หลังจากที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ลงมติผ่าน พรบ. คอมฯ อย่างเป็นเอกฉันท์ ที่หลายคนมองว่าหลักการของ พรบ. ฉบับนี้ขัดแย้งการหลักการเสรีภาพบนอินเทอร์เน็ต และการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน กลุ่ม Anonymous (@blackplans) ซึ่งใช้ชื่อเดียวกันกับกลุ่ม “Anonymous” ที่เป็นแฮ็กเกอร์ชื่อดังระดับโลก ได้ออกมาเป็นตัวแทนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต โดยระบุว่า หากรัฐบาลไทยต้องการประกาศสงครามกับอินเทอร์เน็ต อินเทอร์เน็ตก็ขอจัดให้ …”
#Anonymous #hacks #Thai Gov Imm Ministry, dumps over 9,000 logins to protest #internet censorship law in #Thailand | https://t.co/l6D6q6Pg1w pic.twitter.com/UuJQu86JrV
— Anonymous (@blackplans) December 16, 2016
Anonymous ทวิตโชว์ผลงานประเดิม พรบ. คอมฯ ฉบับใหม่ โดยการแฮ็กข้อมูลของสำนักข่าวกรองไทย(NIA) โดยระบุว่า ”ในขณะที่รัฐบาลไทยกำลังวุ่นกับการจัดการคนเห็นต่างในอินเทอร์เน็ต เรา Anonymous ก็กำลังนั่งอ่านข้อมูลของ NIA อยู่”
#Thai gov is busy chasing down online dissidents for speaking their minds, #Anonymous is reading your NIA docs. #Thailand #OpSingleGateway pic.twitter.com/w4v6vP2GXC
— Anonymous (@blackplans) December 15, 2016
นอกจากนี้ยังระบุว่า Anonymous ได้แฮ็กเข้าระบบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) อีกด้วย ซึ่งทวิตข้อความในลักษณะเดียวกันว่า “รัฐบาลคิดจะให้ตำรวจปกป้องและควบคุมข้อมลสารสนเทศในอินเทอร์เน็ต แต่ตำรวจของคุณยังปกป้องข้อมูลตัวเองไม่ได้เลย…แล้วแบบนี้ข้อมูลของประชาชนจะยังปลอดภัยอยู่เหรอ?”
The #Thai gov wants to #police the #internet, #Thai police can’t guard their own data from #Anonymous, is your data safe with them? #พรบคอม pic.twitter.com/S6c8jJxjHo
— Anonymous (@blackplans) December 16, 2016
สุดท้ายสำหรับเช้านี้ Anonymous ก็ได้เปิดเผยข้อมูลผู้ใช้งานระบบของ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มากกว่า 9,000 รายชื่อ ซึ่งประกอบไปด้วยชื่อจริง อีเมล รหัสผ่าน secretAnswer และ memberIP ไล่ตั้งแต่แอดมินจนถึงบุคคลทั่วไปเลยครับ
>> https://ghostbin.com/paste/3zdk3
บัญชีทวิตเตอร์ Anonymous (@blackplans) ตัวนี้ไม่ใช่บัญชีทางการของ Anonymous แต่เราก็ไม่ทราบความเกี่ยวโยงกัน รู้เพียงว่าเป็นบัญชีที่สร้างขึ้นมาแบบจริงจัง เปิดมานานแล้ว และไม่ใช่เด็กเล่นแน่ครับงานนี้ พร้อมประกาศสงครามกับรํฐบาลไทยอย่างเปิดเผย ต่อไปพวกเขาจะทำอะไรบ้างต้องติดตามกันดูครับ และดูว่ารัฐบาลจะมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไรในเรื่องนี้?