โบราณท่านว่า เวลาและนารี เอ้ย! วารี ไม่เคยรอใครและไม่ไหลย้อนกลับ เผลอแป๊ปเดียว ปี 2558 ก็กำลังจะผ่านพ้นไป และต้องเตรียมตัวต้อนรับปีใหม่ 2559 กันแล้ว เรียกได้ว่าผ่านไปไวโดยที่หลายๆ คนยังไม่ทันตั้งตัวเลยทีเดียว บางคนอยากทำโน่นทำนี่มากมายตอนต้นปี 2558 แต่กลับไม่ได้เริ่มหรือไม่ได้ทำสักอย่าง หรือบางคนก็ลืมเลือนไปเมื่อเวลาผ่านไปสักเดือนสองเดือนว่าตัวเองเคยอยากทำอะไรเมื่อตอนต้นปี ทั้งนี้ก็เพราะเรายังไม่ได้เรียนรู้ที่จะวางแผนบริหารเวลาและตั้งเป้าหมายชีวิตประจำปีให้ตัวเราเองนั่นเอง
โดยส่วนตัวแล้วอเล็กซ์จะชอบตั้งเป้าหมายชีวิตของตัวเองเอาไว้ในช่วงต้นปีของทุกปี และเมื่อปลายปีมาถึง ผมก็จะต้องย้อนกลับมาดูว่าที่ผ่านมานั้นตัวเองได้ทำตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ โดยในบางปีนั้นก็มีฮิตเป้าหมายบ้าง (โดยเฉพาะเรื่องเที่ยวนี้เหมือนจะฮิตทุกปี 555+) แต่บางปีก็ไม่ได้ตามเป้าหมายในบางรายการ แต่อย่างน้อยๆ การตั้งเป้าหมายก็ทำให้เรารู้แนวทางของตัวเองว่าจะจัดการตัวเองอย่างไรในปีนั้นๆ และให้เราได้รู้ทิศทางว่าจะเดินหมากชีวิตของเราอย่างไรดีกับเรื่องที่เราคาดการณ์ไว้แล้วว่าจะต้องเกิดขึ้นและนำมาตั้งเป็นเป้าหมายประจำปีให้ตัวเอง
และเนื่องจากยุคที่เราอยู่ปัจจุบันนี้ไม่ใช่ยุคคลาสสิกเน้นเขียนบนกระดาษกันแล้ว วันนี้ APPDISQUS จึงมีแอพพลิเคชั่นดีๆ ที่จะช่วยให้เพื่อนๆ ได้ทดลองตั้งเป้าหมายเพื่อสุขภาพประจำปีเพื่อต้อนรับปี 2559 ไปพร้อมๆ กัน และเก็บไว้ทบทวนตัวเองตลอดปีหน้าว่าตามเป้าหมายตัวเองไปได้สักเท่าไหร่แล้ว
[section label=”LifeSum” anchor=”lifesum”]LifeSum (Free – iOS / Android – ซื้อฟังก์ชั่นเพิ่มจากใน Application ได้)
จะมีอะไรเลยในด้านสุขภาพที่จะดีไปกว่าการเริ่มตั้งเป้าหมายในสิ่งง่ายๆ อย่างการดื่มน้ำให้กับตัวเอง โดยว่ากันว่าน้ำนั้นเปรียบเสมือนยาที่ดีที่สุดในโลกที่สามารถเยียวยาได้ทุกอย่างแม้แต่หัวใจที่บอบช้ำ (เวอร์ไปนั่น) ดังนั้นการเริ่มตั้งเป้าหมายการดื่มน้ำให้ตัวเองก็ดูจะเป็นทางออกที่น่าสนใจสำหรับเป้าหมายการดูแลรักษาสุขภาพของเราในปีหน้านี้ และแอพพลิเคชั่นที่ APPDISQUS จะมาแนะนำเพื่อทำหน้าที่ในการวางแผนการดื่มน้ำประจำปีให้เพื่อนๆ ก็คือ LifeSum แอพพลิเคชั่นฟรีที่มีให้ใช้ทั้งบน iOS / Apple Watch / Android และ Android Wear เพื่อเตือนว่าในแต่ละวันเราดื่มน้ำได้ถึงเป้าหมายที่เรากำหนดไว้แล้วหรือยังนั่นเอง โดยเป้าหมายที่เซ็ตไว้เป็นมาตรฐานคือวันละ 8 แก้ว หรือ ุ68fl. นั่นเอง
หากเพื่อนๆ ต้องการฟังก์ชั่นอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากการแทร็กการดื่มน้ำ เพื่อนๆ สามารถจ่ายเงินเป็น InAppPurchase เพื่อแทร็กการเผาผลาญแคลอรี่ หรือแทร็กอาหารที่ทานเข้าไประหว่างมื้อได้อีกด้วย (ซึ่งอเล็กซ์เห็นว่าไม่จำเป็น เดี๋ยวอเล็กจะมีแนะนำ MyFitnessPal ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นฟรีที่ทำงานในส่วนนี้แทนได้อีกตัวหนึ่ง) ดังนั้นมาเริ่มดูแลสุขภาพตัวเองในปีใหม่ด้วยเป้าหมายการดื่มน้ำให้พอเหมาะและพอดีในแต่ละวันกันเถอะ
[section label=”MyFitnessPal” anchor=”myfitnesspal”]
MyFitnessPal (Free – iOS / Android / Windows Phone)
MyFitnessPal คือแอพพลิเคชั่นเอกด้านการดูแลสุขภาพที่อเล็กซ์ใช้อยู่เป็นประจำมาเป็นเวลามากกว่า 2 ปีแล้ว โดยเพื่อนๆ สามารถแทร็กอาหารที่ทานในแต่ละวันและประเมินแคลอรี่ของอาหารที่ทานออกมาได้ว่าในแต่ละวันนั้นเพื่อนๆ ทานไปทั้งหมดกี่แคลเพื่อควบคุมพลังงานรับเข้าของร่างกายในแต่ละวัน ทั้งนี้ฟังก์ชั่นที่จะช่วยให้เพื่อนๆ เปลี่ยนแปลงตัวเองเป็น New Year Resolution ได้นั่นสำคัญที่อีกฟังก์ชั่นหนึ่งต่างหาก นั่นก็คือฟังก์ชั่นที่เปิดให้เพื่อนๆ ตั้งเป้าหมายได้ว่าต้องการลดน้ำหนักทั้งสิ้นกี่กิโลกรัมในระยะเวลาเท่าใด จากนั้นโปรแกรมจะคำนวนแคลอรี่ที่ควรบริโภคต่อหนึ่งวันออกมาให้เพื่อนๆ เองโดยอิงจากเป้าหมายน้ำหนักและระยะเวลาในการลดที่เพื่อนๆ ตั้งเอาไว้ ผนวกรวมกับค่าสถิติต่างๆ ของเพื่อนๆ ทั้งส่วนสูง น้ำหนัก และความสม่ำเสมอในการออกกำลังกาย ซึ่งเมื่อใช้รวมกับฟังก์ชั่นการแทร็กการรับประทานของเพื่อนๆ แล้วจะช่วยให้เพื่อนๆ ไปถึงเป้าหมายที่วางเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็นเลยทีเดียว
MyFitnessPal เองนอกจากจะใช้งานบนอุปกรณ์ iOS / Windows และ Android ได้แล้ว มันยังสามารถใช้งานบน Apple Watch / Android Wears ได้อีกด้วยเพื่อความสะดวกในการแทร็กอาหารและการตรวจสอบดูการบริโภคของเพื่อนๆ ในแต่ละวันได้อย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าหากคิดจะเอาจริงเอาจังกับการดูแลสุขภาพและควบคุมน้ำหนัก (ไม่ว่าจะอยากลดหรืออยากเพิ่ม) แล้วล่ะก็ MyFitnessPal คือแอพพลิเคชั่นที่ “ต้อง” มีติดเครื่องไว้อย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เลย
[section label=”CARROT Fit” anchor=”carrotfit”]
CARROT Fit ($2.99 – iOS)
สร้างหุ่นเปรี๊ยะแลดูน่าเซี๊ยะให้เกิดขึ้นกับตัวเองได้ง่ายๆ ด้วยการลงทุนกับแอพพลิเคชั่นหุ่นยนต์ที่ทำตัวเป็นฟิตเนสเทรนเนอร์สุดยียวนกวรประสาทอย่างเจ้า CARROT ใน CARROT Fit แอพพลิเคชั่นด้านฟิตเนสที่ขายดีเป็นอันดับต้นๆ จากทั่วโลกใน AppStore โดยเจ้า CARROT จะแนะนำการออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญไขมันส่วนเกินและเสริมสร้างกล้ามเนื้อโดยใช้เวลาเพียงแค่ 7 นาทีต่อวัน ผ่านการออกกำลังกายแบบที่เรียกสั้นๆ ว่า HIIT (High Intensity Interval Training) โดยจะโฟกัสไปที่อัตราการเต้นของหัวใจของเพื่อนๆ ที่จะสวิงจากสูงลงต่ำตลอด 7 นาทีเพื่อสร้างการเผาผลาญที่ดีที่สุดให้เกิดขึ้นภายในระยะเวลาการออกกำลังกายแบบสั้นๆ โดยเพื่อนๆ จะถูกเจ้าหุ่นยนต์ร้ายสั่งให้ออกกำลังกายทั้งสิ้น 12 ท่า ท่าละ 30 วินาที และให้เพื่อนๆ พักได้ระหว่างท่าที่ 10 วินาทีเพื่อให้ผลของการออกกำลังกายนั้นเป็นไปได้อย่างดีที่สุดนั่นเอง โดยการออกกำลังกาย 7 นาทีที่ CARROT Fit ออกแบบมาให้นี้สามารถทำได้ทุกที่ที่เพื่อนๆ มีเวลาว่างเลย ไม่จำกัดว่าต้องเป็นในยิม ที่บ้าน หรือในห้องนอนแต่อย่างใด นอกจากนี้แอพพลิเคชั่นยังมีฟังก์ชั่นการนับก้าวเดิน การติดตามความเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัว และการทำตารางการออกกำลังกายมาให้เพื่อนๆ ได้ใช้ประโยชน์กันอีกด้วย
CARROT Fit อาจไม่สามารถช่วยให้เพื่อนๆ ได้หุ่นที่ต้องการอย่างแท้จริง แต่อย่าน้อยๆ ก็เป็นการเสีย $2.99 เพื่อลองปรับร่างกายตัวเองให้ค่อยๆ เหมาะสมกับสภาพการออกกำลังกายเพื่อต่อยอดไปสมัครสมาชิกฟิตเนสเซ็นเตอร์หรือยิมต่างๆ อีกทอดหนึ่ง เพื่อหุ่นที่ต้องการในปี 2559 นี้กันนะครับ (CARROT Fit รองรับการใช้งานบน Apple Watch นะครับ)
[section label=”Nike+ Running” anchor=”nike-plus-running”]
Nike+ Running (Free – iOS / Android)
อยากเปลี่ยนตัวเองมาลองเป็นสายวิ่งหน่อยไหม ปีหน้าฟ้าใหม่คงเป็นโอกาสให้ได้ลองหัดวิ่งกับเข้าดูบ้าง และในเมื่อจะวิ่งอยู่แล้ว เราลองมาใช้ Nike+ Running เพื่อสร้างสังคมการวิ่งของตัวเองและเพื่อเก็บระยะทางการวิ่งตลอดปี (รวมทั้งตั้งเป้าหมายระยะทางการวิ่งของตัวเองประจำปี) กันดีกว่าเพื่อให้เราได้มีเป้าหมายที่แน่ชัดกัน
Nike+ Running เป็นแอพพลิเคชั่นฟรีดีๆ จาก Nike ที่คุณสามารถใช้ในการแทร็กการวิ่งของคุณได้ รวมไปจนถึงแชร์ผลการวิ่งของตัวเองไปยังโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ เมื่อจบการวิ่งในแต่ละครั้ง เพื่ออัพเดตให้เพื่อนๆ ได้เห็นว่าปีนี้คุณพร้อมจะมีสุขภาพดีหุ่นเฟิร์มจากการวิ่ง และคุณตั้งใจกับมันมากแค่ไหน เพราะวิทยาศาสตร์การกิฬายอมรับแล้วว่าการวิ่งคือการออกกำลังการแบบ Cardio ที่ยอดเยี่ยมกระเทียมดอง ซึ่งจะส่งผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจซึ่งจะขึ้นไปอยู่ในช่วง Fat Burn หรือมากกว่านั้นได้ และช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกายให้ได้เรือนร่างลีนๆ คลีนๆ กันได้เป็นอย่างดีหากวิ่งอย่างถูกหลัก ถูกโซนการเต้นของหัวใจ และได้ตามระยะเวลาที่กำหนดอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
[section label=”Smoke Free” anchor=”smoke-free”]
Smoke Free (Free – iOS / Android ซื้อฟังก์ชั่นเพิ่มจากใน Application ได้ )
หนึ่งในสิ่งที่หลายๆ ตั้งเป็นเป้าหมายให้กับตัวเองอยู่เป็นประจำแต่มักจะทำไม่ได้คือการพยายามเลิกบุหรี่ ดังนั้นในปี 2559 นี้ เราลองมาพยายามเลิกบุหรี่ด้วยการเอา Smoke Free แอพพลิเคชั่นดีๆ ฟรีๆ ที่มีให้ดาวน์โหลดบน AppStore และ PlayStore มาเป็นตัวช่วยกันดีกว่าครับ โดยเจ้า Smoke Free นี้จะช่วยคุณนับตังค์ที่คุณสามารถประหยัดได้นับตั้งแต่วันที่คุณเริ่มใช้แอพพลิเคชั่นและเริ่มเลิกสูบบุหรี่ สรุปสถิติว่าคุณระงับการสูบบุหรี่ของคุณมาได้กี่ตัวแล้ว เลิกสูบมาได้นานขนาดไหนแล้ว คุณได้ชัวโมงชีวิตของคุณกลับคืนมาอีกเท่าไหร่จากการเลิกสูบบุหรี่จนถึงปัจจุบัน รวมไปจนถึงสุขภาพองค์รวมของคุณที่ดีขึ้นนับจากวันที่คุณเลิกสูบบุหรี่
นอกจากนี้ Smoke Free ยังมีภารกิจประจำวันให้คุณได้ทำ ทิปส์ประจำวันให้คุณได้อ่านเพื่อช่วยคุณในการเลิกบุหรี่ให้ได้ รวมไปจนถึงให้รางวัลกับคุณเป็นเบจด์ต่างๆ จากการที่คุณเลิกบุหรี่ได้ตามระยะเวลาที่กำหนดแบบเป็นขั้นบันได ฟีเจอร์นี้สามารถปลดล็อกได้จากการซื้อ IAP แต่ทั้งนี้ฟังก์ชั่นฟรีอื่นๆ ที่จำเป็นนั้นสามารถใช้ได้อย่างเต็มที่โดยไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อ IAP แต่อย่างใด
[section label=”Sleep Cycle” anchor=”sleepcycle”]
Sleep Cycle alarm clock ( Free – iOS / Android ซื้อฟังก์ชั่นเพิ่มจากใน Application ได้ )
การนอนถือเป็นสิ่งสำคัญมากในการดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของเรา ปีที่ผ่านมาหลายๆ คนอาจมีปัญหาในเรื่องของการนอนจนเป็นปัญหาเรื้อรังส่งผลต่อการทำงานและการใช้ชีวิตของเราด้วย ปี 2559 นี้ APPDISQUS อยากเสนอตัวช่วยดีๆ ฟรีๆ ที่จะช่วยบริหารการนอนให้เราได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยประเมินว่าการนอนของเราในแต่ละครั้งนั้นมีคุณภาพขนาดไหนด้วยกับเจ้า Sleep Cycle alarm clock แอพพลิเคชั่นดีๆ บน iOS และ Android
Sleep Cycle ช่วยวิเคราะห์การนอนหลับและช่วยปลุกคุณให้ตื่นในแต่ละวันในช่วงที่คุณหลับพักผ่อนได้เต็มที่ที่สุดจนร่างกายของคุณพร้อมที่จะตื่นนอนแล้ว ทั้งนี้เพื่อให้คุณเริ่มต้นวันใหม่ได้อย่างสดชื่นและผ่อนคลาย โดยเจ้าตัวแอพพลิเคชั่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยีที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะของตัวเองในการตรวจเช็คการเคลื่อนไหวทางการนอนของคุณด้วยการใช้การตรวจจับเสียงและการสั่นสะเทือนมาเป็นเกณฑ์
วิธีการใช้งานนั้นก็ไม่ยาก เพียงแค่เปิดแอพพลิเคชั่นเอาไว้แล้ววางเจ้า iPhone / Android Phone ของคุณเอาไว้บนโต๊ะข้างที่นอนตอนหลับ แอพพลิเคชั่นจะหาช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการปลุกคุณในตอนเช้าโดยควบคุมห้อยู่ในช่วง 30 นาที +/- จากเวลาที่คุณตั้งไว้ให้ปลุกได้ ซึ่งจะเลือกปลุกในช่วงที่ร่างกายคุณพร้อมต่อการตื่นนอนที่สุด ทั้งนี้ต้องอย่าลืมชาร์ตแบตเตอร์รี่ของมือถือของคุณไว้ในระหว่างที่ใช้งานด้วยนะครับ
นอกจากนี้ Sleep Cycle ยังมี IAP ให้ใข้บริการโดยเก็บค่าบริการเป็นรายปีที่ปีละ $1.99 แต่สามารถเข้าถึงฟังก์ชั่นเพิ่มเติมเช่นการบันทึกการนอน การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ รวมไปจนถึงการควบคุมหลอดไฟ Philips HUE และฟังก์ชั่นพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งนี้ค่าต่างๆ ทางด้านการนอนที่เก็บได้นั้นจะสามารถซินค์กับ HealthApp ของ Apple ได้โดยอัตโนมัติ