สำหรับ Galaxy Note 8 สิ่งหนึ่งที่ผมสนใจมากๆ ก็คือเรื่องของกล้องถ่ายภาพ เพราะโดยส่วนตัวแล้วรอการมาของกล้องคู่จาก Samsung มาตั้งแต่มีข่าวลือเรื่องการเปิดตัวเลยทีเดียวครับ ฉะนั้นเเมื่อได้เครื่องมาทดสอบใช้กันจริงๆ ก็ขอแยกหนึ่งบทความรีวิว ให้แก่เรื่องการถ่ายภาพของ Galaxy Note 8 โดยเฉพาะหนึ่งบทความครับ
มาดูสเปคกล้องคู่ด้านหลังของ Galaxy Note 8 กันก่อนครับ ตัวกล้องของ Note 8 ใช้เซ็นเซอร์ขนาด 12 ล้านพิกเซลทั้งคู่ครับ หนึ่งเลนส์เป็นเลนส์มุมกว้างหรือที่เราเรียกกันว่า เลนส์ Wide นั้นเองครับ ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.55″ ขนาดพิกเซล 1.4 um ใช้เป็นระบบ Dual Pixel ที่เคยใช้งานมาตลอดตั้งแต่สมาร์ทโฟนรุ่นระดับสูงของ Samsung มาหลายปี มีรูรับแสง f1.7
อีกหนึ่งเลนส์ที่ทำงานคู่กันเป็นเลนส์มุมแคบ หรือ Telephoto ซึ่งมีระยะการซูมภาพที่ลึกกว่า มีขนาดเลนส์ 1/3.42″ ขนาดพิกเซล 1 um รูรับแสง f2.4
ตัวสเปคกล้องถือว่าระดับสูงครับ แต่สิ่งที่พิเศษของกล้องคู่ชุดนี้จากทาง Samsung ก็คือทั้งสองเลนส์มีระบบกันสั่น (OIS) ติดตั้งอยู่ภายในทั้งคู่ ซึ่งนับเป็นสมาร์ทโฟนกล้องคู่เครื่องแรกของโลกที่มีกันสั่นใส่มาให้ครบทั้งสองกล้องครับ
ด้วยการเลือกใช้กล้องคู่แบบต่างระยะ ทำให้ Galaxy Note 8 มีความสามารถในการซูมภาพแบบออพติคัลได้สองเท่า (2X) โดยภาพจะไม่สูญเสียความละเอียดหรือความคมชัดลงไปมากนัก เมื่อเทียบกับการซูมภาพด้วยซอฟท์แวร์แบบดิจิทัล (Note 8 ซูมดิจิทัลได้ถึง 10X) และส่งผลให้ทาง Samsung เกิดแนวคิดพัฒนาฟังก์ชั่นที่ชื่อว่า Dual Capture ขึ้นมาด้วยครับ นั้นคือการถ่ายภาพเพียงแชะเดียว แต่ตัวเครื่องจะทำการบันทึกภาพออกมาเป็นสองระยะ จากทั้งเลนส์ Wide และ Tele ก็สร้างความแปลกใหม่ในการบันทึกภาพได้ดีทีเดียวฟังก์ชั่นนี้ เพราะบางครั้งเราก็อาจจะไม่รู้ว่าการจัดคอมโพสภาพควรซูมเก็บภาพในระยะกว้างหรือแคบ ที่จะสื่อความหมายได้ดีกว่ากัน ก็บันทึกมันทั้งสองระยะในจังหวะเดียวไปเลย ^^
อารมณ์ภาพที่แตกต่างกันจากภาพสองระยะของ Dual Capture บอกเล่าเรื่องราวที่ต่างกันของบุคคลในภาพ เราสามารถเซฟภาพทั้งสองระยะออกเป็นคนละไฟล์ได้ครับ ด้วยการกดคำว่าบันทึกเป็นภาพใหม่ที่ด้านบนขวา
ซึ่งระบบ Dual Capture จะเปิดใช้งานได้เมื่อเราอยู่ในโหมด “Live Focus” (โฟกัสตามเวลาจริง) เท่านั้นนะครับ ซึ่งระบบ Live Focus เป็นอีกหนึ่งในระบบใหม่ที่มาพร้อมกับกล้องคู่ของ Note 8 เช่นกัน ซึ่งเป็นตัวหลักในการควบคุมภาพแบบชัดลึกชัดตื้นของกล้องคู่ Note 8 นั้นเองครับ แต่เจ้าตัวนี้มันมีทั้งจุดดีและจุดด้อยในเรื่องข้อจำกัดบางประการ
ข้อดีก็คือ มันมีความสามารถแบบระบบกล้องคู่ที่ดีที่ควรมี คือการจับวัตถุที่ต้องการโฟกัสได้เองอัตโนมัติ สามารถดูผลลัพท์จากการปรับระยะความลึกของโฟกัสได้แบบเรียลไทม์ ดูการละลายฉากหลังเหมือนการปรับค่ารูรับแสงจริงในกล้องโปร แถมยังสามารถถ่ายก่อนแล้วมาแก้ไขเลือกระยะชัดลึกของภาพได้ในภายหลังอีกด้วยครับ
ในสภาพแสงน้อย ระบบ Live Focus ก็ยังทำงานได้แม่นยำพอสมควรครับ
ข้อจำกัดของระบบ Live Focus ก็มีนะครับ ข้อแรกคือมันไม่สามารถแยกวัตถุที่อยู่ในระยะใกล้เครื่องมากๆ ได้ครับ (ระบบจะแนะนำระยะห่างจากวัตถุที่ต้องการโฟกัสประมาณ 4 ฟุต เป็นระยะที่เหมาะสมที่สุด) โดยจะมีคำแนะนำอยู่บริเวณขอบจอด้านล่าง เมื่อได้ระยะเหมาะสมแล้ว คำแนะนำจะขึ้นเป็นสัญลักษณ์สีเหลือง และอีกหนึ่งข้อจำกัดของระบบ Live Focus คือตัวกล้องจะทำการซูมภาพด้วยเลนส์ Telephoto โดยอัตโนมัติ ในทันทีที่เราเข้าสู่โหมดการควบคุม Live Focus เป็นระยะภาพเดียวที่เราจะควบคุมระยะชัดลึกได้แบบเรียลไทม์ครับ
ตัวอย่างการซูมภาพสองเท่าแบบออพติคัล (กลาง) และสิบเท่าแบบดิจิทัล (ขวา) จะเห็นว่าคมชัดได้ใจทั้งซูมสองเท่าและสิบเท่า
ด้วยกันสั่นที่อยู่ในทั้งสองเลนส์ ทำให้มันสามารถซูมภาพ แล้วถ่ายได้ด้วยการถือเครื่องด้วยมือในที่แสงน้อยครับ
ภาพนี้สถานที่จริงตอนถ่ายมืดมากๆ ครับ มืดจนผมอ่านป้ายอาคารด้วยตาเปล่าไม่เห็นนะครับ แต่ Note 8 ช่วยให้แสงที่สว่างขึ้น และมีนอยส์บนภาพน้อยมากแม้จะเป็นภาพที่ถ่ายในที่มืดแบบแสงแทบไม่มีแบบนี้
มีลูกเล่น Sticker น่ารักๆ สร้างองค์ประกอบแบบ 3D ติดตามใบหน้าได้แม้เราจะหันหน้าไปทางด้านข้าง และจับโฟกัสหน้าบุคคลได้หลายบุคคลพร้อมกัน รองรับทั้งกล้องหลังและกล้องหน้าครับ ^^
คุณภาพของกล้อง Samsung ก็ยังคงทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมากๆ ต่อยอดจาก Galaxy S8 โดยเฉพาะการให้แสงและสีสันในยามค่ำคืน สามารถล็อกการวัดแสงและล็อกตำแหน่งโฟกัสได้ด้วยการทัชค้างในจุดที่ต้องการ มีโหมดการถ่ายภาพอื่นๆ มาครบ ในโหมดโปรสามารถปรับสปีดชัตเตอร์ได้ครับ มาดูตัวอย่างภาพถ่ายในหลายๆ สภาพแสงในชุดภาพด้านล่างกันครับ
ตัวอย่างภาพในแสงยามกลางคืน
ก็เป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพสนุกครับ พกพาไปเที่ยวทำงานให้เราได้ทั้งถ่ายวิว ถ่ายบุคคล หรือการถ่ายภาพแบบซูม ซึ่งผมชอบในเรื่องของ Dual Capture มากกว่าเรื่องการละลายหลังอีกครับ เพราะมันทำให้เราได้ภาพในสองอารมณ์ได้จริงๆ
ซึ่งผมจะขอปิดท้ายด้วยตัวอย่างกล้องหน้าอีกสักนิดนึงไว้เป็นชุดสุดท้ายครับ โดยกล้องหน้าของ Note 8 มีฟังก์ชั่นเลือกจุดโฟกัสหน้าชัดหลังเบลอมาให้ใช้งานด้วยนะครับ ^^
//To track Clicks use the following URL:
//Note: If you only use the following clicks tracking URL (without using impressions tracking URL above), the flight will be charged according to the click rate (CPC)