ลือกันหนาหูเหลือเกินแล้วว่า Apple นั้นเตรียมที่จะเปิดตัวมือถือ iPhone ใหม่ทั้งสิ้น 3 รุ่นด้วยกันในปีนี้ โดยจะเปิดตัวในงานที่น่าจะจัดขึ้นประมาณวันที่ 9 กันยายน ที่จะถึงนี้ โดย iPhone ใหม่ทั้งสามตัวนั้นจะประกอบด้วยตัวรุ่นหน้าจอ 5.8 นิ้วซึ่งเป็นรุ่นภาคต่อโดยตรงกับ iPhone X ในปัจจุบันที่จะมาพร้อมกับชิปเซ็ตตัวใหม่และกล้องระบบใหม่ ในขณะที่ตัวใหญ่กว่านั้นจะเป็นรุ่น 6.5 นิ้วที่ว่ากันว่าจะเป็นเวอร์ชั่น Plus ของ iPhone X และอีกรุ่นนั้นจะมีขนาด 6.1 นิ้วซึ่งจะถูกวางตัวเป็นรุ่นราคาถูกสุดในสามรุ่นนั่นเอง
สาเหตุที่จะทำให้ iPhone 6.1 นิ้วมีราคาถูกลงมาได้นั้นเป็นเพราะในรุ่นนี้จะเลือกใช้หน้าจอ LCD แทน AMOLED ที่ใช้อยู่ในรุ่น iPhone X และตัวเครื่องเองจะเป็นอลูมิเนียมแทนการใช้สแตนเลส ซึ่งเฉดสีของตัวเครื่องเองในรุ่นราคาประหยัดนั้นก็จะต่างออกไปจากรุ่นกลุ่ม iPhone X ที่มาพร้อมฝาหลังตัวเครื่องแบบกระจกอยู่เล็กน้อยด้วย
iPhone ปี 2018 ทั้งสามรุ่นจะมาพร้อมกับการชาร์จแบบไร้สายเหมือนที่เห็นใน iPhone ปีนี้ทั้งหมด รวมไปจนถึงฟังก์ชั่นการปลดล็อกด้วยใบหน้าและรอยบากหน้าจอเหมือนอย่าง iPhone X ตัวปัจจุบันด้วย หน้าตาโดยรวมนั้นจะคล้ายกันหมด แต่จะต่างกันตรงที่ว่า iPhone หน้าจอ 6.1 นิ้วซึ่งเป็นรุ่นราคาประหยัดนั้นจะมีกล้องหลังเพียงกล้องเดียวเท่านั้น และทั้งหมดจะใช้การควบคุมผ่านการสัมผัสเหมือนที่เปิดใช้ครั้งแรกบน iPhone X ตัวปัจจุบันนี้
นอกจากนี้ Ming-Chi Kuo ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์ทางฝั่ง Apple ชื่อดังยังเผยภายตาราเปรียบเทียบ iPhone ปี 2018 ทั้งสามรุ่นที่เห็นอยู่ด้านบนนี้ออกมาเป็นข้อมูลประกอบความเข้าใจด้วย โดยจะเป็นการจำแนกความต่างของสเป็กเครื่องทั้งสามเครื่องให้เห็นกันอย่างชัดเจนและเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น ซึ่ง iPhone รุ่นที่ว่าจะเป็น iPhone X Plus หน้าจอ 6.5 นิ้วนั้นน่าจะเปิดราคามาที่ $999 หรือราคาเดียวกับที่ iPhone X รุ่นปัจจุบันเปิดตัว โดยจะทำให้ราคาของ iPhone X ที่เป็นรุ่นภาคต่อของตัวปัจจุบันที่มาพร้อมหน้าจอ 5.8 นิ้วนั้นอาจจะลดลงจากราคาของตัวแรกอยู่ประมาณ $100 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 3500 บาท)
ในขณะที่ iPhone หน้าจอ 6.1 นิ้วซึ่งเป็นหน้าจอแบบ LCD นั้นจะสามารถออกวางจำหน่ายได้จริงๆ น่าจะเป็นช่วงเดือนตุลาคมเลยทีเดียวเนื่องจากปัญหาเรื่องการผลิตหน้าจอเอง ส่วน iPhone ปี 2018 อีกสองรุ่นนั้นจะเริ่มจำหน่ายได้ในช่วงปลายเดือนกันยายน 2561 นี้ ซึ่ง iPhone รุ่น 6.1 นิ้ว และ 6.5 นิ้วนั้นว่ากันว่าจะมาพร้อมกับความสามารถในการรองรับสองซิมการ์ดได้พร้อมกันในบางประเทศที่ออกวางจำหน่าย
Kuo ยังเสริมอีกว่า iPhone ปี 2018 ทั้งหมดนั้นจะยังไม่รองรับความสามารถของ Apple Pencil อย่างที่เคยเป็นข่าวลือกันไปก่อนหน้านี้ โดยเหตุผลของเขานั้นก็ง่ายๆ ว่าเป็นเพราะมันยังไม่พร้อมสำหรับประสบการณ์การใช้งานที่เต็มประสิทธิภาพบน iPhone นั่นเอง แต่ทั้งนี้บน iPhone X Plus นั้นน่าจะสามารถใช้งานฟังก์ชั่นหน้าจอแยกเหมือนบน iPad ได้ในปีนี้
นอกจาก iPhone ตัวใหม่ทั้งสามรุ่นแล้ว ว่ากันว่าในปีนี้ Apple จะถือโอกาสเปิดตัว AirPods รุ่นอัพเดตมาให้ได้เห็นกันพร้อมกับเจ้า AirPower Wireless Charger หรือที่ชาร์จไร้สายแผ่นยาวๆ ที่ชาร์จได้หมดตั้งแต่ตัว iPhone, AirPods ไปจนถึง Apple Watch ด้วย ในขณะเดียวกันเจ้า Apple Watch รุ่นใหม่เองก็จะได้เปิดตัวในงานนี้พร้อมกับ iPad Pro รุ่นใหม่ ซึ่ง Apple Watch นั้นจะมาพร้อมกับหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้นแต่ตัวเครื่องรวมทั้งตัวจะมีขนาดเท่าเดิม ส่วน iPad Pro ตัวใหม่นั้นจะมีขนาด 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว และมีขอบจอที่เล็กลงกว่าเดิมเยอะ นอกจากนี้ยังคาดว่าตัว iPad Pro รุ่นใหม่นั้นจะไม่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใส่มาแล้ว นั่นทำให้ไม่มีปุ่มโฮมไปด้วยโดยอัตโนมัติ โดยจะใช้วิธีการปลดล็อกเดียวกับบน iPhone X คือด้วย Face ID นั่นเอง