OnePlus 7Pro อาจจะเป็นรุ่นที่ทำให้เราต้องเลิกเรียกฉายาเก่าของแบรนด์นี้ว่า “นักฆ่าเรือธง” กันแล้วนะครับ เพราะว่างานนี้ OnePlus 7Pro ประกาศตัวเองมาเลยว่าจะขอเป็น Super Flagship หรือ “โคตรเรือธง” แทนเองเลย
ด้วยการประกาศสเปคเครื่องที่สะใจคนรอคอยกันแบบสมชื่อโคตรเรือธงครับ เพราะว่ามัน “สุด” จริงๆ ไม่มีกั๊กเลย ทั้งเรื่องของคุณภาพหน้าจอ สเปคการประมวลผล กล้องถ่ายภาพ แบตเตอรี่ รอมและแรม
OnePlus 7Pro เป็นเครื่องที่ใช้หน้าจอพิเศษที่ชื่อว่า Fluid AMOLED เป็นหน้าจอสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในโลก ด้รับคะแนน A+ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดจาก DisplayMate ผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบจอภาพแสดงผล ด้วยจอขนาดใหญ่ 6.67 นิ้ว ที่ไม่มีติ่ง ไม่มีรอยบาก ไม่มีรูเจาะใดๆ บนหน้าจอ
ใช้งานได้เต็มพื้นที่ชิดขอบซ้ายขวาบนล่าง ความละเอียดสูงระดับ Quad HD+ (516ppi) และเป็นจอที่ทำรีเฟรชเรทได้ 90Hz ภาพนิ่มตามากๆ ครับ มีการเคลื่อนไหวของภาพที่สมูธ แถมลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาเราได้
ยังไม่พอ มันยังเป็นจอที่รองรับ HDR10+ อีกด้วย
จะเห็นว่าแค่เรื่องหน้าจอของ OnePlus 7 Pro ก็ระดับโลกแล้ว แต่ยังไม่หมดครับ ภายใต้หน้าจอเทพตัวนี้ยังรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้โดยตรง ซึ่งเป็นระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าที่ไวที่สุดในโลก ณ วันนี้ครับ
รวมความเป็นเบอร์หนึ่งไว้เต็มจอเลย สำหรับ OnePlus 7 Pro
OnePlus 7 Pro ใช้หน้าจอแบบไร้ติ่งไร้รูได้เพราะว่าใช้กลไกกล้องหน้าแบบซ่อนเอาไว้ครับ กล้องหน้าแบบเลื่อนขึ้นอัตโนมัติเมื่อต้องการใช้งานสามารถใช้สำหรับการสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคหน้าจอได้ด้วย ส่วนด้านหลังเครื่องก็มาพร้อมกล้องหลังสามตัว ผิวสัมผัสกระจกเคลือบบนโลหะ หรูหราดูมีราคาตามระดับสเปคครับ
รองรับสองซิมการ์ด ถาดใส่ซิมได้สองซิมแต่ใส่ Micro SD card ไม่ได้นะครับ
เมื่อเป็นหน้าจอแบบ HDR10+ เวลาดูหนัง Netflix ก็รับชมภาพแบบ HDR ไปได้เลยบนจอมือถือตัวนี้ครับ ใช้คู่กับลำโพงคู่สเตอริโอ เสียงดังฟังชัดดีทีเดียวเพราะมีการทำงานร่วมกับระบบเสียง Dolby Atmos ลำโพงดีครับรุ่นนี้
ภาพสวยเสียงแจ๋ว ใช้พอร์ตชาร์จใต้เครื่องที่เป็น USB Type-C เชื่อมต่อกับหูฟังหรืออุปกรณ์ภายนอกได้ครับ
มีอะไรเยอะแยะมากมายใส่เข้ามาแต่ตัวเครื่องกลับบางครับ ด้วยการออกแบบขอบเครื่องโค้งทั้งหน้าและหลัง เวลาจับถือเหมือนเครื่องจะเหลือนิดเดียวเพราะมันบางเข้ามือ
บางๆ แต่แบตเตอรี่ไม่น้อยครับ 4,000 mAh พร้อมรองรับระบบชาร์จไวตัวใหม่ Warp Charge 3.0 ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 4,000 mAh ของ OnePlus 7 Pro จากที่ทดสอบ เพียง 10 นาที ก็ได้แบตเตอรี่มาประมาณ 25% แล้วครับ
อุปกรณ์ภายในกล่องของ OnePlus 7 Pro เน้นสีแดงๆ ^^ มีที่ชาร์จ Warp Charge 3.0 สาย USB Type C และเคสใสแถมมาให้
ตัวเครื่องภายนอกของ OnePlus 7 Pro สุดจริงครับ งานนี้ไม่ได้มาแค่สเปคภายในแต่ให้ภายนอกระดับสูงมาด้วย แถมสูงมาก
หน้าจอให้ความคมชัดที่ดี เวลาใช้งานรู้สึกนิ่มนวลกับการตอบสนองกว่าจนสังเกตได้ครับ สไลด์เร็วๆ แล้วภาพละมุนกว่าแบบเห็นได้ชัดเลย ลำโพงเสียงดังฟังชัด เสียงมีมิติ
จะเห็นว่า OnePlus 7 Pro ไม่ใช้แค่เรื่องของสเปคภายในที่จะเรียกตัวเองว่าเรือธง แต่คุณสมบัติเครื่องภายนอก หน้าจอ และสิ่งต่างๆ ถือว่าระดับสูง
การใช้งานภายใน
ด้วย Snapdragon 855 ไม่ต้องกังขาให้มากความครับ หน่วยประมวลผลที่แรงสุดในยุคนี้อยู่ที่นี่ ทำผลทดสอบ Benchmark ได้กว่า 370,000 มาพร้อม RAM สูงสุดถึง 12GB (ตัวที่ผมได้มาทดสอบเป็นรุ่นแรม 8GB ก็ลื่นจะตายแล้วครับ – -) และเป็นเครื่องรุ่นแรกของโลก ที่เปิดจำหน่ายมาพร้อมกับหน่วยความจำ UFS3.0 ในขณะที่ในตลาดยังใช้ UFS 2.1 ซึ่งมีความช้ากว่าถึง 70% เจ้า OnePlus 7 Pro ขอออกตัวก่อนมาไกลเลยครับ
OnePlus 7 Pro ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 ครอบทับด้วย UI ตัวเก่ง Oxygen 9.5 เวอร์ชั่นล่าสุด จากการทดสอบใช้งานลื่นไปหมด นี่คือสมาร์ทโฟนที่ตอบสนองต่อผมได้เร็วที่สุดที่เคยรีวิวมาจนถึงวันนี้ครับ การพิมพ์บนแป้นคีย์บอร์ด การเซฟภาพหน้าจอ มันเร็วแบบผมไม่เคยได้สัมผัสแบบนี้มาก่อนครับ สรุปด้านความแรงให้เลยว่ายอดเยี่ยมสมราคาครับ
มีฟังก์ชั่นน่ารักๆ อย่างโหมดซ่อนแอพ แบบที่ทำมาง่ายๆ แค่เอาไว้ข้างหน้า AppDrawer ซึ่งปกติไม่มีคนเลื่อนไปข้างๆ อยู่แล้วครับ รวมถึงหน้าแรกของ UI ที่เป็นหน้ารวมข้อมูลสำคัญ มันสามารถบันทึกตำแหน่งที่ตั้งที่จอดรถของเราเอาไว้ได้ทั้งตำแหน่งและรูปภาพครับ
เพราะว่าไม่ใช่แค่อัดมาแต่สเปคนะรุ่นนี้ ทาง OnePlus ได้ใส่ระบบช่วยเหลือเพิ่มเติมมาให้อีกด้วย RAM Boost ฟีเจอร์ล่าสุดที่เพิ่งจะมาพร้อมกับ OnePlus 7 Pro มันเป็นระบบที่จะเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ และเอาไปจัดสรร RAM ให้กับแอพที่ต้องใช้แรมจำนวนมาก ช่วยให้เพิ่มความเร็วในการเปิดปิดแอพ เปิดปิดเกมได้เร็วขึ้น
และสามารถเปิดแอพหรือเกมต่าง ๆ ค้างไว้โดยเมื่อกลับมาแล้วไม่ต้องรีโหลดใหม่ครับ จากที่ผมลองใช้เล่นเกมประจำๆ ที่ผมชอบเล่น เวลาต้องไปทำงานอื่นๆ จนลืมว่าเล่นเกมอยู่ แล้วเมื่อกลับมาที่เกมมันไม่ต้องโหลดเกมใหม่ครับ ตัวเกมยังไม่โดนปิดลงไป น่าจะมาจากจำนวนของแรมที่มีเยอะ และระบบ RAM Boost ที่ออกแบบมาดี เรียนรู้ว่าเกมนี้ของผมสำคัญ ห้ามปิด ^^ กดกลับมาก็เล่นต่อได้เลย
ตัวเครื่อง OnePlus มีความพิเศษอีกอย่างครับ ก็คือระบบสั่น Haptic Vibration การสั่นที่สามารถสั่นได้หลายระดับความแรง มันเนียนมาก จนผมนึกว่าปุ่มโฮมของมันสามารถกดลงไปได้อีกระดับจริง – – แต่ผมโดนหลอกครับ ด้วยการสั่นหลายรูปแบบและมันเปลี่ยนความแรง แยกแทบไม่ออกครับ 555 อันนี้ผมชอบ เวลาใช้แล้วรู้สึกพิเศษตลอดเลยครับเวลามันสั่นในรูปแบบกระตุกๆ
มีเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ น่ารักๆ อย่าง Zen Mode เป็นโหมดท้าทายให้ผู้ใช้ “ห้ามใช้โทรศัพท์” ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นถอนยานั้นเองครับ 555 คนทนไม่ได้ มีลงแดงกันแน่นอน เพราะมันห้ามคือห้ามจริงๆ ต้องรอมันหมดเวลาเท่านั้นถึงกลับมาใช้งานได้ ^^ ใครทำได้บ่อยๆ มีสะสมแต้มไว้อวดได้ด้วย ผมขอท้าให้ลอง!
สำหรับใครที่ชอบการเล่น บน OnePlus 7Pro นอกจากสเปคจะแรงสมใจคอเกมแล้ว ยังมีการใส่โหมดเกมมาให้ถึงสองโหมดด้วยกันนะครับ ซึ่งโหมดแรกคือโหมดเกมทั่วไป ที่ใช้ปรับแต่ง CPU, GPU และ RAM เพื่อให้การเล่นเกมมีความสมบูรณ์มากที่สุด พร้อมระบบการปิดกั้นการรบกวนที่จะเข้ามาขัดจังหวะได้ด้วย
แต่สำหรับ OnePlus 7 Pro จะมีโหมดเกมที่เข้มข้นจริงจังกว่าขึ้นไปอีกขั้น นั้นคือ Fnatic Mode เป็นโหมดที่จะรีดทุกอย่างของเครื่องเพื่อมาใช้เล่นเกมก่อนเป็นอันดับแรก และจะปิดกั้นการติดต่อทุกสายเรียกเข้า เรียกว่าโทรเข้ามาหาเราไม่ได้เลยละครับ 555 ฉะนั้นควรเปิดโหมดนี้เฉพาะตอนที่เราไม่อยากจะติดต่อใครและอยากจะเล่นเกมเท่านั้นจริงๆ รวมถึงการปรับระบบเครือข่ายให้มีความเสถียรมากที่สุด โดยการปิดการใช้งานซิมการ์ดที่สองทันที รวมถึงไม่สามารถรับสายหรือรับข้อความได้เลยครับ
มีฟีเจอร์บันทึกภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอเป็นไฟล์วีดีโอ ซึ่งสามารถจับภาพได้ความละเอียดสูงสุด 2340 x 1080 สามารถใช้ไมโครโฟนบันทึกเสียงเพิ่มในภายหลังได้ เหมาะสำหรับอัดภาพเกมหรือแคสเกมให้เพื่อนดู
แม้ทาง OnePlus จะใส่ระบบระบายความร้อนแบบ 10-layer liquid cooling เข้ามาต่อต้านความร้อนจากชุดประมวลผลสุดแรงที่อยู่ภายใน แต่จากที่ผมลองทดสอบใช้งาน OnePlus 7 Pro มา ตัวเครื่องมีความร้อนออกมาให้รู้สึกอยู่นะครับเวลาใช้งานหนักๆ เช่นเล่นเกมต่อเนื่อง หรือเปิดกล้องใช้งานต่อเนื่อง ตัวเครื่องจะเริ่มอุ่นขึ้นมาให้รู้สึกได้ครับ แต่ไม่ส่งผลใดๆ ต่อการใช้งานนะครับ แค่อุ่นขึ้นมาเฉยๆ
การแจ้งเตือนเก๋ๆ บนหน้าจอขณะล็อคสวยดี และตัวเลข 1 จะเป็นสีแดงเสมอนี่คือเสน่ห์ของ OnePlus ครับ
แบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh กับการใช้งานบนหน้าจอตัวนี้และหน่วยประมวลผลระดับนี้ ถือว่าดีกว่าที่คิดเยอะเลยครับ ใช้งานได้เกือบๆ 7 ชั่วโมงติดกันเวลาเอาไปเล่นเกมหรือดูหนัง ใช้งานทั่วไปอยู่กับเราถึงค่ำได้สบา่ยๆ ครับ
ชาร์จไฟเร็วด้วยเทคโนโลยีชาร์จไวใหม่ Warp Charge 30 ผมทดสอบชาร์จแบตเตอรี่ 4,000 มิลลิแอมป์ของ OnePlus 7 Pro ประมาณ 20นาที ได้แบตเตอรี่ประมาณ 48% เลยครับ
การจับสัญญาณอยู่ในขั้นเทคโนโลนีใหม่หมด 2×2 MIMO, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, 2.4G/5G, Bluetooth 5.0, aptX & aptX HD & LDAC & AAC และจับสัญญาณ GPS ทำได้ไวฝุดๆ แค่เปิด GPS ก็จับตำแหน่งได้แล้วแม้อยู่ในอาคาร
กล้องถ่ายภาพ
จากที่ทดสอบใช้กล้องของ OnePlus 7 Pro มา นี่คือกล้องที่ดีที่สุดเท่าที่ OnePlus เคยทำมาเลยครับ คุณภาพมันต่างและห่างจาก OnePlus 6T แบบคนละเจนเนอเรชั่นชัดเจนเลย
กล้องหน้าแบบเลื่อนอัตโนมัติความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มี AI ปรับหน้าเนียนทำออกมาได้สวยครับ กล้องมีความฉลาด มีความคม ยังไม่นับลูกเล่นจากกล้องหลัง 3 ตัวแบบ Triple Camera ซึ่งใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX586 ขนาดใหญ่ถึงครึ่งนิ้วความละเอียด 48 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์เทเลโฟโต้ 8 ล้านพิกเซล และเลนส์มุมกว้าง ultra-wide angle 117 องศา ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
ถ่ายได้หมด ไกล กว้าง ใกล้ พร้อมเทคโนโลยีการซูม 3x Optical Zoom หรือการซูมด้วยเลนส์โดยไม่สูญเสียรายละเอียดภาพ (ซูมดิจิทัลได้ 10X)
การออกแบบ UI ของกล้องสวยดีครับ เลื่อนปรับการซูมได้ด้วยการทัช 0.6X (เลนส์ไวด์) 1X และซูมออพติคัล 3X หรือจะซูมดิจิทัลก็แค่สไลด์เลือกระดับการซูมที่ต้องการ ได้สูงสุดถึง 10X ครับ
มีโหมดการถ่ายภาพเยอะครับ และมีทีเด็ดสำหรับกลางคืนโดยเฉพาะ สามารถใช้ถ่ายภาพกลางคืนได้แบบไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง และเป็นโหมดถ่ายภาพกลางคืนที่ผมว่ามันเก็บภาพได้ไวที่สุดแล้วครับ กดปั๊บมันก็แทบจะประมวลผลรวมภาพให้เราแล้ว
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดกลางคืน จะเห็นว่าเก็บภาพแสงกลางคืนได้ดีแล้ว ภาพแสงไม่โอเวอร์จนเกินไปด้วยครับ กลางคืนยังดูเป็นกลางคืน แต่รายละเอียดบนภาพยังมาครบและตัดเส้นได้คม
ทดสอบการซูมภาพระดับ 1X, 3X, 5X และ 10X จากจุดยืนจุดเดียวกัน จะเห็นว่าการซูมภาพ 3X คมปกติเลยครับ ส่วน 5X และ 10X ก็ยังให้คุณภาพที่ดีอยู่นะครับ มีรายละเอียดที่น้อยลงไปเพียงนิดเดียวเอง มองในรูปเล็กๆ บนหน้าจอมือถือแทบแยกไม่ออกครับ
ทดสอบลองซูมตัวอักษรแบบซูม 10 เท่า ก็ชัดเจนอ่านได้สบายๆ ครับ
การซูมภาพกลางคืนทำได้แบบไม่ต้องเปิดโหมดกลางคืน ผมว่า OnePlus 7 Pro ก็ยังไหว มันทำได้ดีโดยไม่ต้องใช้โหมดพิเศษเข้าช่วยครับ โมดูลกล้องรุ่นใหม่ของ OnePlus ชุดนี้ทำมาได้ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมเยอะมาก
การจับวัตถุและบุคคล สำหรับการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ จับได้แม่นครับ AI มีความฉลาดมากขึ้น มีการเบลอหลังแบบไล่ระดับไม่ดูเป็นภาพตัดแปะมากเกินไปด้วย
กล้องหน้าตัวเดี่ยวๆ ก็เบลอฉากหลังได้นะครับพร้อมมีบิวตี้โหมดปรับให้หน้าเนียนขึ้นได้ ลองเซลฟี่ในตอนกลางคืนย้อนแสง กล้องหน้าก็ยังเอาอยู่ครับ อันนี้สำคัญ ^^
ภาพถ่ายเชิงลึกทำภาพออกมาดูมีมิติครับ ไม่แบน ไม่กลืนระยะ ความรู้สึกเวลาใช้โหมดออโต้มันสนองตอบกับความต้องการของผู้ถ่ายได้ในระดับสูง สมคะแนน 111 คะแนนจาก DxOmark แล้วครับกล้องรุ่นนี้
ตัวอย่างภาพถ่ายของ OnePlus 7 Pro
สรุปท้ายรีวิว
แรงสุดๆ จอดีมาก ความสามารถครบจบทุกความต้องการในเครื่องเดียวได้เลยครับ สำหรับใครไม่อยากค้างคาใจว่าเครื่องของฉัน “แรงมั้ย” เอาตัวนี้ได้เลยครับ
และไม่ใช่แค่ความแรง แต่มาพร้อมกับหน้าจอที่ใหญ่และภาพสวย เสียงลำโพงที่ดี เทคโนโลยีใหม่ๆ เต็มเครื่อง รองรับอนาคตได้ยาวไกลครับเพราะตัวระบบก็เป็นสิ่งที่ OnePlus ทำได้ดีเสมอมา ทั้งความสเถียรและความไวในการอัพเดท ตัวเครื่องก็สวยมาก น่าจับน่าถือใช้
ผมว่า OnePlus 7 Pro เป็นเครื่องเรือธงระดับสูงที่น่าลงทุนมากๆ ครับ
OnePlus 7 Pro จะมีวางจำหน่ายในไทยทั้งหมดสามรุ่น
- 6GB / 128GB : ราคา 24,990 บาท
- 8GB / 256GB : ราคา 26,990 บาท
- 12GB / 256GB : ราคา 29,990 บาท
มีให้เลือกสองสีคือ Nebula Blue และ Mirror Gray เปิดขายตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2562 สั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ AIS, JD Central และ Lazada นอกจากนั้นยังวางจำหน่ายที่ เอไอเอส ช้อป 13 สาขาที่ร่วมรายการด้วยครับ