วันเวลาผ่านไป หลายๆ อย่างพิสูจน์ตัวเอง การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายในโลกของสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ไอที ช่วงหลายปีมานี้มีการแข่งขันที่ดุเดือดเผ็ดมันจากการแย่งชิงพื้นที่ส่วนแบ่งตลาดจากบริษัทยักษ์ใหญ่หลายเจ้า บางเจ้ายังยืนหยัด บางเจ้าถอยทัพ และบางเจ้าก็ล้มหายตายจาก
ไม่ใช่แค่เรื่องของผู้ผลิตอุปกรณ์เท่านั้น แต่รวมถึงผู้พัฒนาระบบอีกด้วยที่เผ็ดมันไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเหล่าผู้พัฒนา OS หรือระบบปฏิบัติการนั้นเองครับ ทุกวันนี้ระบบที่เรายังใช้งานและพอได้ยินกันอยู่หลักๆ ก็ไมพ้นระบบ Android, iOS ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี และที่พอมีให้เห็นบางๆ ก็เป็นระบบ Windows Phone ซึ่งยังพอมีกลุ่มผู้ใช้ในจำนวนหนึ่ง
ถามว่าระบบใดดีที่สุด? แน่นอนว่าเป็นคำถามที่ตอบไม่ได้ หรือเป็นคำถามที่ไม่ควรจะตอบแม้จะมีคำตอบอยู่ในใจแล้วก็ตาม เพราะความถนัดและความชื่นชอบมันวัดเป็นตัวเลขที่พิสูจน์ไม่ได้ อีกทั้งทุกๆ ระบบก็พัฒนากันมาไกล จนรู้สึกว่าทุกวันนี้ถือใช้ระบบอะไรก็ให้ประสบการณ์การใช้ที่แทบจะไม่ต่างกัน
แต่ถ้าจะถามว่า ระบบใดที่คุ้มค่าที่สุด? อันนี้พอจะฟันธงได้ครับ ในวันนี้ผมขอยกให้ ระบบ ” Android “ นั้นเอง
ผู้ใช้ Android เป็นระบบหลักของชีวิต มีความคุ้มค่ากว่าระบบอื่นๆ อย่างไร?
ตอบได้ทันทีในข้อแรกเลยว่า “เครื่องในระบบมีราคาถูก” โดยเฉพาะการรุกตลาดอย่างหนักหน่วงของแบรนด์จากประเทศจีน ทั้งสินค้าไฮคลาส โลคลาส สเปคคุ้มเกินราคา มันเป็นที่มาของการลงทุนที่ต่ำกว่าแต่ได้ผลลัพท์ที่ดีมาก
แม้เครื่องในระบบ Windows Phone ราคาจะไม่แพงเช่นกัน แต่คู่แข่งนั้นมีแอพพลิเคชั่นและความสมบูรณ์พร้อมกว่าระบบ Windows Phone ในปัจจุปันแบบชัดเจนเหลือเกิน
การเปิดราคาและหน้าตาสเปคของเครื่องสมาร์ทโฟนราคาถูกในระบบ iOS ตัวล่าสุด “iPhone SE” เป็นการการันตีว่ามันไม่มีของถูกจริงๆ ในระบบนี้ เริ่มราคามาก็หมื่นกว่า สูงพอๆ กับเครื่องสเปคเรือธงระบบ Android ในบางแบรนด์ซะอีก มันจึงเป็นมาตรฐานการลงทุนที่ผู้ใช้ iOS ต้องจ่ายในราคาที่เทียบกันไม่ได้กับเครื่องระบบ Android
เพราะยิ่งนับวันเครื่องสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ Android ก็ยิ่งจะถูกลงและมีตัวเลือกมากขึ้น เพราะมีหลายผู้ผลิตที่แข่งขันกันทำออกมา ฉะนั้นผู้ใช้ระบบ Android มีการลงทุนซื้อแอพพลิเคชั่น, เกม, หรือสื่อบันเทิงต่างๆ ภายในระบบจาก Google ในวันนี้ สมบัตินี้จะตกทอดไปตามไอดีของเราจากเครื่องต่อเครื่อง ต่อๆ ไปในอนาคต โดยอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่จะออกมาในปีถัดๆ ไป มีแนวโน้มสูงว่าราคาเครื่องในตลาดจะไม่แพงเท่ากับมาตรฐานราคาของอุปกรณ์บนระบบ iOS ที่ Apple เป็นผู้ผูกขาดนั้นเองครับ
และโดยเฉพาะถ้าใครป็นคนที่มีครอบครัวแล้ว จำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นในครอบครัวจะยิ่งเป็นตัวชี้ชัดให้ยิ่งเห็นความแตกต่าง ซึ่งอันนี้ก็เป็นเรื่องที่ระบบ Android จะได้เปรียบระบบอื่นมากอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในเรื่องของราคาและในเรื่องของระบบจัดการบัญชี
ในเรื่องของราคาอย่างน้อยๆ ก็สำหรับคนที่มีรายได้ไม่สูงอย่างผม แม้หลายคนอาจจะพอหาเครื่องสมาร์ทโฟนราคาพรีเมี่ยมสักหน่อยมาใช้งาน แต่เมื่อถึงวันนี้ที่ลูก หลาน หรือแม้กระทั่งพ่อแม่ผู้ถึงวัยเกษียณ จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ติดต่อสื่อสารตามยุคตามสมัย อาจจะไม่สามารถจัดหาอุปกรณ์ในระบบ iOS ให้กับทุกคนในครอบครัวที่ต้องการใช้สมาร์ทโฟนได้ และราคาดูจะไม่เหมาะสมโดยเฉพาะสำหรับเด็กๆ แต่เครื่องระบบ Android ตอบโจทย์นี่ได้ด้วยเครื่องราคาไม่กี่พันบาท แถมยังไม่ต้องซื้อแอพหรือเกมใหม่ให้พวกเขาอีกด้วยถ้าเราใช้ระบบเดียวกันทั้งครอบครัว
ระบบจัดการบัญชีของ Android ยังเหมาะที่จะใช้กันเป็นแบบหมู่คณะ ทุกๆ เครื่องในครอบครัวก็จะได้รับเกม, แอพ, สื่อบันเทิง รวมถึงรายชื่อที่ซิงค์กับไอดีเดียวกันทั้งครอบครัว ไม่ว่าเครื่องที่ลูกหลานเราใช้จะถูกหรือจะแพง แอพที่เคยซื้อไว้ไม่เสียเปล่าไปไหน เครื่อง Android หลักพันก็สร้างความสนุกให้ลูกเราได้เช่นกัน เพราะถ้าคุณและคนในครอบครัวช้เครื่องคนละระบบ คุณอาจจะต้องเสียตังค์ซื้อแอพหรือเกมใหม่ให้ลูก แม้จะเป็นเกมเดียวกันกับที่เราซื้อไว้แล้วบน AppStore นั้นเอง
แถมระบบ Android มีดีกว่านั้นด้วยความสามารถในการสลับบัญชีได้โดยแค่เพียงเลือก สามารถล็อกอินไอดี Gmail ได้พร้อมๆ กันมากกว่าหนึ่งไอดี ไม่ต้องลงชื่อออกลงชื่อเข้าเพื่อสลับบัญชีใช้งานทุกครั้งให้วุ่นวายอะไร พวกเขาสามารถใช้บัญชี Youtube ส่วนตัวได้โดยที่ยังสามารถโหลดแอพและเกมจากบัญชีครอบครัวที่ซื้อไว้ได้เสมอๆ โดยไม่มีปัญหา แยกการใช้งานออกจากกันได้ในแต่ละบัญชี
ฉะนั้นเมื่อมองตามผลลัพท์ที่เป็นไปในวันนี้ ระบบ Android ที่มีความเป็น Eco-system ที่น้อยที่สุด กับเป็นผลดีที่สุดในระยะยาว เพราะมันไม่ได้ผูกขาดเกินไป ผู้บริโภคสามารถมีตัวเลือกได้มากมายในอนาคต แถมทิศทางค่อนช้างชัดว่าจะต้นทุนจะถูกลงในการลงทุนซื้อสมาร์ทโฟนมาใช้สักเครื่องหนึ่งในรุ่นปีถัดๆ ไป ทั้งซื้อให้ตัวเองหรือซื้อให้คนในครอบครัวที่เราต้องดูแล โดยแอพหรือเกมที่ลงทุนไปกับระบบ Android ในวันนี้ ก็ยงสามารถใช้งานร่วมกันได้ต่อๆ ไป
หลักๆ ความคุ้มค่าของระบบ Android ก็คือ ตัวเลือกที่มากมายและมีหลากหลายราคา การปล่อยให้เกิดการแข่งขันจึงเกิดความคุ้มค่าแก้ผู้บริโภค อุปกรณ์ระบบนี้จึงมีที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัยนั้นเองครับ แถมยังเป็นระบบเปิดที่มีการนำไปใช้กับอุปกรณ์ประเภทอื่นๆ อีกมากมายที่เราจะเข้าใช้ด้วย Google ID ของเราได้ในอนาคตครับ
ฉะนั้น วันนี้ เรามาใช้ Android กันเถอะ ^^