สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้กลับมาสานต่อหัวข้อ 6คำถาม 6คำตอบของสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นที่ทีมงานได้รับและมาใช้งานอยู่จริงครับ ซึ่งวันนี้ผมได้รับมอบหมายได้เขียนเกี่ยวกับ Xiaomi MI 4 สมาร์ทโฟนคู่ใจของผมเอง ที่วันนี้ขอเขียนแบบเน้นประสบการณ์ใช้งานจริงที่รู้สึกได้แล้วกันนะครับ เรื่องของทฤษฎีกับพวกสเปคเครื่อง เชื่อว่าเพื่อนๆน่าจะพอทราบกันอยู่แล้ว มาเริ่มกันดีกว่า Let’s go!
1. Q : ทำไม Xiaomi MI4 ถึงน่าซื้อกว่ารุ่นอื่น?
A : MI4 เป็นรุ่นที่สเปคเทียบเท่ารุ่นระดับ 2หมื่นแต่ราคาขายเพียงหลัก1หมื่นต้นๆเท่านั้น โดยมีจุดเด่นมากมายเช่นกล้องหน้า-หลังฟรุ้งฟริ้ง , แบตเตอรี่อึดอยู่ได้ทั้งวัน และชาร์จแบตเต็มเร็วมากจาก ต่ำกว่า 10%-100% ใช้เวลาชาร์จเต็มเร็วกว่า 2ชั่วโมง , รองรับการชาร์จแบบ Quick charge 2.0 , ลำโพงเสียงดี แน่น ไม่แตก ความดังระดับกลาง , มีอัพเดทซอฟแวร์แก้บั๊กและฟีเจอร์ใหม่ๆอยู่เรื่อยๆ , วัสดุดี แน่นหนาแกนกลาง เป็นโลหะ , โอกาสได้อัพเดทไปแอนดรอยด์ Lollipop 5.0 สูงมาก , ล่าสุดเปิดตัว Xiaomi Mi Note Pro ก็มีปล่อย Wallpaper ทุกแบบมาให้ MI4 โหลดไปใช้ด้วย , มีรุ่นที่รองรับ 4G ประเทศไทย , อ่านไฟล์จากเมมโมรี่เร็วมากแต่เพิ่มหน่วยความจำไม่ได้นะ T^T
2. Q : ทำไม Xiaomi MI4 ถึงไม่น่าซื้อ?
A : จากการใช้งานจริงพบว่า MI4 ไม่ได้สมบูรณ์แบบอย่างที่เคยคิดเอาไว้ อย่างแรกเลยคือ
– ไม่รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลายอย่าง เช่น หูฟัง small talk , หูฟัง bluetooth , นาฬิกาSmartwatch (Sony Smartwatch 2) เป็นต้น ก่อนจะซื้อถ้าคุณมีโอกาสได้ลองเครื่องจริง แนะนำให้เอาอุปกรณ์เสริมไปลองทดสอบด้วย
– ไม่มีศูนย์บริการซ่อมอย่างเป็นทางการในไทย ถ้าเครื่องเสียต้องหาร้านซ่อมรายย่อยแทน ไม่ก็ต้องส่งไปซ่อมถึงที่จีนทำให้เสียเวลารอค่อนข้างนาน อาจจะถึง 1สัปดาห์หรือนานกว่า
– อุปกรณ์เสริมหายาก เพราะไม่ค่อยมีขายตามร้านทั่วไป ต้องหาซื้อตามร้านในเน็ตแทน ซึ่งเลือกได้มากกว่าแต่ก็มีความเสี่ยงมากกว่าเพราะไม่ได้ลองใส่ของจริง อาจจะไม่ตรงตามความต้องการก็ได้ รวมทั้งมีโอกาสโกงได้ เพราะฉะนั้นถ้าใครเลือกซื้อ MI4 ต้องมั่นใจว่าไม่เปลี่ยนเคสบ่อยมากนัก
– แกนกลางเครื่องเป็นเหล็ก ทำให้มีโอกาสไฟดูดตอนเสียบเครื่องกับคอมผ่าน micro USB ได้ (เคยโดนมาแล้ว สะดุ้งเลย 555+)
3. Q : ทำไมแอดมินถึงเลือกซื้อ Xiaomi MI4 แทนที่จะเป็นรุ่นอื่น
A : มันเริ่มต้นจากผมใช้เครื่องเดิมแล้วลงรอม MIUI แล้วติดใจ ก็เลยอยากใช้เครื่อง Xiaomi MIUI เวอร์ชั่นต้นตำหรับ จากนั้นก็มีเพื่อนแนะนำ รุ่นนี้ว่ามันขายดีที่สุดในจีนประจำปี 2558 จึงเริ่มศึกษาจากรีวิวของเว็บทั้งในไทยและเทศ รวมทั้งดูคลิปใน Youtube ทุกเจ้าที่พูดถึงรุ่นนี้ จนมั่นใจแล้วว่ามันดีจริง ก็เลยตัดสินใจว่าเอารุ่นนี้แหล่ะ ดีแน่นอน
4. Q : กล้องหน้า-หลังเป็นไงบ้าง ถ่ายสวยหรือเปล่า?
A : เป็นจุดนึงที่ผมประทับใจมากเลย พูดถึงกล้องหลัง อัดความละเอียดสูงถึง 13MP ซึ่งเกินความจำเป็นแบบสุดๆสำหรับคนที่ถ่ายแล้วอัพลงSocial อย่างเดียว เพราะอัพไปก็โดนลดความละเอียดลงอยู่ดี แต่จุดที่ผมชอบก็จะเป็นเรื่องของฟีเจอร์เสริมมากกว่า เช่นโหมด Slow shutter ,โหมดหน้าเนียน , และอื่นๆอีกมากมาย แล้วยังสามารถถ่ายวีดีโอได้ความละเอียดถึง 4K ด้วย โดยถ่ายได้ต่อเนื่องนานเกิน 10 นาทีโดยไม่ต้องหยุด
อีกส่วนนึงคือกล้องหน้า ที่ผมชอบมากๆคือ โหมดฟรุ้งฟริ้งหน้าเนียน มีให้ปรับถึง 3 ระดับ จากหน้ามีแผลสิว ก็สามารถลบออกได้เกือบหมด
5. Q : ถ้าต้องการปรับแต่งเครื่อง เช่น รูทเครื่อง หรือ หาเทคนิคการใช้งานอื่นๆ จะหาได้จากที่ไหน
A : จริงๆแล้วสามารถเข้ามาได้ที่แฟนเพจ Appdisqus ถ้าทีมงานทราบวิธีก็จะช่วยเข้ามาตอบให้ครับ อาจจะลองหาในเว็บของเราก็ได้เพราะได้ เขียน Tips บางส่วนเอาไว้แล้ว หรืออาจจะหากลุ่มผู้ใช้ Xiaomi MI4 หรือ MIUI จากใน Facebook ก็ได้ เพราะเป็นผู้ใช้เหมือนกันจะช่วยกันแก้ปัญหาได้ครับ
6. Q : ถ้าแอดมินไม่ซื้อรุ่นนี้ มีรุ่นไหนที่แนะนำบ้าง
A : ถ้าผมซื้อเอง จะเลือกจากสเปค , กล้อง , ระบบเสียง , แบตต้องอึด , การออกแบบเครื่องต้องสวย , เฟิร์มแวร์เสถียร UI ใช้ไม่ยากและมีกลุ่มผู้ใช้รุ่นนี้เยอะ เพื่อที่จะช่วยแก้ปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้นมาได้ในอนาคต ขอเลือกดังนี้
– Huawei Ascend Mate 7 – 16,900 บาท (รุ่น RAM 2GB) / 19,900 บาท (รุ่น RAM 3GB)
– HTC One (M8) – 19,900 บาท
– Sony Xperia Z3 Compact – 19,900 บาท
– Oppo Find 7 – 19,900 บาท