สวัสดีเช้าวันศุกร์ครับ พบกับผมแอดมินต้นเช่นเคย หลังจากสัปดาห์ที่แล้วนอกเรื่องหนังและเกมส์ วกเข้าเรื่องมือถือไป 1 สัปดาห์ วันนี้ขอกลับมาเรื่องสบายๆเช้าวันศุกร์แบบนี้กันด้วยเรื่องหนังและเกร็ดหนังตามเดิมครับ
ช่วงนี้กระแสหนังซูเปอร์ฮีโร่ในบ้านเรากำลังแรง แน่นอนเพราะการเข้าโรงของหนังซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มยักษ์อย่าง Marvel’s The Avengers: Age of Ultron นั่นเอง แต่ว่าผมจะไม่พูดถึงหนังเรื่องนี้นะครับ แต่จะมาพูดถึงซูเปอร์ฮีโร่อีกตัวนึงที่เรารู้จักกันดี และเค้าจะมาพบกับแฟนๆอีกครั้งในหนัง Avengers ภาคต่อไปอย่าง Avengers: Infinity War ด้วย รวมถึงหนัง Marvel เรื่องต่อไปอย่าง Captain America: Civil War และจะมีหนังของตัวเองคั่นเวลาอีกหนึ่งภาค
และซูเปอร์ฮีโร่คนนี้คือ Spider Man นั่นเอง
ปล. ผมจะพูดถึงเฉพาะในมุมภาพยนตร์นะครับ ส่วนภาคคอมมิคขอละเอาไว้เพราะผมเองก็ไม่ได้เป็นแฟนตัวยงคอมมิคขนาดนั้น..ถ้าแฟนพันธุ์แท้คอมมิคต้องให้พี่ Joker Master ครับ
13 ปีกับการรีบู๊ท 2 ครั้ง
อย่างที่หัวข้อเกริ่นเอาไว้ครับ ว่าเจ้าหนังชุด Spider Man (นับเฉพาะที่ทำออกมาแล้ว ควรค่าแก่การพูดถึงนะครับ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีการสร้างหนังรวมถึงทีวีซีรียส์ออกมา แต่ว่า…ลืมๆมันไปเถอะ) นั้นมีอายุถึง 13 ปีแล้ว นับจากวันที่หนังภาคแรกสุดที่สร้างโดย Columbia Tri-Stars (บริษัทลูกของ Sony Pictures ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ Spider Man เวอร์ชั่นภาพยนตร์) ออกฉายเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2002 ซึ่งเราได้เห็นกำเนิด Spider Man กันมาแล้วถึง 2 ครั้ง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักสำหรับการรีบูทหนังซักเรื่อง (และกำลังจะมีการรีบูทรอบที่ 3 เกิดขึ้นในปี 2017 ด้วย ซึ่งขอเก็บไว้คุยกันในตอนต่อๆไปครับ1)
ตอนที่หนังภาคแรกออกฉายในปี 2002 Spider Man สร้างสถิติใหม่หลายๆอย่างเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นหนังเปิดตัววันแรกสูงสุดในตอนนั้น หรือตำแหน่งหนังเรื่องแรกที่เปิดตัวเกิน 100 ล้านเหรียญในสุดสัปดาห์แรกเรื่องแรก และปิดที่รายรับรวม 821 ล้านเหรียญ เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ทำรายได้สูงสุดในเวลานั้นเลยทีเดียว นั่นทำให้ Sony Pictures ย่อมต้องมองแฟรนไชส์ของหนังเรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าห่านทองคำของตัวเองแน่นอน
ถึงแม้หนทางของเจ้าห่านทองคำนี้จะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบก็ตาม
การสร้าง Spider Man ภาคแรก
จากข้อมูลที่มี ระบุว่างานสร้าง Spider Man ภาคแรกนั้นยาวนานไม่ใช่เล่น เพราะภาพยนตร์ Spider Man ภาคแรกนั้นเริ่มมาจากบทภาพยนตร์ของผู้กำกับชื่อดังอย่าง เจมส์ คาเมรอน (Titanic, Avatar) ที่เขียนเอาไว้ตั้งแต่ช่วงปี 1991-1993 เลยทีเดียว ซึ่งตอนนั้นสิทธิ์ในการสร้างภาพยนตร์ยังไม่เป็นของ Sony ด้วยซ้ำ แต่ก็มีปัญหามากมายเกิดขึ้นจน เจสม์ คาเมรอน ก็ไม่ได้สร้าง Spider Man เสียที จนสิทธิ์มาถึงมือของ Columbia / Sony ในปี 1999
จากนั้นงานสร้างหนังประวัติศาสตร์ซูเปอร์ฮีโร่เรื่องนี้ก็เดินหน้าเต็มตัว Sony มอบหมายให้ แซม ไรมี่ (หนังชุด Evil Dead) มากำกับด้วยบทภาพยนตร์ของ David Koepp (Jurassic Park, Mission Impossible) ที่ปรับปรุงจากบทของ เจมส์ คาเมรอน อีกที
Spider Man เราเกือบได้เห็น ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ปล่อยใยแล้ว
ในตอนแรกที่สตูดิโอเฟ้นหานักแสดงที่จะมารับบท ปีเตอร์ ปาร์กเกอร์หรือ Spider Man นั้น โทบี้ แม๊คไกวร์ไม่ได้เป็นตัวเลือกแรกและเป็นตัวเลือกที่ถูกใจสตูดิโอเท่าใดนัก จึงไม่แปลกชื่อผู้เข้าชิงในตำแหน่งนี้ จะเป็นของดาราดังๆในช่วงนั้นอย่าง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ, เฟรดดี้ ปรินซ์ จูเนียร์ หรือแม้แต่ ฮีท เลดเจอร์เองก็เคยได้รับการทาบทามในบทนี้
แต่ที่ใกล้เคียงที่สุดคนหนึ่งก็คือ เอ็ดเวิร์ด เฟอร์ลอง ที่รับบทจอห์น คอนเนอร์ในหนังชุด Terminator ของผู้กำกับเจมส์ คาเมร่อนที่เกือบจะได้สร้างหนังเรื่องนี้ในตอนแรกนั่นเอง
และที่ใกล้เคียงมากๆอีกคนคือ เจมส์ ฟรานโก้ที่เข้าทดสอบบท Spider man ด้วย แต่ก็พลาดไป ถึงอย่างไรเขาก็มีส่วนร่วมกับหนังเรื่องนี้ในบท แฮร์รี่ ออสบอร์น เพื่อนของปีเตอร์ ปาร์กเกอร์หรือ Spider man แทน
ส่วน โทบี้ แม็คไกวร์นั้น ที่ได้รับบทนี้ส่วนหนึ่งเพราะผู้กำกับ แซม ไรมี่ปลื้มเป็นการส่วนตัวจากบทบาทในหนังดราม่าอย่าง Sea Biscuit และว่ากันว่าเหตุผลที่ โทบี้ได้รับเล่น นั้นมาจากผลการทดสอบบทที่ทีมงานเลือกฉากสุดท้ายในหนังภาคแรก ที่ปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ต้องปฏิเสธคนรักอย่าง แมรี่ เจน วัตสันเพื่อทำหน้าที่ซูเปอร์ ฮีโร่นั่นเอง
เรียกว่าได้บทเพราะดวงตาเศร้าๆ และหน้าตาดราม่ากันเลยทีเดียว
เราเกือบจะได้เห็นหนัง Spider Man เวอร์ชั่น เอ็ม ไนท์ ชยามาลานเช่นกัน… I see dead people
นอกจากพระเอกของเรื่องที่ไม่ได้เป็นตัวเลือกแรกๆแล้ว ผู้กำกับชองเรื่องก็ไม่ได้เป็นตัวเลือกแรกๆเช่นกัน เพราะอย่างที่เกริ่นไว้ก่อนหน้าว่าผู้กำกับรายแรกๆสำหรับโปรเจคท์หนังเรื่องนื้คือ เจมส์ คาเมร่อนนั่นเอง
นอกจากนี้ก็มีผู้กำกับหนังดังๆ เข้ามามีชื่อและส่วนร่วมในโปรเจคท์นี้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น คริส โคลัมบัส (Home alone, Harry Potter 2 ภาคแรก) โทนี่ สก๊อต์ (Alien) รวมถึง เอ็ม ไนท์ ชยามาลาน (Sixth Sense) ด้วยเช่นกัน
สัญญาทาส ต้องสร้างภาคใหม่ทุกๆ 5 ปี ไม่อย่างนั้นก็คืนสิทธิ์มา
นี่เป็นสิ่งที่ผมเกริ่นเอาไว้ว่าหนทางของหนังชุด Spider Man สำหรับ Sony Pictures เองไม่ได้ง่าย เพราะสัญญาที่ทาง Marvel Comic ทำเอาไว้กับ Sony นั้นระบุว่า Sony ต้องสร้างหนัง Spider Man ภาคใหม่ออกฉายภายในกรอบเวลา 5 ปี ไม่อย่างนั้นสิทธิ์การสร้างหนังจะกลับไปสู่มือเจ้าของลิขสิทธิ์ตัวละครอย่าง Marvel ทันที
และการสร้างหนังฟอร์มยักษ์แบบนี้ ให้ออกฉายให้ทันทุกๆ 5 ปีก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
นี่แค่เกริ่นถึงขั้นตอนการสร้างคร่าวๆของหนังภาคแรกเท่านั้นเองนะครับ สัปดาห์หน้าเราจะมาต่อกันที่เกร็ดหนังสำหรับไตรภาคแรกของ Spider Man กันต่อครับ รวมถึงเส้นทางการเข้าร่วมทีม Avengers ของ Spider Man ด้วย
ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับวันศุกร์นะครับ