รุ่นใหม่ดีกว่า Xiaomi Mi Air Purifier 3H เครื่องฟอกอากาศไซด์พอดีห้องตัวใหม่ แตกต่างกับตัวเดิมอย่างไร

Xiaomi Mi Air Purifier 3H เป็นเครื่องกรองอากาศขนาดมาตรฐานที่ใช้กันภายในห้องขนาดไม่เกิน 45 ตารางเมตรครับ จุดเด่นคือเป็นเครื่องกรองอากาศที่เราสามารถควบคุมการทำงานระยะไกลได้ด้วยแอพพลิเคชั่นบนมือถือ ดูสภาพอากาศและค่าสถานะต่างๆ ได้ผ่านแอพพลิเคชั่น Mi Home App

และยังรองรับ Google Assistant หรือระบบคำสั่งเสียงได้ด้วย เราจึงสามารถสั่งเปิดปิดเครื่องด้วยเสียงผ่านมือถือ หรืออุปกรณ์ควบคุมภายในบ้านอย่าง Google Nest ได้ (รองรับ Alexa Voice Control ด้วยสำหรับใครที่ต้องการใช้งาน) มันจึงนับเป็นเครื่องกรองอากาศในบ้านแห่งยุค IoT นั้นเองครับ

โดย Xiaomi Mi Air Purifier 3H ก็เป็นเครื่องรุ่นใหม่สุดที่มีการนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย มีการพัฒนาขึ้นจาก Xiaomi Mi Air Purifier 2S ตัวเดิมในหลายๆ ด้าน แม้มองเผินๆ หน้าตาของมันจะดูคงเดิมจนหลายคนคิดว่ามันเหมือนกัน แต่จริงๆ แล้วพัฒนาขึ้นเยอะครับ ในวันนี้หลายร้านอาจจะมีการนำมาจำหน่ายทั้งสองรุ่น ซึ่งราคาใกล้ๆ กันซะด้วย แต่ผมแนะนำให้เลือกใช้เป็นรุ่นใหม่ 3H น่าใช้กว่า และก็มีวิธีสังเกตที่ดูไม่ยากเลยครับ

โดยในรุ่นใหม่ Xiaomi Mi Air Purifier 3H จะใช้เป็นหน้าจอแบบสัมผัส กดปุ่มไฟสีเขียวบนหน้าจอเพื่อการควบคุมการทำงานแทนการกดปุ่มด้านบนเครื่องแบบรุ่นเดิม หน้าจอจะแจ้งคุณภาพอากาศได้แบบ real time จากเลเซอร์ตรวจสอบสภาพอากาศด้านหลังตัวเครื่อง และในรุ่นนี้นอกจากจะโหมดการทำงานพื้นฐาน อย่างโหมดอัตโนมัติที่จะปรับการทำงานตามสภาพอากาศที่มันตรวจเจอ หรือโหมดกลางคืนแบบเงียบสนิท และโหมดเร่งการทำงานแล้ว เราจะยังสามารถตั้งระดับความเร็วลมตามใจเราเองได้อีกสามระดับเป็นการเพิ่มเติมครับ

Xiaomi Mi Air Purifier 3H รุ่นใหม่ จะให้ที่กรองฝุุ่นตัวเริ่มต้นแถมมาเป็นแบบ HEPA filter มาให้เลยครับ ซึ่งเป็นไส้กรองสีดำที่มีเกรดสูงกว่าไส้กรองปกติสีฟ้า ที่ Xiaomi เคยแถมมาให้รุ่นเดิม โดยในไส้กรองตัวใหม่จะดักฝุ่นได้ละเอียดกว่าเดิม โดยสามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้มากถึง 99.97%

แม้เรื่องไส้กรองของเครื่องกรองอากาศ Xiaomi จะสามารถปรับเปลี่ยนได้ในภายหลังอยู่แล้ว เพราะเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของเครื่องกรองอากาศ Mi ที่มีที่กรองให้เลือกหลายแบบ อย่างแผ่นกรองสีม่วงที่ป้องกันแบคทีเรีย (anti- bacteria) หรือป้องกันกลิ่นฉุน (Anti- Formaldahyde) แต่ราคาของไส้กรอง HEPA filter ก็แพงกว่าปกติอยู่หลายร้อยบาทอยู่ครับ