Vivo V15 รุ่นน้องแต่ไฮเทค เปิดตัวตามหลังรุ่นพี่ Vivo V15 Pro มาติดๆ ครับ ด้วยราคาที่ประหยัดกว่าแต่มีความต่างกันเล็กน้อย ซึ่งความคุ้มค่ายังคงมาเต็ม ผมต้องบอกว่าในช่วงนี้ Vivo V15 Pro และ Vivo V15 เป็นเครื่องที่น่าสนใจและคุ้มค่ามากทั้งสองรุ่นครับ
สำหรับบทความรีวิวนี้จะเป็นเรื่องราวของ Vivo V15 พระเอกตัวใหม่ของเราที่เปิดราคามา 10,990 บาทนะครับ ^^ สำหรับใครที่สนใจข้อมูลของตัว Vivo V15 Pro สามารถอ่านได้จากรีวิว >>>Vivo V15 Pro <<< ของ Appdisqus นะครับ
Vivo V15 เป็นเครื่องสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ 6.53 นิ้ว ซึ่งเป็นหน้าจอที่ไร้รอยบาก ไร้ติ่ง และไร้รูใดๆ รบกวนบนจอครับ เพราะเจ้า V15 เป็นหนึ่งในกลุ่มสมาร์ทโฟนซึ่งใช้เทคโนโลยีใหม่ซ่อนกล้องหน้า หรือกล้องเลื่อนได้อัตโนมัติสุดไฮเทคนั้นเอง ^^
โดยกล้องหน้าของมันจะถูกซ่อนไว้ในตัวเครื่องเมื่อไม่ได้มีการใช้งาน และจะเลื่อนขึ้นมาเองเมื่อเปิดการทำงานที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติ ทำให้ผู้ใช้ได้หน้าจอขนาด 6.53 นิ้ว มาใช้งานแบบเต็มๆ 100% เลยครับ ไม่ใช่ต้องเว้นขอบดำเว้นตัดส่วนทิ้งไปยามใช้งานจริงเหมือนรุ่นจอมีรอยบาก
หน้าจอสวย เป็น Incell เทคโนโลยี แสงสดมากครับจอ V15 ตัวนี้ เวลาใช้งานจริงจอมันสวยและใหญ่เต็มตามากๆ เลย ด้วยขนาด 6.53 นิ้วที่เราสามารถใช้ได้บนจรดล่างสุดขอบของจริง ไม่มีตัดดำทิ้งจากติ่งหรือรอยบาก
ขอบจอโค้งเล็กน้อย 2.5D กินพื้นที่ด้านหน้าตัวเครื่องไปกว่า 90.95% ใช้กระจก Corning Gorilla Glass 5 กันตกกระทบได้ในระดับหนึ่งครับ แต่หน้าจอก็มีติดกระจกกันรอยมาให้แล้วอีกหนึ่งชั้น
เครื่องราคาหมื่นเดียว ได้หน้าจอแบบนี้และกล้องหน้าเลื่อนอัตโนมัติ จริงๆ ก็คุ้มมากแล้วนะครับ แต่มันยังเป็นเพียงแค่ไฮไลค์แรกๆ ของเจ้ารุ่นนี้เท่านั้นนะครับ เพราะ Vivo V15 เป็นเครื่องที่ให้กล้องหลังมาสามตัว แถมเป็นชุดกล้องหลังที่มาพร้อม AI และเลนด์การถ่ายภาพมุมกว้าง Wide Angel บอกกันตอนต้นรีวิวตรงนี้เลยว่า กล้องเกินราคามาก ^^ ทั้งคุณภาพและความสนุกในการถ่ายภาพครับ
ตัวเครื่องก็สวย มันถูกทำลวดลายบนพื้นผิวเป็นเส้นทแยง ใช้สีน้ำเงินไล่เฉดเหลื่อมกับสีน้ำเงินเข้มแกมม่วง เหมือนสีน้ำในทะเล สีเด่นสะดุดตามากสีนี้ Topaz Blue นับเป็นเครื่องที่สวยครับ
รองรับการสแกนลายนิ้วมือที่เซนเซอร์ด้านหลังตัวเครื่อง นี้เป็นจุดแตกต่างสำคัญกับเจ้าตัว Vivo V15 Pro รุ่นพี่ของมันครับ เพราะรุ่นนั้นเขาใช้เทคโนโลยีการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอโดยตรง
งานออกแบบเลนส์กล้องสามตัวผมว่าดูดุดัน ตัดหน้าเลนส์สีดำกับตัวเครื่องสีน้ำเงินแบบนี้ ดูมีความเป็นผู้ชาย และเป็นการวางแนวกล้องหลังให้เป็นแนวเดียวกันกับกล้องหน้าที่ถูกซ่อนเอาไว้ภายใน เวลากล้องเลื่อนเข้าเลื่อนออกดูเท่ดีชะมัด ^^
V15 รองรับการใช้งานสองซิมการ์ดแบบ Dual 4G หรือใช้งาน 4G ได้พร้อมกันทั้งสองซิมครับ มาพร้อมสล็อตใส่ Micro SD card ได้อีกต่างหากอีกหนึ่งช่อง รวมเป็นสามสล็อตไม่ต้องแย่งกัน
เห็นบางๆ แบบนี้พี่แกมีแบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh อยู่ข้างในนะครับ รองรับระบบชาร์จเร็ว Dual-Engine Fast Charging ชาร์จผ่านพอร์ตเชื่อมต่อ microUSB 2.0 ของมัน
ด้านล่างตัวเครื่องยังคงมีพอร์ตหูฟัง 3.5 อยู่นะครับ เสียงลำโพงดังชัดเจน เปิดสุดเสียงไม่แตก ด้านซ้ายของเครื่องมีปุ่มพิเศษ “Jovi” AI อัจฉริยะของทาง Vivo เป็นปุ่มพิเศษที่เพิ่มเข้ามาเพื่อใช้เรียกความสามารถ “รู้จำรูปภาพ” ของ Jovi หรือใช้เปิดเรียกคำสั่งเสียง Google Assistant หรือตั้งให้เป็นปุ่มเรียก Google Serach ก็ได้ด้วยนะครับ โดยปุ่มนี้ปุ่มเดียวกำหนดค่าได้สามลักษณะการกดเลย ทั้งกดครั้งเดียง กดสองครั้ง และกดค้างไว้ครับ
โดย “ตัวรู้จำรูปภาพ” ของ Jovi คือการค้นหาลักษณะของภาพที่ปรากฏบนหน้าจอ และแสดงความเกี่ยวข้องจากแหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ชื่อดังอย่าง Shopee หรือ Zalora ซึ่งมีฐานข้อมูลของสินค้ารวมกันกว่า 500 ล้านชิ้น มันจับลักษณะได้แม่นนะ แต่บางทีก็มีขำๆ หลุดมาบ้าง ^^ ลองเล่นดูสนุกดี 555 ผมว่าเจ้าปุ่มนี้ของ V15 มันมีประโยชน์มากครับ เพราะผมกดใช้บ่อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะเรียก Google Search
ของที่มีให้มาภายในกล่อง V15 ก็ครบครับ ทั้งตัวหูฟัง สายชาร์จและที่ชาร์จ Dual-Engine Fast Charging กระจกมีติดกันรอยมาให้แล้ว และมีเคสสวมใส่ ที่ทาง Vivo ให้เคสมาพิเศษกว่าใครเลย เคสมันเป็นแบบกันกระแทกได้รอบตัวเลยละครับ ^^
ก็สรุปสำหรับตัวเครื่องภายนอก ผมชอบหน้าจอของมันจริงๆ ครับ ใหญ่ สด เต็มตา สีจอสวยมาก เป็นจอที่ดูมีคุณภาพและไร้ติ่งไร้รอยบาก
ตัวเครื่องก็สีสวยครับ และเท่ด้วยเพราะกล้องหน้ามันเลื่อนได้อัตโนมัติ การออกแบบเลนส์กล้องหลังก็ดูดุดันดี ผู้ชายน่าจะชอบการออกแบบของมันครับ ^^
การใช้งานภายใน
Vivo V15 เป็นเครื่องราคาหมื่นแต่สเปคไม่เบาเลย ด้วยการที่ Vivo ตัดสินใจใช้หน่วยประมวลผล MTK P70 2.1 GHz Octa-core ที่เป็นหน่วยประมวลผลตัวใหม่ มีประสิทธิภาพที่ดีแต่ต้นทุนไม่แรง ไม่แพงเหมือน Snapdragon แบบที่ใช้ใน Vivo V15 Pro จึงทำให้ V15 ทำราคาได้ดีและมีประสิทธิภาพการใช้งานที่ไม่ด้อยไปกว่ากันเท่าไหร่เลยครับ
แรมขนาด 6GB และหน่วยความจำภายใน 128 GB (สามารถใส่ microSD สูงสุด 256GB) ผมว่ามันไม่ใช่สเปคธรรมดาเลยนะ โดยเฉพาะเมื่อดูจากราคาขาย
ระบบใช้ Android 9 ใหม่สุด ครอบทับด้วย UI FuntouchOS 9.0 ใหม่สุดเช่นกัน หน้า UI ของ Vivo จะแปลกแตกต่างกับชาวบ้านเขาเลยนะครับ เพราะชุดคำสั่งจะถูกรวมให้เรียกใช้โดยการสะบัดนิ้วขึ้นจากขอบจอด้านล่าง โดยจะรวมไว้ทั้งการตั้งค่าสำคัญ การเพิ่มแสงหรี่แสง การเพิ่มลดระดับเสียง รวมถึงแอพพลิเคชั่นเรียกใช้งานย้อนหลัง ผมว่าอันนี้ดี และอยากให้อยู่คู่กับ Vivo ไปนานๆ ^^ หน้าเดียวจบ ครบแค่สะบัดนิ้วขึ้นมา 555
หน้า UI มีการใส่ “หน้าสถานการณ์อัจฉริยะ” เข้ามาครับ เป็นหน้าแนวฮิตที่นิยมกัน ซึ่งจะรวมกิจกรรมและการแจ้งข้อมูลที่สำคัญต่อเจ้าของเครื่อง เช่นกำหนดการ แอพใช้งานบ่อย หรือรวมถึงการตรวจจับจำนวนก้าวเดิน พร้อมแจ้งข้อมูลข่าวสารของทีมกีฬาโปรด เจ้าหน้านี้ทำให้ได้หมดครับ
การทดสอบใช้งานแอพพื้นฐาน และการใช้งานทั่วไป ตอบสนองรวดเร็ว 100% เข้าออกแอพพลิเคชั่นไม่มีสะดุดเลยครับ ประสิทธิภาพของมันแค่การใช้งานทั่วไปแบบ แอพแชต โซเชี่ยล หรือดูหนังฟังเพลงอ่านหนังสือ มันพอเพียงสบายๆ ครับ และผมว่า Vivo เป็นบริษัทที่ทำซอฟท์แวร์ออกมาได้ดีด้วยนะ สังเกตมาตั้งแต่ V9, V11 แล้วละ ตอบสนองดีกว่าสเปคทุกตัวเลยจากที่ทดสอบใช้มา
ไอ้แอพพื้นๆ พวกนี้ V15 มันรันสองแอพยังสบายๆ ลื่นๆ เลยครับ ขยับขนาดแสดงผลเข้าๆ ออกๆ ไม่มีสะดุดให้เห็นเลย ตัว P70 กับแรม 6GB เอาอยู่สบายครับ
ในด้านการเล่นเกมความลื่นไหลเรียกว่าเล่นได้ ไม่หงุดหงิดหรือมีอะไรสะดุดเป็นพิเศษ อาจจะไม่สามารถแสดงศักยภาพเกมให้ตอบสนองได้เต็ม 100% แบบเครื่องรุ่นใหญ่นะครับ แต่รับประกันว่ามันเล่นได้อย่างสบายใจแล้วละ
ทาง Vivo มีการใส่ฟังก์ชั่นสำหรับคนเล่นเกม ที่ยุคนี้สำคัญมาก ^^ กันการหัวร้อนเพราะโดนรบกวนขณะกำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน ปิดกั้นการรบกวน ปรับการแจ้งเตือน รีดประสิทธิภาพเครื่องเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ
ฟังก์ชั่นใน FuntouchOS 9 มีอีกมากมายครับ ทั้งเพื่อความสะดวกสบายเช่นฟังก์ชั่นอัจฉริยะในการเรียกใช้งานเครื่องอย่างรวดเร็ว อย่างเขย่าเครื่องเพื่อเปิดไฟฉาย หรือการตั้งค่าปุ่มลดระดับเสียงให้กดค้างไว้เพื่อเปิดการทำงานบางอย่างในทันที
รวมถึงเพื่อความคล่องตัวเช่นการโคลนแอพจากหนึ่งเป็นสองบัญชี ใช้งาน Facebook หรือ Line ได้สองไอดีในเครื่องเดียวกัน
รวมถึงด้านความปลอดภัย เราสามารถสร้าง “ตู้เซฟไฟล์” เพื่อเก็บไฟล์ข้อมูลส่วนตัว ทั้งรูปภาพ เพลง วีดีโอ เอกสาร และไฟล์อื่นๆ ด้วยการเข้ารหัสความปลอดภัยไว้ได้อีกชั้นหนึ่งครับ รวมถึงโหมดสำหรับการขับขี่มอร์เตอร์ไซด์ ที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน
ทั้งหมดเป็นความสามารถปลีกย่อยที่ยังมีอีกมากมายภายในเครื่อง Vivo V15
ผลทดสอบต่างๆ
Vivo V15 จับสัญญาณ GPS ได้ไวมากครับ แม้ไม่ต้องเปิดเน็ตช่วยเลย แบตเตอรี่อึดใช้งานกันได้จนสิ้นวันแม้จะเป็นวันใช้งานหนักพอสมควรครับ แบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh กับ V15 เต็มที่กับชีวิตได้เลย ^^
กล้องถ่ายภาพ
กล้องหลัง AI Triple Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (F/1.78) + 8 ล้านพิกเซล (F/2.2) และ 5 ล้านพิกเซล (F/2.4) ชุดกล้องถ่ายภาพของ V15 ชุดนี้ ผมบอกได้เลยว่า “คุ้มเกินคุ้ม” เพราะเครื่องนี้เราจะได้กล้องหลังสามตัวที่มี AI และเลนส์ถ่ายมุมกว้างซึ่งสำคัญมากสำหรับชีวิตคนชอบถ่ายภาพครับ ^^
การถ่ายภาพมุมกว้างมันกลายเป็นเทรนด์ที่จำเป็นในสถานการณ์ใช้งานจริง การถ่ายภาพแบบที่เราต้องการเก็บเรื่องราวให้กว้างมากขึ้น เห็นมากขึ้น และเปลี่ยนมุมมองให้โลกแปลกตาไปมากกว่าเดิม มันคือความสามารถหนึ่งของกล้อง V15 ครับ และมันเป็นกล้องที่ทำผลงานได้ดีในราคาไม่แพงเลย
นอกจากเลนส์มุมกว้างแล้ว มันก็มาพร้อมกับระบบการถ่ายภาพบุคคล หน้าชัดหลังเบลอ และการกำหนดรูรับแสงเพื่อละลายฉากหลัง ใน V15 เรากำหนดความชัดลึกชัดตื่นของภาพได้อย่างอิสระเลยครับ ภาพที่ได้สามารถนำมาปรับระยะชัดลึกและเลือกโฟกัสใหม่หลังการถ่ายไปแล้วได้ด้วย
ความคมระดับสูงครับ จับภาพคนดี ตัววัตถุแม่นยำ ละลายฉากหลังเป็นเรื่องที่เล่นได้อิสระเลย
การใส่ฟิลเตอร์ปรับอารมณ์ภาพ โดยสามารถให้ Jovi หรือ AI ประจำเครื่องตัดสินใจเลือกฟิลเตอร์ที่เหมาะสมกับฉากให้โดยอัตโนมัติก็ได้ด้วยนะครับ
การถ่ายภาพด้วยโหมด AI ใบหน้าสวย หรือบิวตี้โหมดในโลกยุคใหม่นั้นเอง ^^ โดยเจ้า V15 มันไม่ได้ปรับได้แค่หน้าเนียนอีกต่อไป มันปรับได้ทั้งเบ้าหน้าเลยครับ รูปปาก รูปคาง รูปจมูก หน้าผาก เรียกว่าหมอรับศัลยกรรมส่วนใหม่ V15 ก็ปรับส่วนนั้นได้นั้นแหละครับ จะปรับก่อนถ่าย หรือถ่ายแล้วไปปรับก็ได้ทั้งนั้นนะครับ
ยังลามไปถึงการปรับรูปร่างของแบบ ปรับได้ “ทั้งตัว” ลดเอว ลดขา ยืดน่อง ลดสะโพก ขยายไหล่ มันทำได้หมดครับ เพราะ AI มันรับรู้โครงสร้างมนุษย์ได้หมดแล้วไม่ใช่แค่ใบหน้า
จากภาพตัวอย่างด้านล่าง สังเกตดีๆ ที่ตัวคน จะเห็นว่า การปรับแต่งมันช่วยให้ภรรยาผม ผอมลงไปได้ถนัดตาเลย ภรรยาผมชอบมากโหมดนี้ ^^
มีโหมดการใช้แสงแบบแนวสตูดิโอถ่ายภาพ จำลองการจัดแสง และลูกเล่นสีแสง เป็นโหมดที่ออกแบบมาเพื่อถ่ายบุคคลโดยเฉพาะครับ เพิ่มความสนุกและแตกต่าง โหมดพวกนี้สนุกและแปลกตาดีครับ ตัดฉากหลังเป็นสีดำหรือแสงแปลกได้ ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งกล้องหลังและกล้องหน้าเลยครับ
ในกล้องหน้าก็มีโหมดใบหน้าสวยให้ใช้นะครับ (ต้องมีแน่นอน ^^ ) ปรับแต่งได้หมดทั้งรูปหน้าเหมือนกล้องหลังเลย ที่สำคัญเจ้า V15 มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียดสูงมาก 32 ล้านพิกเซล
ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังของ V15 คุ้มราคาฟันธงเลยครับ มีเลนส์ไวด์ให้ใช้ มีโหมดละลายหลังที่ปรับแต่งได้อิสระ และลูกเล่นด้านสีแสงเยอะมาก เอาไปเที่ยวถ่ายรูปเล่นได้สบายๆ
ถ่ายบุคคล ถ่ายวิวมุมแคบ มุมกว้าง V15 ทำได้ดีหมดครับ
ตัวอย่างกล้องหน้า แสงปกติหน้าธรรมชาติ หรือชอบโหมดฟรุ้งฟริ้งเพิ่มความสว่างให้หน้าใสๆ ขาวๆ ชอบแนวไหนได้หมดครับ
สรุปท้ายรีวิว
V15 เปิดราคามา 10,990 บาท คุ้มครับ ได้ทั้งกล้องหลังสามตัว แถมคุณภาพดีซะด้วยและมาพร้อมเลนส์มุมกว้าง กล้องหน้าเลื่อนอัตโนมัติ 32 ล้านพิกเซล ทั้งไฮเทคทั้งคุณภาพสูง เด่นที่หน้าจออีกต่างหาก จอสวย ใหญ่ 6.53 นิ้ว เต็มตาเพราะไร้รอยบาก ไร้ติ่งกวนตา
สเปคเครื่องถือว่าดี MTK P70 กับแรม 6GB และรอม 128GB ให้มาเยอะมาก เพิ่มหน่วยความจำได้อีก 256GB ด้วยสล็อต Micro SD card ต่างหากที่ไม่ต้องแย่งกันกับสล็อตซิมการ์ด แบตเตอรี่ 4,000 mAh พร้อมระบบชาร์จไว ตัวเครื่องสวยอีกต่างหาก
ทั้งหมดนี้ หาไม่ได้แล้วครับในราคาหมื่นเดียว ยังไม่นับของแถมที่ทาง Vivo จัดมาให้อีก
- หูฟัง Marshall In –Ear มูลค่า 3,590 บาท
- Vivo Exclusive Gift box มูลค่า 1,099 บาท
- Vivo Songkarn Festival Gift Set มูลค่า 1,199 บาท
- Privilege card
ของแถมคนจองก็รวมมูลค่ากว่า 5,870 บาทเข้าไปแล้วครับ ของผ่านทาง LAZADA เปิดให้จองสองสีครับ Topaz Blue ( สีน้ำเงิน ) และ สี Glamour Red ( สีแดง) บอกเลยว่าหามือถืองบหมื่นคุ้มๆ ก็อย่าพลาดตัวนี้ครับ