Apple iPad mini 5 เรียกว่าออกมาหน้าตา (โคตร) ขัดใจคนรอเลยครับ รอมากว่าสองปี พี่ Apple เล่นเข็นรุ่นใหม่ออกมาในบอดี้เดิม หน้าตาเดิม เหมือนกันเดะกับตัวก่อน ซึ่งในวันนี้ต้องนับว่ามันเป็นการออกแบบที่เก่ามากกกก
แต่มีดีที่ภายใน “จัด (เกือบ) เต็ม”
ที่บอกว่าภายในจัดเกือบเต็ม เพราะ iPad mini 5 ได้เทคโนโลยีที่ใหม่ แต่ไม่ได้ใหม่ที่สุดของ Apple ครับ แต่เราไม่ต้องไปสนใจในเรื่องของความ “ใหม่” อะไรนั้นหรอกครับ มาดูกันกว่าว่า iPad mini 5 ให้อะไรมากับเราบ้าง
รุ่นที่ผมได้มานำมารีวิวเป็นเครื่องรุ่น 64GB Wi-Fi ที่เปิดจำหน่ายมาในราคาที่ต้องเรียกว่าไม่แพงเลยครับ 13,900 บาท สิ่งที่ได้ก็คือ iPad mini 5 คือเครื่องระบบ iOS ขนาดหน้าจอกว้าง 7.9 นิ้ว ความละเอียด 2048 x 1536 หรือ 326 พิกเซลต่อนิ้ว
ความคมชัดพอประมาณ แต่หน้าจอสวยใสตามสไตล์จอ LED จาก Apple ซึ่งความพิเศษของเจ้าจอตัวนี้ใน iPad mini 5 คือรองรับกับการใช้ Apple Pencil หรือปากกาเขียนหน้าจอของ Apple นั้นเองครับ มันเขียนได้ แต่ไปไม่สุด เพราะ Apple ให้เราใช้งานได้แค่ Apple Pencil รุ่นแรกเท่านั้น ไม่สามารถใช้งานกับ Apple Pencil รุ่นใหม่ได้ ข้อดีคือใครมีรุ่นเก่าก็สบายไป แต่ถ้าใครใช้งาน iPad Pro รุ่นใหม่ และต้องการใช้งานปากกาสลับกันทั้งสองอุปกรณ์เตรียมมีปากกาสองด้ามได้เลยครับ – –
หน้าจอได้รับการอัพเกรดให้รองรับกับปากกาไปแล้ว ส่วนระบบเสียงก็ดีขึ้นนะครับ ลำโพงสเตอริโอด้านล่างของ iPad mini 5 เป็นลำโพงคู่ที่ให้เสียงสุดยอดมากอีกรุ่นหนึ่ง ใช้งานฟังเพลงดูหนังไม่ต้องต่อลำโพงเพิ่มได้เลยครับ ให้คุณภาพระดับลำโพงพกพาเล็กๆ
ปุ่มโฮมเป็นที่สแกนลายนิ้วมือ พอร์ตชาร์จใต้เครื่องยังคงใช้งานเป็น Lightning มีรูหูฟัง 3.5มิล ตัวเครื่องบาง เบา หนักแค่ประมาณ 300 กรัม และหนาแค่ 6.1 มิลลิเมตรเท่านั้นเองครับ
สรุปตัวเครื่องภายนอก ผมมองเผินๆ ไม่เปลี่ยน แต่มีการอัพเกรดในการใช้งานขึ้นไปเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่คนที่ชอบ iPad mini ก็คือชอบขนาดของมันนี้แหละครับ พกง่ายแต่หน้าจอใหญ่ ซึ่งเลยมีความคาดหวังว่าถ้าหน้าจอใหญ่ขึ้นสักหน่อย ขอบจอเล็กลงกว่านี้บ้าง มันก็คงจะดี
เพราะตอนนี้ ในยุคนี้ ต้องนับว่าขอบจอของ iPad mini ถือว่าใหญ่มากกกกกกก เลยทีเดียว
อุปกรณ์ภายในกล่องของ iPad mini 5 ก็เช่นเดิมครับ มีแค่ชุดชาร์จไฟ สาย+อะแดปเตอร์
ประสิทธิภาพการใช้งานระดับสูง
สิ่งที่เป็นคุณสมบัติหลักของเครื่อง iPad เสมอมา ก็คือเรื่อง “ประสิทธิภาพ” ไม่เคยไม่แรง ไม่เคยยอมอ่อนให้ใคร และแม้จะเป็นเครื่องที่ใช้ชื่อรุ่นว่า Pro, Air, หรือแม้กระทั่ง mini เราก็สามารถคาดหวังความแรงของเครื่องได้ในทุกๆ รุ่นครับ
iPad mini 5 ก็เช่นกัน ประสิทธิภาพการใช้งานมันก้าวกระโดดจาก iPad mini 4 เยอะเลยครับ ด้วยหน่วยประมวลผลภายใน A12 Bionic 64 บิต พร้อม Neural Engine โปรเซสเซอร์ M12 ทำงานร่วมในตัว ให้ผลลัพท์เป็นประสิทธิภาพในระดับสูงสุดๆ สำหรับการใช้งาน
ไม่ว่าจะตัดวีดีโอ เล่นเกม หรือใช้งานแอพพลิเคชั่นใดๆ ใน Apple Store รวมถึงฟังก์ชั่นใหม่ๆ ในระบบ iOS 12.2 (ล่าสุด) มันทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเลยครับ เล็กบาง หน้าตาดูเชย แต่จิ๋วแจ๋ว
ประสิทธิภาพของมัน น่าจะรองรับการอัพเดทระบบจาก Apple ไปอีกอย่างน้อยสองปีครับ
ข้อดีของ iPad อีกอย่างที่รู้กัน คือเรื่องของแบตเตอรี่ เจ้า iPad mini 5 สามารถเล่นเกมหรือเปิดหนังดูต่อเนื่องได้นานประมาณ 9 ชั่วโมงเลยครับ กว่าแบตจะหมด การชาร์จแบตกลับเข้าเครื่องด้วยอะแดปเตอร์ของมันเอง ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงหน่อยๆ ที่แบตจะกลับมาเต็ม 100%
ส่วนในด้านการตอบสนองใช้งานกับปากกา ให้ระดับที่ไม่ต่างไปจาก iPad ตัวใหญ่ในรุ่นที่รองรับ Apple Pencil เช่น iPad 10.1 เลยครับ เหมือนกันเลย จากที่ทดสอบมันให้คุณภาพการวาดและเขียนเท่าๆ กัน
จะเห็นว่าองค์ประกอบของ iPad mini 5 ภายนอกแม้จะดูเก่า เครื่องขอบหนาหน้าจอเล็กเมื่อเทียบกับขนาดเครื่อง แต่การใช้งานและประสิทธิภาพภายในหวังได้ในระดับสูงเลยครับ
กล้องถ่ายภาพ
กล้องหลัง 8 ล้าน กล้องหน้าอัพขึ้นมาเป็น 7 ล้าน เน้นการทำงานเพื่อสนทนาผ่านรูปแบบวีดีโอมากกว่าจะใช้เก็บภาพทั่วไปครับ ใช้งานในแสงกลางวันได้ภาพที่ดีสบายๆ แต่แสงน้อยแย่ยอยหน้า เมื่อนับเป็นอุปกรณ์ในกลุ่มของแท็บเล็ตก็ถือว่าคุณภาพของกล้องกลางๆ แค่อย่าเอาไปเทียบกับกล้องของสมาร์ทโฟนในปัจจุบันนะครับ iPad ตามไม่ทันแล้ว
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปท้ายรีวิว
ทรงเดิม หน้าตาเดิม ขอบจอใหญ่มาก แต่ประสิทธิภาพสูงมากเช่นกัน การรองรับปากกา Apple Pencil ถือว่าเพิ่มความน่าใช้ได้มากสำหรับบางคน
ลำโพงเสียงดีมาก แบตเตอรี่อึดใช้งานได้หนักๆ ทั้งวัน เครื่องบาง พกง่ายกว่ารุ่นใหญ่ และก็ออกมาเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ iPad mini เพราะมันคือรุ่นใหม่ล่าสุดแล้วในขณะนี้ครับ ที่สำคัญ ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพ