเมชั่นการสลับหน้าได้สิบเอ็ดแบบ
มีการตั้งค่าพิเศษในส่วนของการแจ้งเตือนครับ ตรงนี้ผมชอบมาก เพราะ Zen UI ตัวใหม่นี่สามารถตั้งค่าเสียงแจ้งเตือนและการแจ้งเตือนได้แบบแยกประเภท สายเรียกเข้าหลัก การแจ้งเตือนหลัก และการแจ้งเตือนแทรกที่เรากำหนดได้ว่าให้แอพไหนหรือการทำงานใดสามารถแจ้งเตือนแทรกขึ้นมาได้บ้าง โดยการกำหนดความสำคัญของการแจ้งเตือนตามแอพพลิเคชั่นนั้นๆ เอาไว้ครับ
สามารถกำหนดช่วงเวลาพักผ่อนหรือห้ามรบกวนได้ อันนี้ผมใช้บ่อย เวลาประชุมหรือเวลานอน ตั้งเวลาไว้ก่อน มันจะทำงานอัตโนมัติตามเวลา ที่ตั้งไว้ในแต่ละวันครับ
ในหน้าการแจ้งเตือนเราสามารถเรียกใช้โดยการสไลด์ลงมาได้สองรูปแบบครับ หนึ่งนิ้วเพื่อเปิดหน้าการแจ้งเตือนธรรมดา ใช้สองนิ้วสำหรับการเข้าถึงหน้าเปิดปิดฟังชั่นต่างๆ ผ่านปุ่มลัดที่เราตั้งค่าได้
ปุ่มควบคุม
ปุ่มด้านหน้าเครื่องก็เป็นไปตามมาตรฐานเครื่อง Android คือปุ่มโฮม ปุ่มย้อนกลับ และปุ่ม Recent App (เรียกใช้แอพพลิเคชั่นย้อนหลัง) ซึ่งเจ้าปุ่ม Recent App นี่เราสามารถตั้งค่าได้หลายแบบครับ เช่นการทัชค้างไว้เพื่อการจับภาพหน้าจอ หรือการใช้แทนปุ่มเมนูที่ไม่มีอยู่บนเครื่องแล้ว
ในหน้า Recent App เรายังสามารถเลือกการปักหมุดแอพพลิเคชั่นที่เราไม่ต้องการให้เกิดการสลับหน้าได้อีกด้วยครับ โดยการเปิดฟังชั่นที่เป็นรูปเข็มหมุด เมื่อเปิดการใช้งานปักหมุดขณะใช้แอพพลิเคชั่นใด เราจะไม่สามารถออกจากแอพนั้นได้ ไม่ว่าจะเป็นการกดปุ่มโฮมหรือกดปุ่ม Recent App อีกครั้งก็ตามครับ
วิธีการออกจากโหมดปักหมุด ทำได้โดยการกดปุ่มย้อนกลับและปุ่มโฮมพร้อมๆ กัน แต่ในเครื่องที่ผมทำการทดสอบ ไม่สามารถออกได้ซะงั้นครับ – – ค้างจนต้องรีสตาร์ทใหม่ แต่แน่นอนยังไม่ใช่ซอฟแวร์ล่าสุด เพราะตัวเครื่องมีการแจ้งเตือนให้ทำการอัพเดทระบบอยู่ในขณะทดสอบครับ
การเซฟภาพหน้าจอของ Zenfone2 สามารถเลือกได้ด้วยว่า จะเอาไฟล์เป็นนามสกุลอะไรครับ มีให้เลือกระหว่าง Jpeg และ PNG (การเซฟภาพหน้าจอทำได้โดยการใช้ปุ่ม Power + ลดเสียง)
ในหน้าแอพพลิเคชั่นรวม (Appdrawer) มีการเปิดให้ผู้ใช้ปรับแต่งได้หลายอย่างครับ สามารถให้ตัวเครื่องสร้างโฟลเดอร์แยกประเภทการจัดเก็บหมวดหมู่แอพพลิเคชั่นอัตโนมัติได้เอง หรือเราจะจัดวางเองก็ได้เช่นกันครับ
สามารถล็อคแอพ หรือซ่อนแอพไม่ให้ผู้อื่นเข้าถึงได้
เลือกดูแอพพลิเคชั่นตามการจำแนกสี่แบบ ดูรายชื่อแอพทั้งหมด, เฉพาะที่เราดาวน์โหลดมา, หรือที่เราใช้งานบ่อยๆ
ปุ่มโฮมหรือปุ่มรูปบ้านยังทำหน้าที่เป็นปุ่มค้นหาผ่านฟังชั่น Google Now โดยการทัชค้าง และพิเศษสำหรับ Zenfone2 เราสามารถดับเบิ้ลทัชปุ่มโฮมเพื่อเรียกการใช้งานแบบย่อขนาดหน้าจอเพื่อการใชด้วยมือเดียวได้ครับ
นอกจากนั้นยังมีการทำงานผ่านคำสั่งพิเศษในขณะเครื่องล็อกได้ด้วย Gesture Mode การสัมผัสหน้าจอเป็นรูปร่างต่างๆ เพื่อเรียกใช้งานคำสั่งด่วนที่เราตั้งค่าไว้ครับ เช่นการดับเบิ้ลทัชหน้าจอเพื่อปลุกเครื่อง (ใช้พักหน้าจอก็ได้เช่นกัน) รวมถึงการวาดตัวอักษรภาษาอังกฤษเพื่อเข้าถึงการทำงานได้โดยตรงทันที
ถ้าเรามีอุปกรณ์เสริมเช่น Asus Cover เคสฝาปิดอัจฉริยะ ที่มีการเว้นหน้าจอทรงกลมไว้ให้เราทำงานได้ผ่านฝาปิดเคสโดยไม่ต้องเปิดฝา เราสามารถกำหนดได้ว่าต้องการให้แสดงอะไรบ้างในหน้าจอดังกล่าว และกำหนดแอพพลิเคชั่นที่สามารถทำงานผ่าน Asus Cover ได้ด้วยตนเองครับ
การตั้งค่าที่สำคัญๆ ก็มีในเรื่องระบบสองซิมการ์ดที่เป็นระบบ DSDA หรือ Dual Sim Dual Active ใช้งานสองซิมการ์ดได้สมบูรณ์ด้วยโมเด็มสอบตัวภายในเครื่อง ใช้สายที่หนึ่งอยู่สามารถสลับไปรับสายที่สองได้โดยไม่ต้องวางสาย แต่โมเด็มสองตัวมีความแตกต่างกันในเรื่องของการรองรับ 4G และ 3G ครับ มีเพียงซิมเดียวเท่านั้นที่ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้
มีการทดสอบการเล่นเกม HD ตัวเครื่อง Zenfone2 สเปคระดับนี้เล่นได้สบายๆ ครับ ต่ออกทีวีใหญ่ก็กลายเป็นเครื่องเกมคอนโซลชั่วคราวได้เลย ^^
เราสามารถกำหนดใช้งาน Asus Zenfone2 เป็นเครื่องมีเดียเซิฟเวอร์ได้ เพื่อให้อุปกรณ์อื่นๆ ในวง Wi-Fi เดียวกันเข้าถึงข้อมูล วีดีโอ ภาพ เพลง ภายในเครื่องของเราได้ครับ
Asus ยังได้ใส่โหมดการทำงานอื่นๆ ที่จะตอบสนองผู้ใช้ในหลากหลายกลุ่ม อย่างเช่น โหมดง่าย หน้าการทำงานที่ออกแบบมาให้ดูง่ายๆ ใช้ง่ายๆ มีแต่ไอคอนหลักๆ ให้กดใช้ เหมาะสำหรับให้เด็กหรือผู้สูงอายุใช้ จะได้ไม่งงกับความเยอะของระบบหลักครับ
มีโหมดเด็กโดยเฉพาะ แยกเป็นแอพพลิเคชั่น เป็นแอพที่เราสามารถกำหนดการเข้าถึงแอพหรือการทำงานไว้บนเครื่องให้กับเด็กได้ และล็อกสิทธิ์นั้นไว้ด้วยรหัสผ่าน เพื่อควบคุมครับ
ในเรื่องความปลอดภัย ทาง Asus ยังได้จับมือกับ TrendMicro สำหรับการติดตั้งแอพพลิเคชั่นป้องกันเว็บไซด์อันตรายและสื่ออนาจารเอาไว้ในเครื่อง โดยเราสามารถเข้าไปเปิดการทำงานได้ผ่านแอพพลิเคขั่น TrendMicro ที่มีอยู่ในเครื่องครับ โดยความสามารถในเรื่องของความปลอดภัยใน Asus Zenfone2 ของ Zen UI ตัวนี้ ยังมีโหมดเก็บความลับส่วนบุครลของผู้ใช้ใส่เข้ามาอีกด้วยครับ Snap Mode หรือโหมดที่เราสามารถซ่อนข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ภาพ รายชื่อ ข้อมูลการติดต่อ และล็อกมันแยกไว้ด้วยรหัสผ่านพิเศษ ซึ่งจะแตกต่างกับรหัสผ่านทั่วๆ ไปสำหรับการใช้งานตามปกติ โหมดนี้ผมดูแล้วมันค่อนข้างสายมืดทีเดียว ^^ เพราะเจตนาการใช้งานคือการลับลวงพรางแบบเต็มขั้นเลยครับ
ตัวเครื่องของ Asus Zenfone2 ใส่โหมดการเชื่อมต่อใหม่ๆ มาให้ผู้ใช้ค่อนข้างครบ เทคโนโลยีต่างๆ ไม่เหมือนเครื่องที่จะนำมาจำหน่ายในราคาต่ำกว่าหมื่นเลยครับ
ตัวแบตเตอรี่มีขนาดความจุ 3,000 mAH พร้อมความสามารถในการชาร์จพลังงานแบบเร็ว ชาร์จ 39 นาที ได้แบตเตอรี่กลับมาใช้งานถึง 60% เลยครับ เป็นเทคโนโลยีที่จำเป็นไปซะแล้วสำหรับสมาร์ทโฟนยุคนี้
ด้วยประสิทธิภาพทั้งในส่วนการประมวลผล การประมวลผลภาพ ขนาดแรมที่มากถึง 4GB หรืออย่างน้อยๆ ก็ 2GB กับคุณสมบัติหลากหลายทั้งในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ ทำให้ยอมรับเลยว่าทำให้ผมคล้อยตามว่า ยากได้ไปด้วยเช่นกันครับ ^^ และจากที่ทดสอบใช้งานมาก็พบว่าการทำงานของเครื่องไหลลื่นดี หน้าจอใหญ่ในเครื่องขนาดไม่ใหญ่ตามไปมากนัก และมีอุปกรณ์เสริมเก๋ๆ ที่ทาง Asus ทำออกมาหลายตัวทีเดียว โดยเฉพาะคนที่ชอบการถ่ายภาพ
เพราะในอุปกรณ์เสริมทีมทาง Asus ปล่อยออกมานั้น นอกจากจะมีเคสฝาหลังในหลายๆ รูปแบบแล้ว ยังมีอุปกรณ์อีกสองตัวที่เป็น “แฟลช” สำหรับการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย แปลกตาดีครับอุปกรณ์สองตัวนี้
หนึ่งคือตัวแฟลชหลัก ติดกับฝาหลัง ทำงานเป็นแฟลชที่แรงกว่าแฟลชของตัวเครื่องที่ให้มาตามปกติครับ
อีกหนึ่งตัวคือแฟลช Loli ชื่อน่ารักดี ตัวนี้มีเอาไว้ใช้ถ่ายเซลฟี่เป็นหลักนะครับผมว่า เป็นแฟลชคู่แบบเสียบหัวเข้าช่องหูฟัง เอาไว้กรณีเซลฟี่ตัวเองในที่แสงน้อยหรือย้อนแสง ก็เพิ่มความสว่างของใบหน้าได้เยอะอยู่ครับ
กล้องถ่ายภาพของ Zenfone2 เป็นสิ่งหนึ่งที่ทาง Asus ภูมิใจนำเสนอสุดๆ หน่วยประมวลผลตัวใหม่นามว่า PixelMaster 2.0 ดูจากสิ่งที่เพิ่มเข้ามา คือศักยภาพในการจัดการแสงและปรับแต่งภาพ
ทาง Asus มีการนำภาพถ่ายเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหญ่ๆ ในตลาดหลายตัว ให้เราเห็นว่าในแต่ละโหมด กล้องของเขาเทพเพียงใด โดยเหยื่อที่โดนนำมาใช้เปรียบเทียบแต่ละตัวมันไม่ธรรมดาเลย เช่น Samsung Galaxy Note 4, Sony Xperia Z3, Apple iPhone6, HTC Eye, และ LG G3 เรียกว่า “กล้า” สุดๆ ^^
ผลลัพท์ที่นำมาเทียบจะสังเกตเห็นว่า ในสามโหมด ตัว Asusu Zenfone2 ทำได้ดีกว่าในเรื่องของรายละเอียดบริเวณที่มืด บางภาพนี่ให้ผลลัพท์ต่างกันมากๆ ครับ
แต่แน่นอนผมต้องลองทดสอบด้วยตัวเอง จากฐานการทดสอบถ่ายภาพจำลองสภาพย้อนแสง ก็ต้องบอกว่ามันทำได้ดีอย่างที่เขาคุยไว้ครับ แต่สิ่งที่ไม่รู้และอยากให้เพื่อนๆ ลอง คือเครื่องอื่นๆ ที่ทาง Asus นำมาเทียบซะมากกว่าครับ ว่ามันแย่ขนาดผลลัพท์ออกมาเช่นนั้นจริงหรือเปล่า
แต่เอาว่ากล้องของเจ้า Zenfone 2 มีดีหลายอย่างครับ เริ่มจากเรื่องของโหมดถ่ายภาพ เพียบ เยอะมากครับ มีตั้งแต่โหมด Auto โหมดถ่ายภาพย้อนแสง โหมดถ่ายภาพกลางคืน โหมดถ่ายภาพแบบพาโนรามา รวมถึงโหมดถ่ายภาพหน้าสวยใสเป็นต้นครับ
มีโหมดโปร ที่ให้เราสามารถปรับสปีดชัตเตอร์ได้เอง ปรับ ISO ได้เอง ปรับค่า EV ปรับระยะโฟกัส และปรับไวท์บาลานซ์ ซึ่งกำหนดได้เป็นเคลวินหรืออุณหภูมิสีกันเลย อันนี้แปลกดีบนวงการมือถือมีน้อยที่ปรับ WB กันแบบนี้ได้ แต่แน่นอนครับ จะให้โปรอย่างไรด้วยกล้องมือถือก็ยังไม่อาจจะไปปรับขนาดรูรับแสงได้เหมือนดังเช่นกล้องถ่ายภาพโปรของจริงนะครับ
โหมดถ่ายภาพจะแตกต่างกันระหว่างการใช้กล้องหน้าและกล้องหลังครับ อันนี้ของกล้องหลัง (สองภาพซ้าย) และกล้องหน้า (ขวา) โหมดจะน้อยกว่า
ทาง Asus โชว์ศักยภาพในโหมดกลางคืนไปเยอะ แต่โหมดปกติผมขอลองเอง ^^ ผลปรากฏที่ได้ก็ทั่วไปครับ โฟกัสไวใช้ได้ แม่นมากมั้ยอันนี้อยู่ที่แสงเลยครับ พอจุดไหนแสงดร็อบๆ หน่อยมันจะมีหลุดโฟกัสไปบ้าง ส่วนที่เหลือก็ตามศักยภาพกล้องมือถือ ดีพอตัวครับ ไปเที่ยว ไปถ่ายรูปเล่นถือว่าเพียงพอ แต่ก็ไม่ได้เทพมากมายอะไรครับ
สเปคเครื่อง Asus Zenfone 2
Main Specifications |
ASUS ZenFone 2 ZE551ML/ZE550ML |
OS |
The latest 64-bit Android 5.0 Lollipop |
CPU / GPU |
64-bit Intel Atom Z3580/Z3560 Quad Core Processor (2.3GHz/1.8GHz) with PowerVR Series 6 – G6430, with OpenGL 3.2 support, Intel Exclusive 3D Tri-Gate Transistor Technology |
Display |
5.5-inch Super Bright IPS 1920 x 1080 (Full HD), 403ppi (ZE551ML)5.5-inch Super Bright IPS 1280 x 720 (HD), 268ppi (ZE550ML)IPS display with 178 degree view angle, 72% NTSC, 400nits brightness and GFF full-lamination screenSuper Scratch-resistant Corning® Gorilla® Glass 3 with 20nm Oleophobic anti-fingerprint coating for the least touch frictionUltra Sensitive touch panel with glove touch supportSuper fast 60ms Touch Screen Response Time, 72% Screen-to-Body ratioZenMotion Touch and Motion gesture (including tap tap to wake up and sleep) |
RAM |
64-bit Dual Channel LPDDR3 4GB (World’s first 4GB RAM smartphone)64-bit Dual Channel LPDDR3 2GB |
Storage |
16GB/32GB/64GB, ASUS WebStorage 5GB (lifetime)Micro SD card support, up to 64GB |
Camera |
Front: 5MegaPixel with 85 degree Field of View, Large Aperture f/2.0, 5-element lens PixelMaster Camera with 140o Selfie Panorama, support low light mode for brighter photo & video up to 400%Rear: 13MegaPixel Auto-Focus, Large Aperture f/2.0, 5-element lens PixelMaster Camera for brighter photo & video up to 400%With Blue Glass Infrared filter, Zero Shutter Lag, Dual-color Real Tone flash for true-to-life photoPixelMaster features: Low Light mode / Backlight (HDR) mode / Enhanced real time Beautification mode / Manual mode as in DSLR/ zero shutter lag/52MegaPixel Super Resolution mode |
Video |
Playback MPEG4 up to 1080pFull HD recording 1080p(1920×1080) at 30fps with video stabilization and one-touch still-capture featureDivX, H.264, MPEG4, H.263, Xvid, 3GP |
Audio |
Dual Microphone with Noise Cancellation for best phone call qualityASUS SonicaMaster for crystal clear sound and deeper bass |
Network |
5 Laser Direct Structuring Antenna for Better Signal Reception4G LTE Cat4 for 4G download speed up to 150MbpsGSM/WCDMA Quad-band 850/900/1900/2100 for Worldwide data roaming |
Wireless |
802.11a/b/g/n/ac dual band up to 433Mbps (802.11ac is 5x faster than 802.11n)Bluetooth 4.0 with A2DP, Wi-Fi Direct, Super Fast Wi-Fi Hotspot (tethering),Support NFC (ZE551ML model ) |
Connectivity |
3,5mm earjack, Micro USB with OTG support |
SIM Card |
Dual Micro-SIM support with Dual SIM Dual Active (DSDA)Both SIM cards active, still can receive call when talking in another line |
Sensor |
Accelerometer, proximity, ambient-light, gyroscopic, digital compass and Hall-effect sensors |
Navigation |
5 Satellite Navigation System support GPS, GLONASS, QZSS, SBAS, Beidou |
User Interface |
ASUS ZenUI with 1000+ software enhancementWhat’s Next, ZenLink, Zen Motion, Quick Access, ASUS Splendid, Kids Mode, SnapView, One Hand Mode, Trend Micro Security, etc |
Services |
PhotoCollage, PhotoEffects, MiniMovie, Google App, ASUS Sync, MyCloud, File Manager, MyLibrary, SuperNoteThemes (customize your ZenFone 2 theme from many different templates)BBM & WhatsApp ready |
Dimension/Weight |
152.5 x 77.2 x 10.9-3.9mm / 170g |
Color |
Premium Hairline Metallic Finish, Glacier Gray / Osmium Black / Glamour Red / Ceramic White / Sheer Gold (ZE551ML)Premium UV Coating, Osmium Black, Glamour Red, Ceramic White (ZE550ML) |
Battery |
3000mAh lithium-polymerASUS BoostMaster fast-charging technology. Charge up to 60% capacity in 39 minutes (ZE551ML 4GB model) |
Accessories (optional) |
ZenFone View Flip Cover Deluxe with access to 7 ZenUI functionsReceive calls, reply messages, flashlight, weather, settings, instant camera, what’s next |
สรุปส่งท้าย
สำหรับ Asus Zenfone 2 อย่าลืม ดูที่ราคา เพราะจริงๆ แล้วเจ้า Zenfone2 ไม่ใช่สมาร์ทโฟน Hi-End ระดับเรือธงของวงการ แต่มันคือสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่หกพันกว่าบาทเท่านั้นครับ แหละนั้นทำให้มันดูน่าสนใจสุดๆ เพราะผมมองว่า Asus กำหนดสเปคเครื่องมาได้ฉลาดมาก เพียงพอแบบพอดีที่จะใช้งานแอพพลิเคชั่นและความสามารถต่างๆ บนระบบแอนดรอยด์ได้แบบเต็มประสิทธิภาพแล้ว ยังใส่จุดเด่นที่กลบจุดด้อยของแอนดรอยด์มาให้ด้วยในเรื่องของแรม เรียกว่าเสริมมาถูกจุด และไม่ใส่อะไรมาให้อลังการจนเกินพอดี แถมจะทำให้มีราคาสูงไปกว่าที่ควร
ฉะนั้นวันนี้ Asus Zenfone2 มาอยู่ในจุดที่ผู้ใช้สามารถสัมผัสประสบการณ์ระดับสูงของแอนดรอยด์ได้ ในราคาเพียงครึ่งเดียวเมื่อเทียบกับเครื่องระดับสูงอื่นๆ ฟังชั่นและการใช้งานเพียงพอตอบสนองผู้ใช้ได้แล้ว เหลือแต่เพียงวันจำหน่าย คนจะรู้จักมากแค่ไหนและเครื่องจะเพียงพอจำหน่ายมากแค่ไหน Asus ไทย จะเป็นผู้ตอบครับ