สมาร์ทโฟนเครื่องสวยๆ มาอีกหนึ่งรุ่น จากแบรนด์เดิมด้านการออกแบบตัวเครื่องสวยๆ แบบแฟชั่นสมาร์ทโฟน Vivo V20 SE ตัวเครื่องบาง เบา มาพร้อมหน้าจอสุดสวย หน้าจอแบบ AMOLED Halo FullView Display และกล้องคุณภาพสูงทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังครับ
Vivo V20 SE เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่สามของ V20 Series ตามหลังรุ่นพี่ตัวนิยมที่ออกมาสองรุ่นก่อนหน้านี้ V20 Pro และ V20 แต่ราคาเปิดตัวไม่แรงเลยครับ ประกาศออกมาแค่ 8,699 บาทเท่านั้นเอง
จุดเด่นอยู่ที่การออกแบบตัวเครื่องเน้นความบางเบา ความหนาเพียง 7.83 มิลลิเมตร โค้งมนแบบ 3D ถือจับเข้ามือ ใช้งานสบายด้วยน้ำหนักเพียง 171 กรัม มีเปิดจำหน่ายในไทยสองสึด้วยกัน ซึ่งเป็นสีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากบนท้องฟ้าและอวกาศ
Gravity Black ตัวเครื่องสีดำเข้มหรูหรา ออกแบบตามแรงบันดาลใจของห้วงอวกาศ ดูขรึมเข้ม และสี Oxygen Blue สีฟ้าอ่อนที่ให้ความรู้สึกสดใส แรงบันดาลใจจากท้องฟ้า สว่างและสงบ ซึ่งเป็นสีเครื่องที่เห็นในรีวิวนี้ครับ
ใช้หน้าจอขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด 1080P ใช้หน้าจอสีสันสวย แบบ AMOLED Halo FullView Display ขอบจอเล็ก พื้นที่ด้านหน้าเครื่องเป็นสัดส่วนจอ 90.12% ความอิ่มตัวของสีสูง 103% NTSC ค่าคอนทราสต์ 2000000: 1
เจาะรูวางกล้องหน้าความละเอียดสูง 32 ล้านพิกเซล ฟังก์ชั่นเพียบ เป็นหน้าจอที่รองรับการสแกนลายนิ้วมือโดยตรงครับ การสแกนนิ้วทำได้ไวมากแค่แตะนิ้วลงไปก็สแกนได้ทันที
ด้านหลังตัวเครื่องสวยงาม การทำสีแบบไล่เฉดโทนฟ้า วัสดุเคลือบแบบนี้เป็นรอยนิ้วมือยาก และทนต่อรอยขีดข่วนได้ดีครับ จับสัมผัสแล้วละมุนมือ กรอบเลนส์หลังก็ทำมาปราณีตครับ ใส่วงแหวนล้อมเลนส์กล้องทั้งสามตัว กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกับ 8 ล้านพิกเซล Wide-angle และเลนส์ 2ล้านพิกเซลสำหรับการถ่ายภาพโบเก้หน้าชัดหลังเบลอ
ขอบเครื่องสวย มีการเคลือบสีให้เข้ากับฝาหลัง มีรูหูฟัง 3.5mm และใช้พอร์ทชาร์จแบบ USB Type C รองรับชาร์จไว 33W FlashCharge
สามารถชาร์จแบตขนาด 4100mAh แค่ 30 นาที ได้แบตมากกว่าหกสิบเปอร์เซ็น และชาร์จได้เต็มภายในเวลาประมาณแค่ห้าสิบนาทีหน่อยๆ เท่านั้นเองครับ ชาร์จไวมาก
รองรับการใช้งานสองซิมการ์ดแบบสามสล็อต ใช้งาน 4G ได้สองซิมพร้อมกัน และรองรับการเพิ่ม Micro SD Card ได้สูงสุด 1TB เลยครับ
อุปกรณ์ภายในกล่องมีมาให้ครบเลยครับ ทั้งเคสใสซิลิโคน ชุดหูฟัง และ 33W FlashCharge พร้อมสายชาร์จ USB Type C
การใช้งานภายใน Vivo V20 SE
Vivo V20 SE ใช้หน่วยประมวลผลของ Qualcomm เป็น Snapdragon 665 octa-core เทคโนโลยีการผลิตระดับ 11nm ให้แรมรอมมาเยอะดีครับ RAM 8GB ROM 128GB ใช้ระบบ UI Funtouch OS 11 ครอบทับ Android 10
การใช้งานทั่วไปลื่นไหลใช้งานสบายๆ เพราะมีระบบ Vivo Multi-Turbo ใส่มาไว้ให้ภายใน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ให้เร็วกว่าเดิมหลายตัวเลยครับ เร่งความเร็วทั้งระบบครบวงจรเลย เร่งความเร็ว CPU, GPU, IO, RAM เพื่อการปรับประสิทธิภาพที่ส่งผลไปถึงทั้งระบบการทำงาน ระบบสัญญาณเครือข่าย รวมถึงการระบายความร้อน และการเล่นเกม รองรับ ART ++ Turbo ซึ่งเป็นการเพิ่มความเร็วในการเปิดแอปพลิเคชั่นให้เร็วมากขึ้นครับ
การจับสัญญาณ GPS ทำได้ไวโดยไม่ต้องใช้เน็ตช่วย การใช้งานสัญญาณมือถือเสถียรและทำงานได้ดีไม่มีปัญหาใดๆ ครับ รองรับ Wi-Fi ทั้ง 2.4และ 5.0G
ทดสอบการเล่นเกมระดับกราฟิกสวยๆ เอาอยู่สบายครับ เข้าเกมได้รวดเร็ว เล่นได้ลื่นไหล
มีโหมดสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ Ultra Game Mode ซึ่งระบบเกมโหมดของ Vivo เป็นโหมดเกมที่ทำมาได้ดีมากครับ เป็นการรีดประสิทธิภาพเครื่องเพื่อมาใช้ในการเล่นเกม ช่วยลดปัญหาเฟรมเรตตกและปิดกั้นการแจ้งเตือนในกรณีเราต้องการโฟกัสกับการเล่นเกมเป็นหลัก สามารถเปิดแอพแชตซ้อนหน้าเกมขึ้นมาได้เพื่อใช้แชตไปพร้อมกันกับเล่นเกมได้ครับ
หน้าจอสวยๆ แบบนี้เหมาะทั้งการเล่นเกมและการรับชมภาพยนตร์ครับ สีสด หน้าจอเต็ม ลำโพงเสียงดังดี ออกแหลมเล็กน้อย
FunTouch OS 11 เขามีจุดเด่นที่การปรับแต่ง สามารถปรับได้เยอะครับ ไม่ว่าจะเป็นเอฟเฟ็กต์การสแกนลายนิ้วมือ, สแกนใบหน้า ปรับเลือกเอฟเฟ็กต์ขณะชาร์จ เลือกได้หมดอย่างที่เราต้องการ
มีเอฟเฟ็กต์แสงไฟโดยรอบ เป็นการแสดงไฟสถานะแจ้งเตือนแบบสวยๆ เวลามีคนโทรเข้ามา หรือมีการแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่น
มีบริการที่ทาง Vivo เตรียมไว้ให้ ทั้งสโตร์สำหรับการดาวน์โหลดธีม โหลดฟอนท์ตัวอักษร มีเกมสโตร์และแอพสโตร์ ซึ่งเป็นบริการที่ทาง Vivo จัดมาให้ สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องล็อคอินก่อนก็ได้ครับ
มีหน้าพิเศษที่ออกแบบมาให้ AI คอยรวมรวมข้อมูลที่มีประโยชน์กับเราไว้เป็นหน้าพิเศษ Jovi Home จะรวมฟังก์ชั่น ข้อมูล และบริการทางลัด ข้อมูล ข่าวสาร และการบันทึกกิจกรรมการใช้งาน ในหน้าด้านซ้ายสุด
มีระบบปรับสีสันหน้าจอ โหมดลดแสงสีฟ้าเพื่อป้องกันสายตาที่เราตั้งค่าเปิดปิดโดยอัตโนมัติได้ในแต่ละวัน และโหมดกลางคืนหรือโหมดมืด เปลี่ยนหน้าเมนูให้กลายเป็นสีดำ ถนอมทั้งสายตาและประหยัดแบตเตอรี่ไปด้วยเพราะว่ารุ่นนี้ใช้เป็นหน้าจอ AMOLED
สำหรับคนทำงานหรือเรียนหนังสือที่ทำกันเป็นเวลา มีโหมดที่ออกแบบให้เรากำหนดเวลาการใช้สมาธิในการเรียนหรือทำงานในแต่ละวันได้ครับ เราสามารถกำหนดเวลาที่เราไม่ต้องการให้มีการรบกวนจากการทำงานของแอพหรือเกมใดๆ ที่จะแจ้งเตือนหรือติดต่อเข้ามาในช่วงที่เราอยากจะโฟกัสในสิ่งที่ทำมากกว่าได้
และสุดท้ายโหมดที่ค่อนข้างใหม่สำหรับสมาร์ทโฟน Android นั้นคือ “โหมดเวลาเข้านอน” มันคือการทำงานร่วมกันของสองระบบ “ห้ามรบกวน” และ “ถนอมสายตา” โดยเมื่อราเปิดการทำงานหรือตั้งเวลาไว้ ระบบจะปรับรูปแบบการแสดงผลให้เป็นโทนขาวดำเพื่อให้ตาเราได้ผ่อนคลายจากแสงสีฟ้าของหน้าจอ และจะปิดเสียงการแจ้งเตือนเพื่อให้เราได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ^^
กล้องถ่ายภาพ
กล้องหน้าและหลังเป็นกล้องความละเอียดสูงทั้งคู่ และมีฟังก์ชั่นด้านการถ่ายภาพที่เยอะพอสมควรรวมทั้งการถ่ายวีดีโอเคลื่อนไหว มีการใส่ระบบกันสั่น EIS ช่วยลดความเบลอจากการสั่นไหวและสามารถถ่ายวีดีโอความละเอียดสูง 4K ได้ พร้อมฟังก์ชั่นการปรับแต่งภาพหลังถ่ายของ Vivo ที่อลังการงานสร้างมากที่สุดของวงการสมาร์ทโฟนในยุคนี้แล้วครับ ^^
กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รองรับการเซลฟี่ทั้งกลางวันและกล้องคืน แสงหมดฟ้าก็ยังเซลฟี่หน้าสวยได้ด้วย Super Night Selfie ใช้ AI Face Beauty ระบบปรับแต่งใบหน้าที่ปรับได้ครอบคลุมมาก จับความแตกต่างของผู้ถ่ายได้ทั้งในเรื่องเพศ สีผิว รูปร่าง ลักษณะใบหน้า และการแต่งหน้าจึงเติมแต่งใบหน้าของผู้ถ่ายได้ฉลาดมากครับ
กล้องหน้าสวยงาม ภาพคม จับหน้าเป๊ะ ละลายหลังได้ด้วยกล้องหน้าตัวเดียวแบบเนียนๆ พร้อมฟิลเตอร์สีที่ให้เลือกใช้ได้หลากหลายอารมณ์ภาพ
กล้องหน้าดีมากครับรุ่นนี้ ภาพมีมิติ แม้ไม่ต้องเปิดโหมดฟังก์ชั่นใดๆ ก็ดูเป็นภาพกล้องหน้าคุณภาพสูงแล้วครับ
เซลฟี่ในที่แสงน้อยก็ยังคมสบายๆ ^^
กล้องหลัง 48 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกับกล้อง Super Wide-Angle 8 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพมุมกว้างได้ 120 องศา (ตัดส่วนขอบเลนส์ออกเพื่อให้ภาพสมบูรณ์ที่ระยะ 108 องศา) ช่วยกันถ่ายภาพได้หลายระยะ สามารถซูมได้สูงสุดที่ 10x และซูม 2X ได้แบบไม่เสียรายละเอียด
จะนำไปถ่ายคนหรือถ่ายวิวก็แล้วแต่เลย เอาอยู่สบายๆ
กล้องที่สามเป็นเลนส์มาโคร ด้วยโหมด Super Macro Camera ทำให้เราสามารถถ่ายภาพได้ใกล้มากถึงระยะโฟกัสขนาด 2.5 เซนติเมตรเลยทีเดียวครับ
รองรับการถ่ายภาพกลางคืน ไม่ต้องใช้ขาตั้งช่วย ถือเครื่องถ่ายได้เลย คมทั้งภาพถ่ายวิวและถ่ายคน
มีโหมดถ่ายหน้าชัดหลังเบลอสำหรับการถ่ายภาพบุคคล จับคนได้สวยงามสุดๆ เพราะว่าตัว AI ของกล้อง Vivo มันแยกได้หมดเลยครับ ว่าจุดไหนคือคน ไหนเป็นฉากหลัง ไหนเป็นท้องฟ้า ต้องบอกว่า AI ของ Vivo นี่โคตรเก่งเลยครับ แยกได้ละเอียดยิบ
ถึงขนาดแยกแบบออกมาจากเก้าอี้ได้เหมือนทำผ่านโฟโต้ช้อปเลยครับ เอาน้องนางแบบไปไว้บนภาพพื้นหลังใหม่ยังไงก็ได้ ^^
หรือจะเปลี่ยนท้องฟ้าให้กลายเป็นท้องฟ้าในแบบที่เราต้องการ มีให้เลือกปรับเปลี่ยนเพียบครับ และตัดภาพได้สุดยอด โดยเฉพาะความง่ายในการทำ แค่เพียงกดให้ AI วิเคราะห์ภาพเท่านั้นเอง
ฉะนั้นเมื่อมันมีความสามารถในการจับวิเคราะห์สิ่งทีเราถ่ายได้ขนาดนี้ มันจึงทำอะไรได้อีกหลายอย่างแบบอลังการงานสร้าง ไม่ใช่แค่การละลายฉากหลังเท่านั้น
โหมดถ่ายภาพบุคคลละลายหลังแบบเนียนๆ คมๆ
และการปรับแต่งอีกมากมายที่เราไม่เจอในสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่น และสำหรับ V20 SE เป็นหนึ่งรุ่นของ Vivo ที่เขาจัดฟังก์ชั่นเหล่านี้มาให้ใช้กันอย่างเต็มพิกัดครับ กล้องของ Vivo V20 SE จึงมีทั้งคุณภาพและความสามารถจากฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ไม่จบแค่การถ่ายภาพสวยๆ เท่านั้นครับ^^
ตัวอย่างภาพถ่ายจากหลายโหมด
สรุปท้ายรีวิว
เครื่องสวย เบาและบาง งานออกแบบเครื่องมีความปราณีต คุณสมบัติสำคัญมาครบทั้งสเปคที่เพียงพอต่อการใช้งานทุกอย่างของระบบ และระบบชาร์จไว 33W FlashCharge หน้าจอแสดงผลสวยงาม เป็นจอ AMOLED สีสันดี
และที่ดูจะเป็นจุดเด่นพิเศษก็คือเรื่องของกล้องถ่ายภาพ ที่มีความละเอียดสูงทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง คุณภาพกล้องดีและมีฟังก์ชั่นด้านภาพเยอะมาก เพราะ Vivo ใส่ความสามารถด้านการจัดการภาพเข้ามาในรุ่นนี้แบบจัดเต็มครับ เรื่องภาพใช้งานกันได้อย่างสนุกสมใจแน่นอน
ก็สรุปได้ว่าเป็นเครื่องขายความงามครับ ความงามของเครื่อง และความงามของภาพจากกล้อง สวยหมดเลย ^^ ราคาไม่แรงจนเกินไป ซึ่งมีการเปิดให้จับจองแล้วในไทย ในราคา 8,699 บาทครับ