iPhone 8 กำลังจะเปิดตัวอยู่ในอีกไม่ถึงสัปดาห์ต่อจากนี้แล้ว พร้อมกับสนนราคาที่ว่ากันว่าจะแพงเอาเรื่องเลยทีเดียว โดยมีการคาดการณ์กันว่าในตัวต่ำสุดนั้นจะแพงกว่าเดิมถึงประมาณ 12,000 บาทด้วยกัน หนึ่งในเหตุผลนั้นคือเรื่องของการควบคุมปริมาณการขายที่ Apple ไม่ต้องการให้มันมีจำนวนล้นเกินกำลังการผลิตจนเป็นผลให้ผลิตไม่ทันและขาดสต๊อกไปเป็นเวลานานเหมือนที่เกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์หลายๆ อย่างของ Apple ในช่วงหลัง แต่จากการเปิดเผยของ Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ชื่อดังจาก KGI Securities นั้นเผยให้เห็นว่า ต้นเหตุสำคัญของราคาที่แพงหูฉี่นั้นไม่ใช่ใครที่ไหนไกล หากแต่เป็น Samsung นั่นเอง
ทั้งนี้เหตุผลหลักที่มี Samsung เป็นต้นเหตุให้ราคาของ iPhone 8 สูงขึ้นนั้นก็คือเรื่องของหน้าจอ OLED ที่ iPhone 8 จะนำมาใช้ ซึ่งในปัจจุบันนี้มีเพียง Samsung Display เท่านั้นที่มีกำลังการผลิตได้เท่าจำนวนที่ทาง Apple ต้องการ เลยทำให้เป็นเหมือนข้อผูกมัดที่ Apple ไม่าสามารถเทียบราคากับเจ้าอื่นได้ (เพราะเทียบไปเจ้าอื่นก็ทำไม่ทันตามความต้องการ) ท้ายที่สุดแล้วเลยต้องมาจบที่ราคาขูดเลือดตามข้อเสนอของ Samsung ที่ว่ากันว่าตั้งราคาไว้ฟาด Apple สูงถึง $130 ต่อชิ้น ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาของจอ LCD ใน iPhone รุ่นก่อนหน้าที่ Apple ได้รับข้อเสนอมาในราคาเพียง $45 – $55 ต่อชิ้นนั้น ทำให้ต้นทุนกานรผลิตของ iPhone 8 ที่จะมาพร้อมจอ OLED นี้สูงขึ้นมากโดยอัตโนมัติ
Apple พยายามแก้ปัญหานี้โดยการไปลงทุนเปิดโรงงานผลิตจอ OLED ร่วมกับ LG เป็นจำนวนเงินสูงถึง 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ทันภายในปี 2018 อยู่ดี ดังนั้นสำหรับ iPhone 8 แล้ว Samsung จึงเหมือนหมดคู่แข่ง ไร้ซึ่งปัญหาให้ต้องพิจารณาเกณฑ์การตั้งราคาหรือการต่อรองของ Apple ไปโดยปริยาย
นอกจากนี้ Samsung ยังอาจเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ Apple จำเป็นต้องจะตัด Touch ID ออกจาก iPhone 8 อีกด้วย โดยเหตุผลหลักๆ นั้นก็เพราะหน้าจอ OLED ของ Samsung อีกนั่นล่ะที่ทาง Ming-Chi Kuo อธิบายไว้ว่าไม่สามารถทำการสแกนนิ้วมือทะลุลงไปยังเซ็นเซอร์สแกนด้านล่างได้ ซึ่งเป็นเหตุผลสำหรับที่ทำให้เรือธงของ Samsung เองอย่าง Galaxy S8, Galaxy S8 Plus และ Galaxy Note 8 เองก็ต้องย้ายจุดการสแกนลายนิ้วมือไปไว้ด้านหลังตัวเครื่อง อีกทั้งเนื่องจาก Apple ไม่ต้องการขึ้นชื่อว่าใช้วิธีการแก้ปัญหาในรูปแบบเดียวกับ Samsung ที่ย้ายตัวสแกนนิ้วมือไปด้านหลัง หรือแบบ Sony ที่เอาไปใส่ไว้ด้านข้างจอเครื่องแทนใน Xperia XA1 Plus ที่เพิ่งเปิดตัวไป Apple เลยจำเป็นต้องลองพนันฝากผีฝากไข้ iPhone 8 ของตนไว้กับเทคโนโลยีการปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้าอย่าง Face ID แทน ซึ่งก็ว่ากันว่าทำให้ Apple ต้องผลักดันการพัฒนา Face ID จนได้มาตรฐานการปลดล็อกและการใช้งานสูงสุดใน iPhone 8 ตัวนี้เพื่อเอามาใช้ให้ทันเวลานั่นเอง
ทั้งนี้นอกจาก Samsung แล้ว Apple ก็ยังเจอปัญหาต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นจากการเอาการชาร์จแบบไร้สายและการชาร์จไว (และอื่นๆ อีกมากมาย) มาเพิ่มเป็นฟีเจอร์หลักสำคัญใน iPhone 8 นี้อีกด้วย ทำให้ต้นทุนการผลิตของ iPhone 8 นั้นรวมๆ แล้วพุ่งขึ้นไปสูงกว่า iPhone ตัวที่ผ่านๆ มาจนออกมาในราคาที่คาดการณ์กันว่าถ้าไม่ใช่สาวกจริงอาจมีกล้าๆ กลัวๆ กันเลยทีเดียว
iPhone 8 นั้นจะเป็น iPhone ตัวฉลองครบรอบ 10 ปีจาก Apple ที่ว่ากันว่าจะมาพร้อมหน้าจอแบบไร้ขอบและการออกแบบดีไซน์ใหม่ที่จะเปลี่ยนไปจากเดิมมากที่สุดใน iPhone ยุคหลังนี้ นอกจากนั้นยังจะเป็น iPhone ตัวแรกที่ใช้พาเนลจอ OLED ในการประกอบ และคาดการณ์กันว่าจะมาพร้อมเทคโลโลยีการชาร์จเร็วและการชาร์จแบบไร้สายตัวแรกบน iPhone
iPhone 8 จะเปิดตัวในนะวันที่ 12 กันยายนนี้ และคาดว่าจะเริ่มเปิดจองวันแรกในวันที่ 15 กันยายน ก่อนจะเริ่มส่งเครื่องจองออกยังผู้จับจองในวันที่ 22 กันยายน 2560 ต่อไป