เปิดมาได้อย่างน่าสนใจ กับราคาของ Samsung Galaxy Note Fan Edition (Note FE) ในประเทศไทย ซึ่งก็สมกับการเป็นเครื่องเวอร์ชั่นพิเศษครับ เพราะถ้าเป็นเครื่องสเปคระดับนี้ฟังก์ชั้นระดับนี้ที่เปิดขายตามปกติ ไม่มีทางมาในราคาแบบนี้แน่นอนครับ
หลายๆ คนอาจจะทราบกันแล้วว่า Samsung Galaxy Note FE ก็คือเครื่อง Galaxy Note 7 รุ่นระดับเรือธงของ Samsung เมื่อปีก่อนที่มีการเรียกเก็บกลับมาแก้ไขปัญหาตัวแบตเตอรี่ และด้วยการเปลี่ยนแบตเป็นแบตรุ่นใหม่ขนาด 3,200 mAh ซึ่งพัฒนาใหม่มาภายใต้มาตรการความปลอดภัย 8 ขั้นตอนที่ทาง Samsung จัดตั้งขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าวของ Note 7 นี้่แหละครับ ทำให้ตอนนี้ Samsung เป็นบริษัทที่มีขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพแบตเตอรี่ที่มีความเข้มข้นมากที่สุดแล้วในปัจจุบัน
ทาง Samsung ได้นำเครื่อง Galaxy Note FE มาจำหน่ายครั้งแรกที่ประเทศเกาหลีครับ และได้รับการตอบรับที่ค่อนข้างดีทั้งจากแฟนคลับที่รอคอยกันมาตั้งแต่สมัย Galaxy Note 7 รวมถึงคนที่ไม่ใช่แฟนคลับแต่ให้ความสนใจในอุปกรณ์รุ่นดังกล่าวด้วยครับ
ฉะนั้นจะบอกว่า Galaxy Note FE คือ Galaxy Note 7 ก็คงไม่ใช่ครับ เพราะนอกจากการปรับปรุงตัวแบตเตอรี่ใหม่แล้ว ทาง Samsung ก็ยังมีการปรับปรุงซอฟท์แวร์การใช้งานภายในมาใหม่ ปรับปรุง UI ส่วนติดต่อผู้ใช้ และมีการเพิ่มหน้า Bixby Home ใส่เข้ามาให้ด้วยครับ
หน้าตาการออกแบบแยกแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ชัดเจน ด้วยการสกรีนลาย Galaxy Note Fan Edition ด้านหลังตัวเครื่อง และนับเป็นรุ่นใหญ่ตัวล่าสุดที่ยังใช้สไตล์การออกแบบดั้งเดิมก่อนที่ Samsung จะเปลี่ยนมาใช้เครื่องแบบหน้าจอ 18.5:9 ฉะนั้นใครที่ชอบเครื่องหน้าจอส์ัดส่วนแบบ 16:9 ตัวนี้คือตัวที่ดีที่สุดของ Samsung ครับ
ขอบจอโค้งลงทั้งสองข้าง ขนาดตัวเครื่องไม่ใหญ่ไปกว่าเครื่องหน้าจอ 5.5 นิ้วมากนัก เพราะการออกแบบจอที่แทบจะไร้ขอบของ Note FE มีขนาดที่บางยิ่งกว่าเครื่องหลายๆ ตัว ที่บอกว่าตัวเองเป็นเครื่องไม่มีขอบซะอีกครับ แค่เพียงสัดส่วนหน้าจอเป็นแบบ 16:9 เท่านั้นเอง
มาตรฐานการประกอบและการใช้วัสดุระดับสูงครับ ใช้กระจกจอ Corning Gorilla Glass 5 รองรับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 กันน้ำได้ลึกเมตรครึ่ง นานครึ่งชั่วโมง สองซิมการ์ดแบบไฮปริด สามารถใส่ Micro SD card ได้ 256 GB มีหน่วยความจำภายใน 64GB พอร์ตใต้เครื่องใช้เป็น USB Type-C ซึ่งเป็นเวอร์ชั่น USB 3.1 ครับ และรองรับเทคโนโลยีการชาร์จไวของ Samsung ด้วย
การเชื่อมต่อต่างๆ ของเครื่องมีครบครับ Galaxy Note FE เป็นหนึ่งในเครื่องที่มีเทคโยโลยีการเชื่อมต่อที่ดีที่สุดในโลก รองรับหมดทั้ง 3G, 4G LTE, VoLTE, MU-MIMO, NFC, ระบบการชาร์จไร้สาย รองรับระบบการจ่ายเงิน Samsung Pay ระบบการเชื่อมต่อทั้งหลายแหล่ที่ยังเป็นเทคโนโลยีชั้นสูงในปัจจุบัน มีใน Galaxy Note FE เกือบทั้งหมดครับ
กล้องถ่ายภาพด้านหลังเครื่องเป็นแบบกล้องเดี่ยวคุณภาพสูง พร้อมที่สแกนชีพจรอยู่ด้านหลังเครื่องข้างกล้อง
เครื่องที่ผมได้มาทดสอบใช้งาน มี Clear View Cover มาด้วยครับ จากที่ลองใช้เจ้าเคสฝาพับตัวนี้ มันเหมาะมากกับระบบสแกนม่านตา เพราะเมื่อเราเปิดฝาเคสจะใช้งาน ตัวเครื่องก็จะพร้อมอยู่ในตำแหน่งสแกนม่านตาเราได้พอดีเลยครับ ซึ่งทั้งระบบสแกนนิ้วและสแกนม่านตาของ Note FE ทำงานได้ไวและแม่นครับ แม้ในที่แสงน้อยก็สแกนได้
Clear View Cover เป็นเคสฝาปิดแบบใส ที่เห็นการแจ้งเตือนและสามารถสไลด์รับสายโทรเข้าผ่านฝาปิดได้เลย ซึ่งดูแล้วอาจจะเป็นของแถมที่ร้านค้าน่าจะนำมาทำโปรโมชั่นแถมให้ค่อนข้างเยอะครับ
รูปขนาดและรูปทรง Galaxy Note FE กับ Galaxy Note 8
การใช้งานภายใน
หน้า UI เป็นตัวใหม่ล่าสุดของ Samsung โดยจะมีหน้าแรกซ้ายสุดเป็น Bixby Home หนึ่งในความสามารถของผู้ช่วยคนใหม่ ซึ่งเป็น AI ที่จะรวมทุกกิจกรรมที่มันคาดว่าเกี่ยวข้องกับสถานที่ เวลา และความสนใจของเราในขณะนั้นๆ ขึ้นมารวมแสดงให้เราในหน้าแรกครับ
มีธีมและแอพพลิเคชั่นพิเศษของทาง Samsung เตรียมไว้ให้ใช้ Store
ประสิทธิภาพการใช้งานระดับสูงไม่ต้องสงสัยครับ ไม่มีอะไรที่ด้อยเป็นจุดอ่อน เร็ว แรง ลื่น และทรงพลังมาก เล่นเกมทุกเกมในสโตร์ได้แบบสบายๆ เล่น ROV ลื่นๆ ครับ เล่นไฟล์ภาพยนตร์ระดับความละเอียด UHD ไม่มีอาการกระตุกใดๆ
Galaxy Note FE เป็นเครื่องที่มีเทคโนโลยีการสแกนม่านตาครับ (Iris Scan) ซึ่งสำหรับใช้งานในการปลดล็อคตัวเครื่อง และใช้ในการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงทั้งระบบการซื้อและการชำระเงิน Samsung Pay และยังรองรับการสแกนลายนิ้วมือที่อยู่บนปุ่มโฮมด้านหน้าเครื่องด้วยครับ
หน้าจอแสดงผลความละเอียดสูง Quad HD ขนาด 5.7 นิ้ว เด่นมากแน่นอนสำหรับการรับชมภาพยนตร์และคลิปวีดีโอ สีสันสดใสแบบปรับแต่งได้ตามสไตล์หน้าจอ Samsung แสงสว่างใช้งานสู้แสงได้ดีในระดับหนึ่ง มีโหมดหน้าจอถนอมสายตาในเวลาใช้งานกลางคืินลำโพงตัวเครื่องอยู่ในระดับเสียงดังปานกลางครับ ไม่ดังมาก ไม่ค่อย เสียงไม่แตก
ดูไฟล์วีดีโอใน Youtube ได้ในระดับสูงสุด 1440p เพราะหน้าจอเป็น Quad HD
แน่นอนเมื่อเป็นรุ่นใหญ่ของแบรนด์ ทาง Samsung ใส่บริการมาให้จัดเต็มแน่นอน ทั้ง Samsung Pay, Samsung Knox, Secure Folder, Samsung Health, Game Launcher, EDGE Screen และระบบมัลติวินโดวซึ่งเป็นฟีเจอร์คู่บุญของ Galaxy Note ครับ แต่สำหรับ Galaxy Note FE จะยังไม่มีฟีเจอร์แอพคู่ (การเรียกใช้แอพสองตัวได้ในคลิกเดียว) ที่อยู่ใน Galaxy Note 8 นะครับ
บริการเสริม สิทธิพิเศษ และฟีเจอร์ความสามารถของเครื่องระดับสูงจาก Samsung มีเยอะมากที่สุดในจักรวาลสมาร์ทโฟน ^^
ด้วยความเป็นสายพันธุ์ Galaxy Note ยังไงจุดไม้ตายที่ใครก็ให้ไม่ได้นั้นก็คือปากกา S-Pen ซึ่งในโลกหล้าใบนี้ Galaxy Note FE เป็นรองแค่เพียงหนึ่งเดียวนั้นคือรุ่นพี่ของมันเอง Galaxy Note 8
ตัวปากกาหัวแหลมเล็ก สามารถใช้งานแทนการทัชภายใต้สภาวะหน้าจอเปียกน้ำได้ มีฟังก์ชั่นการทำงานสำหรับการจดโน๊ตได้ทุกสถานะ ตั้งแต่หน้าจอยังไม่เปิด (Screen Off Memo) ไปจนถึงทุกหน้าการใช้งานแค่เพียงดึงปากกาออกมาจากใต้เครื่อง
เมื่อเครื่องตรวจพบการดึงปากกาออกมาใช้งาน ชุดสั่งงาน Quick Command ก็จะปรากฏขึ้นให้เรียกใช้ทันทีครับ โดยจะมีฟังก์ชั่นพิเศษที่พร้อมใช้งานกับปากกาเช่น การเขียนหรือวาดลงบนหน้าจอได้โดยตรง, การเปิดบันทึกย่อแบบด่วน การตัดภาพบนหน้าจอด้วยปากกา และการใช้ปากกาเพื่อขยายภาพแทนแว่นขยาย หรือใช้ชี้เพื่อแปลภาษาในภาพได้เป็นต้นครับ
มีแอพพลิเคชั่นอีกมากมากทั้งใน Google PlayStore และ Galaxy Apps ที่จะให้เราดาวน์โหลดมาใช้งานคู่กันกับตัวปากกา S-Pen ครับ ด้วยความแม่นยำของปากกา เทคโนโลยีที่ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ใน S-pen รวมถึงความสามารถของฟังก์ชั่นและแอพพลิเคชั่นที่มี ทำให้ปากกา S-Pen เป็นปากกาเขียนหน้าจอที่ดีที่สุดบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟนครับ และ Galaxy Note FE ก็เป็นหนึ่งเครื่องสมาร์ทโฟนประสิทธิภาพสูง ที่มาพร้อมกับปากกา S-Pen ครับ
ผลทดสอบต่างๆ
การจับสัญญาณ GPS ยอดเยี่ยม แบตเตอรี่ 3,200 mAh สามารถใช้งานได้นานตั้งแต่เช้าถึงค่ำแน่นอนในการใช้งานระดับกลางๆ ครับ เปิดหน้าจอต่อเนื่อง ใช้แบตเตอรี่ประมาณชั่วโมงละ 20% ครับ สำหรับการเปิดแสงหน้าจอไว้ที่ประมาณ 60-70%
กล้องถ่ายภาพ
Samsung Galaxy Note Fan Edition เป็นเครื่องสมาร์ทโฟนในกลุ่มกล้องระดับสูงครับ เอาผลลัพท์ภาพถ่ายมาเปรียบเทียบกับกล้องเครื่องราคาสองหมื่นขึ้นไปแยกแยะคุณภาพออกยาก
กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f1.7 กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f1.7 ใช้ระบบออโต้โฟกัสและมีกันสั่น OIS คุณภาพกล้องยอดเยี่ยมไม่ต่างจากเรือธงตัวอื่นๆ ของ Samsung ขาดแค่เพียงลูกเล่นจากกล้องสองตัวที่มีใน Galaxy Note 8 เท่านั้นครับ
ตัวอย่างภาพถ่าย
กลางคืน
กล้องหน้ากลางวันและในที่แสงน้อย
สรุปท้ายรีวิว
จะเรียกว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งของ Galaxy Note 7 ก็ไม่ค่อยถูกนักครับ โดยเฉพาะในบ้านเราที่ยังไม่ทันได้เปิดขายอย่างเป็นทางการ ก่อนวันที่ Samsung จะประกาศเรียกคืนเครื่องจากทั่วโลก
โดยเฉพาะที่ Note FE กลับมาเป็นเครื่องรุ่นใหม่ ชื่อใหม่ แบตใหม่ ลายสกรีนใหม่ พร้อมกับซอฟท์แวร์ UI ปรับปรุงใหม่ ในราคาใหม่ที่ต้องบอกว่าน่าสนใจมาก 20,900 บาท (ยังไม่รวมโปรโมชั่น)
ยังคงเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพรอบตัว มาพร้อมกับปากกาบนสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในโลก หน้าจอแสดงผลใหญ่ 5.7 นิ้วความคมชัดสูง QuadHD แถมเป็นรุ่นขอบจอโค้ง ที่นับได้ว่ายื่งกว่าคำว่าโร้ขอบ (เพราะจอมันโค้งกินพื้นที่เกินขอบเครื่องตามปกติซะด้วยซ้ำ) และนี่คือเครื่องหน้าจอแสดงผลใหญ่ๆ ที่ยังมาในสัดส่วนที่เราคุ้นชินถนัดมือ
กล้องถ่ายภาพเดี่ยวคุณภาพดี f1.7 ตัวเครื่องกันน้ำ และใช้พอร์ต USB Type C เวอร์ชั่น 3.1
สเปคระดับนี้ ฟังก์ชั่นระดับนี้ และบริการเสริมพิเศษครบทุกฟีเจอร์จาก Samsung ซึ่งที่ Note FE ออกมาในราคาเท่านี้ก็เพราะเป็น Fan Edition นี้แหละครับ จะเรียกว่าเป็นเครื่อง Edition พิเศษก็ว่าได้
รับรองว่า เป็นเครื่องราคา 20,900 ที่ใช้งานสนุกแน่นอน ^^