Wiko เป็นแบรนด์มือถือที่เข้ามาทำตลาดในบ้านเราตั้งแต่ประมาณสองปีก่อนครับ โดยมีพื้นฐานของการออกแบบจากฝั่งยุโรปหรือประเทศฝรั่งเศสนั้นเอง มักจะปล่อยเครื่องออกมาจำหน่ายกันในระดับราคาที่ไม่แพงครับ ทำให้มีผู้ที่สนใจและพูดถึงแบรนด์นี้กันบ่อยมากทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อปีที่ผ่านมา
เอกลักษณ์ของเครื่องสมาร์ทโฟนจากทาง Wiko ก็คือการเลือกใช้วัสดุและความสวยงาม รวมถึงเครื่องรุ่น U Feel Prime ที่ผมได้มารีวิวในบทความนี้ด้วยครับ
ตัวเครื่อง U Feel Prime เป็นวัสดุโลหะที่จับสัมผัสแล้วรู้สึกดีมีราคาแม้จะเปิดราคาจำหน่ายมาในราคาแค่ 7,990 บาทครับ ตัวเครื่องหลังโค้งเข้ามือ จับถือถนัด เป็นอีกเครื่องหนึ่งที่ออกมาในตลาดขนาดหน้าจอ 5นิ้ว ที่ปัจจุปันค่อนข้างมีตัวเลือกน้อยเหลือเกิน
ด้วยขนาดหน้าจอ 5 นิ้ว จุดเด่นคือจะมีขนาดเครื่องที่ไม่ใหญ่ถือใช้งานมือเดียวได้พอไหว กระจกจอขอบโค้ง 2.5D ด้านหลังตัวเครื่องมีการฝังโลโก้ Wiko รวมถึงขอบเส้นตัดบนล่างแบบมีการทำรายละเอียดลงบนพื้นผิว งานละเอียดและการประกอบแน่นหนาครับ
ที่สแกนลายนิ้วมืออยู่ใต้หน้าจอซึ่งทำหน้าที่ได้หลายอย่าง เป็นทั้งปุ่มโฮม (เมื่อกดจะเป็นปุ่มโฮม) เป็นปุ่มย้อนกลับในตัว (เมื่อแตะจะเป็นปุ่มย้อนกลับ) และเป็นปุ่ม Recent App หรือปุ่มแสดงรายชื่อแอพย้อนหลัง (กดค้างไว้จะเป็นปุ่ม Recent App) ทำหน้าที่เป็นสามปุ่มหลักของระบบ Android ได้ครบหมดในปุ่มเดียว
โดยเจ้าสามปุ่มหลักของระบบ Android ที่ว่านี้ จะยังมีไอคอนปรากฏอยู่ในหน้าจอให้เราใช้ได้เช่นกันด้วย แต่ถ้าเราไม่ต้องการเพราะดูว่ามันมีหน้าที่ซ้ำซ้อนกันกับปุ่มสแกนนิ้ว ก็สามารถนำไอคอนทั้งสามปุ่มออกจากหน้าจอได้ในการตั้งค่าภายในครับ
สำหรับการสแกนนิ้วเข้าใช้งานตัวเครื่อง เราสามารถใช้การแตะเพื่อสแกนนิ้วได้โดยทันทีแบบไม่ต้องกดปลุกเครื่องขึ้นมาก่อนนะครับ เอานิ้วที่จะใช้สแกนทัชค้างไว้บนตำแหน่ง ตัวเครื่องก็จะเปิดจอพร้อมเข้าหน้าการใช้งานให้ทันที
จากที่ทดสอบใช้ ถ้าเราสแกนนิ้วจากหน้าจอที่ปิดอยู่ จะใช้เวลามากกว่าการสแกนนิ้วหลังจากเปิดหน้าจอขึ้นมาก่อนแล้วเล็กน้อย ซึ่งเจ้าปุ่มนี้เรากำหนดค่าได้นะครับ ว่าถ้าสแกนลายนิ้วมือของนิ้วใดแล้วให้เข้าการใช้งานแอพใดในทันทีที่เปิดขึ้นมา รองรับการสแกนนิ้วได้รวม 5 นิ้วมือ
แถมเจ้าปุ่มนี้ยังใช้ในการปิดและล็อคหน้าจอได้โดยการกดลงไปสองครั้งติดกัน จะเห็นว่าเจ้าปุ่มนี้ปุ่มเดียว ใช้งานกันได้ครอบจักรวาลเลย
ด้านล่างออกแบบเหมือนเป็นลำโพงคู่แต่จริงๆ เป็นลำโพงเพียงด้านเดียวนะครับ พอร์ต Micro USB สำหรับชาร์จพลังงานและเป็นชนิด OTG ที่รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกได้
รองรับการใช้งานสองซิมการ์ดแบบไฮปริด หมายถึงช่องซิมการ์ดที่สองต้องเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง ใส่ซิมการ์ดหรือใส่เมมโมรีเพิ่ม (รองรับ Micro SD card สูงสุด 64GB)
ในด้านตัวเครื่องถือว่าทำออกมาได้ดีครับ แม้หน้าตาจะดูไม่ได้แตกต่างไปจากความคุ้นชินเดิมๆ มากนัก แต่รายละเอียดและตัววัสดุที่นำมาใช้ทำให้เครื่องดูสวยและหรูเกินราคาทั้งด้านหน้าและด้านหลังครับ สมกับเป็นตัวเครื่องของทาง Wiko ที่เน้นในเรื่องของการออกแบบเป็นสิ่งสำคัญ
อุปกรณ์ภายในกล่องจะมีเคสใส ฟิล์มกันรอย ตัวอแดปเตอร์แปลงขนาดซิม และเข็มจิ้มถาดซิมที่ออกแบบมาน่ารักครับ
ใส่เคสแล้วดูสวยนะครับ ด้านหน้าและด้านหลัง
การใช้งานภายใน[section label=”การใช้งานภายใน” anchor=”performance”]
Wiko U Feel Prime มาพร้อม Android 6.0.1 และจากสเปคภายในที่ใช้ชุดประมวลผล Snapdragon 430 อาจจะทำให้หลายคนรู้สึกยังไม่มั่นใจแม้จะเป็นซีพียูตัวใหม่ แต่เพราะยังเป็นซีรี่ย์ในตระกูลเลข 4xx อาจจะสงสัยว่า ประสิทธิภาพการใช้งานจะเพียงพอหรือไม่?
จากที่ได้ทดสอบใช้มาก็ต้องบอกว่า อยู่ในระดับพอใช้ครับ ไม่หน่วงช้าให้หงุดหงิดอะไร การใช้งานต่างๆ ผ่านแอพพลิเคชั่นและเกมที่ผมได้ทดสอบมันสามารถใช้งานและเล่นเกมต่างๆ ได้ทั้งหมดครับ แค่มันไม่ได้เป็นความลื่นไหลที่ดีทึ่สุดเท่านั้นเอง จุดเด่นของชุดประมวลผลตัวนี้ที่ทาง Wiko เลือกนำมาใช้เพราะเรื่องของการประหยัดพลังงานมากกว่า
แรมภายในใส่เข้ามาให้ถึง 4GB การสลับแอพทำงานรวดเร็วไม่มีปัญหาแน่นอน หน่า UI ค่อนข้างเรียบง่าย แต่ปรับแต่งได้บ้าง ใช้งานไม่ยากครับ
ฟังชั่นการใช้งานภายในที่ทาง Wiko ใส่เข้ามาให้นั้นก็มีหลายตัวที่น่าสนใจครับ เช่นหน้า Left page ที่รวบรวมไอคอนการทำงานและการแสดงผลส่วนที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้ไว้ในหน้าเดียว เช่นปุ่มรายชื่อติดต่อด่วน แอพพลิเคชั่นที่เราใช้งานบ่อยๆ หรือข่าว, โซเชี่ยลที่น่าสนใจซึ่งเราระบุแหล่งข่าวที่เราสนใจได้ ทั้งหมดโดยรวมเอาไว้แค่สไลด์มาหน้า Left page ในหน้าแสดงผลด้านซ้ายสุดครับ
สิ่งที่ผมชอบใน Wiko U Feel Prime ก็คือแอพพลิเคชั่นและฟังชั่นลูกเล่นต่างๆ ที่ใส่เข้ามาให้ เช่นแอพล็อกการเข้าถึงไฟล์ข้อมูลและแอพล็อกการใช้งานแอพพลิเคชั่น เป็นแอพที่ออกแบบมาดีมากๆ เราสามารถกำหนดรหัสผ่านการเข้าใช้งานไฟล์ภายในเครื่องและแอพพลิเคชั่นเอาไว้ได้ครับ เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นมาเปิดดูหรือเปิดใช้งานโดยเราไม่ต้องการ กำหนดรหัสผ่านเอาไว้ได้ทั้งเป็นรูปแบบ เป็นตัวเลข หรือจะใช้ลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อกเข้าใช้งานไฟล์หรือแอพเหล่านั้นก็ได้เช่นกัน ที่แสบกว่าแอพพลิเคชั่นประเภทเดียวกันนั้น ก็คือเรื่องที่เมื่อมีใครพยายามจะเข้าใช้งานไฟล์หรือแอพที่เราป้องกันไว้ด้วยรหัสผ่านผิดๆ แล้วละก็ ตัวเครื่องจะทำการบันทึกภาพบุคคลนั้นเอาไว้ให้เราโดยอัตโนมัติด้วยนะครับ แสบจริงๆ ^^
มีฟังชั่นลูกเล่นที่น่าสนใจในการใช้งานได้ในขณะที่เครื่องปิดหน้าจออยู่หลายตัว เช่นการเคาะหน้าจอสองครั้งเพื่อปลุกเครื่อง (เคาะที่ปุ่มโฮมบนหน้าจอสองครั้งเพื่อปิดหน้าจอได้เช่นกัน) หรือการวาดตัวอักษรลงไปยังหน้าจอขณะปิดอยู่เพื่อเรียกการใช้งานด่วนที่เราตั้งค่าไว้ได้โดยตรง
แอพพลิเคชั่นสำหรับการจัดการและการดูแลเครื่องต่างๆ มีให้มาครบครับ
รองรับการใช้งานเป็นวิทยุ FM และรองรับเคสฝาปิดแบบพิเศษ WiBOARD Folio ที่มีช่องแสดงผลการแจ้งเตือนที่เรากำหนดได้เอง น่าเสียดายที่ผมได้มาแต่ตัวเครื่อง ไม่ได้เคสฝาปิดตัวนี้มาด้วยครับ แต่ดูว่ามันน่าสนใจมากทีเดียว ไม่แน่ใจว่าทาง Wiko จะนำเข้ามาจำหน่ายร่วมกันหรือไม่
ทดสอบการใช้เล่นเกมและไฟล์วีดีโอ HD ต่างๆ ไหลลื่นครับ เกมขนาดใหญ่กราฟฟิคสูงมีการกระตุกแลคให้เห็นบ้าง การโหลดต่างๆ ขณะเปลี่ยนด่านอยู่ในระดับปานกลาง สามารถที่จะนำมาใช้ในการเล่นเกมดูหนังได้อยู่ครับ
หน้าจอแสดงผลของมันเองสวยนะ สีสันกำลังดี ความคมชัดสูงครับ เพราะหน้าจอขนาด 5 นิ้วแต่ความละเอียด FullHD มุมมองกว้าง
เรื่องคุณภาพเสียงดังใช้ได้ เสียงตามมาตรฐานมือถือทั่วไป ไม่เด่นอะไรมากนักด้านเสียง ปกติๆ
แต่เรื่องที่ค่อนข้างจะเด่นเข้าตา นั้นก็คือเรื่องของแบตเตอรี่ ด้วยตัวเครื่องของ Wiko U Feel Prime ใช้หน่วยประมวลผลที่เน้นในด้านการประหยัดพลังงานอย่าง Snapdragon 430 ทำให้แบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh ของมัน สามารถใช้ทำงานต่อเนื่องได้นานกว่าที่คาดไว้ครับ
ผลทดสอบต่างๆ[section label=”ผลทดสอบต่างๆ” anchor=”test”]
การจับสัญญาณ GPS ทำได้ไวมากๆ จับตำแหน่งได้แม่นและไวแม้ไม่ได้เปิดใช้อินเตอร์เน็ตช่วย ยอดเยี่ยมครับ
กล้องถ่ายภาพ[section label=”กล้องถ่ายภาพ” anchor=”camera”]
Wiko U Feel Prime เป็นเครื่องราคาเจ็ดพันที่กล้องถ่ายภาพดีนะ กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช และกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลชคู่ ทั้งคู่กล้องหน้ากล้องหลังถ่ายง่ายคุณภาพใช้ได้ทั้งคู่เลยครับ
มีโหมดการถ่ายภาพให้ใช้งานค่อนข้างครบ มีโหมดบิวตี้ พาโนรามา HDR ถ่ายภาพกลางคืน ถ่ายภาพกีฬา ตรวจจับใบหน้าและรอยยิ้ม รวมถึงการถ่ายภาพเซลฟี่แบบมุมกว้าง หรือโหมด Wideselfie นั้นเอง
ตัวอย่างภาพถ่าย
ตัวอย่างบิวตี้โหมด เปิดและปิดจากกล้องหน้า ^^
[section label=”สรุปท้ายรีวิว” anchor=”synopsis”]สรุปท้ายรีวิว
จริงๆ แล้ว Wiko U Feel Prime เป็นเครื่องสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ในตลาดขนาดหน้าจอ 5 นิ้วที่ครบเครื่องมากครับ ทั้งตัววัสดุภายนอกที่ทำออกมาได้ดูดีมีราคา ฟังชั่นใช้งานและแอพพลิเคชั่นที่เตรียมไว้ให้ พร้อมสเปคเครื่องที่ใส่แรมมาไว้ถึง 4GB และหน่วยความภายใน 32GB แต่ความมั่นใจอาจจะโดนขัดไปกับการที่ Wiko เลือกใช้ตัวประมวลผลเป็น Snapdragon 430 เพราะด้วยตัวเลขของซีรีย์หมายเลข 4 อาจจะดูต่ำไปในสายตาของผู้ใช้หลายคนนั้นเองครับ
ในสภาพการใช้งานจริง ประสิทธิภาพของมันนั้นให้ผลลัพท์ในระดับเกรด B+ หมายถึงใช้งานได้ทั้งหมดทุกอย่างบนระบบ Android ได้แบบไม่มีปัญหา แต่ทว่าในการเล่นเกมใหญ่ๆ กราฟฟิคสูง ก็ยังมีผลให้เห็นถึงความแตกต่างจากรุ่นใหญ่ที่ใช้ CPU รุ่นที่ดีกว่านี้อย่างรู้สึกได้เช่นกัน แลกกับสิ่งที่ได้มาก็คือความโดดเด่นในเรื่องของการประหยัดพลังงาน ที่ตัวเครื่องสามารถอยู่กับเราได้ยาวนานกว่าครับ
ฉะนั้นสำหรับ Wiko U Feel Prime ผมสรุปให้ว่าเป็นงานดีตัวหนึ่งของทาง Wiko ที่เหมาะกับผู้ใช้ที่ไม่เน้นเล่นเกมกราฟฟิคสูงมากนักครับ (แม้จริงๆ มันก็สามารถเล่นได้นะ) เพราะในเรื่องการทำงานอื่นๆ ที่เหลือทุกอย่างก็อยู่ในระดับเกินพอจะใช้ องค์ประกอบอื่นๆ ทั้งหลายของ Wiko U Feel Prime ทำออกมาได้ดูดีครับ