เจ้า I-Mobile IQ 9.1 ราคาเปิดตัวที่ 9,490 บาท เด่นที่จอมันใหญ่จริงๆ 5.7 นิ้ว ใช้ความละเอียดระดับ HD และเป็นแบบ IPS ที่แสดงผลสีได้สมจริงไม่เพี้ยน หน้าจอสู้แสงได้ดีด้วย ยิ่งถ้ามีโอกาสได้ลองเทียบกับจอประเภทอื่นที่ราคาแพงกว่านะ มันสู้ได้เลย และจอสว่างกว่าพวกนั้นด้วย เมื่อเปิดความสว่างจอให้มากที่สุด มี 2ซิม แบตอึดใช้งานได้ครบ1วันเต็ม ถ้าไม่ค่อยได้ใช้ก็มีทะลุถึงวันที่ 2 แต่แบตร่อแร่ใกล้หมดแล้ว จุดเด่นหลักในสายตาผมมี 2 อย่างคือ กล้องหลังที่ความละเอียด 18ล้าน (ใช้ซอฟแวร์ช่วยขยาย) แต่ที่ชอบคือใช้เลนส์ถึง 5ชิ้นในกล้องตัวนี้ ที่ประสิทธิภาพไม่แพ้รุ่นหลักสูงกว่าหมื่นเลย สามารถถ่ายรูปในที่ๆแสงน้อยได้สว่างขึ้น และ มีฟีเจอร์ใหม่สุด ที่เรียกว่า Smart Gesture ที่เอื้อประโยชน์การใช้งาน (แค่บางอย่าง)ให้ง่ายขึ้นแค่นั้น แต่วันนี้เราจะยังไม่ลงลึกขนาดนั้น เน้นอธิบายในสิ่งที่เห็นก่อน ว่าผมรู้สึกยังไง มาดูตัวอย่างภาพถ่ายกันก่อน จิ้มดูได้ที่ส้มๆข้างล่าง
มาพูดถึงเรื่องแรกก่อนเลยนะก็คือ
1.รูปลักษณ์ภายนอก : ถ่ายที่เกาะช้าง บรรยากาศสวยจริงๆ
นี่คือด้านหน้าของ IQ 9.1 ครับ รายละเอียดก็เลื่อนลงมาดูเลย
ด้านหลังครับ เป็นลักษณะที่ทำให้ดูเหมือนเป็นโลหะนะ ดูไปก็ละม้าคล้ายคลึงกับรุ่นนึงที่เป็นแบรนด์ใหญ่มาจาก ไต้หวัน ตอนแรกที่ได้จับเลยผมก็เคยคิดอย่างนั้น จนกระทั่ง…(เลื่อนลงมาอ่านต่อ)…
เริ่มลงรายละเอียดกันบ้างที่ด้านข้างซ้ายก่อน ก็จะมีปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียงแค่นั้น
ด้านขวาของตัวเครื่องมีแค่ ปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง แค่นั้น
ต่อมาดูด้านล่างกันต่อ มีรูเล็กๆกลมๆดำๆ มันคือ รูไมค์สนทนาตัวที่ 1 กับอีกรูใหญ่ๆเหลี่ยมๆ มันคือช่องเสียบ Micro USB + สายชาร์จนั่นแหล่ะ
มาต่อกันที่ด้านบน ก็จะมีรูเกมๆอีกแล้วแต่ใหญ่หน่อย เป็นรูแจ็ค 3.5 มม. ที่เอาไว้เสียบพวกลำโพง กับหูฟังได้ กับด้านซ้ายรูดำๆนั่น จะมีกรอบเหลี่ยมๆเล็กๆบุ๋มลงไปหน่อยเห็นป่าว? มันคือร่องที่มีไว้แกะฝาหลังออกมาครับ
ต่อมาครับ มาดูส่วนประกอบของหน้าจอกันบ้าง ตรงด้านบนๆหน่อยจะมีเหมือนรูดำๆ แต่คราวนี้จะเป็นโลหะรอบๆแต่ยาวๆหน่อย มันคือ ลำโพงสนทนาครับ ตอนโทรคุยเสียงจะออกทางนี้ ถัดมาทางขวาเจอกลมๆใหญ่ๆ 1 อัน มันคือกล้องหน้า ต่อมาถัดมาทางขวาอีก 2 เม็ด อันนึงเป็นเซนเซอร์ที่เอาไว้ดับหน้าจอในขณะโทรเพื่อประหยัดแบต และกลมๆอีกอันคือ เซนเซอร์ที่ตรวจจับแสงสว่างครับ
ต่อมาหน้าจอด้านล่าง จะมี 3 ปุ่มสั่งการใหญ่ๆ ไล่จากซ้ายไปขวา 1.ปุ่มกดเมนู 2.ปุ่มกดไปหน้า Home 3.ปุ่ม Back
คราวนี้พลิกมาดูด้านหลังด้านบน ด้านซ้ายก่อนนะ จะมีกล้องถ่ายรูปความละเอียด 18 ล้าน(ใช้ซอฟแวร์ขยายขึ้นมา) ต่อมาที่เป็นทรงรีๆใสๆคือแฟลชครับ ใช้งานร่วมกับแอปไฟฉายได้ ตรงกลางล่างก็เป็นโลโก้ IQ แต่ทางขวาสุดที่เป็นเม็ดๆทอง 3 เม็ดยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร คงต้องรอทาง I-Mobile ออกมาบอกทีหลัง แล้วก็บริเวณที่กล้อง + แฟลช + เม็ดๆ3เม็ดนั่นตั้งอยู่ จะเป็นบริเวณทั้งหมดของฝาหลังครับ มันช่างเล็กอะไรอย่างนี้
อึ๊บบบบ อ้าาาาาาา ฟินนนนน … มันออกมาแล้วผมแงะเอาฝาหลังออกมาโดยแงะออกจากช่องที่ผมได้พูดไปก่อนหน้านี้ จะเจอกับช่องใส่ซิมขนาดธรรมดา ถึง 2 ช่องเลย ปะๆๆๆ แปลว่า เครื่องนี้รองรับการใช้งาน 2 ซิมมม
มาดูกันจากมุม Boom eye view (ไม่ใช้ Bird eye view นะครับ) จะเห็นได้ชัดเจนมากว่ามี 2 ซิม แต่…ที่บอกไปตอนแรกว่ามันเหมือนเป็นโลหะแต่จริงๆไม่ใช่ มันคือพลาสติกเอามาทำสีให้ดูหเมือนโลหะต่างหาก คุณหลอกคนดูนี่หว่า… แล้วผมรู้ได้ไง? คำตอบคือ มองตรงขอบดีๆสิ ใส้ในขาวจั๊วแบบนี้ยังไงๆก็เป็นพลาสติกแน่ๆไม่ต้องสงสัย
นี่คือ Case ที่มีฝาปิดที่แถมมาในกล่อง เรียกกันว่า Flip case สามารถล็อกให้ตั้งได้นะ แข็งแรงพอสมควรเพราะมีแม่เหล็กฝังอยู่
จับตั้งได้ก็หน้าตาประมาณนี้ ถ้าวางไว้เฉยๆมันจะไม่มีทางล้มลงมาได้เลย เหมาะกับการเอามาดู TV ผ่านเน็ตหรือดูคลิปที่เราชื่นชอบได้สบายๆ โดยไม่คว่ำลงมาเลย
นี่คือด้านหลังครับ แข็งแรงดี
สเปกทั่วไปของ I-Mobile IQ 9.1
Specification
คุณสมบัติ |
รายละเอียด |
ระบบปฏิบัติการ | แอนดรอยด์ 4.2 Jelly Bean |
จอแสดงผล | หน้าจอสัมผัส ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 720 x 1,280 พิกเซล |
หน้าจอป้องกันรอยขีดข่วน (Asahi Dragontrail) | |
ขนาดตัวเครื่อง | 161 x 82.5 x 9.3 mm |
น้ำหนัก(รวมแบตเตอรี่) | 191 g |
แบตเตอรี่(mAh) | 2600 mAh |
เวลาสนทนา (Talk Time) | 2G: 17ชม. / 3G: 10.5 ชม. |
เวลาใช้สาย (Stand by Time) | 372ชม. |
ซีพียู (MHz) | 1.2 GHz Quad Core |
หน่วยความจำRom/Ram | 16GB + 1GB |
หน่วยความจำภายนอก | ไม่รองรับ Micro SD Card |
กล้องดิจิตอล | กล้องหลัง 18 ล้านพิกเซล (sensor 13 ล้านพิกเซล) แฟลช ออโต้โฟกัส พร้อมเทคโนโลยีพิเศษแบบ BSI ช่วยในการถ่ายภาพแม้ในสภาพแสงน้อย และกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล |
คุณสมบัติพิเศษ | เทคโนโลยี Smart Gesture สั่งงานด้วยระบบท่าทางอัจฉริยะ1) สไลด์มือเหนือหน้าจอ(sensor)เพื่อถ่ายรูปเมื่ออยู่ในโหมดกล้องหลัง2) เมื่อรับสายแล้วคว่ำโทรศัพท์จะเข้าสู่โหมดลำโพง (Speakerphone) 3) สามารถรับสายเรียกเข้าโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ ด้วยการยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู4) เมื่อมีสายเรียกเข้า(ยังไม่ได้ไม่รับสาย) แล้วคว่ำโทรศัพท์จะเข้าสู่โหมดเงียบเสียงริงโทน5) เมื่อมีสายเรียกเข้า(ยังไม่ได้รับสาย) แล้วใช้มือปิดเหนือหน้าจอโทรศัพท์ หน้าจอจะดับลงอัตโนมัติ แต่ยังมีเสียงริงโทนดังอยู่ 6) สไลด์มือผ่านหน้าจอ(sensor) เพื่อปลดล๊อคโทรศัพท์ |
มัลติมีเดีย | รองรับสองซิม ระบบ2G และ ระบบ 3G ความถี่ (850/2100 และ 900/2100MHz) |
วีดีโอคอล | |
เล่น และบันทึกวิดีโอ | |
เครื่องเล่นเพลง MP3 | |
ระบบนำทาง GPS | |
เชื่อมต่อไร้สาย | อินเตอร์เน็ต 3G แบบ Hi-Speed / WiFi Hotspot / Wifi Router |
โซเชียลเน็ตเวิร์ค | Facebook / Twitter / MSN / Skype / What’s App / Line |
แอพพลิเคชั่น | google / Youtube / Instagram และสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมากมายผ่าน“Play Store” |
ราคา | 9,490 บาท |
ข้อดี-ข้อเสียเฉพาะภายนอกก่อน
ข้อดีที่ชอบ
1.หน้าจอใหญ่ 5.7 นิ้ว แบบ HD สีสดสมจริง ไม่แสบตาเหมือนจอ Super Amoled สู้แสงได้ มันสว่างกว่าหน้าจอของรุ่นราคาหลัก 20,000+ หลายรุ่นมากๆ เช่น Samsung Galaxy Note 3 / Nokia Lumia1020 / Sony Xperia Z Ultra ปล. ไม่ดราม่านะครับ เพราะผมพิสูจน์ทดลองกับเครื่องของทีมงานจริงๆมาแล้วทั้งหมด
2.ขนาดจอเท่า Note 3 เป๊ะแต่ตัวเครื่องหนากว่า นั่นไม่ใช้ปัญหามันตัวเครื่องจะออกมนๆทำให้จับง่ายกระชับมือดี (ถ้านึกไม่ออกก็เฉพาะจอแสดงผล 5.7นิ้วเนี่ยขนาดเท่าตัวเครื่องทั้งหมดของSamsung Galaxy S2 วางเข้าไปได้อย่างพอดีและปิดมิด)
3.กล้องหลังที่ช่วยให้ภาพคมชัดสุดๆ ถ้าถ่ายในที่ๆมีแสงน้อยสามารถทำให้รูปนั้นสว่างขึ้นได้เมื่อกดถ่ายแล้วนะ ปล.ต้องถ่ายในที่ๆมีแสงสว่างพอสมควรถึงจะได้รูปที่ออกมาสวยสุดๆ และกล้องหน้าที่มีออโต้ Focus ช่วยให้ได้ภาพถ่ายที่คมชัดมากขึ้นและมีลูกเล่นมากมาย แต่ยังไม่ขอลงลึก
4.แบตที่อึดโคตรๆในสายตาผม : มันทนจริงๆสามารถใช้งานทั่วไปได้1วันเต็มๆได้เลย แล้วถ้าใช้งานไม่เยอะก็มีเกินเข้าวันที่ 2 แต่ไม่ครบวันนะ ปล.เปิด 3G เป็นหลัก เน้นเข้าเว็บ ใช้งานโซเชียล แชตเป็นหลัก เกมเล่นนิดหน่อยไม่เกิน 30นาที ความสว่างหน้าจอเปิดประมาณ 20-30% ไม่เกินนี้เพราะจอสว่างอยู่แล้ว
5.แฟลชแรงดี สามารถใช้เป็นไฟฉายได้เลย แล้วก็สามารถถ่ายห้องที่มืดสนิทมากๆ กลายเป้นห้องที่สว่างเหมือนเปิดไฟอยู่ได้ โอ้วววว 0_0
6.มี 2 ซิมใช้ซิมขนาดปกติ แต่ผมใช้งานจริงแค่ซิมเดียว ส่วนอีกซิมก็ปล่อยไว้งั้นแหล่ะ
7.สามารถใช้งาน 3G ได้ทั้ง 2 ซิมไม่มีแบ่ง (ทดสอบโดยเสียบทีละช่องแล้วลองเปิด 3g ผลคือใช้ได้หมด)
8.งานประกอบแน่นหนา ปุ่มกดง่ายรู้สึกจับกระชับมั่นคง ถ้าใช้งานดีๆมันน่าจะอยู่ได้นานนะ
9.น้ำหนักไม่ถือว่าหนัก กำลังดี
ข้อเสียที่ไม่ชอบ
1.เมื่อจะทำการถ่ายภาพในที่ๆมีแสงน้อยลงมานิดนึง (เช่นในที่ร่ม )กล้องจะกากกว่าเดิมพอสมควร เพราะว่ามันไม่สามารถจับโฟกัสได้ หรืออาจจะจับได้แต่จับโฟกัสติดยากถึงยากมาก ทำให้คุณภาพของภาพที่ออกมาห่วยแตก ไม่สามารถเก็บรายละเอียดได้ ภาพจะมัวๆ อย่าหาว่าโจมตีลองดูหลักฐานครับ
รูปแรก : ถ่ายในที่ร่ม มีแสงอยู่นะ แต่ในที่นี้ไม่เปิดไฟ รูป2 : นั่งในที่ๆมีแสงสว่างมากกว่า เปิดโล่งมากกว่า
2. Flip case ที่แถมมาในกล่อง ถึงแม้จะปกป้องได้ดีมิดชิด แต่ทำให้เครื่องหนาขึ้นพอสมควร ยัดกระเป๋าปุีปตุงเลย และทำให้กดปุ่มต่างๆยากขึ้นด้วย แค่นั้นยังไม่พอยังเปื้อนง่ายอีกด้วย แต่น่าจะใช้พวกสารที่ใช้ทำความสะอาดเช็ดออกได้นะ ขอบๆเคสด้านข้างค่อนข้างคมมีโอกาสทำให้เครื่องเป็นรอยในภายหลังได้ เพราะเครื่องก็ไม่ใช่โลหะแต่เป็นพลาสติกทาสี ทุกวันนี้ก็เลยไม่ใส่เคสซะเลย ถอดดีกว่าสวยดีด้วย หุหุ
3.เมื่อยัดเข้ากระเป๋ากางเกง มันยังโอเคไม่รำคาญมากในขณะยืน แต่ตอนนั่งเท่านั้นแหล่ะ กระเป๋ากางเกงแน่นเลย และแข็งมากๆ นั่งไม่สบายเอาซะเลย โดยเฉพาะกับผู้ชายที่ใส่กางเกงฟิตๆ แบบทรงขาเดฟ เจอปัญหานี้ทุกคนแน่ๆ ฟันธง
4.เมื่อยัดเข้ากระเป่ากางเกงยีนส์แล้วจะมีบางส่วนของเครื่องโผล่พ้นมาจากกระเป๋ากางเกง
ท้ายเครื่องโผล่ – -a ด้านบนเครื่องโผล่ -*-
ต่อไปนี้เตรียมรออ่นรีวิวภาค 2 เวอร์ชั่นสับแหลก ภาคการใช้งานจริงๆ สไตล์ผู้ใช้งานจริงกว่า 1 สัปดาห์
Review ตอนที่ 2 : ด้านการใช้งานโดยภาพรวมของ I-Mobile IQ 9.1 เวอร์ชั่นผู้ใช้จริงอย่างละเอียด
[gradeB]