อีกหนึ่งในอภิมหาเกมจากค่ายเทพอย่าง RockStar ที่มีแฟนๆเกมรอคอยทั่วโลกอย่าง Red Dead Redemption 2 ที่หลังจากเปิดตัวก็เรียกเสียงฮือฮาด้วยกราฟิกและเกมเพลย์ที่ผู้สร้างคุยว่าจะสมจริงจนถึงที่สุด และเมื่อมันออกมาก็อดไม่ได้ที่แฟนๆรวมทั้งผู้เขียนเองจะคาดหวังไว้สูงมาก
โดยเกม Red Dead Redemption 2 เป็นภาคต่อของซีรีส์ ที่หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลในการจำลองโลกคาวบอยตะวันตกมาเป็นเกม Open World ได้ จนสานต่อมากับภาคใหม่บน PS4 , XBoxOne ที่ทำให้โลกกว้างๆในเกมถูกขยายมากขึ้นไปอีกหลายเท่า จนอาจจะเรียกว่ามันคือเกมโลกอิสระที่สมบูรณ์ที่สุดแล้วในตอนนี้ สมกับความจุของเกมที่ซื้อเป็นแผ่นยังได้บลูเรย์มาให้ถึง 2 แผ่น และมีความจุรวมมากกว่า 100GB
กราฟิกที่สุดยอดที่สุดแล้วในยุคนี้
สัมผัสแรกทุกอย่างล้วนคือความยอดเยี่ยม เพราะภาพในเกมอยู่ในระดับสูงมาก สามารถจำลองโลกตะวันตกในอดีตออกมาได้ครบถ้วน ทั้งสีสันและแสงเงาที่ไม่ว่าจะเป็นบนภูเขาสูงเสียดฟ้า หรือป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้และสัตว์ ล้วนทำได้สมบูรณ์แบบ อีกทั้งรายละเอียดในเกมยังคงทุนในมาชนิดละเอียดอย่างเหลือเชื่อ เรียกว่าหากมองด้านกราฟิกไม่มีอะไรให้ติ และเป็นเกมที่มีกราฟิกที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุคนี้ไปได้โดยไม่มีข้อแย้ง ส่วนเฟรมเรตของเกมจะอยู่ที่ 30 FPS แต่ก็ถือว่านิ่งและไม่ได้ตกมากนัก โดยรวมถือว่าลื่นดี(เล่นบน PS4) และเมื่อเทียบกับโลกกว้างๆมันทำได้ดีที่สุดแล้ว
เพลงประกอบ เสียงพากย์ เรื่องราวระดับทีมงานฮอลลีวูด
เช่นเดียวกับกราฟิกในเกม เสียงพากย์และเพลงประกอบถือว่าเป็นความโดดเด่นอย่างมาก เพราะทีมงานก็ยัดใส่เพลงธีมแบบหนังคาวบอยตะวันตกใส่มาในจุดที่เหมาะสม และเสียงประกอบอย่างเสียงปืนก็สมจริงมีการแยกประเภทรวมทั้งทีมงานพากย์ก็เป็นมืออาชีพ บวกกับเรื่องราวที่เข้มข้น และบอกไว้ก่อนว่าต่อให้คุไม่เคยเล่นภาคแรกมาก่อนก็สามารถเข้าใจและอินไปกับเรื่องราวของเรื่อง และความสัมพันธ์ของตัวละครที่ถูกเขียนออกมาดีมาก บอกกับการแสดงสีหน้าและการเคลื่อนไหวของตัวละครที่สมจริง ทำให้มันไม่ได้เป็นแค่เกมแต่มันคือซีรีส์คาวบอยดีๆเรื่องหนึ่ง
เกมเพลย์ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดและสมจริง(มาก)
รูปแบบการเล่นคือจุดเด่นอย่างมากของเกม เพราะตั้งแต่การเปิดตัวที่ผู้สร้างระบุว่าเกม Red Dead Redemption 2 จะมีความสมจริงอย่างมากชนิดว่ามันอาจจะเป็นการจำลองโลกได้สมจริงที่สุดเกมหนึ่งในวงการเกมดันเลย แต่ประเด็นหลักคือการเล่นที่แม้จะบอกว่ามันสมจริงอย่างมากแต่การบังคับทำได้ง่ายดาย ซึ่งหากคุณมีพื้นฐานการเล่นเกม GTA 4 และ 5 มาก่อนก็แทบจะไม่ต้องปรับตัวอะไรมากเพราะการบังคับก็มาแนว RockStar และเมนูก็แทบจะเหมือนกัน
การรับภารกิจในเกมที่จะใช้เป็นจุดรับบนแผนที่แทบจะเหมือนกับ Open World ทั่วๆไปทำให้เข้าใจง่าย โดยนอกจากภารกิจหลักแล้วยังมีเควสเสริมอยู่ในเกมจำนวนมากกว่าเกมทั่วๆไปเพราะบางอย่างไม่มีระบุผู้เล่นต้องออกสำรวจเอง และยังมีระบบการเลือกการกระทำที่จะส่งผลกับตัวเกมรวมทั้งการเลือกถามตอบที่จะเปลี่ยนเรื่องราวในเกมไปได้
และแน่นอนว่าเมื่อมาแนว GTA ทำให้การกระทำของเราจะส่งผลในเกมแบบเดียวกัน เพราะหากเราทำผิดกฎหมายก็จะโดนเล่นงาน และในเกม Red Dead Redemption 2 นั้นเข้มข้นและสมจริงมาก ไม่ได้หนีเข้าบ้านแล้วนอนก็หายเกมมีระบบตามจับที่เข้มงวดมากและใช้ระบบค่าหัว หากเราทำอะไรผิดก็จะโดนไล่ล่าจากคนที่อยากได้ค่าหัวเรา ซึ่งการแก้ก็ไม่ได้ง่ายๆ ดังนั้นการทอะไรในเกมก็ต้องคิดให้ดีกันก่อน และต้องระมัดระวังเพราะหากมือเราลั่นก็จะเกิดปัญหาได้ง่ายๆ(แต่ถ้าระวังก็ไม่น่ากังวล)
ความสมจริงทั้งอาวุธและตัวละคร
ส่วนระบบอาวุธที่ในเมื่อเรื่องราวเกิดขึ้นในอดีตสมัยคาวบอยทำให้ปืนในเกมตรงกับยุคนั้น และทีมงานก็เอาใจใส่เพราะปืนแต่ละกระบอกตรงกับความจริงทั้งระยะและการใช้งานตรงกับของจริงทั้งหมด และแน่นอนว่าผู้เล่นต้องเอาใจใส่ในการทำความสะอาดไม่งั้นจะใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และยังมีระบบอัพเกรดอาวุธที่ลงรายละเอียดแต่ไม่ได้ซับซ้อนอะไร ความสามารถของตัวละครทำด้วยระบบที่ไม่ซับซ้อน มีการใส่ค่าพลังชีวิต , ค่าพลังความอึด และมีระบบเล็งยิงแบบสโลว์โมชั่นที่ผู้เล่นสามารถใช้ได้เพื่อความสะดวกในการต่อสู้(แต่ใช้ได้จำกัด)
แน่นอนว่าเกมแนว Open World ต้องมีพาหนะ ที่ยุคคาวบอยก็ต้องเป็นม้า หรือรถม้าที่เมื่อมาอยู่ในเกมที่สมจริงทุกอย่างเลยจัดเต็ม แต่การควบคุมบังคับก็ง่ายกดไม่กี่ปุ่ม ทำให้เวลามีภารกิจที่ต้องใช้ม้าไม่ว่าจะเป็นการไล่ล่า หรือการคุ้มกันที่ต้องใช้การยิงปืนบนหลังม้าก็ทำได้ง่ายดาย ส่วนระบบการอัพเกรดตัวละครจะเป็นแบบอัตโนมัต ไม่มีเมนูอัพเกรดใช้อะไรมากๆส่วนนั้นก็จะมีค่าพลังที่เพิ่มขึ้น แบบ GTA ในบางภาคเรียกว่าเป็นข้อดีเพราะไม่ต้องไปกังวลอะไรในการตั้งค่า
นอกจากนี้เรายังเปลี่ยนเสื้อผ้าของตัวละครหลักได้ตามใจ และยังต้องเอาใจใส่ในการทำความสะอาดร่างกายไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำที่หากไม่อาบตัวจะสกปรกขึ้น และหากเราไม่โกนหนวดมันก็จะยาวขึ้นเรื่อยๆแบบสมจริงสุดๆ นอกจากนี้ยังใส่ระบบอัพเกรดแคมป์ที่เหมือนเป็นฐานของตัวเอกที่ต้องหาเงินและไอเทมเพื่อนำมาเพิ่มเติมสิ่งใหม่ๆ และใช่ว่าความสมจริงจะทำให้เกมตัดโหมดบางอย่างไปเพราะอย่างน้อยก็ยังมีโหมดเพื่อกดสแกนว่ามีจุดสนใจในฉากเช่นศัตรูหรือไอเทม และมีการบอกว่าเราต้องไปทำอะไรที่ไหนเพื่ออำนวยความสะดวกในการเล่น และอีกจุดเด่นคือภารกิจล่าสัตว์ที่เกมใส่ประเภทของสัตว์มานับร้อยชนิดและก็สมจริงแบบสุดๆ ที่มีทั้งออกล่าและการตกปลาที่หลากหลายมากที่เจัดเต็มราลละเอียดมีกระทั้งระบบเหนือลมใต้ลม ที่ราวกับว่าเราได้ออกล่าสัตว์กันจริงๆเลย
สมจริงเกินไปหรือเปล่า?
แน่นอนว่าบางส่วนในเกมเน้นความสมจริงจนอาจจะทำให้แฟนเกมที่ชอบอะไรรวดเร็วหงุดหงิด เพราะเอาแค่เก็บของชิ้นหนึ่งในเวลานานไป หรือต้องมานั่งเปิดตู้หรือลิ้นชักก่อนค่อยหยิบไอเทม แบบค่อยๆเก็บช้าๆ หรือการเดินทางในภารกิจบางครั้งลากยาวเกินไปจนมือใหม่หรือคนที่ไม่ได้ชอบเกมแนวนี้อยู่แล้วอาจจะเบื่อ แต่หากทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบในเกมมันไม่ได้น่าเบื่อเลยแถมยังมีกราฟิกสวยๆงามๆเป็นวิวระหว่างเดินทางด้วย และใครจะเล่นบอกไว้ก่อนเลยว่าในตอนที่ 1 และ 2 อาจจะไม่ชอบเพราะเหมือนเป็นฉากแนะนำ แต่หลังจากขึ้นตอนที่ 3 จะมีอิสระมากขึ้นและเกมจะสนุกอย่างมาก จนแทบจะหยุดเล่นไม่ได้เลย
ความคุ้มค่า ของเกมอยู่ในระดับสูงเพราะเกมจัดเต็มไปด้วยรายละเอียดโดยเอาแค่ให้จบก็จะใช้เวลาประมาณ 50-60 ชั่วโมงในการเล่นจบ และหากจะเก็บรายละเอียดให้ครบๆคงจะใช้เวลามากกว่า 100 ชั่วโมงแน่นอน เรียกว่าใครชอบเกมแนว GTA ไม่ควรพลาดเพราะมันคุ้มค่าสุดๆ