AIS ผนึก CTW ต้อนรับคนไทยกลับห้าง! จัดทัพ 5G ร่วมสร้าง NOW Normal รีเทล มั่นใจ ช็อปได้อุ่นใจ ห่างไกล COVID-19
หลังจากที่ รัฐบาล โดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. ได้ออกประกาศมาตรการผ่อนปรนกิจก ารและกิจกรรมในระยะที่ 2 มีผลให้ห้างสรรพสินค้าและศูนย์ก ารค้า สามารถกลับมาเปิดให้บริการได้อี กครั้ง ทั้งนี้ เอไอเอส และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จึงได้นำขีดความสามารถของเทคโนโ ลยี 5G มาช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านความ ปลอดภัยและสุขอนามัยของประชาชนอ ย่างเต็มที่ ทั้งการติดตั้งเครือข่าย 5G ครอบคลุมเต็มทุกพื้นที่ และการนำหุ่นยนต์ ROC และ AIS K9 ที่ทำงานบน LIVE Network 5G มาช่วยปฏิบัติหน้าที่คัดกรองและ ตรวจวัดอุณหภูมิได้อย่างรวดเร็ว และมีความแม่นยำสูง เพื่อลดการสัมผัสใกล้ชิด และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ ไวรัส COVID-19 ตอบโจทย์วิถีชีวิตยุคใหม่รับ NOW Normal พร้อมนำเทคโนโลยี 5G สร้างมาตรฐานใหม่ในการพลิกฟื้นแ ละเคียงข้างภาคธุรกิจและสังคมไท ยอย่างยั่งยืน
นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้า ทั่วไป เอไอเอส กล่าวว่า “จะเห็นได้ว่า ปรากฎการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นตลอด ช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา คือความมุ่งมั่นค้นหา Digital Solutions เพื่อมาตอบโจทย์วิถีชีวิตบนพื้น ฐานความปรกติใหม่ หรือ NOW Normal เพราะความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ ว นำมาซึ่งความต้องการสิ่งใหม่ๆ ที่ต้องการตอบสนองที่รวดเร็วเช่ นกัน เทคโนโลยี จึงเป็นอาวุธสำคัญที่แต่ละธุรกิ จต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมและรับกั บสถานการณ์ได้แบบ Real Time เอไอเอส ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัล เราจึงทุ่มเทสรรพกำลังอย่างเต็ม ที่ เพื่อให้ลูกค้าและคนไทยได้ใช้งา นเครือข่ายและบริการของเราอย่าง ไม่ติดขัด โดยเฉพาะเทคโนโลยี 5G ที่เราเน้นย้ำเสมอมาว่า จะเสริมประสิทธิภาพให้แก่ภาคอุต สาหกรรมได้อย่างเป็นรูปธรรม”
“วันนี้ ธุรกิจรีเทล เป็นหนึ่งในธุรกิจบริการหลักของ ประเทศที่จะมีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิ จ ในฐานะศูนย์กลาง Lifestyle ของประชาชน และมีการปรับตัวอย่างรวดเร็วให้ เข้ากับ New Norm ในฐานะพันธมิตร จึงได้ผนึกกำลังกับ CTW พัฒนา Digital Solutions จากเทคโนโลยี 5G ซึ่งมีพลานุภาพสูง ทั้งในแง่ของอินเทอร์เน็ตความเร็ วสูง มีความเร็ว (Speed) การตอบสนองต่อการสั่งงานที่รวดเ ร็ว มีความหน่วง (Latency) ต่ำ พร้อมรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ที่หลากหลาย (IoT Connectivity) ตอกย้ำการนำเทคโนโลยี 5G ที่จับต้องได้ เพื่อตอบสนองทุก Lifestyle” โดยความร่วมมือในช่วงระยะแรก แบ่งออกเป็น
1. ติดตั้งเครือข่าย 5G ครอบคลุมเต็มทุกพื้นที่ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของลู กค้าเอไอเอส ทั้งบนเครือข่าย 4G และ 5G
2. นำหุ่นยนต์ ROBOT FOR CARE (ROC) ช่วยปฏิบัติหน้าที่คัดกรองและตร วจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าศูนย์ การค้า ซึ่งเป็นหุ่นยนต์บริการทางการแพ ทย์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่ วยตรวจรักษาพยาบาลผู้ป่วยCOVID- 19 ในโรงพยาบาล ตามที่เอไอเอสให้การสนับสนุน ภายใต้ภารกิจ AIS 5G สู้ภัย COIVD-19 มาก่อนหน้านี้ และหุ่นยนต์ AIS K9 บริการเจลแอลกอฮอล์ รอบๆ พื้นที่ Shopping ที่ทำงานบน LIVE Network 5G ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
3. จัดมาตรการดูแลความปลอดภัยด้านสุ ขอนามัยขั้นสูงสุดสำหรับลูกค้ าที่มาใช้บริการ ณ AIS Shop อาทิ การวัดอุณหภูมิร่างกาย, บริการเจลแอลกอฮอล์, ติดตั้งแผงอะครีลิค ในบริเวณการทำธุรกรรม, บริหาร Traffic ในการเข้าใช้บริการตามหลัก Social Distancing, คัดกรองสุขภาพของพนักงานที่ให้บ ริการ พร้อมมัการสวมอุปกรณ์ป้องกันครบ ถ้วน ตลอดจนการทำความสะอาดบริเวณ AIS Shop ตลอดเวลาเพื่อความอุ่นใจของลูกค้ า
“เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งในภาคประชาชน ประชาสังคม ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน จะมีส่วนช่วยสนับสนุนและนำพาประ เทศไทยฝ่าวิกฤตในครั้งนี้ไปได้ อย่างแน่นอน” นายปรัธนา กล่าวสรุป