OPPO F11 Pro สมาร์ทโฟนที่ผมถือใช้งานเป็นหนึ่งในเครื่องหลักตั้งแต่ได้มาช่วงวันเปิดตัว ก็นับรวมร่วมๆ สามอาทิตย์ได้ครับที่ได้ใช้งานมันมา รีวิวก็ทำแล้ว ทดสอบการใช้งานด้านต่างๆ ก็ทำให้อ่านกันแล้ว วันนี้ก็ขอรวบรัดตัดความ เอาประสบการณ์การใช้งานตลอดระยะเวลาประมาณสามอาทิตย์มาเล่าสู่กันฟัง เป็นสรุปที่สำคัญของรุ่น F11 Pro ที่ผมว่าเป็นจุดเด่นจะทำให้ชีวิตของเราได้รับ 5 สิ่งนี้ครับ “สนุก สะดวก สบาย สะใจ และสะดุด” ^^ อยากรู้ว่ามันคืออะไรและยังไง ตามมาเลยครับจะอธิบายทีละข้อให้ฟัง
สนุก กับการถ่ายภาพ
กล้องหลังคู่ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล + 5 ล้าน ถ่ายคนงาม ถ่ายวิวสวย แถมถ่ายได้ทั้งกลางวันและกลางคืน มันจึงเป็นสมาร์ทโฟนที่มีกล้องที่เราจะหยิบขึ้นมาถ่ายได้ทุกสถานการณ์ครับ
จากที่ได้ถือได้ใช้ ผมชอบตัว UI กล้องใหม่ของ OPPO มากครับ เพราะเจ้าอื่นยิ่งทำยิ่งเยอะ แต่ OPPO กลับทำให้หน้าใช้งานกล้องลดเหลือแค่สามคำสั่งหลัก วีดีโอ รูปถ่าย และ รูปคน ส่วนเมนูใช้งานน้อยตัวอื่นๆ เอาไปเก็บไว้ตรงเมนู
ก็ตรงตามเขาออกแบบนะครับ เพราะเวลาผมจะใช้งานจริงๆ ผมก็ใช้งานกล้องมันแค่นั้นแหละครับ ถ่ายทั่วไปก็เปิดโหมด “รูปถ่าย” เป็นโหมดออโต้ที่ให้ AI มันจัดการภาพให้เราตามเหมาะสม
อยากถ่ายคนก็เปิด “รูปคน” มันก็จัดการภาพแบบละลายหลัง ง่ายๆ แค่นี่แหละ ครบแล้ว
ซึ่งคุณภาพของกล้อง OPPO จากที่ใช้มา ก็สมสโลแกนครับ “portrait สวย แม้แสงน้อย” ดูตัวอย่างล่าสุดที่ผมไปทดสอบกับ น้องลูกจันทร์ มา “สวยยันแสงน้อย” จริงๆ ^^ ผมยืนยัน
กลางวันสวย
จะหน้าชัดหลังชัด หน้าชัดหลังละลาย
กลางคืนก็ยังสวย
เป็นกล้องที่ไม่กลัวกลางคืนเลย
จะบอกว่ากล้อง OPPO F11 Pro มันถ่ายง่ายครับ ซอฟท์แวร์กล้องฉลาด ไม่กลัวที่แสงน้อย ถ่ายคนเก่งมาก และยังมีความละเอียดที่สูงมาก 48 ล้านพิกเซลนี่มันเยอะมากนะครับ ถ่ายแล้วขยายก็จะเห็นรายละเอียดวัตถุชัดเจน
OPPO F11 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่ทำให้สนุกไปกับการถ่ายรูปมากครับ อยากถ่ายอะไรก็หยิบ กล้องดี ออกแบบให้ใช้ง่าย คล่องตัว เป็นมือถือที่เชื้อเชิญให้หยิบมาถ่ายรูปได้บ่อยๆ ครับ ^^
สะดวก กับการชาร์จแบตที่ไว และ สบายใจ กับความปลอดภัยในระบบชาร์จที่ดี
สมาร์ทโฟนรุ่นเดียวในโลกที่รองรับระบบชาร์จใหม่ล่าสุด VOOC Flash Charge 3.0 ^^ ระบบชาร์จไวที่จะทำให้แบตทั้งก้อน 4,000 mAh เต็มได้ในเวลาแค่ 80 นาที ยิ่งเสียบชาร์จแรกๆ ยิ่งเร็ว แบตครึ่งก้อนใช้เวลาแค่ 30 นาที การชาร์จแบตเตอรี่ของคนใช้เจ้ารุ่นนี้จะกลายเป็นเรื่องที่ไวมากครับ เสียบแป๊บเดียวพร้อมใช้ได้อีกเป็นวัน
VOOC Flash Charge 3.0 จะมีความไวโดยเฉลี่ยมากกว่า VOOC รุ่นเดิมอยู่ 20% เพราะ VOOC เวอร์ชั่นเดิมจะชะลอความเร็วการชาร์จลงหลังจากแบตเตอรี่มีไฟประมาณ 75% แต่สำหรับ VOOC 3.0 จะยังไม่ชะลอความเร็วการชาร์จลงครับ มันจะชาร์จเร็วต่อจนถึงราว 80% ขึ้นไป ซึ่งเป็นความเร็วที่เพิ่มเข้ามาสร้างความสะดวกให้กับผู้ใช้ได้มากขึ้น แต่ความ “สะดวก” นี้ยังมาพร้อมกับความ “สบายใจ” ด้วยนะครับ
เพราะตลอดระยะในการใช้ OPPO F11 Pro เบาใจเรื่องความปลอดภัยในด้านแบตเตอรี่ไปเยอะมาก เพราะ “มันไม่ร้อนเลย” มันแทบไม่มีความร้อนใดๆ เกิดขึ้นมาในตัวมันเลยสักนิดครับ ทั้งการชาร์จไปใช้งานไป แม้จะชาร์จเร็วได้ขนาดนี้ ตัวมันเองก็ไม่มีความร้อนสะสมใดๆ ให้เป็นห่วงเลยสักนิด
ซึ่งถ้าเราดูมาตรฐานความปลอดภัยที่ OPPO เขาได้รับมามันก็บริษัทระดับโลกครับ TÜV SÜD การันตีว่าผ่าน ผมว่าอันนี้สำคัญนะครับ ไม่ว่าผมจะใช้งานเองหรือจะให้ลูกหลาน พ่อแม่ ในบ้านใช้ การชาร์จไฟที่ปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญมาก สำคัญกว่าการชาร์จไฟได้ไวซะอีกนะครับ
แต่เจ้าตัวนี้ แม้ราคาไม่ได้สูง แต่ระบบชาร์จไวมันยอดเยี่ยม ชาร์จได้ไว ชาร์จได้ปลอดภัย ใช้งานได้สบายใจ สะดวกสบายในการใช้เวลาเพียงนิดเดียวเพื่อเติมแบตเตอรี่ แล้วก็ลุยกันต่อได้อีกทั้งวัน ^^
สะใจ กับขนาด Ram Rom และระบบที่มากมายฟังก์ชั่น พร้อมมี Hyper boost คอยดูแล
สมาร์ทโฟนราคาแตะหมื่นเดี๋ยวนี้สเปคดีวันดีคืนครับ OPPO F11 Pro ราคาเปิดตัว 10,990 บาท เอาไปเลย P70 ram 6GB rom 64GB พร้อมฟังก์ชั่นชุดใหญ่จัดใส่เต็มเครื่อง
มันถึงยุคสมัย “เลิกกั๊ก” ต้องจัดมาครบๆ ต้องใส่มาให้หมดมีอะไรเด็ดๆ ก็พัฒนามาให้ลูกค้าใช้ ซึ่งนอกจากเรื่องของสเปคเครื่องแล้ว ต้องบอกว่า OPPO พัฒนามาเยอะมากในด้าน “ระบบ” ครับ
มีฟังก์ชั่น Smart Bar เพียงแค่ปัดนิ้วจากขอบหน้าจอแถบพิเศษก็จะปรากฏขึ้นมา มีระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ ที่รวมข้อมูลสำคัญทุกอย่างที่เราใช้งานบ่อยๆ ในหน้าเดียว มี Riding Mode หรือโหมดใช้งานขณะขับขี่รถ ลดการถูกรบกวนในขณะขับขี่ และยังปรับหน้าการใช้งานให้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น
ยังมีโหมดสนับสนุนผู้เล่นเกมอย่าง Game Space ทีช่วยปิดการแจ้งเตือน รวมถึงการจับภาพหน้าจอและการบันทึกการเล่นในรูปแบบวีดีโอ และรีดประสิทธิภาพเครื่องให้เหมาะสมกับการเล่นเกมได้มากขึ้น
รวมถึงระบบเบื้องหลังตัวสำคัญ ที่ชื่อว่าระบบ “Hyper boost” เจ้าตัวนี้เป็นกุญแจหลักที่อยู่เบื้องหลังระบบของเครื่อง OPPO F11 Pro ครับ การทำงานของมันคือคอยเชื่อมประสานระหว่างทรัพยากรการประมวลผล ให้เข้ากับการทำงานของตัวระบบ การใช้แอพพลิเคชั่น และการเล่นเกม
Hyper boost จะคอยจัดสรร คาดเดา ตระเตรียม ป้อนทรัพยากรเครื่องที่จำเป็นต่อการใช้งานของสิ่งที่เรากำลังใช้ได้อย่างเหมาะสม ทำให้เวลาใครใช้ OPPO F11 Pro จะรู้สึกว่าเจ้าตัวนี้มันเปิดปิดแอพพลิเคชั่นหลักบางตัวได้ไวมากครับ การทำงานของระบบก็ลื่นไหล ซึ่ง Hyper boost ยังมีส่วนช่วยให้การเล่นเกมดังหลายเกม เช่น PUBG, ROV มีเฟรมเรทที่สูงและนิ่งกว่าปกติของสเปคเครื่องที่มันจะทำได้ด้วยครับ
โดยรวมแล้วในด้านระบบของ OPPO F11 Pro ฟังก์ชั่นเยอะ ram แยะ ระบบลื่นใช้ได้ เอามาเล่นเกมหรือใช้งานทั่วไป เล่นได้ในระดับสมกับที่ใจอยากครับ
สะดุดตา กับดีไซน์ และหน้าจอกว้างไร้ติ่ง
ผมอยากจะบอกว่าสิ่งที่เป็นไฮไลค์สำคัญของ OPPO F11 Pro ไม่ต้องดูไปไกลครับ ไม่ต้องมองให้ลึก แต่มองกันตื้นๆ ในเรื่องหน้าตาภายนอกของมันเนี่ยแหละ
“สีสะดุดตามาก” “หน้าจอไร้ติ่ง ใหญ่ได้ใจมาก”
OPPO เขาเป็นแบรนด์มือถือที่เหมือนมีอารมณ์ของนักออกแบบแฟชั่นอยู่ตลอดนะครับ มันจะไม่ใช่ “ก็สวย” แต่มันจะออกแนว “เริศๆ หรูๆ” หน่อย มีอารมณ์ความเป็นเครื่องประดับนิดๆ โดยเฉพาะงานออกแบบจากเครื่องตระกูล Series F นี้แหละ ไล่ตั้งแต่ F7, F9 มาจน F11 จะเล่นสี เน้นลวดลายไปถึงไหนไม่รู้ แต่ยอมรับว่างานตัวเครื่องออกมาสวยทุกสีจริงๆ
OPPO F11 Pro ตัวที่ผมใช้งานก็เป็นสีนิยมเลยครับ Thunder Black แบล็คที่แปลว่า ดำ แต่ไม่รู้ดำยังไง เพราะด้านหลังไล่เฉดไปถึงสามสีในเครื่องเดียว
ไล่สีกันไปตั้งแต่สีแดง, สีน้ำเงิน ไล่ไปรวมกันเป็นสีดำอยู่ตรงกลางเครื่อง และการออกแบบ OPPO F11 Pro มีการใช้แนวเครื่องที่ไม่เคยเห็นใน OPPO มาก่อน การวางแกนออกแบบเป็นแนวนอนเส้นตรงตลอดตัว ตั้งแต่ตราสัญลักษณ์ OPPO ที่วางแนวนอน ไปจนถึงที่สแกนลายนิ้วมือ รวมชุดเลนส์กล้องหลังคู่ ตลอดถึงกล้องหน้าที่ซ่อนไว้ ซ้ายขวามสมมาตรกันหมด มันเป็นแนว Symmetry Design ที่ทุกอย่างอยู่ตรงกึ่งกลางเครื่องพอดีเป๊ะ
งานออกแบบตัวนี้ใช้สีสันที่คนอื่นเห็นแล้วทักเยอะมากครับ มันแปลก ดูใหม่ พอได้จับแล้วก็รู้สึกชอบถูกใจกันหลายคนนะ ผมว่ารุ่นนี้เขาออกแบบมาดูใส่ใจ
ด้านหลังสวย ด้านหน้าจอก็เป็นไฮไลค์ เพราะนี่คือหนึ่งในเครื่องที่ใช้หน้าจอแบบไร้ติ่ง ไร้รู ไร้รอยบาก หน้าจอ Panoramic screen ขนาดใหญ่ 6.53 นิ้ว ที่เราจะได้ใช้กันเต็มๆ นี่คือหน้าจอที่ใหญ่ที่สุดที่ F Series เคยทำมา ความละเอียดคมชัด FHD+ และที่มันดูใหญ่เต็มเครื่องเพราะมันใช้พื้นที่ด้านหน้าเครื่องเป็นจอแสดงผล 90.9% เลยทีเดียว จะเห็นว่าด้านบนจอ ไม่มีติ่งใดๆ มากวนใจ ^^
ฉะนั้น 6.53 นิ้วนี้ เราจะได้ใช้งานเต็มๆ ซ้ายจรดขวาครับ ผมจะรู้สึกชอบมากเวลาดูหนังหรือเล่นเกม เพราะมันไม่โดนหั่นขอบข้างทิ้งนั้นเอง
เหล่านี้ก็เป็นหนึ่งในหลายๆ จุดเด่นของ OPPO F11 Pro เท่านั้นครับ แม้ราคาไม่แพง แต่แรงด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และการออกแบบครับ แถมมีกล้องที่ดีอีกด้วย
ซึ่งสิ่งที่ผมนำมารวมรัดจับใจความให้อ่านกัน ก็เป็นสิ่งที่ผมชอบจริงๆ ในระหว่างการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นความสนุกในการถ่ายภาพ ความสะดวกและความสบายใจในระบบไฟ ความสะใจกับการใช้งานและขนาดหน้าจอใหญ่ที่ไร้ติ่ง และสะดุดตากับความสวยงามของสีและการออกแบบตัวเครื่อง
รวมเป็น 5 สิ่งประทับใจ จากประสบการณ์การใช้ OPPO F11 Pro ที่เอามาเล่าให้กันฟังในบทความนี้ครับ