รีวิว Galaxy Buds+ หูฟังTrue Wireless จาก Samsung ที่เปิดตัวมาพร้อม Samsung Galaxy S20 และที่สำคัญมาพร้อมสีใหม่ สีแดง และสีฟ้า และราคาเพียง 4,990.- จากการพัฒนาต่อยอดมาจาก Galaxy Buds รุ่นแรก สิ่งที่เปลี่ยนไปได้อย่างชัดเจนคือ คุณภาพเสียงที่ดีขึ้น ไมค์ที่ดีขึ้นชัดเจนขึ้น แบตเตอรี่ที่เพิ่มมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังมีอะไรที่เปลี่ยนไปจากรุ่นเก่า เรามาดูกันค่ะ
เริ่มจากรูปลักษณ์ภายนอกกันก่อน ตัวของ Galaxy Buds และ Galaxy Buds+ หน้าตาจะเหมือนกันมากตั้งแต่ตัวแบตเตอรี่เคสขนาดเท่ากันเป๊ะ ถ้าใครมีเคสเก่าของ Buds ตัวแรกอยู่สามารถนำมาใส่ด้วยกันได้ค่ะ ส่วนที่แตกต่างสังเกตุง่ายๆ ตรงที่ตัวแบตเตอรี่เคสของ Galaxy Buds+ จะเป็นมันเงาวาวแต่ตัวรุ่นเก่าจะเป็นแบบด้าน
ตัวหูฟังก็เช่นเดียวกันค่ะ ที่ตัว Buds+ มีกลิลเตอร์วิบวับส่วนตัวรุ่นแรกก็มีเหมือนกันค่ะแต่ไม่เงาวาวเท่า และไมโครโฟนที่ตัว Buds+ จะเพิ่มไมค์เป็น 3 ตัว ในขณะที่ตัว Buds รุ่นแรกจะมี 2 ตัว
ภายในกล่องประกอบด้วย
- ด้วยคู่มือการใช้ (ที่ไม่เคยจะหยิบมาอ่าน)
- หูฟัง Galaxy Buds+ (L+R)
- Wing tip ยางวงแหวนส่วนปีกเพื่อความกระชับในร่องหู มีในกล่องมาให้อีก 2 ขนาด
- แบตเตอรี่เคส
- ยางส่วนปลายของหูฟังมีให้อีก 2 ขนาดในกล่อง
- สาย USB
มาดูที่การใช้งานไมโครโฟน ของ Galaxy Buds+ กันบ้าง สำหรับผู้ที่ใช้หูฟังไร้สายในการคุยโทรศัพท์และประชุมผ่านวิดีโอ Galaxy Buds+ มาพร้อมกับไมโครโฟนสามตัว ที่มาช่วยเสริมในข้อด้อยของ Buds ตัวเก่า ที่จะมีปัญหาเรื่องเสียงรบกวนเวลาใช้งานในพื้นที่สัญจร หรือนอกอาคาร มี Ambient Sound ที่ดียิ่งขึ้นตัดเสียงภายนอกได้ดี ไมค์ 3 ประกอบไปด้วย ไมค์หนึ่งชิ้นด้านใน และสองชิ้นด้านนอกเพื่อการจับเสียงที่คมชัด ไมโครโฟนภายนอกใช้ตัวขยายเสียงเพื่อตัดเสียงรบกวนรอบข้าง เพื่อที่จะได้ยินเสียงคุยที่ชัดเจนขึ้น ด้วย หรือจะใช้ในการขยายเสียงภายนอกโดยการเลือกระดับการตั้งค่า ต่ำ กลาง สูง หรือสูงเป็นพิเศษได้ และเสียงที่สามารถปรับเปลี่ยนได้
Galaxy Buds+ จูนเสียงโดย AKG ระบบลำโพง 2 ทิศทาง จากรุ่นเดิมที่เป็น One-Way Dynamic มาเป็น Two-Way Dynamic เราจะได้พลังเสียงจาก Tweeter และ Woofer อยู่ในหูฟังแต่ละข้างพร้อมด้วยตัวขยายเสียงสูง และตัวขยายเสียงต่ำเพื่อเสียงที่คมชัดขึ้น รวมเสียงเบสที่ทรงพลังยิ่งขึ้นอีกด้วย
มาทดสอบการฟังเพลงในแนวต่างๆ ว่าเจ้า Galaxy Buds+ จะเหมาะกับคนฟังเพลงแนวไหนกันบ้าง ส่วนตัวจะชอบปรับเสียงเบสให้ตุบๆ นิดๆ เข้าไปที่แอปพลิเคชัน Galaxy Wearable เข้าไปปรับอีควอไลเซอร์ได้ตามชอบเลยค่ะ ลองฟังเพลงหลายๆ แนว เรียกได้ว่า Galaxy Buds+ เอาอยู่เกือบทุกแนวเพลง โดยเฉพาะแนวซินธ์ป๊อปที่นิยมฟังกันในช่วงนี้ที่เน้นซาว์ดดนตรีที่เป็นเสียงสังเคราะห์ แนวป๊อปฟังสบายๆ รวมถึงร็อคที่ไม่เน้นซาว์ดดนตรีหนักๆ มาครบทุกเครื่องดนตรีแต่ไม่ถึงขนาดเบสพุ่งออกมาเป็นลูก
ทดสอบกับแอปฯ สตรีมมิ่งฟังเพลงอย่าง Apple Music , Spotify , Joox (ก็เพราะคนส่วนใหญ่เค้าฟังกันไงหล่ะ) เพียงแค่ใส่หูฟังแล้วเคาะที่หูฟังหนึ่งที แอปฯ ฟังเพลงล่าสุดที่เราเพิ่งใช้งานก็จะทำการเล่นเพลงให้ทันที ต้องบอกว่าหูฟัง Galaxy Buds+ เสียงดีมาก จากรุ่นเก่าที่ก็ว่าเสียงดีอยู่แล้ว มาในรุ่น Plus ที่มีการพัฒนาปรับปรุงหลายๆ อย่าง ทำให้รู้สึกว่าในราคา 4,990 บาท คุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับหูฟังในราคาใกล้กันในท้องตลาด
นอกจากการฟังเพลง การรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Youtube หรือการหนังดู Netflix ก็ได้อรรถรสพอสมควร เสียงพูดคุยฟังได้ชัดเจน เสียงประกอบมีมิติดีค่ะ อันนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพคลิปที่ดูด้วย
ระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ใน Galaxy Buds+ โดยเฉลี่ยคือ 11 ชั่วโมงในการใช้งานทั่วไปโดยไม่ต้องชาร์จไฟเพิ่ม และตัวแบตเตอรี่เคสได้สูงสุดถึง 11 ชั่วโมง รวมแล้วใช้งานได้ถึง 22 ชั่วโมงเลยทีเดียว ทั้งนี้อายุของแบตเตอรี่อาจต่างออกไปตามการใช้งานของแต่ละคน
และเมื่อต้องการชาร์จแบบเร่งด่วน ก็สามารถชาร์จด่วนด้วยอุปกรณ์ Wireless Powershare หรือจะใช้การเสียบสายผ่านพอร์ต USB Type C เพียง 3 นาที ก็ให้พลังงานเพียงพอต่อการเล่นต่อเนื่อง 60 นาที เรียกว่าทำเวลาชาร์จเร็วได้ดีมากๆ ถือว่า Galaxy Buds+ เป็นหูฟัง True Wireless ที่แบตฯ อึดตัวหนึ่งเลยทีเดียว ใช้งานได้ยาวๆ ทั้งวันไม่ต้องกลัวแบตฯ จะหมดระหว่างวัน
การควบคุมและการเชื่อมต่อได้ง่ายกว่าที่เคย ผ่านอุปกรณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้นจากการตั้งค่าง่าย ๆ เพียงครั้งเดียว เมื่อเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ Galaxy แล้ว Galaxy Buds+ ก็พร้อมใช้งานกับอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เชื่อมต่อกับบัญชีผู้ใช้เดียวกันของซัมซุงโดยอัตโนมัติเพียงแค่หยิบ Galaxy Buds+ ขึ้นมาใส่ก็เชื่อมต่อพร้อมใช้งานได้ทันที
และการสัมผัสที่ปรับเปลี่ยนได้แบบใหม่ของ Galaxy Buds+ ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมได้ทุกสิ่งแม้จะไม่มีโทรศัพท์อยู่ในมือ
- การเคาะหนึ่งครั้งจะเป็นการเล่นหรือพักเสียงเพลง
- เคาะสองครั้งจะช่วยให้ข้ามไปยังเพลงถัดไปหรือตอบรับสายเรียกเข้า
- เคาะสามครั้งเป็นการเล่นเพลงก่อนหน้า
- สัมผัสค้างไว้ สามารถปรับเปลี่ยนได้เป็นการสั่งงานอื่น ๆ ในแบบที่ผู้ใช้ต้องการที่สุด
เจ้า Galaxy Buds+ นอกจากจะเชื่อมต่อได้กับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์บนแอนดรอยด์ ยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ อื่นและอุปกรณ์ iOS ได้ด้วย รวมถึงลูกเล่นใหม่ Ambient Sound สามารถเปิดใช้งานได้ผ่านแอปพลิเคชัน Galaxy Wearable สามารถดาวน์โหลดได้ผ่าน Google Play Store และแอปพลิเคชัน Galaxy Buds+ บนอุปกรณ์ iOS นั้นสามารถดาวน์โหลดได้ผ่าน App Store
Wireless PowerShare จำกัดการใช้งานได้เพียงโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของซัมซุงและแบรนด์อื่น ๆ และอุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จพลังงานไร้สายแบบ WPC Qi ไปที่ samsung.com เพื่อตรวจสอบการรองรับนี้ อุปกรณ์อาจไม่ทำงานกับอุปกรณ์เสริม ประกัน หรืออุปกรณ์จากแบรนด์อื่นบางชนิด
สรุป Galaxy Buds+ ความน่าใช้ถือว่าเป็นหูฟัง True Wireless ที่น่าใช้มากๆ คุ้มค่าคุ้มราคาในราคาเพียง 4,990 บาท เรียกว่าไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับฟังก์ชั่นและคุณภาพ เสียงดี แบตฯ อึด รูปทรงพกพาง่าย และเดี๋ยวนี้มีเคสสวยๆ และอุปกรณ์เสริมทำออกมาขายเพียบ รับประกันเรื่องความคุ้มค่าแน่นอน