เอไอเอสตอกย้ำผู้นำเครือข่ายตัวจริง No.1 ของไทย พร้อมยกระดับคุณภาพบริการ 4G ที่ดียิ่งกว่า ให้กับผู้ใช้บริการทั่วประเทศ โดยทาง เอไอเอสมีคลื่นความถี่สำหรับให้บริการ 4G ที่ดีที่สุดในประเทศ ด้วยคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่มีแบนด์วิธกว้างที่สุดถึง 40 MHz (20 MHz X 2) ที่ต่อเนื่องกัน ซึ่งเป็นย่านความถี่ที่ดีสุดและเหมาะสมที่สุดในการให้บริการ 4G ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดตามมาตรฐานของเทคโนโลยี ทำให้เอไอเอสเป็นผู้ให้บริการที่ถือครองคลื่นความถี่สำหรับให้บริการ 4G มากที่สุด และมีแบนด์วิธคลื่นกว้างที่สุดเพียงรายเดียวในประเทศ จึงสามารถส่งมอบประสบการณ์ใช้งาน 4G ที่ดียิ่งกว่าให้กับลูกค้าทั่วประเทศ โดยจะมีผลให้ความเร็วของการใช้งาน 4G ของลูกค้าผ่านเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่รองรับ 4G ทุกรุ่นเพิ่มขึ้น 15-30% รวมทั้ง เพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการใช้งานของลูกค้าถึง 33 % หลังเปิดใช้งานคลื่นความถี่ใหม่ พร้อมทั้งช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำในตลาด
- ส่งผลให้เอไอเอสก้าวขึ้นเป็น ผู้ให้บริการที่มีคลื่นความถี่ในการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จำนวนมากที่สุดในอุตสาหกรรม รวมทั้งสิ้น 120 MHz (60 MHz x 2) ประกอบด้วยคลื่นความถี่ที่ได้รับใบอนุญาตจากกสทช. และจากการทำสัญญาโรมมิ่งกับทีโอที ซึ่งเหมาะสมสำหรับการรองรับการใช้งานของลูกค้าทั้งสิ้นกว่า 40 ล้านเลขหมาย และรองรับการขยายตัวของผู้ใช้บริการที่จะมีการใช้งานดาต้าเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้ง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับบริษัทสามารถสร้างโอกาสและต่อยอดนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้อย่างไร้ขีดจำกัด
นาย ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส กล่าวว่า “เป้าหมายสำคัญของเอไอเอส คือการมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่ดีที่สุดอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตของคนไทยในทุกมิติ วันนี้ เราก้าวล้ำไปอีกขั้น ด้วยการลงทุนด้านเครือข่ายครั้งใหญ่ จากการประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz เพิ่มทำให้ปัจจุบันเอไอเอสเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายที่ถือครองคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. มากที่สุด และเป็นรายเดียวที่มีคลื่นต่อเนื่องกันถึง 40 MHz (20 MHz X 2) เรียกว่าเป็น แบนด์วิธคลื่นสำหรับให้บริการ 4G ในระบบ FDD ที่กว้างที่สุดในประเทศไทย ดังนั้น เมื่อนับรวมคลื่นความถี่ 1800 MHz จำนวน 40 MHz (20 MHz X 2), คลื่นความถี่ 2100 MHz จำนวน 30 MHz (15 MHz X 2) ที่เป็นของเอไอเอสเอง และอีก 30 MHz (15 MHz X 2) ที่เป็นพันธมิตรร่วมกับ TOT และคลื่นความถี่ 900 MHz อีก จำนวน 20 MHz (10 MHz X 2) ทำให้เอไอเอสมีคลื่นความถี่ในการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมทั้งสิ้น 120 MHz (60 MHz x 2) ซึ่งเต็มเปี่ยมประสิทธิภาพ และพร้อมต่อการพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีเครือข่ายในอนาคต
โดยเอไอเอสพร้อมนำคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่ประมูลมาได้เพิ่มในครั้งนี้ เตรียมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ เมื่อได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. และภายหลังจากบริษัทได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการดำเนินการอย่างครบถ้วน นับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งผลการประมูล และหลังจากที่คลื่นนี้จะหมดสัญญาสัมปทานเดิม
“การประมูลคลื่น 1800 MHz ในครั้งนี้ มีความสำคัญและมุ่งหมายเพื่อเสริมคุณภาพบริการดาต้าในยุค 4G ให้สูงขึ้น และยกระดับความแข็งแกร่งของโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมในประเทศไทย โดยถือเป็นทางเลือกที่ให้ประโยชน์และ ความคุ้มค่าสูงสุดสำหรับการขยายความจุโครงข่ายเพื่อรองรับการเติบโตของ 4G โดยเป็นการเพิ่มช่องสัญญาณจากที่มีอยู่เดิมและใช้ได้กับอุปกรณ์โครงข่าย 4G บนคลื่น 1800 MHz ที่ลงทุนไปแล้ว เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับบริษัทในการให้บริการและเตรียมความพร้อมก้าวสู่เทคโนโลยี 5G” นายปรัธนากล่าว