OnePlus 8T 5G สมาร์ทโฟนจากแบรนด์เรือธง ที่ขายแต่เครื่องเรือธง เกรดเรือธง เรียกว่าถนัดงานพรีเมี่ยมในทุกรุ่นที่เปิดจำหน่ายออกมาครับ และรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีใหม่ในทุกด้านเลยครับ
โดยในรุ่นล่าสุด OnePlus 8T 5G เป็นเครื่องสเปคสูงครับ งานดีทั้งภายในและภายนอก เรียกว่าเปิดตัวออกมาก็ขึ้นแท่นเป็นสมาร์ทโฟนกลุ่มตัวท็อปที่แรงมากเป็นอันดับต้นๆ ฉะนั้นเรื่องของประสิทธิภาพไม่ต้องห่วงไปเลยครับ
และสิ่งที่ OnePlus 8T 5G ยกระดับยุคใหม่ให้กับผู้ใช้ก็ดูจะครบถ้วนครับ ใช้ระบบใหม่ล่าสุดไม่ต้องรออัพเดทด้วย Android 11 การเชื่อมต่อสัญญาณ 5G ที่รองรับการใช้งานกับสัญญาณที่ใช้ในไทย พร้อมสเปคเครื่องที่สูงมาก Snapdragon 865 RAM สูงสุด 12GB และ ROM สูงสุด 256GB ซึ่งเป็นหน่วยความจำแบบใหม่สุด UFS 3.1 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่สูงกว่าเรือธงตัวอื่นด้วยการเพิ่มความไวในการเขียนไฟล์ลงหน่วยความจำ และการใช้พลังงานที่น้อยลงกว่าเดิม
ให้ระบบชาร์จไวที่เร็วที่สุดของ OnePlus นั้นคือ Warp Charge 65W และหน้าจอแสดงผล 120HZ Fluid AMOLED ซึ่งเป็นหน้าจอรีเฟรชเรทสูง 120Hz บนเทคโนโลยีหน้าจอแบบ AMOLED แท้ๆ สีสันของภาพสดใส รีเฟรชเรทสูง รองรับ HDR 10+ หน้าจอเกรดพรีเมี่ยมมาก การันตีด้วยเกรด A+ จาก DisplayMate
หน้าจอแบบ AMOLED Display มีความสวยงามของสีสันและรายละเอียดที่คมชัดกว่าหน้าจอแบบ IPS ขนาด 6.55 นิ้ว 1080×2400 FHD+ มีความสว่างที่สูงถึง 1,100 nits เลยทีเดียว พร้อมรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอโดยตรง
เป็นจอที่ให้ค่าสีแม่นยำ JNCD น้อยกว่า 0.3 รองรับการแสดงช่วงสีแบบ full DCI-P3 color gamut ลดแสงที่เป็นอันตายต่อดวงตาได้มากถึง 40% ใช้งานยาวแบบสบายตา นี่คือหน้าจอที่ให้ภาพดีมากๆ สำหรับการใช้งานครับ
ขอบหน้าจอบางมากไม่ว่าจะขอบด้านบนหรือขอบด้านล่าง เจาะรูวางกล้องหน้าขนาดเล็กความละเอียด 16MP ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX471 รูรับแสง f/2.4 มีระบบกันสั่น EIS และรองรับใช้เป็นกล้องสแกนใบหน้าเพื่อเข้าใช้งานได้
ตัวเครื่องใช้งานผลิตอย่างพรีเมียม รุ่นนี้มีเข้ามาจำหน่ายในไทยสองสี แยกเป็นสองระดับสเปค Aquamarine Green สีเขียวน้ำทะเล เป็นสีสำหรับรุ่น 12+256 GB เท่านั้น
และ Lunar Silver สีเทาดูหรู รู้สึกสงบ เป็นสีสำหรับรุ่น 8+128GB เท่านั้น ซึ่งเป็นสีเครื่องและรุ่นในบทความนี้ครับ
ทรงเพรียวบางเพียง 8.4mm และน้ำหนักเพียง 188g โครงเครื่องเป็นโลหะทั้งหมด ฝาหลังเป็นกระจกแบบกึ่งด้าน Glossy Glass ละมุนมือมาก ผิวสัมผัสดี และที่สำคัญเวลาใช้งานแทบไม่เกิดรอยนิ้วมือ
สวิตช์พิเศษสำหรับการปรับโหมดการแจ้งเตือน ซึ่งก็เป็นจุดเด่นของ OnePlus ครับ การปรับโหมดแจ้งเตือน เงียบ และแบบสั่น ปรับเลือกใช้ได้โดยไม่ต้องเข้าระบบหรือเปิดจอขึ้นมาก่อน สะดวกเวลาใช้สลับโหมดในขณะเข้าห้องประชุม เข้าโรงภาพยนตร์ หรือกำลังคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ เราสามารถเปิดโหมดเงียบหรือสั่นได้โดยตาไม่ต้องมองเลยครับ
ลำโพงเสียงดีดังกระหึ่มครับ ใช้ลำโพงคู่ Dolby Atmos ทิศทางเสียงกว้าง ลำโพงดีฟังเพลงเล่นเกม สะใจมากครับ
ด้านหลังวางชุดกล้อง 4 ตัว โดยกล้องหลักใช้เป็น 48 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX586 มีระบบกันสั่นทั้ง OIS และ EIS เลนส์ที่สองเป็นกล้อง Ultra Wide Angle 123 องศา ในความละเอียด 16ล้านพิกเซล เลนส์ที่สามเป็นกล้อง Macro ความละเอียด 5ล้านพิกเซล ถ่ายโฟกัสได้ใกล้ถึงระยะ 3 เซนติเมตร และสุดท้ายเป็นเลนส์ Monochrome ความละเอียด 2ล้านพิกเซล สำหรับการถ่ายภาพโหมดบุคคลหน้าชัดหลังละลาย สร้างเอฟเฟ็กต์สีสันช่วยในการจับโฟกัส
รองรับสองซิมการ์ดแบบระบบ 5G ใช้งาน 5G ได้หนึ่งสล็อตและเชื่อมต่อ 4G ได้พร้อมกันอีกหนึ่งสล็อต ไม่มีที่เสียบหูฟังแบบ 3.5มม. ใช้พอร์ทเชื่อมต่อแบบ USB Type C รองรับ OTG และรองรับเทคโนโลยีการชาร์จไวตัวเร็วที่สุดของ OnePlus นั้นคือ Warp Charge 65W ที่สามารถชาร์จแบตขนาด 4500 mAh ใช้เวลาเพียง 39 นาทีเท่านั้นครับ
ด้วยระบบแบตเตอรี่เซลล์คู่ Twin-battery Charging Technology เพื่อรองรับการชาร์จ Warp Charge 65W โดยไม่เกิดความร้อน มีความปลอดภัย ภายในมีระบบควบคุมวงจรไฟฟ้าและจัดอุณหภูมิให้มีความร้อนไม่เกิน 40องศาตลอดการใช้งาน จึงสามารถใช้งานได้พร้อมชาร์จไฟไปได้ไม่มีอันตรายในการทำงาน
อุปกรณ์ภายในกล่องของ OnePlus 8T ไม่มีอะไรมากครับ แต่เราจะรู้สึกได้ถึงความพรีเมี่ยมตั้งแต่ตัวกล่องเลย ใช้วัสดุผลิตกล่องรีไซเคิลแต่แข็งแกร่งหนาแน่นมาก ภายในมีคู่มือการใช้งาน สายชาร์จแบบ Type C to Type C เป็นสีแดงตามสไตล์ OnePlus และที่ชาร์จแบบ Warp Charge 65W ซึ่งแรงมากพอจะนำไปเทอร์โบชาร์จให้กับโทรศัพท์อื่นๆ ที่รองรับด้วย รวมถึงแท็บเล็ตและแม้แต่แล็ปท็อป ก็แรงพอจะนำไปใช้ได้นะครับตัวชาร์จตัวนี้
การใช้งาน
ระบบใช้งานเป็นเวอร์ชั่นใหม่สุด Android 11 ครอบไว้ด้วย OxygenOS 11 ซึ่งเป็นระบบใหม่แกะกล่องของ OnePlus เช่นกัน เจ้า UI ตัวนี้มีความเป็นระบบแบบ Pure Android สูงครับ สเถียร เรียบง่าย และลื่นไหล ทำงานได้เร็วมาก และยังเป็นระบบที่ได้รับการอัพเดทเวอร์ชั่นได้ไวกว่าใครเป็นอันดับต้นๆ อีกด้วย โดยทาง OnePlus การันตีการอัพเดทระบบให้อย่างน้อยสองเจนเนอเรชั่น ฉะนั้นสำหรับอายุการใช้งานของเครื่องนี้ ด้วยสเปคที่ล้ำยุค รองรับ 5G และรองรับการอัพเดทในอนาคตแบบนี้ ใช้งานกันได้ยาวๆ ครับ สองปีเป็นอย่างน้อย
และโดยเฉพาะ เมื่อ OnePlus ตัดสินใจจับมือกับ OPPO เพื่อขยายจุดให้บริการ Service Center โดยผู้ใช้สามารถเข้าไปรับบริการหลังการขาย ซ่อมแซม เปลี่ยนอะไหล่หรือตรวจเช็คสภาพเครื่อง ได้ทั้งผ่าน OnePlus Service Center ที่ MBK Center ชั้น 5 โดยตรง และตอนนี้ยังรวมถึงศูนย์บริการ OPPO Service Center ทั้งหมด 42 สาขาทั่วประเทศอีกด้วย ฉะนั้นหมดห่วงเรื่องการอัพเดทระบบ และศูนย์บริการ
ประสิทธิภาพการใช้งานอยู่ในระดับสูงสุดแล้วครับ ทุกเกม ทุกแอพ รันใช้งานได้ลื่นไหลเต็มประสิทธิภาพ เล่นเกมไหลลื่นมากๆ ที่สำคัญภายในเครื่อง ยังมีการใส่ระบบระบายความร้อน Multi-layer Game-grade Cooling System เพื่อกระจายความร้อนให้กระจายตัวได้เร็วไม่สะสมบนตัวอุปกรณ์ ตั้งแต่้ทดสอบใช้งานมา ตัวเครื่องแทบไม่มีความร้อนออกมาให้รู้สึกได้เลยครับ
แอพพลิเคชั่นไหนที่รองรับการแสดงผลรีเฟรชเรทสูง ก็สามารถใช้งานบนรีเฟรชเรท 120Hz ได้นิ่งๆ เลย ส่งผลให้เรารู้สึกถึงความลื่นไหลละมุนตามากขึ้นชัดเจนครับ ส่งผลหมดไม่ว่าจะเป็นหน้าโฮม หรือหน้าฟีดเฟซบุ๊ค ก็ส่งผลทั้งหมด
หน้าจอสามารถปรับเปิดโหมดสีสันสดใสเพิ่มเติมได้ ด้วยสเปคจอที่รองรับ HDR10+ ก็สามารถรับชมภาพยนตร์ที่เป็น HDR ได้ ภาพสวยงามกว่าเดิมอีกครับ
ดูหนังด้วยหน้าจอของ OnePlus 8T 5G พร้อมลำโพงคู่ Dolby Atomos ผมบอกได้เลยว่า ฟิน!
โหมดเสียง Dolby Atmos สามารถปรับเลือกพรีเซ็ตได้ว่าต้องการแนวเสียงเพื่อการใช้งานอะไรครับ สามารถใช้งานได้กับลำโพงเครื่องได้โดยตรง รวมถึงปรับแต่งใช้งานกับหูฟังได้ด้วย
ระบบ OxygenOS 11 แม้จะเรียบๆ แต่ฟังก์ชั่นสวยๆ เยอะ มีโหมดสำหรับการถนอมสายตาผู้ใช้ ลดแสงสีฟ้าโดยอัตโนมัติตามการตั้งค่ากำหนดเวลาที่เราเซ็ตไว้ รวมถึงตั้งเวลาการใช้งาน Dark Mode ซึ่งเป็นตัวใหม่ ที่เปลี่ยนหน้าเมนูและหน้าการใช้งานต่างๆ ให้เป็นโทนสีดำ โดยในระบบใหม่จะมีการจัดการที่เป็นระเบียบมากขึ้น กำหนดการใช้งาน Dark Mode ได้เป็นรายแอพไม่จำเป็นต้องเปิดใช้โหมดสีดำไปพร้อมกันทั้งหมดแบบเดิมๆ
โหมดสำหรับการอ่าน ปรับสีหน้าจอให้เป็นโทนสบายตา หรือจะปรับให้เป็นสีขาวดำเลยก็ได้นะครับ สามารถระบุจับคู่แอพให้โหมดการอ่านทำงานขึ้นมาเองไว้ได้ รวมถึงปิดกั้นการแจ้งเตือนที่อาจจะรบกวนการอ่านของเรา ออกแบบมาเพื่อคนที่ชอบอ่านหนังสือบนหน้าจอมือถือ จะได้ไม่ปวดตาเวลาใช้งานกันนานๆ
มีโหมดใหม่ที่ถูกเพิ่มมาในสมาร์ทโฟน Android รุ่นใหม่ๆ นั้นคื “โหมดการนอน” เป็นโหมดที่ผสมกันระหว่างโหมดถนอมสายตาและโหมดห้ามรบกวน โดยเราสามารถตั้งเวลาให้มันเปิดการทำงานในช่วงที่เราจะนอนได้ครับ แล้วตัวระบบจะปรับสีสันหน้าจอเพื่อลดแสงสีฟ้าที่จะไปกระตุ้นต่อมประสาททำให้เรานอนหลับยาก และปิดการแจ้งเตือนที่จะเข้ามารบกวนการพักผ่อนของเราในโหมดเดียว
OxygenOS จะมีหน้าจอการแสดงผลในหน้าจอขณะล็อก ที่เรียกว่า Always On Display เพื่อแสดงอะไรที่เราต้องการรับรู้แม้หน้าจอจะปิดเอาไว้ เช่นเวลา วันที่ ข้อความ การแจ้งเตือน หรือสถานะแบตเตอรี่เป็นต้น
โดยในเวอร์ชั่นล่าสุดจะมาพร้อมกับการปรับแต่งที่มากมายและแปลกใหม่ครับ เราสามารถเลือกรูปภาพที่จะนำมาใช้เป็นหน้าจอล็อก หน้าวอลเปเปอร์ และหน้า Always On Display แค่เลือกภาพที่ต้องการ แล้วระบบจะจัดการให้ทั้งหมดครับ
รูปแบบนาฬิกาบนหน้าจอล็อกก็มีให้เลือกเยอะมาก รวมถึงเอฟเฟ็กต์อนิเมชั่นสำหรับการสแกนลายนิ้วมือก็เลือกได้ และแสงไฟขอบจอสำหรับใช้แสดงแทนการแจ้งเตือน เราเลือกสีของแสงไฟได้ครับ
เลือกสีสันของธีมใช้งานได้หลายสีมากขึ้น ชุดไดคอนปรับเปลี่ยนได้ หรือจะโหลดเพิ่มได้จากใน Google Store ครับ
มีฟังก์ชั่นสำหรับช่วยเหลือเพิ่มความสะดวกผู้ใช้ สามารถเรียกใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ได้จากหน้าจอล็อกด้วย Gesture ที่เรากำหนดรูปแบบเอาไว้ได้ ใช้ปุ่มเปิดปิดเพื่อเรียกใช้กล้องแบบด่วนและเรียกใช้ Google Assistantได้เช่นกัน
พื้นที่พิเศษสำหรับการซ่อนแอพไม่ต้องการให้ใครเห็น เราสามารถเอาไปเก็บไว้ด้านข้างของหน้าจอรายการแอพได้ด้วยนะ ซ่อนง่ายๆ แต่หายาก ^^
โหมดสำหรับคนเล่นเกม Game Space ที่มีความแตกต่างกับโหมดเกมในระบบอื่นๆ เพราะมันทำงานได้ในสองระดับความซีเรียสในการเล่นเกม โดยจะมีโหมดเกมปกติที่จะเป็นการปรับประสิทธิภาพ CPU, GPU และ RAM เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดต่อการเล่นเกม พร้อมปรับการแจ้งเตือนที่จะเข้ามาในขณะนั้น ไม่ให้รบกวนการเล่นเกมได้ด้วย
และอีกขั้นของความเข้มข้นสำหรับผู้เล่นเกม คือ “โหมด Fnatic” มันคือโหมดที่ออกแบบมาเพื่อซีเรียสเกมเมอร์ ปิดการแจ้งเตือนทั้งหมด เพิ่มประสิทธิภาพของชุดประมวลผลมากขึ้น และรีดเอาสัญญาณการเชื่อมต่อมาใช้กับการเล่นเกมเป็นอันดับแรก เพื่อลดค่าความหน่วง เพิ่มความเร็วการตอบสนอง ทั้งหมดเพื่อการเล่นเกมได้เต็มอรรถรสมากที่สุดบนตัวอุปกรณ์ครับ
มีฟังก์ชั่นที่แหวกแนวกระแส แต่ดีต่อผู้ใช้ เป็นโหมดให้เราได้พักจากการใช้โทรศัพท์กันบ้าง โดยจะเป็น Zen Mode เวอร์ชั่น 2.0 เมื่อเปิดใช้งานแล้วเราจะไม่สามารถใช้งานสมาร์ทโฟนได้เป็นระยะเวลาที่เราตั้งไว เพื่อให้เราได้พักและจดจ่อกับสิ่งรอบข้างมากขึ้น โดยจะมีรูปแบบบรรยากาศให้เราเลือก 5 รูปแบบดังนี้
Ocean, Space, Grassland, Star Trails และ Meditation Room นอกจากนี้ยังมีโหมดแบบกลุ่ม ให้เราเชิญเพื่อนมาร่วมกันพักการใช้โทรศัพท์ด้วยกันได้ด้วยนะครับ
ผลทดสอบการเชื่อมต่อต่างๆ
รองรับ 5G ทั้งสองซิมสล็อต แต่ใช้งานได้ทีละหนึ่งซิมสำหรับ 5G และอีกหนึ่งซิมสำหรับเชื่อมต่อ 4G ไปพร้อมกัน ใช้งานมาจับสัญญาณได้ดีไม่มีปัญหาในการสนทนาและการเชื่อมต่อ รองรับ WiFi 6 และมีโหมดที่สามารถใช้สัญญาณ WiFi กับมือถือพร้อมกัน เพื่อเพิ่มความสเถียรและความเร็วการดาวน์โหลดข้อมูลได้ด้วย สัญญาณ GPS จับตำแหน่งได้ไวมากแม้จะอยู่ในอาคาร
กล้องถ่ายภาพ
กล้องหน้าความละเอียด 16ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX471 มีโหมดสำหรับการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้นะครับ พร้อมโหมดบิวตี้ปรับใบหน้าสวยที่เพิ่มและลดระดับการปรับแต่งได้ถึง 3 ระดับ การโฟกัสใบหน้าค่อนข้างดี ตัดฉากหลังไม่หลอกตา แนวโทนสีของกล้อง OnePlus จะไม่ฉูดฉาดนะครับ เน้นความสมจริงมากกว่าจะเพิ่มความเข้มข้นของคอนทราสภาพ ภาพกล้องหน้าออกมารายละเอียดดีมากทีเดียว
กล้องหลัง Quad Camera ทำงานแตกต่างกันให้เราได้ใช้กันหลากหลายระยะ กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล บนเซ็นเซอร์ Sony IMX586 รูรับแสง f/1.7 มีระบบกันสั่น OIS & EIS พร้อมโหมดการถ่ายภาพมากมายและโหมดถ่ายวีดีโอทั้งโหมดเคลื่อนไหวช้าแบบสโลว์โมชั่น และเพิ่มความเร็วใน โหมด “หน่วงเวลา ” หรือ Hyperlapse นั้นเอง พร้อมโหมดโปรที่ให้เราควบคุม ISO, สมดุลไวท์บาลานซ์, สปีดชัตเตอร์ และโฟกัสแบบแมนนวล โดยมีระดับน้ำและฮิสโตแกรมการวัดแสงแสดงให้เป็นคู่มือ
กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล ทำงานกับกล้อง Ultra Wide Angle ความละเอียดสูงมาก 16 ล้านพิกเซล มุมมองการรับภาพกว้างสุดเท่าที่เคยมี เพราะกว้างมากถึง 123องศา รองรับการซูมภาพสูงสุด 10x สามารถซูมภาพ 2X ได้โดยไม่เสียรายละเอียด
เลนส์มุมกว้างเก็บภาพได้ดี ปรับภาพสีไม่จัดมากไป แสงออกไปทางความเป็นจริงมากกว่า ซึ่งเป็นสไตล์ของกล้อง OnePlus ครับ
กล้อง Macro ความคมชัด 5 ล้านพิกเซล ถือว่าความละเอียดสูงเช่นกันสำหรับมาตรฐานกล้องมาโคร ถ่ายได้ชัดในระยะใกล้สุด 3 เซนติเมตร
และเลนส์ Monochrome 2ล้านพิกเซล ช่วยในการจับภาพและเล่นเอฟเฟ็กสีสันต่างๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายของการถ่ายภาพให้มีความสนุกมากขึ้น
โหมด Nightscape หรือทิวทัศน์กลางคืน ช่วยให้เราถ่ายภาพกลางคืนได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง และสามารถถ่ายภาพกลางคืนในโหมดมุมกว้างได้ด้วยนะครับ
จากที่ทดสอบกล้องของ OnePlus ผมชอบการเก็บรายละเอียดของโหมดกลางคืนเจ้ารุ่นนี้ มันไม่เน้นเพิ่มแสงไฟจนกลบรายละเอียดของวัตถุรอบด้าน เพิ่มความสว่างทั้งภาพได้สมดุลดีมาก ภาพกลางคืนจึงมีรายละเอียดและสมดุลของความสว่างที่ดีมากครับ
กล้องของ OnePlus 8T 5G จะสังเกตุว่าซอฟท์แวร์ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ปรับภาพจนสีจัดจ้านมากนักครับ อาจจะเป็นสไตล์ของเครื่องจากแบรนด์ที่เน้นขายทางฝั่งยุโรปและอเมริกาด้วย ใครที่ชอบกล้องสีไม่หลอกตามากๆ น่าจะถูกใจ ลูกเล่นกล้องมีให้ใช้พอประมาณไม่เยอะมาก คุณภาพกล้องอยู่ในระดับที่ดีพกไปใช้ในการท่องเที่ยวได้สบายๆ เพราะเลนส์มีให้ครบระยะ และกล้องวีดีโอก็มีกันสั่นและฟังก์ชั่นที่นิยมใช้งานในสมัยนี้เช่นกัน และผมชอบกล้องโหมดกลางคืนมันเป็นพิเศษ
สรุปท้ายรีวิว
คุณภาพสูงทั้งภายในและภายนอก ตัวเครื่องใช้วัสดุและงานประกอบระดับสูง รู้สึกได้ตั้งแต่สัมผัสเครื่องครั้งแรก สเปคภายในที่ให้มาเป็นระดับท็อปของสมาร์ทโฟน Android ไม่ต้องห่วงเรื่องการใช้งาน หน้าจอก็คุณภาพสูง ภาพสวยเป็น AMOLED และมีรีเฟรชเรท 120Hz พร้อมรองรับ HDR10+ ขอบจอเล็ก ลำโพงคู่ Dolby Atmos เสียงดีโดยไม่ต้องต่อลำโพงภายนอก
ระบบชาร์จไว Warp Charge 65W ชาร์จไวมากๆ หมดปัญหาการรอในขณะชาร์จแบต เสียบทิ้งไว้แป๊บเดียวแบตก็กลับมาเต็ม พร้อมทั้งมีความปลอดภัยใช้งานได้เต็มที่ไม่ต้องกังวลในเรื่องความร้อนขณะชาร์จ
ก็ครบถ้วนสมบูรณ์สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง แถมอนาคตไกลเพราะการันตีการดูแลหลังการขายระดับพรีเมี่ยม การันตีการอัพเดทระบบให้อย่างน้อยสองเจนเนเรชั่น และมีศูนย์บริการที่จับมือกับ OPPO มากกว่า 40 แห่งทั่วประเทศ
แรงขนาดนี้และการันตีขนาดนี้ ใช้งานกันยาวๆ ครับ
OnePlus 8T Pro เปิดจำหน่ายในสองรุ่น
- สีเขียวน้ำทะเล Aquamarine Green รุ่น RAM 12 ROM 256 GB ราคา 29,990 บาท
- สีเทา Lunar Silver รุ่น RAM 8 ROM 128GB ราคา 24,990 บาท
เปิดจองตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคมไปจนถึง 29 ตุลาคม พร้อมรับของแถมมูลค่ารวม 15,170 บาทเลยทีเดียวครับ
มีโปรโมชั่นร่วมกันกับเครือข่ายผู้ให้บริการทั้งสามเจ้า AIS, dtac และ Truemove H เหลือราคาเริ่มต้นแค่ครึ่งราคาเท่านั้นครับ
พร้อมรับของแถมและสิทธิพิเศษเพิ่มเติมจากทางเครือข่ายนอกเหนือไปจากของแถมจากทาง OnePlus ไปด้วย โปรโมชั่นทั้งลดทั้งแถมจัดหนักมากครับ ใครสนใจก็จองได้จนถึงวันที่ 29 ตุลาคม นี้นะครับ และจะเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 ตุลาคมเป็นต้นไป