หลังจากบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดตัว “ตู้เติม ทรู” และได้นำร่องติดตั้งไปแล้วบางส่วน โดยตั้งเป้าติดตั้งให้ได้ 40,000 ตู้ ซึ่งหลังจากนั้นหุ้นบริษัท ฟอร์ทสมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการ “ตู้บุญเติม” ก็ลดทันที 20% นั่นเพราะหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าทรูจะทำการติดตั้ง “ตู้เติม ทรู” แทน “ตู้บุญเติม” ตามร้านสะดวกซ้อ 7-11 ตามรอยการยกเลิกการขายสลิปและบัตรเติมเงินของ AIS 12call ที่มีมูลค่ามหาศาล แม้ว่าทางทรูจะเคยระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่า การดำเนินการของ 7-11 ไม่ว่าจะอย่างใดก็ตาม ถือว่าเป็นการเจรจากับคู่ค้าของ 7-11 เอง ไม่เกี่ยวข้องกับทรู
เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่เพราะ AIS มีผู้ใช้ระบบเติมเงินมากถึง 33.5 ล้านเลขหมาย มูลค่าการเติมเงินในแต่ละปีมหาศาล จะเห็นได้จากเมื่อ 7-11 เลิกขายสลิปและบัตรเติมเงินของ AIS 12call ทำให้ “ตู้บุญเติม” มียอดเติมเงินเพิ่มขึ้น 20% โดยสิ้นปี 2560 บริษัท ฟอร์ทสมาร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ประมาณการว่ามียอดเติมเงินสูงถึง 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นผลพวงมาจากยอดเติมเงินของ AIS ที่เพิ่มมากขึ้น
ในประเด็นเรื่องความเสี่ยงที่ 7-11 อาจยกเลิก “ตู้บุญเติม” นั้น นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์สมาร์ท จำกัด (มหาชน) ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ไม่มีผลกระทบ เพราะปัจจุบัน “ตู้บุญเติม” มีจำนวนตู้ทั้งสิ้น 90,000 ตู้ทั่วประเทศ แบ่งเป็นติดตั้งหน้าร้าน 7-11 จำนวน 8,000 ตู้ เพียง 9% ของจำนวนตู้ทั้งหมด และทางบริษํทฯ ตั้งเป้าหมายติดตั้งตู้บุญเติม 1.7 แสนตู้ ภายใน 3 ปี แบ่งเป็น ปี 2560 จำนวน 1.2 แสนตู้ มูลค่าเติมเงิน 3 หมื่นล้านบาท,ปี 2561 จำนวน 1.45 แสนตู้มูลค่าเติมเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท และ ปี 2562 อยู่ที่ 1.7 แสนตู้ และขยายรูปแบบธุรกิจไปยัง แอปพลิเคชัน, Be Wallet, ตู้ขายน้ำกระป๋อง และ ยังเตรียมเปิดให้จองตั๋วคอนเสิร์ต และเครื่องชาร์จแบตมือถืออีกด้วย
งานนี้ถือว่าหายห่วงสำหรับทั้งผู้ใช้บริการตู้บุญเติมและลูกค้าของ AIS 12call เพราะตู้บุญเติมจำนวน 8,000 ตู้หน้า 7-11 ทั้งทั้งหมด 1.7 แสนตู้ในอีก 3 ปี ข้างนี้นี้ถือว่าส่งผลการะทบไม่มากนัก แต่อย่างไรก็ตาม งานนี้ต้องติดตามกันดูว่าการเดินเกมทางธุรกิจของทรูจะออกมาในรูปแบบใดบ้าง??