สวัสดีครับแฟนๆ ชาว Appdisqus.com หลายๆ คนที่ได้ติดตามข่าวของเว็บเรามาอย่างต่อเนื่องจะพบว่าช่วงครึ่งปีหลังนี้ จะมีสมาร์ทโฟนจอใหญ่ๆ กล้องแจ่มๆ สเปคเทพๆ จ่อคิวรอเปิดตัวอยู่มากมาย เช่น ฝั่งAndroid : Samsung Galaxy Note 3 , HTC One Max/Butterfly S ,Sony Honami ฝั่ง Window Phone 8 : Nokia Lumia 1020 ฝั่ง IOS : Iphone 5S , 5C เป็นต้น
User ส่วนใหญ่เลยมึนตึ๊บว่าจะเลือกซื้ิอรุ่นไหน OS อะไรดี? แล้วแต่ละ OS มันต่างกันมากน้อยเพียงใด? วันนี้คุณมาถูกเว็บแล้ว โดยเราจะนำเสนอว่า Window phone จับชนระบบกันกับ Android มันจะเป็นยังไง โดยเน้นเรื่องการใช้งานในชีวิตจริง ไม่อิงนิยายและทฤษฎีอะไรมากมายให้ชวนปวดหัว ก่อนจะเริ่ม มาดูบล็อกก่อนหน้านี้ที่ผมเพิ่งเขียนไปกันก่อนครับ
ความประทับใจโดยผู้ใช้ Android จากการใช้ Window Phone เป็นครั้งแรก
Android ปะทะ Window Phone
Wp8 ปรับเสียงแยกเป็นส่วนๆ ไม่ได้ต้องปรับขึ้นลงพร้อมๆ กันทั้งระบบ แต่แอนดรอยด์สามารถทำได้ เช่นปรับเสียงริงโทนดังๆ และปรับเสียงเพลงเบาๆได้โดยท่าความดังริงโทนที่เซตไม่ลดลง ยกแรกให้ Android ชนะ
Wp8 แอปน้อยจริงอะไรจริง แต่รู้จักคำว่ามีน้อยแต่ที่จำเป็นต้องใช้มีอยู่ครบมั้ยครับ คือแอปโซเชียลเยอะนะ และมีหมดด้วย เช่น Facebook ,line ,instance/6tagram(แอปเล่น instagram) ,whatsapp , Skype ,WeChat , Youtube ,FB page manager ,Viber แต่ที่มีน้อยจริงๆคือ เกม บอกได้เลยว่ามันน้อยมากกกก และเกมเก่ามากกกก ในขณะนี้ฝั่ง android มีเกมใหม่มาตลอดแต่มักออกเกมใหม่มาตามหลัง IOS เรื่องนี้เลยยกให้ Android ชนะไป
ความเสถียรทั้ง 2 OS นั้นโดยส่วนตัวผมชอบ WP8 มากกว่าเพราะตั้งแต่เล่นมาเกือบๆ 2 สัปดาห์ เครื่องและแอปไม่เคยค้างและรีเครื่องเองเลยแม้แต่ครั้งเดียว ในทางกลับกันแอนดรอยด์ที่ผมใช้อยู่ ผมเลือกใช้รอมโมของทาง Blendy Rom V4 ที่สมาชิกหลายๆ คนเลือกใช้เพราะมันเสถียรและประหยัดแบตพอสมควรรวมทั้งเปลี่ยน kernel ที่ขึ้นชื่อว่าประหยัดแบตและดีที่สุดมาทั้ง2ตัวแล้ว แต่เครื่องก็ยังมีค้างอยู่บ้าง และมักมีปัญหากับแอป line มากที่สุดแอนดรอยด์นี้ผมใช้มาปีครึ่งแล้ว แต่รอมโมที่พูดถึงใช้มาเดือนนึงได้ ก็ให้ WP 8 ชนะใสๆ ครับในยกนี้
ดวลแอปที่คนไทยใช้บ่อยๆ คือ Facebook กับ line บอกได้เลยว่าผมให้แอนดรอยด์ชนะใสๆ เพราะว่า 2 แอปนี้ใน WP8 จะฟีเจอร์น้อยกว่ามาก เช่น Facebook ของ WP8 ตัวแอปและใน browserไม่สามารถแชร์ข่าวหรืออะไรก็ตามจาก wall เข้า page ได้(ในกรณีที่ผู้ใช้มีเพจใน facebookแต่ถ้าไม่ใช้งานส่วนนี้ก็มองข้ามปัญหานี้ไปเลย)
ต่อมาก็พูดถึง line สิ่งที่ใน WP8 สู้ในแอนดรอยด์ไม่ได้ เช่น
- ไม่มีหน้า timeline ให้แชร์หรือโพสข้อความและความรู้สึกต่างๆได้
- สติ๊กเกอร์พื้นฐานมีแค่4ตัวและไม่สามารถโหลดเพิ่มได้นอกจากต้องให้เพื่อนที่ใช้ OS อื่นส่ง gift มาให้เท่านั้น และอีกวิธีคือถ้าเคยโหลดสติ๊กเกอร์มาเยอะๆจากแอนดรอยด์มาแล้ววันนึงเปลี่ยนมาใช้ WP8 บอกได้เลยว่าสติ๊กเกอร์เหล่านั้นยังคงตามคุณมาให้โหลดคืนในภายหลังได้ครับแต่ต้องใช้ IDเดิมนะ
- เมื่อมีคนส่งพวกโฆษณาแนบลิ้ง หรืออาจจะเป็นเกมที่ต้องโหลด อย่างใดอย่างนึงมาให้คุณ ระบบจะแจ้งว่า ข้อความนี้ไม่รองรับในline ของ Window phone (มันเป็นปัญหานิดหน่อยที่ควรได้รับการแก้ไขให้สมบูรณ์)
ในเวลาว่างของผู้ใช้ทั้ง 2 OS นี้ผมคิดว่าทางฝั่งแอนดรอยด์มันทำอะไรได้มากกว่าฝั่ง WP8 ในสถานการณ์ผู้ใช้คนนั้นสามารถใช้สมาร์ทโฟนได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นเพราะถ้าวัดกันจริงๆผู้ใช้โดยส่วนใหญ่น่าจะเน้นซื้อมาแชต โทร เล่นเกม เล่นโซเชียลมากกว่าที่นะยุ่งกับการทำงานรับส่งเอกสารหรือถ่ายรูป ซึ่งจากการสังเกตุและใช้งานจริงผมพูดตรงๆเลยว่าการใช้งาน WP8 มันน่าเบื่อกว่าฝั่งแอนดรอยด์อย่างมาก นอกจากที่ผมได้พูดไปแล้วก่อนหน้านี้ยังมีเรื่องการปรับแต่งเครื่องให้แรง, ตกแต่งความความสวยงามโดยเฉพาะภายในหน้าตา UI ที่คนส่วนใหญ่ทำนั้นมักจะตรงกัยบคอนเสปของสิ่งที่แอนดรอยด์ทำได้มากกว่า จริงๆ WP8 ก็สามารถตกแต่งได้นะ เพียงแต่ว่าค่อนข้างจำกัดทำได้เพียงเปลี่ยนขนาด, เปลี่ยนสี, เพิ่มลดแอป, เปลี่ยนรูปในไอค่อนสี่เหลี่ยมของ livetiles ให้เป็นรูป เป็นต้น แต่เชื่อว่าถึงจุดๆนึงใช้ไปนานๆจะเบื่อและโหยหาสิ่งที่เปลี่ยนได้แบบไม่จำกัดแค่กรอบเหลี่ยมๆครับ (แอนดรอยด์สามารถแปลงร่างตัวเองเป็นWPได้เหมือนอย่างน่าตกใจด้วยหลายแอปเลยเช่น Launcher 8 free)
ข้อดีของแอปและฟีเจอร์ติดเครื่อง WP8 ผมคิดว่ามันทำมามีประโยชน์และได้ใช้งานจริงๆ ในชีวิตประจำวัน โดยการคัดสรรแอปที่จำเป็นจริงๆ กับการใช้งานมากกว่าฝั่งแอนดรอยด์เพราะทางหุ่นเขียวเน้นทำฟีเจอร์เพื่อโชว์นวัตกรรมเฉยๆ พูดง่ายๆ คืออวดความเท่ แต่คนใช้แอปและฟีเจอร์นั้นๆอยู่จริงมีน้อยมากกกก จนกลายเป็นแอปขยะรกเครื่องจนส่งผลให้กินหน่วยความจำในตัวเครื่องเยอะสุดๆ ผมเลยเลือกให้ WP8 ชนะแบบไร้ข้อกังขา
ถ้าวัดกันที่การใช้งานเข้าใจง่าย ผมยกให้ WP8 ชนะไปเลย เพราะว่าการที่ผมบอกว่ามันเหมือนจำกัดกรอบก็ดีเพราะ user หน้าใหม่ๆ จะยังใช้ไม่เป็นเลยควรมองหา OS ที่ใช้งานง่ายๆ เข้าใจง่ายๆ อย่าง WP น่าจะดีกว่า ผมมีคนรู้จักหลายคนที่เคยใช้ iOS อยู่แล้วหันมาลองใช้แอนดรอยด์ไม่ถึง 1 สัปดาห์ก็ขายทิ้งเพราะว่ามันใช้งานยากและซับซ้อนเกินไป หมวดโน่นนี่นั่นเต็มไปหมด ซ่อนในซอกเล็กๆ ต้องเข้าไปลึกๆ กว่าจะหาเจอ คุณเชื่อมั้ยถ้าเอามาตรฐานผมเป็นตัวตั้งผมใช้เวลาในการศึกษาระบบ WP จนใช้เป็นเร็วกว่าหัดใช้แอนดรอย์ใหม่ๆ ซะอีก
เรื่องการกินแบตผมว่ามันขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานแต่ถ้าใช้งานหนักพอๆกันของทั้ง 2 OS ผมว่าทาง WP8 ค่อนข้างจะประหยัดแบตกว่าครับ ไม่ต้องตัวเลขอะไรวัดที่จำนวนครั้งการชาร์จต่อวันก็พอ ใช้แอนดรอยด์เฉลี่ยชาร์จวันละ 1-2 ครั้ง ใช้งานได้วันละ 6-13 ชั่วโมง แต่ WP8 ชาร์จวันละ1ครั้งเท่านั้นและใช้งานได้นานเฉลี่ย 8-15 ชั่วโมง (เล่นเกมนิดหน่อย ประมาณ 10 นาที, ฟังเพลง 1ชั่วโมง, ดูคลิปวีดีโอ 30 นาที, โทรศัพท์ 10-30 นาที, ถ่ายรูป 5-10 รูป และเปิด 3G และเล่นเว็บ+แชตและเช็คพวกโซเชียลรวมกันทั้งวัน 3-4 ชั่วโมง)
เรื่องการจัดการ RAM ของทั้ง 2 OS ไม่เหมือนกันตรงที่ฝั่งAndroid วิธีการเคลียร์แรมคือกดพวก Task killer แล้วกดปิดแอปที่เปิดอยู่ไป (วิธีการเข้าส่วนนี้จะต่างกันในแต่ละแบรนด์) ผมคิดว่า OS นี้ใช้แรมได้สิ้นเปลืองพอสมควรเพราะว่าตั้งแต่เปิดเครื่องมาก็เสียแรมบางส่วนใก้กับแอปที่ติดตั้งฝังในเครื่องตั้งแต่แรกแล้ว วิ่งโหลดแอปเพิ่มแรมก็ยิ่งหมดเครื่องก็ยิ่งช้า User ก็ยิ่งบ่นโหยหาวิธีการลดการเคลียร์แรมลงโดยการลบแอปที่ไม่จำเป็นออก (เพราะ User คนนั้นรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่คนๆ นั้นไม่ใช่ผมนะ :D ) กับอีกวิธีที่ป้องกันการกินแรมคือก่อนออกแอปควรกดปุ่ม back จนมันปิดแอปไปเอง เพราะว่าแอนดรอยด์ไม่สามารถปิดการรันแอปจากการกดปุ่ม home ครับ ทำให้เปลืองแบตและกินแรมอีกด้วยยยย แต่วิธีแก้แบบสมบูรณ์เฉพาะเครื่องที่รูทแล้วเท่านั้นที่สามารถ disable แอปไว้ไม่ให้มันรันเองในเบื้องหลังได้ถ้าเราไม่เรียกใช้มัน
ไม่เหมือนกับฝั่ง Window Phone ที่การจัดการแรมที่ดีกว่าเพราะว่าเราไม่ต้องกดปิดแอปเหมือนกับฝั่งหุ่นเขียว ถามว่าทำไม? ก็ OS นี้ออกแบบมาให้สามารถเปิดแอปได้สูงสุดที่ 8แอป และจะเลือกรันแอปที่เรากำลังใช้อยู่เท่านั้นและแอปที่อยู่เบื้องหลัง(background) จะไม่รันเอง เหมือนกับการ freeze ตัวมันเองได้ แต่ถ้าเราเปิดแอปมากกว่าที่มันจำกัดไว้(8แอป) มันจะทำการปิดแอปที่โดน freeze ไว้เป็นตัวสุดท้ายให้เอง ^^ ผมเลยขอยกให้ฝั่ง WP ชนะไปครับ
เมื่อใช้งาน WP และ Android ในเวลานานเท่าๆ กันผมคิดว่า WP ความเร็วและความลื่นไหลด้านการใช้งานไม่มีวันตก แต่แอนดรอยด์ยิ่งหน่วง ยิ่งช้า ผมก็เลยมั่นใจว่าถ้าคนที่ใส่ใจเรื่องนี้มาก เลือกใช้ Window Phone ดูแล้วน่าจะเหมาะสมกับคุณที่สุดครับ
Android เหมาะกับคนกลุ่มที่ : ไม่ชอบความจำเจ ขี้เบื่อหน้าตาเดิมๆ ของเครื่อง, รักการปรับแต่งอะไรก็ตามให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้อย่างแท้จริง ส่งผลให้การใช้งานจริงๆสามารถทำได้คล่องกว่า OS อื่นเพราะเราแต่งเองก็เลยใช้งานถนัด, เลือกซื้อรุ่นที่ตรงกับความต้องการของเราได้อย่างสมบูรณ์เพราะมีหลายรุ่น หลายราคา หลายสเปคให้เลือกจริงๆในทุกระดับของตลาด ก็เลยตอบโจทย์ของคนทุกกลุ่มได้ดีกว่า
Window Phone : เหมาะกับคนกลุ่มที่อยากลองอะไรใหม่ๆ ,เป็นกลุ่มที่เน้นซื้อไปใช้ทำงานมากกว่าเอาไปเพื่อความบันเทิง, เน้นการใช้งานกล้องเหนือสิ่งอื่นใดเพราะมีปุ่มกล้องแยกออกมาให้เพื่อเข้าถึงฟังก์ชั่นกล้องได้สะดวกกว่า OS อื่น (ที่มีแบบนี้ของแอนดรอยด์ตอนนี้มีแค่ Sony แบรนด์เดียว), ผู้ที่ทำงานในออฟฟิศเน้นการจัดการด้านงานเอกสาร, อีเมล เป็นต้น มันจะทำงานได้คล่องตัวกว่า OS อื่นด้วยความลื่นไหลที่ไม่เคยตกและทำงานสอดคล้องกันด้านการใช้งานที่เหนือกว่า
สุดท้ายนี้ถ้าถามผมว่าถ้าให้ผมเลือกได้อย่างเดียวที่ อะไรคือสาเหตุสำคัญที่คนเลือกใช้ Window Phone เท่าที่ใช้งานมาผมขอตอบว่า “กล้องถ่ายรูป” โดยเฉพาะใน Nokia Lumia รุ่นระดับบน เช่น 720, 920, 925, 1020 ผมว่ากล้องของ 4 รุ่นนี้จัดว่าดีที่สุดใน 3 โลกแล้ว รวมทั้งมีแอปเสริมเขี้ยวเล็บให้กล้องทันก็เลยเป็นจุดเแข็งเดียวที่ผมมองว่าคนส่วนใหญ่ตัดสินใจซื้อครับ