รีวิว Samsung Galaxy Note 3 LTE การกลับมาพร้อมขุมพลัง Snapdragon 800 ตามคำเรียกร้อง!!!

Samsung Galaxy Note 3 เป็นโทรศัพท์มือถือที่โดยส่วนตัวผมประทับใจมากนะครับ เป็นรุ่นเรือธงที่ทำออกมาได้ดีในทุกๆเรื่องทั้งความสวยงามของตัวเครื่อง หน้าจอสวยหมดจด ารใช้งานที่ลื่นไหลน่าประทับใจ และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย S Pen ที่ทำให้มือถือตระกูล Galaxy Note สร้างความแตกต่างที่หารุ่นไหนมาเปรียบเทียบได้น้อยเต็มที แต่จุดอ่อนเดียวที่ทำให้ Samsung Galaxy Note 3 โดนบ่นมาตลอดคือเรื่องของความแตกต่างของชิปประมวลผลที่แต่ละประเทศจำหน่ายแตกต่างกัน และโดยปกติแล้วบ้านเราก็เลือก Exynos Octa Core มาจำหน่ายมาโดยตลอด แต่ว่าในปีนี้ต่างออกไปเพราะ Truemove H ได้เปิดให้ใช้ 4G LTE ในความถี่ 2100 ทำให้หลายๆแบรนด์ต้องผลักดันมือถือที่รองรับ 4G LTE ออกมาจำหน่าย ร้อนถึงเจ้า Samsung Galaxy Note 3 ที่ชิปประมวลผล Exynos Octa Core ดันไม่รองรับนี่สิแถมยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ทำให้แตกต่างจากรุ่นที่ใช้ Snapdragon 800 อีกด้วย

แน่นอนว่า Samsung โดนกระแสยำใหญ่ใส่สารพัดทั้งหยาบคายโคตรๆ จนไปถึงด่าแบบอ้อมๆผู้ดีเก่า5555 ซึ่งทาง Samsung ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจครับในที่สุดก็เข็น Samsung Galaxy Note 3 LTE ออกมาจำหน่ายให้ชาวไทยได้สัมผัสกันเมื่อเดือนที่แล้วนี่เองครับ ซึ่งราคาก็เปิดมาดุดันพอสมควรเมื่อเทียบกับราคาเครื่องหิ้ว MBK โดยเปิดราคา Samsung Galaxy Note 3 LTE มาที่ 24900 บาทซึ่งแพงกว่ารุ่นเดิม 1400 บาทครับ ซึ่งหักปากกาเซียนร้านกาแฟกันเป็นแถวว่า Samsung จะลดราคา Samsung Galaxy Note 3 ลงและจะเปิดราคา Samsung Galaxy Note 3 LTE มาเท่าเดิม (ซึ่งราคาเครื่องหิ้วตอนนี้ก็ไม่ถึงเลข 2 ดีแล้วนะเนี่ย) แต่ว่าตอนนี้ก็มีโปรโมชั่นครับซื้อ Samsung Galaxy Note 3 และ Samsung Galaxy Note 3 LTE ในงาน TME วันที่ 13-16 กุมภาพันธ์ จะได้รับเงินคืน 2000 บาทครับส่วนรายละเอียดต้องศึกษาในโปรโมชั่นนะครับ^^ มาเริ่มจากชมสเปคของ Samsung Galaxy Note 3 LTE กันก่อนนะครับ

สเปคของ Samsung Galaxy Note 3 LTE

2.5G (GSM/ GPRS/ EDGE) : 850 / 900 / 1800 / 1900 MHz

3G (HSPA＋ 42Mbps): 850 / 900 / 1900 / 2100 MHz

4G (LTE Cat 4 150/50Mbps)

ตัวเครื่องมีขนาด 151.2 x 79.2 x 8.3 มม. น้ำหนัก 168 กรัม

หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.7 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P 1080 x 1920 pixels (386 ppi)

กระจกป้องกันรอยขีดข่วน Gorilla Glass 3

CPU Qualcomm Snapdragon 800 Quad-core 2.3 GHz Krait 400, GPU Adreno 330, RAM 3GB, หน่วยความจำภายใน 32GB (เหลือให้ใช้ 26.3GB) สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุด 64GB

Android 4.4.2 KitKat ครอบทับด้วย Touch Wiz Nature UX v2.0

WiFi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.0, NFC, USB 3.0 (MHL 2.0), Infrared Port, GPS รองรับ GLONASS

กล้องความละเอียด 13MP, BSI Sensor, Auto Focus, Zero Shutter Lag

บันทึกวีดีโอ 4K 2160P 30fps และ Full HD 1080P 60fps

กล้องหน้า 2MP บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P

แบตเตอรี่ความจุ 3200 mAh

มีให้เลือกสีดำและสีขาว

ราคาเปิดตัว 24900 บาท

สำหรับ Samsung Galaxy Note 3 LTE รหัสจะเป็น N9005 นะครับหน้าตาภายนอกเหมือนเดิมทุกอย่างครับ ถ้ามองด้วยตาอย่างเดียวไม่มีทางรู้เลยว่าเป็น Samsung Galaxy Note 3 หรือ Samsung Galaxy Note 3 LTE ตัวเครื่องสวยเหมือนเดิม ขอบจอบางเฉียบส่วนตัวรุ่นนี้ผมชอบสีขาวมากกว่านะเนี่ย แต่ได้ยืมมารีวิวเป็นสีดำทั้ง 2 รอบเลยอ่ะ

ด้านหลังจะเป็นพลาสติคอัดลายแบบหนัง หรือจะเรียกว่าหนังเทียมก็พอได้นะครับซึ่งแม้ว่าผมจะผิดหวังหน่อยๆนะ แต่แบบนี้มันก็ทนทานดีครับแต่สีขาวจะคงทนกว่ามันจะดูเป็นพลาสติคมากกว่า และสีดำจะออกนุ่มๆจับแล้วคล้ายหนังมากกว่า แต่ฝุ่นเกาะง่ายมากครับปัดออกยาก (จริงๆยังอยากให้ทำแบบเครื่องหนังจังเลยนะครับเนี่ยจะดูหรูขึ้นมาเลย พลาสติคลายหนังแบบนี้มันชวนให้คนบ่นอ่ะ)

ยังคงมาพร้อม Infrared Port และจุดเด่นอย่าง USB 3.0 ซึ่งถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีมือถือรุ่นใหนใส่มานอกจาก Samsung Galaxy Note 3 เลยครับและช่องใส่ S Pen แบบใหม่ที่ใส่ด้านไหนก็ได้ทำให้สะดวกยิ่งขึ้น

ขอบโครเมี่ยมรอบตัวเครื่องดูคงทนครับไม่น่าจะลอกง่ายๆ และออกแบบให้เหมือนกับสันของหนังสือ

สำหรับเรื่องแบตเตอรี่ที่หลายๆคนบอกว่า Samsung Galaxy Note 3 LTE แบตเตอรี่จะอึดกว่า Samsung Galaxy Note 3 จากการทดสอบผมว่ามันก็พอๆกันละครับ ซึ่งผมว่ารุ่นนี้มันจัดการแบตได้ดีอยู่แล้วนะ ถือว่าอึดดีทีเดียวครับ

คะแนนทดสอบของ Samsung Galaxy Note 3 LTE

ทดสอบด้วย Quadrant Standard ได้คะแนน 23331 คะแนน

ทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 35837 คะแนน

ทดสอบด้วย NenaMark2 ทำไปได้ 60.4fps

รองรับ Multi Touch 10 จุดสมบูรณ์

Samsung Galaxy Note 3 LTE เปิดตัวมาพร้อมอัพเดต Android 4.4.2 KitKat ครอบทับด้วย Touch Wiz Nature UX v2.0 ต้องเรียกได้ว่าดูมีความเป็น KitKat อยู่น้อยมากๆครับ5555 ซึ่งผมขอชมนะ Samsung ปรุงรอมมาดีมากๆครับ การใช้งานลื่นไหลมากๆทั้งๆที่ครอบทับด้วย Touch Wiz ที่มีลูกเล่นแพรวพราวมากๆเลยนะเนี่ย ผมว่าลื่นกว่าตอนที่เปิดตัวมาพร้อม Android 4.3 Jelly Bean ซะอีกนะครับซึ่งอาจจะเป็นเพราะชิปประมวลผลเทพๆอย่าง Qualcomm Snapdragon 800 ก็เป็นได้นะครับเนี่ย ลื่นและรวดเร็วติดนิ้วมากจริงๆ

สำหรับรีวิวเรื่องการใช้งานฟังก์ชั่นของ S Pen และโปรแกรมต่างที่น่าสนใจใน Samsung Galaxy Note 3 LTE ผมขอให้ไปอ่านในรีวิวเดิมของ Samsung Galaxy Note 3 นะครับเพราะไม่แตกต่างกันเลยฮะ ไม่จำเป็นต้องเขียนซ้ำอ่ะ^__^ ซึ่งขอบอกได้เลยว่าพอกับมาใช้ Galaxy Note เล่นเอาผมไม่อยากจากมันไปเลยนะเนี่ยผมชอบ S Pen มากจริงๆครับเพราะผมชอบศิลปะและชอบวาดรูปเล่นเอามากๆเลยละ^^เชิญคลิ๊กเข้าไปอ่านรีวิว Samsung Galaxy Note 3 กันได้เลยครับ

รีวิว Samsung Galaxy Note 3 ทุกฟังก์ชั่นพัฒนาเพื่อการใช้งานและการใช้ชีวิต

จุดเด่นของ Samsung Galaxy Note 3 LTE ก็ตามชื่อเลยครับ นอกจากจะใช้ชิปประมวลผลที่แตกต่างกันแล้วจาก xynos 5420 Octa Core 1.9 GHz (A15 1.9 GHz + A7 1.3 GHz) มาเป็น Qualcomm Snapdragon 800 Quad-core 2.3 GHz Krait 400 ซึ่งถ้าแค่นี้ผมค่อนข้างเฉยๆเพราะผมว่ามันไม่ได้มีนัยสำคัญจนขนาดต้องเปลี่ยนเครื่องครับ แต่ความจุดสำคัญมันอยู่ที่ Qualcomm Snapdragon 800 มันรองรับ 4G LTE นี่สิซึ่งนอกจากเจ้าแรกอย่าง Truemove H จะเป็นหัวหอกเปิดใช้งาน 4G LTE เป็นรายแรกของบ้านเราแล้ว (แม้ว่าจะจำกัดขอบเขตค่อนข้างแคบเฉพาะในเมืองก็ตาม) แต่ตอนนี้ทั้ง AIS และ Dtac ก็รองรับ 4G LTE กันแล้วนะครับทำให้การที่จะซื้อเจ้า Samsung Galaxy Note 3 LTE มาใช้มันคือการซื้ออนาคต นอกจากว่าคุณจะคิดว่ามันไม่สำคัญก็สามารถซื้อ Samsung Galaxy Note 3 รุ่นเดิมก็ได้ประหยัดลงไป 1400 บาทเอาใว้ซื้ออุปกรณ์เสริม (แต่จากใจผมว่าซื้อ Samsung Galaxy Note 3 LTE คุ้มกว่าอ่ะ)

นอกจากเรื่อง 4G LTE แล้วทั้ง Motion Control และฟังก์ชั่นรวมทั้งแอพพลิเคชั่นต่างๆยังคงจัดเต็มเหมือนเดิมทุกอย่างครับ และยังคงแจก SketchBook for Galaxy มาให้ใช้ฟรีๆเหมือนเดิม

Samsung Galaxy Note 3 LTE : Chiwawa

นี่ละครับอีกจุดเด่นที่ผมเห็นหลายๆคนเรียกร้องกันมาเพียบว่าเครื่องที่ใช้ Qualcomm Snapdragon 800 ทำได้ก็อยากได้มั่ง ถ่ายได้สะใจสุดๆครับ Samsung Galaxy Note 3 LTE สามารถบันทึกวีดีโอได้สูงสุด 4K 2160P 30fps และ Full HD 1080P 60fps บ้านใครมีจอ 4K นี่ผมว่าเหมาะมากๆเลยละ ความละเอียดระดับนี้มันช่างคมสุดยอดจริงๆครับ ซึ่งในท้องตลาดตอนนี้ก็มีแต่ Samsung Galaxy Note 3 LTE เท่านั้นที่สามารถบันทึกวีดีโอความละเอียด 4K ได้อยู่เพียงรุ่นเดียว ส่วนรุ่นอื่นแม้จะใช้ Qualcomm Snapdragon 800 เหมือนกันแต่ไม่สามารถทำได้ครับ ก็น่าจะเพราะไม่ได้ใส่ฟังก์ชั่นนี้มานั่นละครับ แต่พวกเรือธงรุ่นใหม่ๆในปีนี้ผมว่าน่าจะทำได้กันถ้วนหน้าแน่นอน

ในคลิปพระเอกของเรื่องคือเจ้าน้องเฉาก๊วย น้องหมาบ้านผมเองครับเป็นหมาที่อาผมเลี้ยงใว้น่ารักมากเลย มีอีกตัวชื่อชะบาแต่น้องเขาขี้อายวิ่งหนีอ่ะ เจ้าเฉาก๊วยก็กลัว Samsung Galaxy Note 3 LTE มากๆฮะแต่น้องเขาเรียบร้อยก็เลยหนีไม่เก่ง อิอิ ขี้อ้อนกว่าชะบาเยอะเลยละครับ^__^

ในส่วนของกล้องยังคงใช้ความละเอียด 13MP มี BSI Sensor, Auto Focus และแน่นอน Zero Shutter Lag รวมทั้งลูกเล่นการถ่ายภาพมากมายซึ่งเป็นจุดเด่นของ Samsung เลยละครับรวมทั้ง Effect ภาพแบบต่างๆซึ่งสามารถโหลดเพิ่มได้ด้วย (บางตัวต้องซื้อ)

คุณภาพของรูปยังคงเหมือน Samsung Galaxy Note 3 รุ่นเดิมครับ คือดีอยู่แล้วทั้งความแม่นยำของสี ความคมและโดดเด่นแม้จะถ่ายภาพในที่แสงน้อย เอาเป็นว่ามาชมภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy Note 3 LTE กันเลยครับทุกภาพผมไม่ได้ปรับกล้องอะไรเลย ใช้โหมด Auto รัวๆ^^