Nokia 6 ตัวเดิมได้ถูกเปิดตัวโดยบริษํท HMD Global ครั้งแรกในประเทศจีนเมื่อเดือนมกราคม 2017 ซึ่งนับเป็นสมาร์ทโฟนในชุดแรกหลัง HMD ได้เครื่องหมายการค้าของแบรนด์ Nokia กลับมาทำตลาดในนอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือเลยครับ
และในวันนี้บริษัทฟินแลนด์ HMD ก็ได้ปล่อยสมาร์ทโฟน Nokia 6 รุ่นที่ 2 ออกมาพร้อมรายละเอียดสเปค และการออกแบบที่ดีขึ้น
Nokia 6 2nd Gen ใช้โครงสร้างที่แข็งแกร่งที่ทำมาจากอลูมิเนียมซีรีส์ 6000 เป็น unibody และมีขอบเจีย มีที่สแกนลายนิ้วมือ ตัวเครื่องโดยรวมมีขนาด 148.8 x 75.8 x 8.15 มม. ตัวเครื่องมีความสั้นมากขึ้น และหนาขึ้นเล็กน้อยจากรุ่นเดิมของ Nokia 6
ขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว ขอบจอแสดงผลเล็กลง ใช้เทคโนโลยีจอภาพแบบ LCD IPS อัตราส่วนภาพ 16: 9 และความละเอียดหน้าจอ 1920 x 1080 พิกเซล กระจกจอกใช้ Corning Gorilla Glass 3 แบบ 2.5D
Nokia 6 รุ่นที่สอง 2 เขยิบหน่วยประมวลผลจากรุ่นระดับล่าง มาเป็นระดับกลางที่น่าใช้กว่าเดิมมากด้วย Snapdragon 630 octa-core 2.2 GHz RAM LPDDR4 ขนาด 4 GB แบตเตอรี่ 3,000mAh รองรับระบบการชาร์จไวซึ่งสามารถชาร์จไฟได้ 50 เปอร์เซ็นต์ภายใน 30 นาที สเปคโดยรวมถือว่าน่าใช้ครับ และก็ยังคงความโดดเด่นที่มาตรฐานงานประกอบของตัวเครื่องด้านนอกไว้ด้วย
มีออกมาเบื้องต้นสองสีครับ สีดำและสีเงิน HMD จะวางจำหน่ายไปทั่วโลกโดยมีแยกรุ่นตามขนาดที่จัดเก็บข้อมูลเป็น 32 GB และ 64 GB มีช่องเสียบซิมคู่แบบไฮบริดที่สามารถใช้สล็อตซิมที่สองเพื่อเพิ่ม microSD ได้
Nokia 6 Gent 2 ใช้เซนเซอร์กล้องด้านหลังขนาด 16 ล้านพิกเซล กล้องหน้าขนาด 8 พิกเซล ที่มีมุมรับภาพกว้างขนาด 84 องศา แต่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการถ่ายภาพตัวสำคัญของ Nokia นั้นคือโหมด Bothie ที่มีอยู่ใน Nokia 8 และ Nokia 7 ก่อนหน้านี้ ให้เราสามารถถ่ายภาพและวีดีโอกล้องหน้าและกล้องหลังได้พร้อมๆ กัน มีระบบการบันทึกเสียง OZO ที่ทำให้โทรศัพท์สามารถบันทึกเสียงเซอร์ราวด์ 360 องศาได้
ตัวระบบของเครื่อง Nokia 6 รุ่นใหม่ ก็ยังคงใช้ความเป็น Pure Android มาเป็นจุดเด่นครับ เปิดตัวมาพร้อมขายใน Android เวอร์ชั่น 7.1.1 Nougat และ HMD ได้สัญญาว่าจะออกอัปเดต Android Oreo ในเร็วๆ นี้
คุณสมบัติการเชื่อมต่อก็ค่อนข้างครบและใหม่ครับ ใช้ USB-C, มีแจ็ค 3.5 มม., Bluetooth 5.0, Cat โมเด็ม 4 LTE แต่ Nokia 6 Gent 2 ยังไม่ยืนยันว่าจะรองรับ NFC หรือไม่นะครับ
ราคาจำหน่ายของ Nokia 6 2nd สำหรับรุ่น 32 GB อยู่ที่ 1,499 หยวน หรือประมาณ 7,500 บาทของไทย และรุ่น 64 GB อยู่ที่ 1,699 หยวน หรือประมาณ 8,500 บาท โดยจะวางตลาดในประเทศจีนก่อนในวันที่ 10 มกราคมนี้ครับ