มาเร็วกว่าที่หลายๆฝ่ายคาดไว้ครับสำหรับ Build ใหม่ล่าสุดของ Windows 10 Mobile ที่ตอนนี้ Microsoft ปล่อยให้ชาว Windows Insider อัพเดทกันแล้ว ซึ่ง build นี้ Microsoft อ้างว่าได้รับการปรับปรุงขึ้นอย่างมากทั้งในแง่ประสิทธิภาพการทำงานและการแก้ไขบั๊ค
ทีมงาน AppDisqus เลยขอรวบรวมข้อมูลทุกอย่างที่คุณควรรู้สำหรับ Build นี้มาไว้ สำหับชาว Windows Insider ที่นี่ครับ
ก่อนการอัพเดท:
- สำหรับ Build นี้ เพื่อนๆชาว Windows Insider ที่ยังอยู่ที่ Build 10080 ที่ไม่สามารถอัพเดทเป็น Build ก่อนหน้า (10136) ได้ สามารถอัพเดทข้ามมาเป็น Build 10149 ได้เลย
- Microsoft แจ้งว่า หน้าจอเตรียมโอนย้ายข้อมูลหลังการติดตั้งจะหายไปใน Build นี้ ซึ่งข้อควรระวังคือหลังจากผ่านหน้าจอฟันเฟืองมรณะเรียบร้อยแล้ว มือถือของเราจะใช้งานไม่ได้ระยะหนึ่ง (ค้างที่หน้า lock screen ราว 10-15 นาที) ซึ่งตามปกติขั้นตอนนี้จะเป็นการเตรียมโอนย้ายข้อมูลนั่นเองเพราะฉะนั้นระหว่างที่ระบบกำลังโอนย้ายข้อมูล ให้เรารอจนกว่าการโอนย้ายข้อมูลทั้งหมดเสร็จสิ้น ซึ่งเมื่อเสร็จแล้วที่หน้าจอล็อกสกรีนจะมีวันที่และเวลาแสดงขึ้นมา และมือถือของเราจะใช้งานได้ตามปกติ
หากเราใจร้อนปิดเครื่องหรือรีสตาร์ทเครื่องในขั้นตอนนี้ อาจทำให้มือถือใช้งานไม่ได้ และต้องแก้ไขด้วย Windows recovery tool แทน
สิ่งใหม่ที่เพิ่มเข้ามา
แน่นอนครับว่าสำหรับ Build ใหม่ Microsoft ก็ต้องเพิ่มอะไรใหม่ๆเข้ามา ซึ่งจาก change log ของ Microsoft ระบุเอาไว้ดังนี้
- Microsoft Edge: เว็บบราวเซอร์ตัวใหม่ได้รับการเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการแล้วใน build นี้ นอกจากนี้สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปนอกจากชื่อคือ ตำแหน่งของ address bar หรือ URL bar ถูกย้ายมาไว้ด้านล่างแล้ว รวมถึง Microsoft เพิ่มปุ่ม new tab มาไว้ให้ข้าง address bar รวมถึงเพิ่มตัวเลือกสำหรับเปิด desktop / mobile view เข้ามาด้วย
- ปรับปรุงหน้าจอการใช้งาน ทั้ง tile ที่มีความคมชัดขึ้น และ tile ของระบบที่ปรับปรุงใหม่ให้เข้าใกล้ Windows 10 บนคอมพิวเตอร์มากขึ้น รวมถึงประสิทธิภาพการทำงานที่ได้รับการปรับปรุงขึ้นอย่างมาก
- Cortana: ได้รับการปรับปรุงให้สมบูรณ์มากขึ้น หน้าจอ notebook ของ Cortana ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่
- ปุ่มเปิด/ปิด ไฟฉายจาก Action center: เป็นคุณสมบัติใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน build นี้ ซึ่งเป็นการใช้แฟลชกล้องถ่ายรูปของเครื่องมาใช้งานเป็นไฟฉายนั่นเอง
- แอพภาพถ่าย (Photos) ก็ได้รับการปรับปรุงเช่นกันทั้งในแง่ของประสิทธิภาพการทำงานและความเสถียรในการใช้งาน นอกจากนี้ Microsoft ยังเพิ่มความสามารถให้รองรับไฟล์รูปสกุล .GIF หรือภาพเคลื่อนไหวเข้ามาด้วย แต่จะใช้งานได้บนมือถือที่มีแรม 1 GB ขึ้นไปเท่านั้น
- ปรับปรุงฟังก์ชั่นการอัพโหลดภาพถ่ายขึ้น OneDrive แบบอัตโนมัติ: ตอนนี้เราสามารถควบคุมการอัพโหลดภาพถ่ายขึ้น OneDrive ได้จากแอพ OneDrive โดยตรง
- แอพของ Microsoft ที่ได้รับการอัพเดทมากมาย: หลังติดตั้ง Windows 10 Mobile Build 10149 แล้ว อย่าลืมตรวจสอบการอัพเดทแอพใน Store Beta ด้วยนะครับ เนื่องจาก Microsoft แจ้งว่าแอพต่างๆของ Microsoft ไม่ว่าจะเป็น Outlook หรือ Outlook Calendar, Music ก็ได้รับการอัพเดทใหม่ด้วย
ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้นขนาดไหน ดูได้จากวิดีโอนี้ครับ
ปัญหาที่อาจพบจาก Build 10149
- ระหว่างการติดตั้ง Build ใหม่นี้ ผู้ใช้บางรายอาจพบกับข้อความ error 80091007 ซึ่งทำให้ไม่สามารถติดตั้ง build ใหม่นี้ได้ ทางแก้ไขเดียวคือต้อง roll back ไปเป็น Windows phone 8 ผ่านโปรแกรม Windows phone recovery ก่อน และเริ่มติดตั้ง Windows 10 Mobile Insider Preview ใหม่อีกครั้ง
- Insider Hub จะหายไปจาก Build นี้ แต่ว่าจะกลับมาใน build ต่อๆไป
- บางครั้งการปลดล็อกหน้าจอด้วย PIN Code จะพบปัญหาคีย์บอร์ดสำหรับพิมพ์รหัสไม่แสดงผล ทางแก้ไขคือให้เลื่อน Action center ลงมาและลองเปิดการตั้งค่า หรือแตะที่การแจ้งเตือนต่างๆเพื่อให้คียบอร์ดทำงานก่อน ก็จะสามารถพิมพ์รหัสปลดล็อกเครื่องได้ตามปกติ
- บางสถานการณ์จะพบว่า เราไม่สามารถปลดล็อกหน้าจอได้แม้จะระบุ PIN Code ที่ถูกต้อง ทางแก้ไขที่ Microsoft แนะนำคือให้แฟลชรอมใหม่ด้วยโปรแกรม Windows phone recovery ครับ
- สำหรับผู้ที่ผูกบัญชี Gmail ไว้กับระบบ บางครั้งอาจกระทบกับการรับ-ส่ง ข้อความ sms ซึ่งทางหากเกิดปัญหาไม่ได้รับ sms หรือส่ง sms ไม่ได้ ให้ลองปิด-เปิดเครื่องใหม่ 1 ครั้ง
- สำหรับผู้ใช้งานบางคนอาจพบว่า แอพหรือเกมส์ที่เคยซื้อมาก่อนหน้านี้ จะมีสถานะเป็นทดลองใช้แทน ซึ่งปัญหาเกิดจากการที่ Microsoft กำลังเปลี่ยนถ่ายข้อมูลจาก Windows phone store ไปเป็น Windows Store ใหม่
- ในบางแอพอาจพบปัญหาสีของหน้าจอการใช้งาน (UI) เพี้ยนไปจากปกติ รวมถึงบางครั้งข้อมูลต่างๆในส่วน action center จะไม่แสดงผลด้วย
ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลสำหรับ Windows 10 Mobile Build 10149 ครับ แน่นอนว่าการอัพเดทนี้คุ้มค่าสำหรับชาว Windows Insider แน่นอน อัพเดทกันได้เลยครับ
ที่มา: Microsoft, WinBeta, Windows Central