Xiaomi Redmi 5 และ Redmi 5 Plus เป็นสองสมาร์ทโฟนตัวล่าสุดที่เปิดราคาออกมาได้ย่อมเยามากครับเมื่อเทียบกับสเปคและระดับความสามารถที่ได้ เพราะทังสองรุ่นเป็นเครื่องที่มาพร้อมนวัตกรรมการผลิตภายนอก ด้วยหน้าจอแสดงผลแบบเต็มหน้าจอ (Full Screen) และประสิทธิภาพภายในที่กำลังใช้ ในราคาที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้ครับ เพราะประกาศราคาเริ่มต้นเพียง 4,490 บาท สำหรับ Redmi 5 และ 5,790 บาทสำหรับ Redmi 5 Plus
ซึ่งในบทความนี่ ผมจะมารายงานผลการทดสอบใช้งานของเจ้ารุ่น Redmi 5 Plus ที่ทาง AppDisqus ได้เครื่องมาลองทดสอบใช้งานกันครับ
ตัวเครื่องภายนอก
Redmi 5 Plus ใช้การออกแบบที่ค่อนข้างจะคุ้นหน้าคุ้นตาครับ ทรงแบบนี้หน้าตาแบบนี้ คุ้นมือกันเป็นอย่างดี คล้ายกันหลายรุ่น ตัวเครื่องภายนอกใช้วัสดุหลักเป็นโลหะ เบาไม่หนักครับ เห็นตัวเครื่องบางๆ เบาๆ แบบนี้ แต่พิเศษที่ข้างในใส่แบตขนาด 4000 mAh มาให้นะ แบตใหญ่เกินคาดมาก
จุดเด่นของเจ้า 5 Plus ก็คงเป็นเรื่องหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6 นิ้ว (ตัวเลขทางการคือ 5.99 นิ้ว) ใช้อัตราส่วนจอกว้างสมัยนิยม 18:9 ความละเอียดคมชัดเพียงพอครับ FullHD แสงสว่าง สีสันคมดี
ตัวนี้ลำโพงด้านล่างออกแบบเหมือนจะเป็นลำโพงสเตอริโอแต่จริงๆ เป็นลำโพงเดียวนะ ทดสอบเปิดเสียงดังสุดชัดเจนไม่แตก
มีที่สแกนลายนิ้วมืออยู่ด้านหลังตัวเครื่อง ซึ่งสแกนลายนิ้วมือได้เร็วครับ สามารถสแกนเข้าใช้โดยไม่ต้องกดเปิดเครื่องก่อนครับ
ปุ่มควบคุมหลักของเครื่องเป็นประเภทอยู่ในหน้าจอทั้งหมดเป็นทัชสกรีน ตัวเครื่องรองรับสองซิมการ์ด และเป็นรองรับสองซิมสแตนด์บายที่สามารถเชื่อมต่อ 4G และ 3G ไปพร้อมกันได้ในซิมที่สอง
อุปกรณ์ภายในกล่องก็มีเคสใสมาให้ด้วยนะครับ แต่ไม่มีสายหูฟังมาให้
คลิปแกะกล่อง Xiaomi Redmi 5 Plus
การใช้งานภายใน
เครื่อง Redmi 5 Plus ที่ผมได้มาทดสอบใช้งาน เป็นเครื่องที่มีแรม 3GB และหน่วยความจำภายใน ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 625 ระดับ 14 นาโนเมตร ซึ่งเจ้าหน่วยประมวลผลตัวนี้ถือว่าเป็นหน่วยประมวลผลระดับกลาง ที่มักจะถูกใช้ในเครื่องสมาร์ทโฟนราคาประมาณหมื่นบาทในช่วงที่ผ่านมาครับ แต่ว่าทาง Xiaomi ได้นำมาใช้ใน Redmi 5 Plus เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เจ้าตัวนี้คุ้มราคามาก
การทำงานต่างๆ ในหน้าจอหลักตอบสนองได้ดีครับ ประสิทธิภาพของเครื่องนี้อยู่ในระดับนำมาใช้เพื่อเล่นเกมได้ แม้จะไม่ลื่นไหล 100% แบบเครื่องราคาแพง แต่เชื่อว่าในราคาห้าพันกว่าบาทจะหาเครื่องหน้าจอแสดงผลกว้างๆ เล่นเกมได้ระดับนี้ หายากแน่นอน
แถมเป็นเครื่องที่ทดสอบใช้งานแล้วแบตอึดด้วยครับ ด้วยแบตขนาดใหญ่ทำให้ผมเปิดเกมทิ้งไว้ต่อเนื่องกว่า 7 ชั่วโมงโดยที่แบตยังไม่หมด และสำหรับในการใช้งานระดับทั่วไป มันอยู่ข้ามวันได้ในบางค่ำคืนที่ผมลืมเสียบชาร์จด้วยครับ ^^
ระบบภายในของ Redmi 5 Plus ใช้ Android 7.1.2 และ MIUI เวอร์ชั่นใหม่ 9.2 ครับ มีฟังก์ชั่นการทำงานหลายอย่างที่จะช่วยให้เราสามารถใช้งานเครื่องได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น เช่นปุ่มและวิธิีลัดในการเปิดใช้งานกล้องและแอพที่ต้องการ มีธีมสวยๆ ให้เลือกเปลี่ยนได้ฟรี ซึ่งธีมของ Mi เป็นธีมที่ออกแบบมาได้น่ารักน่าใช้ซะด้วย
ระบบเพื่อความสะดวกในการใช้เครื่องเช่นระบบ ‘พื้นที่ทับซ้อน’ สำหรับแยกพื้นที่พิเศษออกมาเป็นเหมือนมือถืออีกหนึ่งเครื่อง ที่เราสามารถแยกบัญชี แยกแอพ ออกจากพื้นที่หลักได้เหมือนพกมือถืออีกเครื่องเลยครับ
มีระบบโคลนแอพ สำหรับการแยกแอพหนึ่งตัวให้กลายเป็นสอง เช่น Facebook เพื่อใช้งานสองบัญชีได้ในเครื่องเดียวกันได้
ระบบด้านความปลอดภัย มีฟังก์ชั่นล็อคแอพด้วยรหัสผ่าน ป้องกันแอพพลิเคชั่นสำคัญที่เราต้องการให้เป็นความลับหรือความเป็นส่วนตัว พร้อมทั้งระบบการสแกนตัวเครื่อง เพื่อดูแลระบบและป้องกันความปลอดภัยไปในตัวครับ
การใช้งานต่างๆ ของเครื่อง Redmi 5 Plus ให้ความรู้สึกเกินราคาแน่นอน ทั้งตัวเครื่องภายนอกและประสิทธิภาพภายในที่นำมาเล่นเกมได้ แถมตัวมันเองมีฟังก์ชั่นการทำงานเยอะ แบตอึด และราคาถูก เป็นจุดขายโดยรวมของเครื่องรุ่นนี้ครับ
ผลทดสอบต่างๆ
การจับสัญญาณ GPS ทำได้ดีไม่มีปัญหาใดๆ
กล้องถ่ายภาพ
ในด้านการใช้งานของกล้องก็นับเป็นจุดเด่นได้อีกเช่นกันครับสำหรับ Redmi 5 Plus กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซลใหญ่ 1.25μm สามารถจับแสงได้มากขึ้น
กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล มีโหมดปรับความงาม Beautify 3.0 สำหรับการเซลฟี่ให้ดูดีสวยหล่อมากขึ้น ซึ่งสามารถกำหนดระดับความงามด้วยตัวเองหรือให้เครื่องปรับให้อัตโนมัติได้ครับ
กล้องของ Redmi 5 Plus ก็เกินตัวเกินราคาครับ อยู่ในระดับหวังพึ่งได้ ^^ ถ่ายกลางวันคมกริบโฟกัสไวไม่งอแง กลางคืนและที่ร่มมีนอยส์บ้างให้เห็น แต่ไม่เละเทะแบบใช้การไม่ได้ครับ ดีกว่ามาตรฐานของกล้องราคาครึ่งหมื่น ลองดูตัวอย่างภาพถ่ายด้านล่างที่ผมนำมาฝากกันครับ เดินไปถ่ายเล่นๆ ไม่ต้องเล็ง คุณภาพก็ออกมาใช้ได้ครับ
สรุปท้ายรีวิว
Xiaomi Redmi 5 Plus สรุปง่ายครับ จุดขายคือราคาที่คุ้มค่ากับสิ่งที่ได้มา ตัวเครื่องคุณภาพในระดับหมื่นแต่ขายในาคาแค่ครึ่ง ไม่ใช่เครื่องที่ดีที่สุดแต่คุ้มสุดในราคาห้าพันกว่าบาทแน่นอนครับ