หลังจากเปิดตัว iOS 6 พร้อมกับ iPhone 5 ไปได้ไม่นาน Apple ก็พร้อมแล้วสำหรับการเปิดให้ดาวน์โหลดใช้งานจริงของ iOS ใหม่สำหรับ iPhone / iPod Touch และ iPad ชื่อของมันก็คือ iOS 6 ซึ่งมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ บิลด์อินแอปพลิเคชั่น เซ็ตติ้งต่างๆ ทวีคเด็ดๆ และส่วนปรับปรุงแก้ไขจาก iOS5 ตัวล่าสุดนี้อีกเพียบ
อย่างหนึ่งที่น่าตื่นเต้นคือลูกเล่นแผนที่แบบ 3D ที่สามารถชี้ตำแหน่งการเดินทางและนำทางเราไปได้แบบหัวโค้งต่อหัวโค้งกันเลยทีเดียว Siri เองก็ได้รับการอัพเกรดใหม่ให้สามารถพูดคุยกับเราเรื่องหนังและกีฬาได้อย่างราบรื่น Facebook ถูกผสมโรงเข้ามาใน iOS อย่างเป็นทางการเพื่อที่คุณจะได้กดไลค์เพื่อนหรือโพสอะไรใหม่ๆ ในหน้าวอลล์ของ Facebook คุณได้ทันทีไม่ว่าจะส่วนใดใน iOS 6
นอกจากนี้ยังสามารถทำการแชร์ Photo Streams ทำการถ่ายรูปแบบพาโนราม่า หรือจะเล่นเฟซไทม์กันผ่านทางเครือข่าย 3G ก็ยังได้ใน iOS ใหม่นี้ รวมถึงมีการเพิ่มแท๊ปสำหรับ iCloud มีการปรับปรุงหน้าตาของ App Store ใหม่ และอะไรอื่นๆ อีกมากมายที่สาธยายไม่หมด
แล้วเราจะไปหา iOS 6 มาจากไหนล่ะทีนี้? เครื่องรุ่นไหนบ้างที่ยังคงรองรับการปรับปรุงครั้งใหม่นี้? และลูกเล่นไหนที่เรียกได้ว่าน่าตื่นตาตื่นใจเป็นที่สุด? วันนี้ APPDISQUS จะพาคุณไปพบกับมันแบบละเอียด…
เราจะคาดหวังกับลูกเล่นอะไรได้บ้างเนี่ย?
เมื่องาน WWDC 2012 ที่ผ่านมานั้น Apple ได้เปิดตัวทดสอบสำหรับนักพัฒนาให้ดาวน์โหลดกันไปก่อนหน้านี้แล้ว และสำนักวิจารณ์หลายๆ ค่ายก็ได้ไปลองแฮนด์ออนกันมาบ้างแล้วเช่นกัน โดยในตอนนั้นมีการเปิดเผยการอัพเดต 20 อย่างใน iOS ใหม่นี้ที่เจ๋งเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งก็รวมไปถึงการปรับปรุง Siri การยอมให้ Facebook เข้ามามีส่วนร่วมกับ iOS ได้อย่างเต็มที่ขึ้น การเปิดลูกเล่นท้าทายคู่แข่งใน Game Center หรือแม้แต่การปรังปรุงหน้าตาของ App Store หากเข้าผ่านทาง iDevices
นอกจากนี้ต่อมายังมีการเปิดเผยอีก 15 ลูกเล่นที่มีแอบซ่อนเอาไว้แล้วเราผู้ใช้อาจไม่ทันได้สังเกตหรือค้นเจอ ซึ่งก็มีทั้งการที่เราสามารถอัพเดตโปรแกรมต่างๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องใส่พาสเวิร์ดของเราซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกต่อไป การปรับปรุงให้ Spotlight โชว์แฟ้มต่างๆ เพื่อง่ายต่อการค้นหา การเข้าถึงอีเมลดราฟท์ได้อย่างรวดเร็ว หรือแม้แต่การยอมให้สามารถใช้เสียง MP3 เป็นเสียงนาฬิกาปลุกได้
แล้วเราจะอัพเดตเป็น iOS 6 ได้อย่างไร?
ง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปากซะอีก แค่เข้าไปที่การตั้งค่าในตัวเครื่อง จากนั้นก็เลือกเมนู “ทั่วไป” แล้วก็เลือก “ปรับปรุงซอฟท์แวร์” แค่นี้คุณก็จะสามารถอัพเดต iDevices ของคุณได้แบบกลางอากาศแล้ว
หรือหากต้องการทำอะไรให้มันยุ่งยากสักหน่อย คุณก็สามารถเลือกอัพเดตได้ผ่านทางวิธีโบราณที่เราทำกันมาโดยตลอด นั่นก็คือการเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับ iTunes จากนั้นก็เลือกอุปกรณ์ของเราจากทางรายการด้ายซ้ายมือแล้วก็กดปุ่ม “Check for Update”
ก่อนการอัพเตด เราควรทำอะไรก่อนดี?
- iPhone 3GS
- iPhone 4
- iPhone 4S
- iPhone 5 (out on September 21st)
- iPod touch (fourth generation)
- iPod touch (fifth generation – out in October)
- iPad 2
- The new iPad
บางลูกเล่นของ iOS 6 นั้นทำมาเพื่ออุปกรณ์บางชนิดเท่านั้น
ยกตัวอย่างเช่น Siri โดยหนู Siri เข้าจะมารับใช้เฉพาะผู้ถือ iPhone 4S และรุ่นอื่นๆ ที่ใหม่กว่า (ก็ iPhone 5 นั่นล่ะ) iPod Touch เจ็นเนอเรชั่นห้าขึ้นไป และใน The New iPad เท่านั้น ส่วนแผนที่สามมิติแบบใหม่ที่บอกเส้นทางแบบโค้งต่อโค้งและนำทางได้อย่างแม่นยำขึ้นนั้นก็สำหรับอุปกรณ์ข้างต้นที่ว่ามา แล้วก็บวกเพิ่ม iPad 2 ไปอีกตัว
ฟังก์ชั่น Offline Reading List (เก็บสิ่งที่ต้องการอ่านตอนเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไว้อ่านต่อเวลาที่ออฟไลน์ไปแล้ว) นั้นมีมาให้ใน iPhone 4 ขึ้นไป และ iPad 2 ขึ้นไป สำหรับฟังก์ชั่นถ่ายรูปแบบพาโนราม่าก็สำหรับ iPhone 4S ขึ้นไป และ iPod Touch เจนเนอเรชั่นที่ห้า
แล้วเราต้องเสียเงินไหมในการอัพเดต?
ไม่ต้องนะครับ ไม่ต้องจ่ายเลยสักแดงเดียว วิธีการอัพเดตนั้นก็ง่ายมาก อย่าไปเสียรู้ให้กับบุคคลที่ไม่หวังดีด้วยการตกเป็นเหยื่อให้เขาหลอกเอาเงินไปได้ง่ายๆ นะครับ เพราะมันฟรีทั้งหมดจริงๆ
ได้ยินแบบนี้แล้วก็เตรียมตัวกันให้พร้อมแล้วเตรียมใจอัพขึ้น iOS 6 เพื่อไปหาสิ่งที่พัฒนาแล้วกันต่อดีกว่านะครับ APPDISQUS เอาใจช่วยในการอัพเดตเฟิร์มแวร์ในครั้งนี้!