ต่อเนื่องกันกับข่าว Windows 10 ครับ หลังจาก Microsoft ประกาศวันวางจำหน่าย Windows 10 อย่างเป็นทางการ รวมถึงแนวทางการอัพเกรดทั้งแบบเสียเงิน และอัพเกรดฟรีไปแล้ว
ตอนนี้ Microsoft เผยรายละเอียดเพิ่มเติม ที่เกี่ยวข้องกับการอัพเกรดระบบเป็น Windows 10 ให้เราได้ทำความเข้าใจล่วงหน้า ก่อนการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 29 กรกฏาคมนี้ รายละเอียดมีอะไรบ้าง ลองมาดูกันครับ
สเปคขั้นต่ำ
ตามที่รายงานไปก่อนหน้านี้ครับ สเปคขั้นต่ำสำหรับเครื่องพีซีและแล๊ปท๊อปสำหรับใช้งาน Windows 10 มีดังนี้
- สำหรับการอัพเกรดเครื่องคอมพิวเตอร์ต้องใช้ OS ที่อัพเดทล่าสุดแล้วเท่านั้น (ทั้ง Windows 7 และ Windows 8.1)
- ซีพียู: ความเร็วขั้นต่ำ 1 GHz
- แรม: 1 GB สำหรับ Windows 10 32 บิต และ 2 GB สำหรับเวอร์ชั่น 64 บิต
- พื้นที่ฮาร์ดดิสก์: 16 GB สำหรับ Windows 10 32 บิต และ 20 GB สำหรับเวอร์ชั่น 64 บิต
- การ์ดจอ: ต้องรองรับ Direct X 9 ขึ้นไป
- จอภาพ: ความละเอียดขั้นต่ำ 1024 x 600 พิกเซล
แนวทางการอัพเกรด
ผู้ใช้งาน Windows 7 และ Windows 8.1 update แต่ละอิดิชั่น จะสามารถอัพเกรดเป็น Windows 10 อิดิชั่นต่างๆได้ ตามแผนภาพนี้ครับ (หากใครอยากอัพเกรดเป็นอิดิชั่นอื่น จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
ไดรฟ์เวอร์ สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามก่อนการอัพเกรด
นอกเหนือจากสเปคขั้นต่ำแล้ว สิ่งที่เราต้องคำนึงคือ เรื่องของการซัพพอร์ตของผู้ผลิตอุปกรณ์ต่างๆที่อยู่บนเครื่องพีซีหรือแล๊ปท๊อปของเราครับ เพราะฉะนั้นก่อนการอัพเกรด ต้องตรวจสอบให้แน่ใจกับเว็บไซต์ของผู้ผลิตอุปกรณ์ทั้งหมดบนเครื่องของเราว่า แต่ละบริษัทออกไดรฟ์เวอร์ที่รองรับกับ Windows 10 หรือยัง ไม่อย่างนั้นแล้ว อาจมีปัญหาในการใช้งานได้ครับ
โปรแกรมที่ยังอยู่หลังการอัพเกรด
ในการอัพเกรดเป็น Windows 10 นั้น (แบบกดอัพเกรดจากในระบบเลย โดยไม่ต้องติดตั้ง Windows ใหม่) แน่นอนว่าต้องมีโปรแกรมหรือการตั้งค่าหลายๆอย่างหายไประหว่างการโอนย้ายข้อมูล (Migrate) จากระบบเดิมไประบบใหม่ ซึ่ง Microsoft อธิบายเรื่องการโอนย้ายข้อมูลหรือแอพเอาไว้ดังนี้ครับ
- Anti-Virus: โปรแกรม Anti-virus ทั้งหมดนั้น กรณีที่ไลเซนส์ของเราไม่หมดอายุ ระบบจะเก็บการตั้งค่าต่างๆของโปรแกรม Anti-virus เอาไว้ให้ระหว่างการอัพกรด โดย Windows 10 จะลบการติดตั้งโปรแกรม Anti-virus ของเราออกก่อนการอัพเกรด จากนั้นจะติดตั้งโปรแกรมกลับคืนให้หลังการอัพเกรดเสร็จสิ้น (พร้อมกับการตั้งค่าต่างๆก็จะคืนกลับให้เหมือนเดิม)
- แต่หากไลเซนส์ของโปรแกรม Anti-virus หมดอายุก่อนการอัพเกรด ระบบจะเปิดใช้งาน Windows Defender ให้แทน
- โปรแกรมที่มากับเครื่อง (OEM App) ระบบจะถอนการติดตั้งโปรแกรมเหล่านั้นออกทั้งหมด (ถ้าต้องการใช้งาน ต้องติดตั้งเองภายหลัง)
- ส่วนโปรแกรมอื่นๆที่เราติดตั้งเองก่อนหน้า ระหว่างการอัพเกรดด้วยโปรแกรม Get Windows 10 ระบบจะตรวจสอบความเข้ากันได้ (Compatibility) ของโปรแกรมเหล่านั้น และแสดงออกมาเป็นรายงานให้เราทราบว่า โปรแกรมใดที่มีผลต่อการออัพเกรดระบบบ้าง ซึ่งหากเรายืนยันจะอัพเกรด ระบบจะถอนการติดตั้งแอพที่ไม่สามารถเข้ากันได้กับ Windows 10 ออกไประหว่างการอัพเกรด
ความสามารถหรือโปรแกรมที่จะหายไปหลังการอัพเกรด
- Windows Media Center เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่จะหายไปหลังการอัพเกรดเป็น Windows 10 ถึงแม้ว่าเราจะซื้อลิขสิทธิ์การใช้งาน Windows Media Center มาก็ตาม…เป็นอันสิ้นสุดอายุขัยของอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของ Microsoft ไปครับ
- ไม่รองรับการเล่น DVD และโปรแกรมติดเครื่องอย่าง Windows Media Player หรือ Videos ก็ไม่รองรับความสามารถนี้เช่นกัน (เพราะฉะนั้น ใครที่จะเล่นหนัง DVD บน Windows 10 ต้องติดตั้งโปรแกรมเสริมเองนะครับ)
- Desktop Gadgets บน Windows 7 จะหายไป ใครที่ใช้งาน Gadgets อยู่ (เช่น Notes) ก็อย่าลืมสำรองข้อมูลออกมาก่อนการอัพเกรดนะครับ
- เกมส์คู่บุญอย่าง Solitaire, Minesweeper และ Hearts จะหายไป แต่ว่าใครที่ยังอยากเล่น ตอนนี้ Microsoft ก็ปล่อยเกมส์ Microsoft Solitaire Collection และ Microsoft Minesweeper เวอร์ชั่นใหม่ ไฉไลกว่าเก่าบน Windows Store แล้วนะครับ ไปโหลดกันแทนได้
- สำหรับผู้ที่ยังใช้ Floppy disk แบบ USB อยู่ อาจมีปัญหากับไดรฟ์เวอร์ได้ ต้องหาไดรฟ์เวอร์มาติดตั้งเพิ่มเองภายหลังการอัพเกรด
- ผู้ใช้งานโปรแกรมในชุด Windows Live Essential นั้น โปรแกรม OneDrive ที่ติดตั้งมาในชุดจะถูกลบออก และแทนที่ด้วยโปรแกรม OneDrive เวอร์ชั่นใหม่แทน
การอัพเกรดเป็น Windows 10 นี้ เป็นหนึ่งในการก้าวข้ามยุค ครั้งใหญ่พอสมควรในโลกของ Windows ครับ เพราะฉะนั้น เราควรศึกษาข้อมูล และเตรียมตัวกันให้ดี
แน่นอนว่า AppDisqus จะจัดข้อมูลที่จำเป็นให้เพื่อนๆได้อ่านกันอย่างต่อเนื่องแน่นอนครับ รอติดตามกันได้เลย
ที่มา: Microsoft