จะ 4.0″ (iPhone SE) 4.7″ (iPhone 6, iPhone 6s) หรือ 5.5″ (iPhone 6 Plus, iPhone 6s Plus) ดี? วันนี้ APPDISQUS มีบทความเปรียบเทียบดีๆ จาก iMore มาฝากเพื่อนๆ ทุกคนเพื่อให้ตัดสินใจกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและง่ายดายมากยิ่งขึ้น
ณ ตอนนี้ต้องถือว่า Apple เดินทัพเต็มขนาดหน้าจอที่นิยมใช้กันในปัจจุบันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยล่าสุดเพิ่งเปิดตัว iPhone SE ซึ่งเป็น iPhone ที่มีพร้อมสเป็กเทียบเท่าเรือธง iPhone 6s แต่หน้าจอ 4 นิ้ว และก่อนหน้านี้อย่าง iPhone 6s ที่มาพร้อมขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว และ iPhone 6s Plus กับขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้วที่ค่อนไปทาง Phablet มากกว่ามือถือ ซึ่งหากว่ากันง่ายๆ แล้ว หากคุณเลือก iPhone SE สิ่งที่คุณได้จากหน้าจอ 4 นิ้วก็คือประสิทธิภาพในการพกพาอย่างสูงสุด ในขณะที่ iPhone 6s Plus นั้นให้ประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุดกับคุณ แน่นอนว่าเครื่องไหนดีที่สุดนั้นย่อมขึ้นอยู่กับสภาพและลักษณะการใช้งานของคุณ และวันนี้เราจะพามาแยกกันเป็นหัวข้อต่อหัวข้อเพื่อดูตวามแตกต่างและเลือกความเหมาะสมที่ถูกต้องสำหรับคุณ!
[section label=”ขนาดหน้าจอ” anchor=”screen-size”]ขนาดของหน้าจอ
iPhone SE มาพร้อมหน้าจอขนาด 4 นิ้ว ความละเอียด 326 ppi (pixels per inch) ในขณะที่ iPhone 6s นั้นมาพร้อมขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว ความละเอียด 326 ppi เช่นเดียวกัน ส่วน iPhone 6s Plus นั้นมาพร้อมขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด 401 ppi โดยหน้าจอทุกขนาดเป็นหน้าจอแสดงผลแบบ LED (Light Emmiting Diode) DD IPS (Dual Domain In-Plane Switching) LCD (Liquid Crystal Displays) ตัวอักษรย่อเต็มไปหมดก็อย่าเพิ่งเบลอไป สรุปง่ายคือหน้าจอของพวกมันทุกรุ่นนั้นสว่าง คมชัด พร้อมสีสันที่คงที่ในมุมมองที่กว้างขวางและยังมองเห็นได้ชัดแม้ในสภาวะแสงจ้านั่นเอง
ทีนี้ลองมาดูกันดีกว่าว่าทั้ง 4 รุ่นเมื่อว่ากันที่ขนาดหน้าจอการแสดงผลแล้วมันต่างกันอย่างไร:
ขนาดหน้าจอ 4 นิ้วนั้นปัจจุบันนี้อาจนับได้ว่าเป็นขนาดหน้าจอที่โลว์เอ็นด์ที่สุดแล้ว และถึงแม้ว่าบรรดาผู้ผลิตมือถือจะยังคงผลิตมือถือหน้าจอขนาดนี้ออกมากันอยู่บ้างแต่ผม (Rene Ritchie – Editor จาก iMore เจ้าของบทความ) ก็คิดว่าแทบไม่มีตัวใดที่จะมาเป็นคู่แข่งกับ iPhone SE ได้เลย ในขณะที่กับสเกลหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นของ Apple นั้นถือเป็นปกติของตลาดหน้าจอใหญ่ในปัจจุบันแถมผู้ผลิตบางรายยังมีผลิตไปถึงหน้าจอขนาด 6 นิ้วอีกด้วย
และเพราะขนาดหน้าจอนั้นเป็นหน้าต่างแสดงผลอินเตอร์เน็ตและแอพพลิเคชั่นที่สำคัญ คุณจึงจำเป็นที่จะต้องชั่งน้ำหนักสิ่งที่คุณต้องการจะเห็นกับสิ่งที่คุณต้องการจะพกติดตัวไปไหนมาไหนด้วยให้ดีๆ
- หากคุณเป็นคนต้องเดินทางบ่อยโดยมี iPad หรือ Macbook (หรือแท็บเล็ตและโน็ตบุ๊คใดๆ ก็ตาม) ติดตัวอยู่แล้ว คุณอาจจะโอเคกับการเลือกมือถือตัวเล็กอย่าง iPhone SE
- หากคุณอยากเดินทางโดยการพกอุปกรณ์เพียงตัวเดียว คุณอาจต้องการ iPhone 6s Plus มากกว่าเพื่อมาตอบโจทย์คุณ
[section label=”จำนวนพิกเซล” anchor=”pixel-count”]
จำนวนพิกเซล
iPhone SE มีพร้อมหน้าจอความละเอียด 1135*640 พิกเซล (รวมทั้งสิ้น 727,040 พิกเซล) ส่วน iPhone 6s นั้นมาพร้อมความละเอียดหน้าจอ 1334*750 พิกเซล (รวมทั้งสิ้น 1,000,500 พิกเซล) ในขณะที่ iPhone 6s Plus นั้นมาพร้อมความละเอียดหน้าจอ 1920*1080 พิกเซล (รวมทั้งสิ้น 2,073,600 พิกเซล) ซึ่งจริงๆ แล้วภายในสามารถแสดงผลได้ถึง 2208*1242 พิกเซล (รวมทั้งสิ้น 2,742,336 พิกเซล) แต่ถูกลดขนาดความละเอียดลงเพื่อการแสดงผลของมัน
ทีนี้ลองมาดูกันว่าเมื่อว่ากันถึงความละเอียดพิกเซลแล้ว แต่ละเครื่องต่างกันอย่างไร:
- ชัดเจนมากว่าหากความละเอียดพิกเซลมีความสำคัญมากสำหรับคุณ คุณก็ควรจะอยู่กับ iPhone 6s Plus นั่นล่ะ
[section label=”การเข้าถึงการใช้งาน” anchor=”accessibility”]
การเข้าถึงเพื่อการใช้งาน
หากคุณไม่ต้องการความละเอียดพิกเซลที่มากขึ้น แต่ต้องการเพียงขนาดพิกเซลที่ใหญ่คุณ แน่นอนว่า iPhone 6S และ iPhone 6S Plus ก็ตอบโจทย์คุณได้เช่นเดียวกัน ต้องขอบคุณฟีเจอร์ Display Zoom ที่คุณสามารถเลือกตั้งค่าให้ iPhone 6s ใช้อินเตอร์เฟสหน้าจอเดียวกับ iPhone SE ได้ซึ่งจะช่วยเพิ่มขนาดการมองเห็นของมันขึ้นมา และในขณะเดียวกันคุณก็สามารถตั้งค่าให้ iPhone 6s Plus ใช้อินเตอร์เฟสน้าจอเดียวกับ iPhone 6s ได้ด้วย
การเปิด Display Zoom ไม่ได้หมายถึงการเพิ่มอะไรให้มันมากขึ้นบนหน้าจอ แต่หมายถึงการทำให้แต่ละอย่างที่อยู่บนหน้าจอมีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อให้ง่ายต่อการมองเห็นและการใช้งานนั่นเอง สำหรับใครก็ตามที่มีปัญหาทางด้านสายตาและการมองเห็น ฟังก์ชั่นนี้ถือเป็นสิ่งที่คุณควรพิจารณาเปิดใช้งานเป็นอย่างยิ่ง
- หากคุณเพียงแค่ต้องการขนาดไอคอนและขนาดตัวอักษรที่ใหญ่ขึ้นเพื่อการใช้งานที่สะดวกขึ้น คุณลองไปเลือก iPhone 6 หรือ iPhone 6s ดีกว่าแล้วเลือกเปิดฟังก์ชั่น Display Zoom เอาน่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม
[section label=”การหยิบจับ” anchor=”reachability”]
การหยิบฉวยเพื่อการใช้งาน
ขนาดหน้าจอ 4 นิ้วใน iPhone SE นั้นเล็กพอที่คนปกติทั่วไปจะสามารถหยิบฉวยได้จากทุกมุมของหน้าจอ ถือได้ง่ายๆ แม้พวกใช้นิ้วโป้งกับมือเพียงมือเดียวเลยด้วยซ้ำ ในขณะที่หน้าจอ 4.7 นิ้วบน iPhone 6s และ 5.5 นิ้วบน iPhone 6s Plus นั้นไม่ได้ง่ายแบบนั้น
ทั้งนี้เพื่อเป็นการทดแทนการใช้งานมือเดียวที่ขาดหายไปในหน้าจอขนาดใหญ่ Apple ได้เพิ่มฟีเจอร์น่าสนใจเข้าไปเพื่อให้สามารถใช้งานมือถือได้ง่ายขึ้นโดยการแตะที่ปุ่มโฮมเบาๆ สองครั้ง เพื่อขยับอินเตอร์เฟสบนหน้าจอทั้งหมดของเราลงครึ่งหน้าเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานส่วนบนๆ ของหน้าจอแสดงผลใหญ่ๆ ได้ด้วยมือเดียว
- หากคุณเป็นพวกชอบใช้งานมือเดียวแบบเป็นนิจ iPhone SE ตอบโจทย์คุณมากกว่า
- หากคุณยังสามารถใช้งานหน้าจอขนาดใหญ่ หรือใหญ่ขึ้นไปอีกได้อยู่ อยู่กับ iPhone 6s และ iPhone 6s Plus แล้ว ชเลือกใช้งานให้สะดวกขึ้นโดยการแตะปุ่มโฮมสองครั้งเมื่อต้องการใช้งานท่อนบนของหน้าจอใหญ่ด้วยมือเดียวดีกว่า
[section label=”การใช้งานจริง” anchor=”productivity”]
ประโยชน์จากการใช้งานจริง
iPhone 6 Plus นั้นมีจำนวนพิกเซลที่เยอะมากจนหากใช้งานในแนวนอน มันจะทำหน้าที่ได้คล้าย iPad เลยทีเดียว แอพพลิเคชั่นอีเมล (Mail) จะแสดงผลเป็นสองคอลัมน์แทนการแสดงผลแบบคอลัมน์เดียวในแนวตั้ง เช่นเดียวกันกับแอพพลิเคชั่นอย่าง Messages, Notes และแอพพลิเคชั่นอื่นๆ อีกมากมาย แอพพลิเคชั่นอย่าง Safari เองก็ได้ความสามารถของ iPad ไปแทบทั้งหมด ทั้งนี้มันอาจจะฟังดูไม่ได้มีอะไรมากมายนัก แต่เมื่อว่ากันถึงการใช้งานจริงนั้นกลับส่งผลมากทีเดียว
- หากคุณชอบไอเดียเหมือนมีโทรศัพท์จอใหญ่เมื่อแสดงผลแนวตั้ง และเหมือนมี iPad เล็กๆ เมื่อแสดงผลในแนวนอน iPhone 6s Plus คือใช่สำหรับคุณ
[section label=”ขนาดตัวเครื่อง” anchor=”phone-casing”]
ขนาดตัวเครื่อง
แน่นอนว่าหน้าจอใหญ่ขึ้น ตัวเครื่องก็ต้องใหญ่ขึ้นเป็นเงาตามตัว
- iPhone 6s Plus นั้นมาพร้อมขนาดความสูง 6.23 นิ้ว (158.2 มม.) ความกว้าง 3.07 นิ้ว (77.9 มม.) ความหนา 0.29 นิ้ว (7.3 มม.) และน้ำหนัก 192 กรัม
- iPhone 6s นั้นมาพร้อมขนาดความสูง 5.44 นิ้ว (138.3 มม.) ความกว้าง 2.64 นิ้ว (67.1 มม.) ความหนา 0.28 นิ้ว (7.1 มม.) และน้ำหนัก 143 กรัม
- iPhone SE นั้นมาพร้อมขนาดความสูง 4.87 นิ้ว (123.8 มม.) ความกว้าง 2.31 นิ้ว (58.6 มม.) ความหนา 0.30 นิ้ว (7.6 มม.) และน้ำหนัก 112 กรัม
นั่นหมายความว่า iPhone SE นั้นเหมาะกับการใส่ไว้ในกระเป๋ากางเก็ง กระเป๋าสตางค์ขนาดเล็กของสาวๆ หรือกระเป๋าสะพายมากที่สุด อีกทั้งยังเบาจนสามารถถือเอาไว้ในระยะเวลานานๆ ได้อย่างสบายมือที่สุด ในขณะที่ iPhone 6s Plus นั้นต้องการกระเป๋าที่ใหญ่กว่า และต้องการความระมัดระวังในการใช้งานมือเดียว และการจะถือเครื่องไว้ใช้งานในระยะเวลานานๆ นั้นอาจดูสะดวกน้อยที่สุด
- หากคุณต้องการเครื่องที่สามารถใส่เข้าไปในกระเป๋ากางเกงยีนส์แบบสกินนี่หรือสามารถหยิบจับบนอุ้งมือเล็กๆ ของคุณ หรือสามารถใช้งานบนมือเดียวได้สะดวกที่สุด iPhone SE คือคำตอบสำหรับคุณ
[section label=”เหมาะกับ iPhone SE?” anchor=”who-for-iphonese”]
ใครกันที่เหมาะสมกับ iPhone SE ขนาดหน้าจอ 4 นิ้ว?
หากคุณต้องการ iPhone ที่มีขนาดเล็กที่สุดในปัจจุบัน iPhone ตัวที่จะสามารถใส่กระเป๋าเล็กๆ ของคุณได้แต่ยังคงเต็มไปด้วยขุมพลังแห่งประสิทธิภาพและการทำงานเท่าที่ Apple จะออฟเฟอร์ให้ได้ iPhone SE ตอบโจทย์กับคุณที่สุดแล้ว
หรือพูดสั้นๆ ง่ายๆ ก็คือหากขนาดที่เล็กคือหัวใจของคุณ ก็เลือก iPhone SE เถอะครับ
[section label=”เหมาะกับ iPhone 6s?” anchor=”who-for-iphone6s”]
ใครกันที่เหมาะสมกับ iPhone 6s ขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว?
หากคุณต้องการ iPhone ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นแต่ไม่ได้รู้สึกใหญ่เทอะทะเกินไป และมาพร้อมฟิเจอร์ดีๆ เจ๋งๆ ใหม่ๆ มากมายแต่ยังคงสามารถจับถือหรือใส่กระเป๋าได้ง่ายๆ อยู่ คุณควรเลือก iPhone 6s
หรือพูดสั้นๆ ง่ายๆ ก็คือหากคุณต้องการ iPhone ที่ยังให้ความรู้สึกเหมือนมือถือที่คุ้นเคย เลือก iPhone 6s สิครับ
[section label=”เหมาะกับ iPhone 6s Plus?” anchor=”who-for-iphone6splus”]
ใครกันที่เหมาะสมกับ iPhone 6s Plus ขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว?
หากคุณต้องการ iPhone ที่ใหญ่ทั้งขนาดและความรู้สึก แต่ก็มาพร้อมพิกเซลละเอียดยิบ กล้องที่ดีกว่า และแบตเตอร์รี่การใช้งานที่ยาวนานกว่า ถึงแม้ว่ามันจะไม่สะดวกกับการยัดใส่กระเป๋าของคุณได้ทุกกระเป๋าที่คุณมือ หรือไม่สะดวกที่จะถือใช้ในมือเดียว ถ้าเป็นแบบนั้นก็เลือก iPhone 6s Plus เถอะครับ
หรือพูดสั้นๆ ง่ายๆ ก็คือ หากคุณต้องการโทรศัพท์ที่เป็นเหมือนแท็บเล็ตขนาดเล็กแล้วล่ะก็ เลือก iPhone 6s Plus เถอะครับ
โทรศัพท์ถือเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นในชีวิตของคุณมากเป็นอันดับต้นๆ ของชีวิต แถมยังเป็นอุปกรณ์ที่อยู่ติดตัวคุณไปแทบทุกที่ ทุกเวลา ดังนั้นการเลือกโทรศัพท์ที่เหมาะสมกับคุณจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากทีเดียว APPDISQUS หวังว่าบทความนี้จะสามารถช่วยให้เพื่อนๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะไปต่อกับ iPhone SE / iPhone 6s หรือ iPhone 6s Plus ดีเมื่อถึงเวลา
และทันทีที่ iPhone SE เข้าจำหน่ายในบ้านเรา APPDISQUS จะนำมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้เห็นการใช้งานกันโดยเร็วที่สุดครับ =) แล้วรอติดตามกันละ