กระแส Samsung Galaxy S4 กำลังมา บางคนถึงขั้นอยากที่จะเปลี่ยนมือถือที่ตนอาจเพิ่งซื้อมาใช้งาน (หรือที่ยังไม่ได้ตกรุ่นอะไรเลย) ไปเป็น Samsung Galaxy S4 เรือธงจาก Samsung กัน แต่บางคนก็อาจกำลังชั่งใจว่าควรหรือไม่ควร จะเลือกเดินไปทางไหนดี เงินก็เยอะ…อยากก็อยาก แน่นอนว่าของใหม่ย่อมมีดี แต่มีดีพอที่จะให้เราถึงขั้นต้องทิ้งของเก่าราคาหลายหมื่นหรือไม่ หากคำถามเหล่านี้ยังคงติดคาค้างอยู่ในใจเพื่อนๆ วันนี้ APPDISQUS มีบทความดีๆ ที่แปลมาจากบทความของ AndroidAuthoriy.com มาฝากเพื่อนๆ กัน
ในบทความนี้ นาย Kristofer Wouk ได้พูดถึง 5 เหตุผลที่ไม่ควรเปลี่ยนตัวเองไปใช้ Samsung Galaxy S4 เอาไว้ บางเหตุผลเราก็เห็นว่าดูดีมีประโยชน์พอให้เข้าใจได้อยู่ แต่กับบางเหตุผลเราเองก็เห็นว่ามันอ่อนเกินไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทันทีที่เพื่อนๆ อ่านบทความแปลนี้จบ เพื่อนๆ น่าจะได้ข้อมูลไว้ประกอบการตัดสินใจอีกไม่มากก็มากที่สุดเลยทีเดียว (เขียนเองงงเอง =P) แต่ก่อนที่จะเริ่มอ่านบทความนี้ APPDISQUS เองอยากจะนำเสนอให้เพื่อนๆ ได้ลองอ่าน รีวิว Samsung Galaxy S4 ที่ท่าน Joker-Master ได้เขียนไว้ก่อนหน้านี้ดูก่อนเพื่อประกอบการตัดสินใจครับ
เอาล่ะ หากใครพร้อมแล้วก็ลุยกันที่บทความแปลได้เลย!!
[divider]
5 เหตุผลที่ไม่ควรเปลี่ยนไปใช้ Samsung Galaxy S4
ถึงตอนนี้คงมีผู้อ่านไม่น้อยที่เลือกข้างได้แล้วว่าอยากจะรับทราบข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับ Samsung Galaxy S4 อย่างไม่รู้เบื่อหรือจะเบื่อสุดๆ ที่จะรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเจ้ามือถือเรือธงตัวล่าสุดจาก Samsung นี้แล้ว เพราะถึงตอนนี้คุณอาจตัดสินใจได้แล้วว่าเจ้ามือถือตัวนี้มีดีพอให้เหมาะสมกับคุณหรือยัง
แต่ช้าก่อนนะครับ แล้วถ้าคุณยังตัดสินใจไม่ได้ล่ะ? บางทีอาจเพราะคุณยังไม่มั่นใจว่าคุณจะจ่ายค่าตัวมันไหวไหม หรือบางทีอาจยังไม่มั่นใจว่าควรจะเอาตัวเองเข้าไปผูกกับสัญญาทาสของค่ายมือถือดีหรือไม่ หรืออาจเพราะบางทีคุณเพิ่งจะซื้อมือถือเครื่องที่กำลังใช้อยู่ในตอนนี้มาและกำลังเตะตัวเองแรงๆ ที่ไม่ยอมอดใจรอต่อไปอีกสักหน่อยก่อนจะซื้อเจ้ามือถือในมือคุณตอนนี้มาใช้
อย่ากลัวไปครับ หากคุณยังไม่มั่นใจแม้ว่าจะได้อ่านทั้งรีวิวและบทความเปรียบเทียบต่างๆ ไปมากมายแล้ว เพราะเราอยู่ตรงนี้เพื่อจะช่วยเหลือคุณ ทีนี้ลองมาดูเหตุผลสักไม่กี่ข้อที่อาจทำให้คุณ ไม่อยาก ซื้อเจ้า Samsung Galaxy S4 มาใช้กันบ้างดีกว่า
แต่หากคุณไม่มีเวลาอ่านอะไรยาวๆ ก็ลองดูวิดีโอข้างล่างนี้เอาก็ได้ หรือจะกระโดดไปท้ายบทความเพื่ออ่านเอาบทสรุปเลยทีเดียวก็ไหวอยู่ครับ
1.) มันก็ไม่ได้อัพเกรดใหญ่หลวงอะไรขนาดนั้น
จริงอยู่ว่าฮาร์ดแวร์ที่มากับเจ้า Galaxy S4 นั้นอาจจะเร็วกว่าบนมือถือที่คุณกำลังใช้งานอยู่ในขณะนี้ แต่นั่นก็ไม่ได้จำเป็นไปเสียทั้งหมด ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันผมได้ลองเปรียบเทียบ Galaxy S4 กับ Galaxy Note 2 เอาไว้ แน่นอนว่าในหลายส่วนนั้น S4 เป็นชัยเหนือ Note 2 เมื่อว่ากันถึงเรื่องของงานดาต้าและขุมพลังของมัน แต่คุณรู้อะไรไหมครับ เมื่อว่ากันโดยองค์รวมแล้วมันก็ไม่ได้รู้สึกเร็วกว่ากันสักเท่าไหร่นักหรอก
งานออกแบบเองก็ไม่ได้ดูอัพเดตไปจากเครื่องก่อนหน้าจาก Samsung เท่าไหร่นักเช่นเดียวกัน ซึ่งดูเหมือนว่าช่วงนี้ Samsung จะออกแนวเจริญลอยตาม Apple แล้วที่ใช้หลักการ “หากคุณได้เห็นสักเครื่อง คุณก็เห็นมันทั้งโคตรเง่าแล้ว” เมื่อว่ากันในเรื่องของการออกแบบผลิตภัณฑ์ ไม่เถียงว่ามันบางและเบาขึ้น แต่ถามจริงๆ เถอะครับว่าครั้งสุดท้ายที่คุณขัดใจกับความหนาหรือน้ำหนักของมือถือคุณนั้นมันผ่านมาตั้งแต่ชาติไหนครับ?
นี่ไม่ใช่เพียงลมปากลมข้อความของเราเท่านั้นนะครับ เพราะแม้แต่ Darcy LaCouvee (หนึ่งในทีมงานของ Android Authority) เองก็ยังถึงขั้นยอมส่งคืนเครื่อง Samsung Galaxy S4 แล้วกลับไปใช้ Note 2 ตามเดิมเลย
2.) ในวงการนี้ยังมีอีกเยอะให้คุณได้เลือกสรรค์
หากคุณกำลังมองหามือถือใหม่อยู่ ยังมีมือถืออีกหลายรุ่นที่อาจจะเหมาะกับคุณมากกว่านะครับ ซึ่งนั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณกำลังมองหาอะไรอยู่ ออฟชั่นที่ว่านี้อาจหมายรวมไปถึง HTC ONE และ Sony Xepria Z หรือแม้แต่ Samsung Galaxy Note 2 เองที่ก็ได้รับเสียงชื่นชมและเป็นที่รักของใครต่อใครมากมาย (และตอนนี้ยังราคาถูกกว่าเยอะด้วย – APPDISQUS) ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นมือถือที่ดีๆ ทั้งนั้น และพวกมันก็ให้อะไรบางอย่างกับผู้ใช้ที่ Samsung Galaxy S4 อาจให้ไม่ได้ด้วย
ที่ว่ามานี่คือกรณีที่คุณกำลังมองหาโทรศัพท์เครื่องใหม่อยู่นะครับ บางคนอาจจะครอบครองโทรศัพท์ตัวใดตัวหนึ่งข้างต้นนั้นอยู่แล้ว ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่าคุณอาจไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมือถือใหม่ในช่วงนี้เลยเสียด้วยซ้ำ และก่อนที่คุณจะตัดสินใจเซ็นสัญญาหรือทุ่มเงินก้อนจำนวนมากไปนั้น เราอยากให้คุณลองฉุกคิดดูสักนิดว่าคุณอยากได้อะไรกันแน่จากมือถือใหม่ของคุณ และอย่าพยายามเอาฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่คุณอาจไม่ต้องการจากเครื่องใหม่ที่ว่านี้มาบดบังสายตาและความคิดของคุณล่ะครับ
3.) คุณอาจไม่ได้ใช้ฟีเจอร์ทั้งหมดของมัน
เดาไว้ในด้านดีเลยว่าอาจมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ Samsung เข็นออกมาในครั้งนี้ที่คุณอาจได้ใช้ประโยชน์จริงบ้าง แน่นอนว่าฟีเจอร์เหล่านั้นต่างก็เจ๋งๆ กันแบบสุดๆ แต่ผมก็ต้องยอมรับว่าหลายๆ ฟีเจอร์ที่ใส่มาก็เป็นแค่กิมมิคเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น
Smart Scroll เจ๋งครับ แต่ขนาดวันกันเฉพาะเวลาที่มันทำงานได้ดี (ซึ่งก็ไม่ใช่จะดีทุกครั้ง) ผมพบว่าตาของผมตะปวดแสบปวดร้อนขึ้นมาอย่างรวดเร็วมาก Smart Pause เองก็อาจจะฟังดูดีในบทบรรยายสรรพคุณ แต่การที่วิดีโอหยุดเล่นเวลาที่คุณเบนสายตาออกจากหน้าจอเป็นเวลาสักพักอยู่บ่อยๆ นั้นก็จะกลายเป็นเรื่องน่ารำคาญไปในเวลาอันรวดเร็วเช่นกัน
หรือแม้แต่เมื่อว่ากันถึงฟีเจอร์ที่น่าจะมีประโยชน์จริงๆ ก็ยังไม่จำเป็นต้องถึงขั้นเปลี่ยนมือถือเราเพื่อไปใช้งานแต่อย่างใด ยกตัวอย่างเช่น S Health ที่เป็นฟีเจอร์ที่เจ๋งมากตัวหนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่ฟีเจอร์ที่เหมาะสมจะเอามายัดไว้บนมือถือ นี่ยังไม่นับรวมพฤติกรรมหมิ่นเหม่ของเจ้าแอพพลิเคชั่นนี้ที่จะชอบแอบดาวน์โหลดและติดตั้งแอพที่เราอาจไม่ต้องการจาก Play Store มาไว้บนเครื่องเราอีกด้วย
4.) ฟีเจอร์บางอย่างของ Samsung Galaxy S4 อาจมีการเปิดให้ใช้บนมือถือรุ่นเก่าๆ ด้วย
หากว่ามาถึงตอนนี้แล้วยังไม่ทำให้คุณเปลี่ยนใจ อาจเพราะคุณตั้งเป้าอยากจะได้ S Health หรือ ChatOn เวอร์ชั่นใหม่ที่ปรับปรุงขึ้นเยอะ และรวมไปถึง Group Play ด้วย รู้อะไรไหมครับ โอกาสเป็นไปได้สูงมากที่ฟีเจอร์เหล่านี้จะมีการถูกเพิ่มให้กับ Galaxy S3 และ Galaxy Note 2 เช่นเดียวกัน แต่ถึงจะว่าอย่างนั้น Samsung ก็ไม่ได้ทึ่มหรอกครับ บริษัทเองก็ต้องการยอดขายสวยๆ ให้กับ Samsung Galaxy S4 เพราะฉะนั้นฟีเจอร์พวกนี้น่าจะยังคงเป็นเอ็กซ์คลูซีฟให้กับ S4 ไปอีกสักพักใหญ่ๆ กว่าจะมาลงให้กับตัวเก่าๆ เหล่านี้
อยากได้หลักฐานเหรอครับ? ไม่ต้องมองหาไกล ลองดู Multi Window เป็นตัวอย่างสิครับ ที่ตอนแรกเปิดตัวมาเป็นเอ็กซ์คลูซีฟฟีเจอร์ให้กับ Galaxy Note 2 จนเมื่อกระแส Note 2 ผ่านพ้นไปได้พักหนึ่ง มันก็ถูกนำมาประยุกต์ให้ใช้งานบน Galaxy S3 ได้ในที่สุด และเพราะมันเคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง มันจึงน่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นอีกรอบอย่างค่อนข้างจะแน่นอน
5.) Galaxy Note 3 กำลังจะมาอยู่เร็วๆ นี้แล้ว
ไม่ใช่เรื่องที่จะพบเห็นได้บ่อยเลยที่เวลาหนึ่งสัปดาห์จะผ่านเลยไปโดยไม่มีข่าวลือของ Samsung Galaxy Note 3 เลยสักนิด แต่ถึงจะว่าอย่างนั้นก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับ Samsung ลองคิดถึงความแตกต่างระหว่าง S3 และ Note 2 ดูสิครับ ในขณะที่อาจจะมีคนกลุ่มหนึ่งที่สนใจ Galaxy S3 คนที่ใช้งานมือถือแบบจริงจังส่วนใหญ่ (ตัวอย่างเช่นพวกที่ชอบเข้าเว็บไซต์ผ่านมือถือ) เลือกที่จะใช้ Note 2 มากกว่า
จริงอยู่ครับว่า Samsung Galaxy S4 นั้นทั้งเจ๋งและจี๊ด แต่จากที่เราคาดเดาสถานการณ์แล้ว เราว่า Note 3 น่าจะมาแรงแหกนรกเสียยิ่งกว่า เพราะมันทั้งใหญ่กว่า ทั้งฝังมาด้วยขุมพลังที่เต็มเปี่ยมกว่า และเมื่อมันออกมาจำหน่าย แน่นอนว่ามันจะกลายเป็นมือถือ Samsung ที่ทุกคนต่างก็อยากจะไขว่คว้า คุณจะไม่อยากได้อะไรที่เหนือกว่า เจ๋งกว่า และดีกว่าล่ะว่าไหมครับ?
ขนาดนี่เรายังว่ากันถึงแค่โทรศัพท์เครื่องเดียวที่กำลังจะออกมานะครับ ยังมีอีกหลายเครื่องมากที่จะมาพร้อมการพัฒนาด้านฮาร์ดแวร์ที่น่าสนใจจากแบรนด์มือถือชั้นนำตัวใหญ่ๆ ทั้งหลาย และถึงแม้ว่าในช่วงต้นปี 2556 นี้วงการมือถือจะเปิดตัวมาได้น่าสนใจสักเพียงใด เราก็ยังมีเวลาอีกเหลือเฟือกว่าจะจบปีที่จะให้เวลาวงการนี้ได้เผยโฉมอะไรที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าให้กับพวกเราได้ประจักษ์!
บทสรุปส่งท้าย (สำหรับผู้ที่ขี้เกียจอ่านฉบับยาว)
หากคุณยุ่งเกินกว่าที่จะอ่านฉบับยาวทั้งหมดนี้หรือไม่มีเวลาพอที่จะดูวิดีโอข้างบน ลองมาอ่านฉบับย่อนี้ดูแทนก็ได้:
- Galaxy S4 อาจไม่ใช่ดีลยักษ์ที่น่าสนใจอย่างที่ Samsung พยายามกล่อมให้เราคิดตามเช่นนั้น
- ตอนนี้มีมือถืออื่นๆ ที่เยี่ยมไม่แพ้กันในตลาดอีกหลายรุ่น
- เอาจริงๆ นะ ใครบ้างที่จะใช้ Air Gesture ได้บ่อยจนคุ้มน่ะ?
- รอดูฟีเจอร์ของ S4 ไปปรากฏบน Note 2 และ S3 ได้เลยหลังจากนี้
- สามคำสั้นๆ: Galaxy Note 3
เห็นแบบนี้แล้วคุณยังคิดอยากจะเปลี่ยนมือถือไปใช้ Samsung Galaxy S4 อีกไหมครับ? อยากหรือไม่อยาก บอกให้เรารู้ได้ในกล่องคอมเมนต์ด้านล่างนี้เลย!
[divider]
ทั้งหมายนี้เป็นอีกหนึ่งมุมความคิดเห็นจากสื่อต่างประเทศอย่าง AndroidAuthority เราเองอยากให้เพื่อนๆ ได้อ่านไปพร้อมกับใช้วิจารณญาณว่าอันไหนใช่ อันไหนอ่อนเหตุผล และอันไหนตรงประเด็น เพื่อให้ได้รับเอาประโยชน์จากบทความไปให้เต็มที่ที่สุดเท่าที่บทความนี้จะให้ได้นะครับ และหากเพื่อนๆ มีความคิดเห็นอะไรอยากร่วมกันแชร์ก็ทิ้งข้อความไว้ได้ที่กล่องข้อความด้านล่างนี้เลยครับผม
ที่มา – AndroidAuthority.com