เกริ่นมาแบบนี้ มันไม่ใช่สายรัดข้อมือเสริมดวง หรือสายสิญจน์นำโชคนะครับ แต่มันคือ “สมาร์ทแบนด์” หรือสายรัดข้อมืออัจฉริยะนั้นเองครับ ซึ่ง Samsung Galaxy Fit e ก็เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ชุดใหม่ ที่ทาง Samsung นำเข้ามาจำหน่ายในบ้าน โดยจุดเด่นมันก็คือเป็นอุปกรณ์ในกลุ่ม Wearable ของ Samgsung ที่มีขนาดเล็ก เบา ราคาเบา มากที่สุดในกลุ่มครับ แต่ความสามารถของมันก็ไม่ธรรมดาอยู่แล้วด้วยความเป็น Wear ของแบรนด์ Samsung
เพราะเมื่อมันเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น Galaxy Wearable แล้ว ความสามารถมันก็เกินตัวขนาดเล็กๆ ของมันไปได้อีกไกลเลยละครับ
เบื้องต้นเจ้าตัว Galaxy Fit e จะมีความสามารถพื้นฐานก่อนเลยคือ “กันน้ำ” กันได้ในระดับ 5ATM หรือใส่ว่ายน้ำได้เลยละครับ ฉะนั้นไม่ใช่แค่อาบน้ำ แต่เจ้านี้จะอยู่กับข้อมือของเราได้ตลอดทุกที่ ทุกเวลา และทุกกิจกรรม เพราะมันคือจุดประสงค์ของการออกแบบมาอย่างนั้น คือใส่ไว้กับตัวเราตลอดไม่ต้องถอดตอนไหนเลยครับ
น้ำหนักเบา 15 กรัมเท่านั้นเอง สวมใส่ได้ตลอด วัสดุไม่ระคายผิวครับผมเป็นคนเป็นผื่นง่ายเวลามีอะไรมาขีดๆ ข่วนๆ แต่เจ้าตัวนี้มันออกแบบซ่อนปลายสายกับข้อต่อไว้ด้านหลังสายของมันเอง ตัวล็อคออกแบบฉลาดมากไม่มีทางหลุดได้เลย แต่แกะง่ายด้วยดุมกลัดเม็ดเดียวครับ
ตัวเนื้อวัสดุยางที่นำมาทำสาย รู้สึกนุ่ม เป็นมิตรกับสัมผัสมากกว่าตัววัสดุสายของอุปกรณ์ในกลุ่มเดียวกันจากแบรนด์จีนค่อนข้างชัดครับ
หน้าจอแสดงผล 0.74 นิ้ว เป็นแบบสีเดียว ไม่รองรับทัชสกรีนแต่สั่งงานโดยการใช้การเคาะ ภายในมีเซ็นเซอร์ Accelerometer สำหรับตรวจจับการเคลื่อนไหว และ HRM สำหรับการตรวจจับชีพจรแบบเรียลไทม์ครับ
ความสามารถในการใช้งาน
การทำงานของ Galaxy Fit e เป็นการทำงานแบบออโต้เต็มรูปแบบครับ ไม่มีการสั่งงานใดๆ ผ่านตัวเรือนของมันเลย นอกจากจะเคาะเพื่อเปลี่ยนหน้าจอแสดงผลดูข้อมูลต่างๆ จากกิจกรรมชีวิตของเราในแต่ละวัน เช่น จำนวนการก้าวเดิน, พลังงานที่ใช้ไป, การนอนหลับ, อัตตราการเต้นของหัวใจ
ทั้งหมดผู้ใส่ไม่ต้องทำอะไร แค่สวมมันไว้แล้วใช้ชีวิตประจำวันตามเดิมเพียงเท่านั้น ทุกอย่างก็จะถูกตรวจจับและบันทึกเอาไว้ในตัว Galaxy Fit e ทั้งหมดครับ ไม่ว่าจะนั่ง จะเดิน จะวิ่ง หรือจะนอน
Galaxy Fit e จะรู้เองครับ ว่าเรากำลังเดิน กำลังวิ่ง กำลังปั่นจักรยาน หรือกำลังนอนหลับแล้ว ระบบจะตรวจจับและจัดเก็บไว้โดยอัตโนมัติทั้งหมด รวมถึงการแจ้งเตือนเพื่อสุขภาพ เช่นการนั่งอยู่นานๆ มันก็จะแจ้งเตือนเพื่อให้เราลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายสักหน่อย
รวมถึงการแจ้งเตือนคร่าวๆ ที่ใช้บ่อย เช่นดูนาฬิกา, ปฏิทินแจ้งตารางนัดหมาย และสภาพอากาศเป็นต้นครับ รวมถึงตัว Galaxy Fit e จะแจ้งและสั่นเตือนเมื่อมีการติดต่อเข้ามายังสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อในทันทีครับ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ อีเมลล์ หรืออะไรก็ได้ที่ตัวเครื่องสมาร์ทโฟนเรารับการแจ้งเตือนนั้นเข้ามา รวมถึงสายเรียกเข้าด้วยครับ จะแจ้งเป็นรายชื่อและหมายเลขที่โทรเข้ามา ซึ่งตัว Galaxy Fit e รองรับตัวอักษรภาษาไทยด้วยครับ
แต่การแจ้งเตือนจากแอพลิเคชั่นเหล่านี้ที่ถูกส่งมาจากสมาร์ทโฟน ตัว Galaxy Fit e จะไม่เก็บไว้เป็นประวัตินะครับ มันแต่แจ้งให้เรารู้ว่ามีการติดต่อเข้ามาแล้วก็จะหายไป ตัวประวัติจะเก็บไว้แต่เพียงแค่กิจกรรมการเคลื่อนไหวของร่างกายเราเท่านั้นครับ
โดยการตั้งค่า การดูประวัติการเคลื่อนไหว และการควบคุมการทำงานทั้งหมดของ Galaxy Fit e จะทำได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่น Galaxy Wearable ทั้งหมดครับ รวมถึงการอัพเดทระบบของตัวอุปกรณ์ด้วย
โดย Galaxy Wearable และ Galaxy Fit e ไม่จำกัดการใช้งานแต่เพียงสมาร์ทโฟนของ Samsung เท่านั้น มันสามารถใช้งานได้ทั้งบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟน Android 5.0 ขึ้นไป และ iPhone 7 ที่อัพเดท iOS 10.0 ขึ้นไปด้วยเช่นกันครับ
ความสามารถแทบทั้งหมดจะถูกเข้าใจได้ทันทีภายในแอพพลิเคชั่น Galaxy Wearable นี้ครับ ภายในแอพคือหัวใจหลักของอุปกรณ์ Galaxy Fit e ครับ อัพเดทระบบ ดูสถานะแบตเตอรี่ และมันเป็นแอพที่สามารถปรับตั้งค่า Galaxy Fit e ได้ตั้งแต่การเลือกหน้าแรก (Watch face) ของตัวอุปกรณ์ อยากได้ลายไหนแบบไหนเลือกได้เลย
Galaxy Fit e ปรับความสว่างหน้าจอได้สองระดับ และกำหนดเวลาห้ามรบกวนเอาไว้ได้ล่างหน้าเป็นแบบรายวัน สามารถกำหนดค่าหน้าจอได้ว่าจะให้สว่างขึ้นเมื่อใด? เช่นเมื่อพลิกข้อมือขึ้น หรือเมื่อเราเคาะที่ตัวเรือนของมันเท่านั้น หรือจะเปิดไว้ทั้งสองระบบก็ได้ครับ
สามารถตั้งค่า Widget แสดงผลบนหน้าจอตัวเรือนได้ ว่าจะให้แสดงอะไรบ้าง และอะไรไวก่อนหรือไว้หลังครับ และกำหนดแอพลิเคชั่นหรือการทำงานที่ต้องการจะให้ไปแจ้งสั่นเตือนบนข้อมือของเรา ก็ตังเอาไว้ได้ในแอพนี้ครับ
รวมถึงเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างสมาร์ทโฟนและ Galaxy Fit e เข้ากับฐานข้อมูลร่างกายใน Samsung Health ซึ่งที่นั้น การเคลื่อนไหวของกิจกรรมร่างกายต่างๆ ของเรา
โดยเมื่อเปิด Samsung Health ในแอพ Galaxy Wearable ตัวข้อมูลการเคลื่อนไหวร่างกายทั้งหมดจะถูกโอนถ่ายจาก Galaxy Fit e เข้าสู่ประวัติของเราครับ จัดเก็บไว้เป็นกราฟ แผนภูมิ ตารางวันเวลา ให้เราสามารถตรวจเช็คย้อนหลังการใช้ชีวิตของเราได้แบบเห็นเป็นภาพ Infograpic แห่งชีวิตเลยครับ
ใน Samsung Health มันแสดงแจ้งให้เห็นทั้งหมดเป็นแบบรายวัน เดินไปเท่าไหร่ นอนไปเท่าไหร่ หลับลึกแค่ไหน หัวใจเต้นเฉลี่ยเป็นยังไงในแต่ละวัน รวมถึงการบันทึกอาหารและน้ำดื่มที่เรากินเข้าไปแต่ละวัน เพื่อช่วยในการคำนวนตัวเลขด้านสุขภาพของเราได้ดีกว่าเดิมครับ
รวมเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ให้กับทุกคน ไม่ว่าจะใส่ไว้ชิวๆ หรือจะใส่ไว้เพื่อการออกกำลังกายก็ได้เช่นกันครับ
เพราะตัว Samsung Health คือตัวที่จะเชื่อมต่อความสามารถตรวจจับของอุปกรณ์ที่เราใส่ เข้ากับกิจกรรมการออกกำลังกายของระบบ ทั้งรูปแบบการออกกำลังกายพื้นที่ ที่โคตรจะครบ ปัจจุบันมีประเภทกีฬาและการออกกำลังที่ถูกออกแบบมาแล้วถึง 96 ประเภท (ถ้าผมนับไม่ผิดนะ – -) มันเยอะมากครับ
แค่กดเริมกิจกรรมที่เราต้องการ กำหนดเป้าหมายของกิจกรรม ซึ่งกำหนดได้หลากหลายเป้าหมาย เช่นการเดินให้ครบระยะทาง หรือให้ครบระยะเวลา รวมถึงเป้าหมายการเผาพลาญพลังงานให้ถึงปริมาณตามต้องการ หรือจะออกกำลังกายชิวๆ ไม่ต้องมีเป้าหมายก็ทำได้ครับ
หลังจากนั้นตัวระบบกับตัวเครื่อง Galaxy Fit e จะทำงานร่วมกัน ตรวจจับการเคลื่อนไหว อัตตราการเต้นของหัวใจ และเชื่อมต่อสัญญาณ Gps (จากในตัวสมาร์ทโฟน) เพื่อบันทึกเส้นทาง ระยะทาง ความเร็วการก้าวเดิน ปริมาณแคลที่เผาผลาญ ทุกอย่างถูกนำมารวมเป็นข้อมูลให้เห็นชัดๆ แบบนี้ครับ
ตัวระบบ Samsung Health ถูกออกแบบและพัฒนามายาวไกลแล้ว มันตรวจจับได้หมดในเวลาคุณหยุดเดิน มันก็จะหยุดบันทึกและส่งเสียงเตือนด้วยเช่นกัน และเมื่อคุณถึงเป้าหมายที่กำหนด มันก็จะเตือนเพื่อแสดงความยินดีและมีถ้วยเกียรติยศให้ถ้าเราทำลายสถิติของตัวเองได้ด้วย ^^
นอกจากการออกกำลังกายพื่นฐานแล้ว Samsung Health ยังเป็นพาร์ทเนอร์กับแอพพลิเคชั่นออกกำลังกายชื่อดังทั่วโลก ในการออกแบบกิจกรรมสำหรับเสริมสร้างสุขภาพในแทบๆ จะทุกไลฟ์สไตล์เลยครับ คุณต้องการเข้าร่วมโปรแกรมสุขภาพแบบไหน เลือกกดติดตั้งและเริ่มโปรแกรมที่ต้องการได้เลย
ตัวโปรแกรมระดับโลกที่ถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสม ก็จะถูกนำมาโค๊ชนำทางการออกกำลังกายตามแนวกิจกรรมที่คุณเลือก ผ่าน Galaxy Fit e และ Samsung Health โดยทันทีครับ
ตัวจิ๋วๆ แบบนี้ แต่เรียกว่าใช้งานได้ตั้งแต่ชีวิตชิวๆ ไปจนถึงอุปกรณ์สำหรับสายฮาร์ดคอร์ในด้านการออกกำลังกายเลยครับ
ด้วยความเป็นอุปกรณ์จาก Samsung ที่มีแอพพลิเคชั่นและพาร์ทเนอร์มาเยอะแยะมากมาย มันเลยถูกขยายความสามารถของอุปกรณ์ด้วยโปรแกรมไปได้อีกไกล
ประสิทธิภาพของตัวเครื่อง
Galaxy Fit e แบตเตอรี่ชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง จะอยู่กับเราได้นานกว่า 4 วันครับ สำหรับการเปิดฟลูฟังก์ชั่นสารพัดเซ็นเซอร์และการตรวจจับการนอน รวมถึงใช้ช่วยในการแจ้งเตือนการติดต่อที่มายังโทรศัพท์ของเรา
ใช้เวลาชาร์จแบตกลับไวมาก จากตัวชาร์จที่ให้มาภายในกล่อง ซึ่งตัว Galaxy Fit e ใช้แบตเตอรี่เล็กมากครับ สามารถชาร์จไฟจากตัวแบตเสริมได้เลยง่ายๆ ไม่ถึง 40 นาที แบตก็เต็มแล้วครับ
ความแม่นยำในการตรวจจับการเคลื่อนไหว เวลาใช้งานสแตนด์อโลนเพียงตัวเดียว จะตรวจจับสถานะตอนเคลื่อนที่เร็วๆ เพี้ยนไปหน่อย เช่นนั่งรถอยู่ก็มีบางครั้งที่คิดว่าเราปั่นจักรยานครับ ซึ่งการเดินทางโดยการนั่งรถตรงนี้เป็นปัญหาส่วนใหญ่ของอุปกรณ์เหล่านี้เสมอมา
แต่การตรวจจับการเคลื่อนไหวในลักษณะเดิน นั่ง นอน แม่นยำครับ มันอัตโนมัติได้ดี รายงานการนอนตรงตามเวลาจริงที่ผมทดสอบใส่มาเลย การนั่งนานๆ ก็รับรู้ได้เช่นกัน ว่าเป็นการใส่แล้วนั่งหรือวางตัวเครื่องมันไว้เฉยๆ มันรู้ได้หมดครับ
และถ้าเป็นการนำไปใช้กับร่วมกับ Samsung Health มันมีคำนวนเพิ่มรวมกับเซ็นเซอร์ของสมาร์ทโฟนด้วย การตรวจจับ GPS ในการออกกำลังกาย ระยะทาง การเคลื่อนไหว แม่นมาก หยุดเดินปุ๊บมันก็รู้ปั๊บและส่งเสียงบอกเราทันทีว่าการออกกำลังกำลัง “พัก” และเมื่อเริ่มเดินใหม่ มันก็กลับมานับต่อแทบจะในทันทีครับ ตรวจจับเส้นทางได้ตามสถานที่จริงจากการเดินหรือวิ่งครับ ก็ค่อนข้างแม่นซึ่งผมว่าหลักๆ มันมาจากการมีซอฟท์แวร์ที่ดีอย่าง Samsung Health นี้แหละเป็นจุดขาย
สรุปท้ายรีวิว
Galaxy Fit e เป็นอุปกรณ์เบาๆ สำหรับการหามาใส่ข้อมือข้างที่ว่างสำหรับการใช้งานในทุกๆ วันครับ ใส่เพื่อตรวจจับ, บันทึก กิจกรรมการเคลื่อนไหว การเดิน การนั่ง การนอน โดยไม่ต้องไปรบกวนหรือใช้เวลากับมันมาก
รวมถึงเป็นตัวช่วยเตือนการติดต่อที่แจ้งเข้ามายังสมาร์ทโฟนของเราที่ดี เพราะการสั่นแรงดีชัดเจน รู้สึกได้ก่อนจะได้ยินเสียงเรียกเข้าซะอีกครับ
ตัวซอฟท์แวร์ทำมาได้ดี (มาก) ระบบเสถียรไม่งอแงเลยและใช้งานง่าย ผมยกให้ Samsung Health เป็นหนึ่งในมูลค่าที่สำคัญต่อความคุ้มในการใช้ Galaxy Fit e เลยครับ ราคาไม่แพงแต่ได้ซอฟท์แวร์ระดับนี้ ถือว่าได้เปรียบ เพราะจริงๆ แล้ว Samsung Health ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้จนถึงอุปกรณ์หลักหมื่นของเขาเลยครับ
สำหรับคนชอบการออกกำลังกาย เจ้าตัวนี้ผมว่าคงเป็นผู้ช่วยได้ในระดับหนึ่งครับ มันบันทึกได้หลากหลายกิจกรรม มีพาร์ทเนอร์ระดับโลกหลายเจ้าที่ใช้งานคู่กับเจ้าตัวนี้ได้ครับ
ถือเป็นการลงทุนที่ไม่แพง เหมาะกับการใช้งานทั้งแบบเบาๆ ระดับกลางสำหรับผู้เริ่มออกกำลังกาย และระดับเป็นผู้ช่วยได้ในระดับมืออาชีพด้วยเช่นกัน ผมว่าคุ้มครับ Wearble ของ Samsung ที่ราคามันไม่แพงครับ ประมาณ 1,290 เอามาใส่เล่นๆ ใช้แจ้งเตือนกับตรวจจับเดินๆ นั่งๆ นอนๆ แค่นั้นก็คุ้มแล้วครับ