สิ้นสุดการรอคอยเสียที สำหรับการมาของ เกมในตำนานแห่งยุค 90 อย่าง Final Fantasy 7 Remake ที่ต้นฉบับวางขายบน PS1 ในปี 1997 และหลังจากประกาศรีเมคในงาน E3 เมื่อหลายปีก่อน ในที่สุดฉบับ Remake ก็ออกวางขายในช่วงที่คนกักตัวอยู่บ้านพอดี
โดยเกม Final Fantasy 7 Remake ตามชื่อบอกว่า รีเมค ทำให้รูปแบบการเล่นทำใหม่หมด 100% เกมเพลย์เปลี่ยนจาก RPG มาเป็นแอ็คชั่น RPG ที่เน้นหนักไปที่แอ็คชั่นมากขึ้น และกราฟิก สมัยใหม่บนเครื่อง PS4 ทำให้มันคือเกมใหม่ที่สร้างมาให้เข้ากับยุคสมัย ที่มีอะไรเอาใจแฟนๆตลอดการเล่นเกมที่ยาวพอประมาณ
กราฟิกระดับเทพบน PS4
เกม Final Fantasy 7 Remake สร้างกราฟิกใหม่หมด ด้วยอันเรียล 4 และด้วยการออกบน PS4 ทำให้กราฟิกสมกับเกมยุคใหม่ งานกราฟิกดีมากโดยเฉพาะการสร้างตัวละคร ที่วาดถอดแบบมาจากต้นฉบับสมัย PS1 มาเปลี่ยนตัวละครให้เข้ากับภาพความละเอียดสูงได้ลงตัว เฟรมเรตลื่นไหลดี และมีการรอจังหวะโหลดน้อย ถือว่าโดยรวมดี แต่ก็มีให้ติเล็กน้อยตรงที่ฉากในเกม ไม่ได้มีความกว้างมากเพราะยังคงอยู่ในสถานที่จำกัด และรายละเอียดของฉากที่บางส่วนถูกลดความละเอียดลงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เป็นข้อเสียอะไรมากมาย
เพลงประกอบคลาสสิกมากันครบ
ความโดดเด่นของเกม Final Fantasy 7 ตั้งแต่ต้นฉบับคือเพลงประกอบในตำนาน ที่โดนใจติดหูและมีธีมในตำนานที่อยู่จนทุกวันนี้ โดยใน Final Fantasy 7 Remake มีการนำกลับมาครบ ที่มีการปรับแต่งใหม่ให้เข้ากับยุคสมัย แต่ไม่เสียความคลาสสิกเลยแม้แต่น้อย แถมยังมีธีมใหม่ๆด้วย นอกจากนี้เสียงพากย์ก็มีการใส่เข้ามาครบ และคัดนักพากย์มาเข้ากับตัวละครได้อย่างยอดเยี่ยมไม่มีที่ติ
เกมเพลย์เร้าใจแบบแอ็คชั่น ผสมกับ RPG
อย่างที่บอกไปว่ารูปแบบการเล่น เปลี่ยนแปลงไปแบบสุดๆ เพราะจากเดิมเป็นเทรินเบส RPG แบบใส่คำสั่ง เปลี่ยนมาเป็นแอ็คชั่นเต็มสูบผสมผสานกับเกมใส่คำสั่ง ที่ยังมีกลิ่น RPG เดิมๆเพราะมีการเปิดเมนูมาเพื่อใช้เวทมนต์ หรือไอเทม รวมทั้งท่าไม่ตายได้ แต่จะไม่สามารถใช้ได้ต่อเนื่อง เพราะต้องรอค่า ATB ให้เต็มก่อนถึงจะสามารถใช้งานได้ เรียกว่าเป็นการผสมที่ลงตัวมากๆ
อีกทั้งเกมปรับให้ใช้ปุ่มได้อย่างง่ายดาย เช่นการโจมตีที่มีหลายประเภท การใช้ท่าไม้ตาย หรือเรียกเมนูออกมาที่ง่ายด้วยใช้ปุ่ม R2 ทำให้การต่อสู้ลื่นไหลแบบเกมแอ็คชั่น และบอกเลยว่าระบบการเล่นเป็นส่วนที่ผู้เขียนชอบมากที่สุดในเกม เพราะทำได้ดีกว่าที่คาดหวังไว้มากๆและดีกว่าภาค Final 15 เลยด้วยซ้ำ ส่วนมนต์อสูรในเกมก็ปรับให้เข้ากับรูปแบบของเกมโดยมันจะออกมาเพื่อร่วมกันสู้ และใช้ได้เวลาจำกัด และต้องมีค่าพลังที่เต็มถึงจะเรียกออกมาใช้งานได้ ถือว่าเป็นการปรับรูปแบบที่ลงตัวกับเกมเพลย์มาก
เพราะในส่วนของแอ็คชั่นทีมงานทำได้ดีมากเหมือนกับเกมแอ็คชั่นแท้ๆที่มีการหลบหลีก และโจมตี รวมทั้งระยะในการต่อสู้ที่หากไกลเกินไปจะโจมตีไม่โดนต้องใช้ท่ายิงระยะไกลเหมือนเกมแอ็คชั่นจริงๆ แต่มีการหยุดเพื่อวางแผนได้ อย่างไรก็ตามแฟนๆเก่าๆที่อยากให้มีการใส่คำสั่งอย่างเดียวผู้เล่นก็สามารถเลือกปรับเปลี่ยนได้เช่นกัน เรียกว่าเอาใจคนที่อยากเล่นแบบเดิมๆด้วย
ปรับแต่งได้หลากหลายกว่าเดิม
อีกจุดเด่นของเกม Final Fantasy 7 คือ ระบบ materia ที่ภาคนี้ยังคงมีมาครบ และปรับให้หลากหลาย มี materia ลูกเดิมๆกลับมากันครบ และปรับตั้งค่าได้ง่ายดายกว่าเดิม ที่ช่วยให้ตัวละครใช้เวท อัพค่าพลัง หรือเพิ่มสกิลใหม่ๆได้โดยใส่ที่อาวุธ และเครื่องป้องกันเหมือนเดิม ส่วนระบบเมนูการปรับแต่งตัวละครปรับให้ทันสมัย เข้าใจง่าย และมีการอัพเกรดอาวุธที่ดีกว่าเดิม เพราะเพิ่มพลังค่าสกิลได้ ทำให้ไม่ว่าอาวุธชิ้นไหนก็นำไปแต่งให้เทพได้ ตามความต้องการของผู้เล่น โดยรวมระบบเมนูตั้งค่าตัวละครทำให้เกมมีอะไรให้อยู่กับเกมได้นาน แม้ว่าเกมจะไม่ได้มีความซับซ้อนมากเท่ากับเกม RPG ยุคก่อนก็ตาม
เกมเป็นเส้นตรง เรื่องราวประทับใจที่เพิ่มรายละเอียด
เป็นที่รู้กันว่าเกม Final Fantasy 7 Remake จะเล่าเรื่องราวแค่ช่วงแรกที่อยู่ในเมือง midgar ทำให้เหมาะมาที่จะเล่าเรื่องแบบ เกมแอ็คชั่น ที่มีเรื่องราวค่อนข้างเป็นเส้นตรง เกมแบ่งเป็นตอนๆ คล้ายกับ Final Fantasy 13 ที่สามารถ save ได้เกือบจะทุกที่ โรงแรมก็ไม่มีเปลี่ยนมาเป็นเก้าอี้นั่งเพื่อคืนค่าพลัง และมีร้านค้าและเครื่องขายของอัตโนมัติ อย่างไรก็ตามแม้เกมจะดูเป็นเส้นตรงแต่ก็มีมีเควสย่อยเพียบรอให้เราทำ และมีศัตรูตัวใหม่ๆบอสตัวใหม่ๆรวมทั้งตัวเดิมที่อัพเกรดขึ้นไปอีก
นอกจากนี้เรื่องราวอันน่าประทับใจ ก็ใส่เข้ามาครบทุกฉากคลาสสิกในเกมภาคหลัก มากันครบ แถมด้วยการนำเสนอที่ดูดีด้วยกราฟิกระดับเทพ ทำให้เรื่องที่ดีอยู่แล้วยิ่งน่าประทับใจไปมากกว่าเดิมหลายสิบเท่า แถมด้วยเรื่องราวที่ถูกเขียนเพิ่มขึ้นมา ทำให้หากคุณเป็นแฟนภาคต้นฉบับ รับประกันล้านเปอร์เซ็น ว่าคุณต้องรักเกม Final Fantasy 7 Remake มากๆ และมีฉากที่เรียกน้ำตาได้หลายฉากเลย แถมฉากสุดฮา ก็นำเสนอแบบมินิเกมแถมยังขยี้เรื่องราวให้สนุกกว่าเดิมอีกหลายเท่า เรียกว่าโดยรวมน่าประทับใจจนอยากเล่นอีก
สรุปเอาใจแฟนๆเกมเก่าๆสุดๆไปเลย
การกลับมาของตำนานอย่าง เกม Final Fantasy 7 Remake ถือว่าเป็นการเอาใจแฟนๆเกมอย่างสุดๆ มีทุกอย่างที่อยากเห็น เพียงแต่ว่าเกมไม่ได้จบในตัวตามที่บอก เป็นเพียงบทแรกของตำนานเท่านั้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนถึงจะได้เล่นตอนใหม่ ซึ่งคาดว่าจะได้เล่นบน PS5 กันแน่นอน ซึ่งหลักจากเล่นแล้ว ทำให้อดใจที่จะรอเล่นต่อแทบไม่ได้ และสำหรับแฟนที่เกิดทันเล่นต้นฉบับแล้วเกม Final Fantasy 7 Remake คือเกมยอดเยี่ยมแห่งปีที่เติมเต็มความสุขในอดีตให้สมบูรณ์แบบ อย่างไม่มีที่ให้ติ