Samsung Galaxy S7 และ Galaxy S7 edge เป็นสมาร์ทโฟนที่หลายๆคนคาดหวังใว้สูงครับ เพราะสำหรับสมาร์ทโฟนระบบ Android แล้วชื่อชั้นของ Samsung ยังคงปักธงในใจของคนทั่วไปอยู่ เหมือนเป็นทีมชาติ Android ยังไงยังงั้นเลยละครับ
และสำหรับการกลับมาในครั้งนี้ของ Samsung Galaxy S7 และ Galaxy S7 edge ต้องเรียกได้ว่าเป็นการพัฒนาเติมเต็มในสิ่งที่ขาดไปในรุ่นที่แล้ว โดยในเรื่องของหน้าตาภายนอกต้องบอกว่ามันดูเหมือนรุ่นก่อนหน้านี้มากครับ จะแตกต่างก็ในเรื่องของรายละเอียดที่ทำให้มันดูสมบูรณ์ขึ้นกว่าเดิม
ทั้งในเรื่องของคุณสมบัติกันน้ำ รองรับมาตราฐาน IP68 สามารถอยู่ในน้ำลึก 1.5 เมตรได้นาน 30 นาที ซึ่งก็ต้องบอกว่ามันมีใว้เผื่ออุบัติเหตุนะครับ เพราะถ้าน้ำเข้าไม่มีรับประกันความเสียหายนะครับ (ทุกแบรนด์นั่นละครับ) กล้องก็พัฒนาให้ดียิ่งขึ้น หลายคนอาจจะบอกว่าความละเอียดมันลดลงนะ? อย่าพึ่งใจร้อนครับในแง่ของเทคโนโลยีมันดีขึ้นมากเลยละ ซึ่งจะขอเอาใว้พูดในส่วนของกล้องอีกทีนะครับ
และรองรับ VoLTE (Voice over LTE) การโทรด้วยเสียงบนเครือข่าย 4G ซึ่งเสียงจะคมชัดยิ่งขึ้น มีเสียงรบกวนต่ำ และใช้เวลาเชื่อมต่อในการโทรออกได้รวดเร็วยิ่งกว่าเดิม
Samsung Galaxy S7 และ Galaxy S7 edge มาพร้อมวัสดุโลหะ และกระจกเหมือนรุ่นก่อน หน้าตาก็มีความคล้ายกันแต่เพิ่มเติมด้วยความโค้งมน โดยด้านหลังของทั้งคู่จะเปลี่ยนมาใช้กระจกโค้งเหมือนใน Galaxy Note 5 และหน้าจอของ Samsung Galaxy S7 จะเป็นกระจกโค้ง 2.5D แทนแบบเดิม สำหรับขนาดหน้าจอของทัั้งคู่ก็มีความแตกต่างกันแล้วครับโดย Samsung Galaxy S7 มีขนาดหน้าจอ 5.1 นิ้วส่วน Samsung Galaxy S7 edge มีขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้วและเป็นจอโค้ง ความละเอียดเท่ากันทั้งคู่ QHD 1440 x 2560 pixels และใช้กระจก Corning Gorilla Glass 4 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งมีหน้าจอสวยมากๆทั้งคู่เลยครับ
ทีเด็ดของรุ่นนี้เลยก็คือเรื่องกันน้ำมาตราฐาน IP68 ส่วนตัวปกติผมไม่ค่อยสนใจในตรงนี้นักเพราะแม้ว่าจะกันน้ำแต่ทุกแบรนด์เลยครับ ไม่ใช่เฉพาะกับ Samsung มือถือที่กันน้ำแต่กลับไม่มีการรับประกันถ้าน้ำเข้า? ผมก็เลยไม่ค่อยเห็นประโยชน์นัก แต่ว่าเมื่อวันก่อนทางเวบไปเที่ยวกันครับ แล้ววันนั้นฝนตก แต่ผมก็สามารถใช้งาน Samsung Galaxy S7 และ Galaxy S7 edge ได้อย่างสบายใจเลย จึงได้เห็นความสำคัญในส่วนนี้ครับ มันช่วยได้มากจริงๆกับกรณีแบบนี้
กล้องด้านหลังรวมทั้งชุดแฟลชและ Heart Rate ไม่นูนแล้วครับชุดกล้องอาจจะนูนบ้างแต่ก็เล็กน้อยมาก ซึ่งก็ทั้งชุดกล้องบางลงด้วยประกอบกับตัวเครื่องหนาขึ้นด้วยนะครับ5555 ซึ่งมันทำให้ตัวเครื่องดูสวยขึ้นนะครับ เป็นการเก็บรายละเอียดที่น่าสนใจ
ขอบตัวเครื่องเป็นโลหะเหมือนเดิม แต่ออกแบบให้เรียบสวยยิ่งขึ้น ด้านบนมีช่องใส่ซิม และไมค์ตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างมีช่องหูฟังขนาดมาตราฐาน 3.5 มม. และพอร์ท Micro USB 2.0 ซึ่งน่าเสียดายนะครับ เพราะหลายๆคนลุ้นให้ Samsung เปลี่ยนไปใช้มาตราฐานใหม่อย่าง USB-C แต่ก็เข้าใจนะครับว่าตอนนี้อุปกรณ์อื่นๆของ Samsung ยังไม่อัพเดตขนาดนั้น มันจะทำให้ผู้ใช้หลายๆคนที่ซื้ออุปกรณ์เสริมไปแล้วใช้ร่วมกันได้ลำบาก ซึ่งก็ยังไม่ใช่ความจำเป็นที่ต้องรีบร้อนในตอนนี้ครับ ถัดมาเป็นไมโครโฟน และลำโพง ซึ่งคุณภาพเสียงลำโพงค่อนข้างธรรมดาๆครับ ความดังอยู่ในระดับทั่วๆไป ด้านซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียง และด้านขวาเป็นปุ่ม Power
แบตเตอรี่ของทั้งคู่ต่างกัน Samsung Galaxy S7 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh ส่วน Glaxy S7 edge มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3600 mAh ซึ่งก็อึดดีทั้งคู่นะครับ รู้สึกได้เลยว่าแบตอึดขึ้นกว่าเดิม มาคราวนี้ Samsung ปรุงในส่วนของการจัดสรรค์พลังงานมาดีทีเดียว
ลูกเล่นใหม่ Always On Display แม้จะไม่สามารถเรียกได้ว่าแปลกใหม่แต่ต้องบอกว่า Samsung นำมาปรับปรุงให้น่าใช้ยิ่งขึ้นครับ มันเป็นการแสดงนาฬิกา (เลือกฉากหลังได้ด้วยนะ) หรือปฎิทิน รูปภาพ บนหน้าจอโดยที่เราปิดหน้าจออยู่ ซึ่งกินแบตเตอรี่ต่ำครับตามสเปคคือ 1 ชั่วโมง 1 เปอร์เซ็นเท่านั้น ดูสวยและคมดีทีเดียวครับ และไม่ต้องกลัวว่าหน้าจอจะเกิดโกสต์ เพราะภาพจะขยับอยู่เรื่อยๆ
คะแนนทดสอบของ Samsung Galaxy S7
ทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 128564 คะแนน
ทดสอบด้วย NenaMark2 ทำไปได้ 58.3fps
รองรับ Multi Touch 10 จุดสมบูรณ์
ทดสอบ GPS จับสัญญาณดาวเทียมได้รวดเร็วดี
คะแนนทดสอบของ Samsung Galaxy S7 edge
ทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 113535 คะแนน
ทดสอบด้วย NenaMark2 ทำไปได้ 59.7fps
รองรับ Multi Touch 10 จุดสมบูรณ์
ทดสอบ GPS จับสัญญาณดาวเทียมได้รวดเร็วดี
Samsung Galaxy S7 และ Galaxy S7 edge มาพร้อม Android 6.0.1 Marshmallow ครอบทับด้วย TouchWiz UI หน้าตาการใช้งานเหมือนๆรุ่นก่อน สวยงามดีครับ ความลื่นไหลทำได้ดีมากสามารถปรับขนาดไอค่อนของแอพพลิเคชั่นได้ถึง 3 รูปแบบ และสามารถปรับเปลี่ยนธีมได้ ที่น่าสนใจคือมีธีมที่รองรับลูกเล่น Always On Display ออกมาแล้วด้วยนะครับ มีทั้งธีมฟรีและเสียเงินให้เลือกอย่างจุใจ ต้องบอกว่าคลังธีมของ Samsung โตเร็ว แถมคุณภาพยังดีมากด้วยครับ มีอัพเดตตลอด
Briefing สำหรับผมยังคงอยากให้เอาออกไปเลยใจจะขาดครับ5555 (สามารถปิดได้ครับ) ซึ่งสำหรับใน Samsung Galaxy S7 และ Galaxy S7 edge มันลื่นขึ้นครับ แต่สเปคขนาดนี้ก็ยังแอบสะดุดๆเหมือนกันนะตอนเปิดใช้งาน ใครที่ชอบบ่นว่าไม่ลื่นก็เพราะคุณเปิด Briefing ใว้นี่ละครับ ปิดซะชีวิตเปลี่ยน^^
ที่น่าสนใจมากคือในส่วนของหน้าจอ Edge screen ที่พัฒนาการใช้งานให้มีประโยชน์มากยิ่งขึ้น เพิ่มพื้นที่ในการแสดงผล ไม่ยิดตัดกับส่วนโค้งอีกต่อไป รวมทั้งมีการแจกเครื่องมือพัฒนาให้กับผู้พัฒนาอิสระแล้วครับ เราน่าจะได้เห็นแอพพลิเคชั่นดีๆมารองรับในส่วนของหน้าจอ Edge screen มากยิ่งขึ้นในอนาคตอันใกล้
Fingerprint sensor แม่นยำพอฟกับรุ่นเดิมครับ ไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง รองรับ 4 ลายนิ้วมือสามารถใช้งานร่วมกับ Web Sign-in และปลดล็อค Samsung Account ได้ด้วยนอกจากการปลดล็อคหน้าจอ
Samsung Multi Window เป็นฟังก์ชั่นที่จะช่วยให้เราสามารถใช้งาน 2 แอพพลิเคชั่นได้อย่างสะดวกสบายในหน้าจอเดียว ปัจจุบันสามารถใช้งานได้หลากหลายแอพพลิเคชั่นพร้อมกัน โดยสามารถย่อ-ขยายเป็นไอค่อนได้ครับ เราสามารถเปิดในส่วนการใช้งาน Samsung Multi Window ได้โดยกดที่ปุ่ม Recent App ค้างใว้ครับ มันจะปรากฎแถบ Multi Window ขึ้นมา เราสามารถเลือกเปิดแอพพลิเคชั่นที่ต้องการใช้งานพร้อมกันขึ้นมาได้จากตรงนี้เลย หรือว่าขณะที่เปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นอยู่ก็สามารถลากนิ้วที่มุมหน้าจอลงมาเฉียงๆ ก็จะเป็นการย่อหน้าต่างลงมาเป็นอีกหน้าจอหนึ่งได้แล้วครับ ใช้ง่านและลื่นมากๆ แม้แต่เครื่องสเปคไม่สูงมากก็ยังใช้งานได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหล
เครื่องเล่นเพลงของ Samsung หันมาใช้ตัวมาตราฐานของ Android แทนครับแต่มีการปรับแต่งภายในให้ดูเหมือนเครื่องเล่นเพลงของตนเอง ยังคงมาพร้อมฟังก์ชั่น UHQ Upscaler, SoundAlive+ และ Tube Amp สามารถปรับแต่ง Equaliser ได้ด้วยตัวเองรวมทั้ง Adapt Sound ก็ยังมีมาให้เหมือนเดิมครับ อย่างที่ผมบอกใว้ในตอนต้นว่าลำโพงของ 2 รุ่นนี้ธรรมดามากครับ แต่เมื่อฟังผ่านหูฟังทั้ง Samsung Galaxy S7 และ Galaxy S7 edge เอามาใช้ฟังเพลงได้เลยละ เสียงแจ๋วครับ ยิ่งถ้าได้จับคู่กับหูฟังตัวโปรด มันสามารถขับออกมาได้จริงๆ และสามารถเล่นไฟล์วีดีโอได้อย่างลื่นไหล และมีลูกเล่น Popup Play มาให้ใช้งานกันเช่นเคย
ทดสอบเล่นเกมอย่าง Modern Combat 5 แน่นอนครับว่ามันยอดเยี่ยม เครื่องสเปคระดับนี้เรื่องเกมหายห่วงเลยครับ จะติก็ลำโพงไม่กระหึ่มนี่ละ ไม่งั้นจะเหมาะเอามาเล่นเกมมากๆเลย
Game Launcher ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเล่นเกม รวมเกมที่เราติดตั้งบนสมาร์ทโฟนเอาใว้ในที่เดียวกัน และจุดเด่นคือสามารถปรับโหมดประหยัดพลังงานในขณะเล่นเกมได้ถึง 3 ระดับช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น เราสามารถตั้งตามความเหมาะสมของเกมที่เราเล่นได้ นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ Game Tools ซึ่งเราสามารถตั้งให้แอพพลิเคชั่นช่วยแจ้งเตือน และล็อคปุ่มบนตัวเครื่องได้ ช่วยให้เวลาเล่นเกมนิ้วเราจะได้ไม่ไปโดนโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งมีประโยชน์มากครับ หลายๆคนต้องเคยหงุดหงิดกับกรณีแบบนี้กันแน่นอน
นอกจากนี้ก็มีคำสั่งย่อหน้าต่างเกมให้กลายเป็นไอค่อนบนหน้าจอี่เราสามารถย้ายไปมาได้ และคำสั่งจับภาพหน้าจอ ทำให้เราสามารถเล่นเกมไป จับภาพหน้าจอไปง่ายยิ่งกว่าเดิม และสุดท้ายทีเด็ดเราสามารถบันทึกเกมที่เราเล่นได้ครับ พร้อมบันทึกเสียงภายนอกไปด้วย ทำให้เราสามารถรีวิวเกมได้สดๆไปด้วยได้เลยครับ รีวิวเสร็จก็แชร์ขึ้น Youtube เลยสะดวกสุดๆ!
เรื่องของกล้องที่ลดความละเอียดลงมาเหลือ 12MP แต่ว่าขยายขนาดของ Pixels ให้ใหญ่มากขึ้น 1.4um ขนาดเซนเซอร์ 1/2.6 นิ้วมาพร้อมเทคโนโลยี Dual Pixel auto focus แบบเดียวกับที่อยู่บน Canon EOS 70D รูรับแสงกว้างมากขึ้น F1.7 ซึ่งจากการทดสอบต้องบอกว่ากล้องของ Samsung Galaxy S7 และ Galaxy S7 edge จับโฟกัสได้รวดเร็วมากครับ และถ่ายภาพกลางคืน หรือแสงน้อยคุณภาพดี และกล้องหน้าความละเอียด 5MP พัฒนาในเรื่องการถ่าย Selfie มาได้ดีมาก รูรับแสงกว้าง F1.7 เท่ากับกล้องหลังด้วยคุณภาพดีกว่าเดิมชัดเจน
ในส่วนของกล้องน่าประทับใจมากครับ ยอดเยี่ยมทั้งภาพกลางแจ้ง ในร่ม และกลางคืน แถมดีทั้งกล้องหลังและกล้องหน้า ถ้าคุณไม่ใช่คนที่ชอบเล่นกล้อง เวลาไปเที่ยวพกเจ้า Samsung Galaxy S7 หรือ Galaxy S7 edge ผมว่าโอเคเลยนะ โฟกัสใวมาก แค่ยกขึ้นมาแล้วถ่ายได้เลย แทบไม่ต้องแตะหาจุดโฟกัส มุมมองกว้างถ่ายสนุกครับ
มาชมตัวอย่างภาพถ่ายของ Samsung Galaxy S7 และ Galaxy S7 edge กันครับ คลิ๊กที่ภาพเพื่อดาวน์โหลดไปรับชมได้ครับ ความละเอียด 100% ไม่ผ่านการปรุงแต่ง
Samsung Galaxy S7 edge
Samsung Galaxy S7