[บทความแปล] มินิรีวิว : เพียง 30 นาทีกับการใช้งาน Moto G นักฆ่าเรือธงดีๆนี่เอง
เชื่อว่าคงมีใครหลายๆคนที่ได้รับ Moto G มาไว้ในมือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นครับที่ได้รับเจ้า Moto G เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และแน่นอนว่าอย่างแรกเลยที่ผมจะทำคือการแกะกล่องมันออกมา และนั่นก็ทำให้ผมพร้อมแล้วครับที่จะได้ชื่นชมเจ้า Moto G แบบใกล้ๆ
บอกไว้ก่อนนะครับว่าจริงๆแล้วผมชื่นชอบเจ้า Moto G ในเวอร์ชั่น 2014 มาก ซึ่งนั่นอาจทำให้ผมมีอคตินิดหน่อยกับเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างไรครับ — ก่อนหน้านี้ผมเริ่มเห็นว่ามีคนพูดถึง Moto G ในอินเตอร์เน็ตและดูเหมือนพวกเขาเหล่านั้นจะชื่นชอบเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจากนี้ผมยังได้ยินใครหลายๆคนที่ได้ไปร่วมงานเปิดตัวพูดถึงมันในแง่ที่ว่าดีเสียเหลือเกินอีกด้วย และนั่นก็ทำให้ผมรู้สึกคาดหวังกับอุปกรณ์ตัวนี้มาก คล้านๆกับการคาดหวังให้มีใครซักคนในออฟฟิซใส่เคราซานต้าในวันคริสต์มาสนั่นแหละครับ
หลังจากที่ผมได้ใส่ซิมของ AT&T และการ์ด microSD ขนาด 64 GB ลงไปแล้ว ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นไม่มีปัญหาอะไรตามมานะครับ (แม้ว่าในสเปคของทาง Motorola จะบอกไว้ว่าใส่การ์ดสูงสุดได้ 32 GB ก็ตาม นอกจากนี้เพื่อนของผมยังใส่ microSD ขนาด 128 GB อีกด้วย และนั่นก็ไม่ทำให้เกิดปัญหาอะไรเช่นกันครับ) จากนั้นผมก็เริ่มตั้งค่าต่างๆภายในตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น Google account และในส่วนอื่นๆที่ผมต้องการ และแล้วผมก็รู้เลยครับว่าทำไมผู้คนที่มีเจ้า Moto G อยู่ในมือถึงได้ชื่นชอบมัน
ผมรู้สึกเลยว่ามันทำงานได้เร็วและไหลลื่นมากๆ ดูๆแล้วยังจะเร็วกว่าพวกเครื่องที่มีราคา 16,000-17,000 ด้วยซ้ำ แต่นั่นอาจเป็นเพราะว่าผมยังไม่ได้ทำอะไรกับมันมากก็ได้ จึงทำให้มันยังทำงานได้เร็วอยู่ ไม่แน่ว่าหากผมลองโหลดแอพมาเยอะๆอาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปก็เป็นได้ และนั่นก็ดูจะเหมาะที่จะนำไปเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟนตัวอื่นๆมากขึ้นอีกด้วยจริงไหมล่ะครับ แต่ยังไงผมรู้สึกว่ามันเป็นเครื่องที่ให้ประสบการณ์ที่ดีมากๆอยู่ดีครับหากเทียบจากหลายๆเครื่องที่เพิ่งแกะกล่องออกมาเหมือนกันก็ตาม
นอกจากนี้ผมรู้สึกชอบเจ้าหน้าแสดงแอพมากๆเลยครับ เจ้า app drawer นั่นแหละ เพราะมันมีอยู่แค่สองหน้าเท่านั้น และผมบอกเลยว่ามันไม่ได้เต็มไปด้วย Bloatware จำนวนมากหรือแอพที่คุณไม่ต้องการเหมือนกับเครื่องอื่นๆนะครับ ไม่มีแอพที่ติดมาจากเหล่าผู้ให้บริการอย่าง AT&T family navigator ไม่มี Sprint Zone ไม่มี T-Mobile TV ไม่มีอะไรพวกนี้อยู่ในเครื่องเลยครับ เพราะอย่างที่เรารู้ๆกันคือเจ้าแอพพวกนี้เราไม่เคยใช้มันเลยจริงไหมล่ะครับ ดังนั้นสำหรับ Moto G ผมบอกเลยว่าไม่มีปัญหาเรื่องพวกนี้แน่นอน อย่างแอพในเครื่องที่ผมมีคือ แอพวิทยุ FM และแอพที่ช่วยให้ผมโยกย้ายข้อมูลจากเครื่องอื่นมาที่เครื่องนี้ นอกจากนั้นก็จะเป็นแอพของ Moto ครับอย่างพวก Moto Assist และ Moto Display ที่สำคัญแอพพวกนี้สามารถปิดได้ด้วย คือถ้าผมไม่อยากเห็นมันจริงๆก็เอาออกไปได้ไม่มีปัญหาอะไรครับ เกือบลืมบอกว่าจริงๆยังคงมี Bloatware ของ Google อยู่นะครับ แต่ก็ลบมันออกไปได้ไม่มีปัญหาเช่นกัน
ในส่วนของหน้าจอที่เหมือนว่าจะมาจาก Nexus 6 ผมขอไม่ตำหนิตรงจุดนี้ครับ ถึงแม้ว่ามันจะยากที่จะทำความคุ้นเคยกับมันก็ตาม เพราะตอนนี้ผมรู้สึกได้ว่าผมชื่นชอบเจ้าเครื่องนี้เอามากๆ ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกที่มันอยู่ในมือผม หรือความรู้สึกตอนที่มันอยู่ในกระเป๋าของผมก็ตาม นอกจากนี้คงมีหลายๆคนที่สงสัยเรื่องของความละเอียดของจอภาพว่าจะเพียงพอไหมกับการใช้ดูวิดีโอหรือเล่นเกมส์ ส่วนตัวผมแล้วผมเคยใช้สมาร์ทโฟนที่หน้าจอมันแย่กว่านี้ในการเล่นเกมส์และดูหนัง ผมจึงไม่รู้สึกว่านี่เป็นปัญหากับผมเท่าไรนัก ที่สำคัญ Moto G ราคาแค่ 200$ (ประมาณ 6,500 บาท) ผมว่ามันก็โอเคแล้วนะครับ ผมไม่ได้หวังจะให้หน้าจอคุณภาพดีเท่ากับเรือธงตัวล่าสุดของ Samsung ด้วยจำนวนเงินเท่านี้อยู่แล้ว ฉะนั้นนี่จึงไม่ทำให้ผมผิดหวังครับ
ทั้งหมดที่ผมรู้สึกใน 30 นาทีที่ได้รู้จักกับ Moto G เครื่องนี้ผมเขียนมันไว้ในนี้ทั้งหมดแล้วครับ แต่ผมบอกไว้ก่อนนะครับว่าเรื่องนี้จะยังไม่จบ แต่ไม่ถึงหูครูอังคณาแน่ (เก่าไปไหมครับ) แน่นอนว่าไม่มีอะไรบนโลกที่สมบูรณ์แบบ ผมค่อนข้างชัวร์ว่าจะต้องมีอะไรที่ผมไม่ชอบในเครื่องนี้บ้างแน่ๆ ขอเวลาผมอีกสักนิดให้ได้ทดลองใช้เพื่อค้นหาข้อเสียที่มีในเครื่องนี้ดูก่อน แล้วเดี๋ยวผมจะมาบอกเล่าเรื่องราวข้อเสียของ Moto G ให้ฟังกันอีกทีครับ ตอนนี้ผมรู้สึกแฮปปี้มากครับที่มี Moto ตัวน้อยๆมาอยู่ในกระเป๋าผมอีกครั้ง ^^