ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่จากจีนอย่าง Xiaomi ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหลังจากที่หนึ่งในผู้บริหารระดับสูงกล่าวเชิงล้อเล่นให้นักศึกษาหญิงที่เรียนเอกภาษาญี่ปุ่นควรไปทำงานในสายภาพยนตร์ผู้ใหญ่แทนการมารอสมัครงานประจำตำแหน่งในบริษัทของ Xiaomi
Qin Tao ผู้บริหารในแผนกนวตกรรมของ Xiaomi ได้ขึ้นกล่าวในงานวันรับสมัครงานกับนักศึกษาที่มหาวิทยาลับ Zhengzhou มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ในวันศุกร์ที่ 22 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา โดยจาก จดหมายร้องเรียน ที่ได้มีการกล่าวอ้างถึงบริษัทเทคโนโลยีที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในปักกิ่งแห่งนี้ ซึ่งเผยแพร่อยู่ใน Weibo เว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์คชื่อดังของจีนโดยผู้ที่อ้างว่าตนเป็นหนึ่งในนักศึกษาที่เรียนเอกภาษาญี่ปุ่นประจำมหาวิทยาลัยได้อธิบายไว้ในโพสความว่า Xiaomi ไม่ได้มีการระบุความต้องการว่าต้องการนักเรียนในภาควิชาใดไปประจำการเป็นพนักงานในตำแหน่งการตลาดที่กำลังเปิดรับสมัคร แต่ Qin Tao ได้พูดไว้ในงานเปิดรับนักศึกษาเข้าทำงานประมาณว่านักศึกษาในภาควิชาภาษาญี่ปุ่นนั้นไม่เป็นที่ต้องการของบริษัท โดยจากปากคำของนักศึกษาคนนี้ Qin ได้พูดไว้ว่า
“ถ้าคุณเรียนในเอกอังกฤษหรือเอกอาราบิค คุณสามารถมาร่วมงานกับเราได้ เพราะว่าเรามีธุรกิจในต่างประเทศอยู่ (ในประเทศที่จำเป็นต้องใช้ภาษาเหล่านั้น) แต่ถ้าคุณเรียนเอกภาษาญี่ปุ่น ผมว่าคุณกลับไปได้เลยครับ หรือไม่คุณก็ควรจะไปสมัครงานในอุตสาหกรรมหนังแทนนะ”
ซึ่งมุกดังกล่าวซึ่งกำลังเป็นประเด็นอยู่ในตอนนี้ จากบริบทของชาวจีนที่ถกกันอยู่แล้วหมาย อุตสาหกรรมหนังในญี่ปุ่นที่ว่านี้ก็คือหนังโป๊ญี่ปุ่นที่ถือเป็นตลาดที่ใหญ่มากในประเทศจีนนั่นเอง แม้ว่าประเทศจีนจะมีกฎหมายแบนหนังโป๊ในประเทศตัวเองก็ตาม ทั้งนี้ในจดหมายระบุว่ามีผู้เข้าร่วมประมาณ 200 คนในขณะนั้นที่พร้อมใจกันหัวเราะกับมุกของ Qin Tao
คำพูดของ Qin กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักสำหรับชาวเน็ตในประเทศจีน หนึ่งในนักศึกษาชาวจีนที่เรียนจบเอกภาษาซี่ปุ่นได้เขียนในคอลัมน์ Q&A บนเว็บไซต์ Zhihu ถึงประเด็นที่ Qin กล่าวไว้และบอกว่าสิ่งที่ Qin พูดนั้นมันทำให้เธอนึกถึงพวกผู้ชายที่ชอบถามเธอว่าเธอเข้าใจความหมายของคำว่า “ยามาเตะ” ซึ่งมีความหมายประมาณว่า “ไม่นะ” ในหนังโป๊ญี่ปุ่น ซึ่งใช้พูดเพื่อแสดงความกำหนัดที่กำลังเกิดขึ้นนั่นเอง
หลังจากเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทางสังคมอย่างหนัก Xiaomi จึงออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2560 ตามมาบน Weibo ว่าทางบริษัทได้จัดการทางวินัยกับ Qin Tao ในข้อหา “ใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม” ไปแล้ว และจะไม่ยอมให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกเป็นอันขาดในอนาคต และหนึ่งวันก่อนหน้านั้น Qin ได้โพสข้อความแสดงความเสียใจและขอโทษต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในบัญชี Weibo ของตน ซึ่งเป็นการแสดงความเสียใจของเขาต่อเหล่านักเรียนเอกภาษาญี่ปุ่นที่เข้าร่วมงานวันเปิดรับสมัครงานวันนั้น
Xiaomi ไม่ใช่บริษัทเทคยักษ์ใหม่เพียงบริษัทเดียวที่เคยมีกรณีพิพากษ์เกิดขึ้นในประเทศจีน โดยก่อนหน้านี้ บริษัท Tencent ซึ่งเป็นผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นชื่อดังอย่าง WeChat และ QQ ก็เคยต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่มีการปล่อยคลิปพนักงานหญิงในออฟฟิสแกล้งทำท่าทางเสมือนอมอวัยวะเพศชายเอาไว้ในงานปาร์ตี้ของบริษัทที่ต่อมาได้หลุดแพร่หลายในโลกออนไลน์เป็นวงกว้าง และในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทเซิร์ชเอ็นจิ้นยักษ์จากจีนอย่าง Baidu เองก็ต้องปลดระวางผู้บริหารของตัวเองกลางคันหลังจากที่เขาพูดกล่าวพรีเซนต์ที่มีการเหยียดเพศในภาษาที่ใหญ่เกี่ยวกับประสบการณ์การใช้งานของผู้บริโภคในงานประชุมทางเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง นอกจากนี้บริษัทเจ้าของเว็บไซต์ตลาดออนไลน์ยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba และบริษัทเรียกแท็กซี่ชื่อดังในจีนอย่าง Didi Chuxing เองก็เคยออกประกาศรับสมัครงานที่มีเนื้อหาใจความในการเหยียดเพศออกมาด้วย