หลังจากที่ iPhone X, iPhone 8 Plus และ iPhone 8 เปิดตัวมาพร้อมฟังก์ชั่นการถ่ายวิดีโอแบบ 4K ที่ 60fps และ 1080p ที่ 240fps หลายๆ คนตั้งคำถามถึงสิ่งหนึ่งที่เป็นประเด็นมาสักระยะใหญ่ๆ แล้วว่าทำไมบรรดากล้องถ่ายรูปถึงยังถ่ายแบบนี้ไม่ได้บ้าง และกล้องถ่ายรูปที่ว่านี้หลายๆ แบรนด์ก็เป็นตัวท็อปๆ ทั้งนั้นเลยด้วย
Max Yuryev พูดถึงประเด็นนี้ไว้ในวิดีโอความยาว 8 นาที เพื่อหาสาเหตุด้านเทคนิคที่ทำให้เหล่ากล้องถ่ายรูปตัวท็อปราคาไม่ใช่เล่นๆ ในตลาดไม่สามารถถ่ายวิดีโอได้ดีเหมือนอย่างที่สมาร์ทโฟนในยุคปัจจุบันทำได้กัน
ผลสรุปที่ชัดเจนที่สุดจากวิดีโอข้างต้นนั้นมาจากซีพียูที่อยู่ในตัวกล้องถ่ายรูปนั่นเองที่มีขุมพลังและประสิทธิภาพไม่เพียงพอให้ทำได้อย่างในสมาร์ทโฟน โดยในสมาร์ทโฟนนั้น เจ้าซีพียูต่างๆ ที่อัดกันเข้ามานั้นขึ้นชื่อว่า “ทรงพลังระดับสุด” กันทั้งนั้นโดยเฉพาะกับสมาร์ทโฟนรุ่นหลังๆ เช่น iPhone X, iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ทรงพลังมากจนทำให้สามารถถ่ายวิดีโอ FullHD ที่เฟรมเรต 240 เฟรมต่อวินาทีเลยทีเดียว
คำถามต่อมาคือรู้อย่างนี้แล้วทำไมกล้องถ่ายรูปดีๆ ถึงไม่ใส่ซีพียูจัดหนักมาให้บ้างล่ะ คำตอบนั้นก็ง่ายๆ เพราะกล้องถ่ายรูปไม่สามารถใส่ซีพียูที่ประสิทธิภาพสูงเกินไปได้นั่นเองถ้าไม่อยากเสี่ยงเจอเหตุการณ์กล้องร้อนจนไหม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องถือถ่ายภาพในช่วงเวลาหรือสถานที่ที่อุณภูมิสูงมากๆ และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือเรื่องของต้นทุนการผลิต เพราะจุดประสงค์หลักของการเป็นกล้อง DSLR นั้นคือการมีไว้เพื่อถ่ายภาพนิ่ง การอัดเอาซีพียูที่สูงเกินที่คนส่วนใหญ่ที่ใช้กล้องถ่ายรูปต้องการใช้งานจริงๆ เข้าไปนั้นคือการเพิ่มต้นทุนการผลิตขนานใหญ่โดยไม่จำเป็น ซึ่งการเพิ่มต้นทุนที่เยอะขึ้นมานี้อาจตอบโจทย์ความต้องการของคนเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้น
Max Yuryev ยังกล่าวอีกว่าการที่เทคโนโลยีในสมาร์ทโฟนก้าวหน้าไปได้ไกลมากนั้นเป็นเพราะมีคู่แข่งใหญ่ๆ ในตลาดที่ผลิตและพัฒนาออกมาแข่งกันเยอะ ซึ่งเป็นเหตุให้เทคโนโลยีก้าวไกลไปได้ไวพร้อมกับราคาต้นทุนที่ลดลงเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว ดังนั้นการที่สุดท้ายแล้วเราจะได้เห็นสมาร์ทโฟนทำความสามารถด้านการเป็นเครื่องมือในการถ่ายวิดีโอได้ดีกว่ากล้องถ่ายรูปจริงๆ ในที่สุดนั้นจริงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไรเลย